ชิวชิวพยักหน้า “คุณหนูอยากอ่านไหมเจ้าคะ” จางเหนียนกลอกตาใส่ผู้ถาม “เผาเสีย” “อะ...อะไรนะเจ้าคะ” ชิวชิวทวนถาม ไม่มั่นใจว่าตนได้ยินผิดไปหรือไม่ “เอาไปเผาเสีย หากมีคนมาถามก็บอกว่าข้าไม่ได้รับ ส่วนจดหมายอื่นๆ ให้เจ้าแยกออกเป็นหมวดหมู่ ตระกูลใดเป็นตระกูลขุนนางก็ไว้กับขุนนาง ตระกูลใดเป็นพ่อค้าก็แบ่งไว้อีกฝั่งหนึ่ง อย่าลืมว่าต้องเรียงตามลำดับวันที่มีการจัดงานเลี้ยง งานใดจัดก่อนให้ไว้ด้านหน้า ส่วนงานใดจัดทีหลังก็เรียงต่อกันไป ไว้ข้าว่างแล้วจะอ่านดูอีกที” นางกล่าวพลางตรวจดูความเรียบร้อยของงานปักอื่นๆ ในตะกร้าไปด้วย “ทราบแล้วเจ้าค่ะ” สตรีในชุดสีเขียวซีดพยักหน้ารับรู้ หลังจากนั้นค่อยเอ่ยปากถามอย่างระมัดระวัง “คุณหนู แล้ววันนี้ท่านตั้งใจจะอยู่ปักผ้าที่คฤหาสน์เพียงอย่างเดียวหรือเจ้าคะ” จางเหนียนเบนสายตากลับมา แผงขนตางอนยาวที่ขยับไหวดูงดงามอ่อนช้อยราวกับผีเสื้อกระพือปีก “เจ้าพูดเองมิใช่รึว่าคนข้า