หก
ไม่คู่ควร
“คุณหนูเจ้าคะ!”
เสียงอันคุ้นเคยจากบ่าวคนสนิท ส่งผลให้จางเหนียนที่เพิ่งผ่านการเล่นงิ้วมาอย่างยาวนานถอนหายใจออกมา
“ชิวชิว” นางอ้าปากเตรียมจะตำหนิผู้ที่หายตัวไปจากเรือนรับรองอยู่นาน ทว่าชิวชิวชิงอ้าปากพูดขึ้นมาก่อนราวกับร้อนตัว
“คุณหนูรอง แย่แล้วเจ้าค่ะ!”
จางเหนียนเลิกคิ้วข้างหนึ่งแล้ว กระซิบถามเสียงเบา “แย่อย่างไร เบาเสียงหน่อย ที่นี่หูตามากมาย”
ชิวชิวกลืนน้ำลายพลางมองซ้ายแลขวา รีบปรับเปลี่ยนสีหน้าให้กลับมาสงบดังเดิมแล้วค่อยๆ พูด
“ข้าตามหาฮูหยินสี่กับคุณหนูใหญ่อยู่ตั้งนานแต่ไม่พบ แต่ข้ากลับเจอ...ฮูหยินรองอยู่ที่สวนด้านหลัง นาง...อยู่กับคุณชายตระกูลเถา” ชิวชิวป้องมือกระซิบเพื่อป้องกันมิให้ผู้อื่นอ่านปากของตนได้
การกระทำดังกล่าวส่งผลให้ผู้เป็นนายมองสาวใช้ด้วยแววตาชื่นชม ชิวชิวนับว่ามีไหวพริบใช้ได้ ต่อจากนี้นางต้องฝึกปรืออีกฝ่ายให้มาก เพราะนางยังมีพรสวรรค์ที่จะพัฒนาต่อไปได้
“คุณชายตระกูลเถา?”
ฮูหยินเจ็ดของคฤหาสน์เองก็มาจากตระกูลเถา มีนามว่าเถาซิน แม้จะเป็นฮูหยินที่แต่งเข้ามาเป็นคนสุดท้าย แต่นางก็ได้ให้กำเนิดบุตรชายถึงสองคนด้วยกัน
“ท่านแม่รองอยู่กับคุณชายจากตระกูลเถาหรือ คุณชายท่านใดกัน” นางพึมพำขณะเริ่มออกตัวเดินเพื่อมิให้ดูเป็นที่ผิดสังเกต
จางเหนียนทราบดีว่าในชีวิตแรก มารดาของนางตายจากการกินยาพิษของจ้าวชวน แต่พอมาคิดดูดีๆ แล้ว ไม่แน่ว่าผู้บงการเรื่องนี้อาจไม่ได้มีแค่จ้าวชวนเพียงคนเดียว
มารดาของนางมาจากตระกูลซี เป็นตระกูลบัณฑิตที่สืบทอดต่อกันมาหลายชั่วคน การที่จางอวี้ได้รับตำแหน่งว่าที่ผู้นำตระกูลคนต่อไปได้ทั้งที่มารดาตายจาก นอกจากจะเป็นเพราะเขาเป็นบุตรชายคนโตแล้วก็ยังมีปัจจัยหลักมาจากอิทธิพลสกุลซีคอยหนุนหลัง
จางอวี้ไม่ค่อยได้สนิทสนมกับครอบครัวฝั่งมารดา แม้แต่จางเหนียนยังตัดสินใจไปอาศัยอยู่กับท่านตาในชีวิตที่สี่ ระหว่างพวกนางกับสกุลซีมีซีเซี่ยเป็นผู้เชื่อมความสัมพันธ์ หากปราศจากซึ่งซีเซี่ยก็เท่ากับพวกนางขาดการติดต่อจากสกุลซีโดยสิ้นเชิง
“เป็นคุณชายเถาเมิ่ง หลานชายคนโตของตระกูลเถาเจ้าค่ะ คุณหนูอยากไปดูหรือไม่”
“อืม...”
ดวงตาดอกท้อกลอกไปมาอย่างใช้ความคิด เสียงของผู้คนภายในเรือนรับรองเบาลงเรื่อยๆ ยามที่หญิงสาวกับสาวใช้ประจำตัวเดินห่างออกมาด้านนอก
หรือว่าคนสกุลเถาต้องการให้บุตรชายคนใดคนหนึ่งของฮูหยินเจ็ดรับตำแหน่งผู้สืบทอดสกุลจางต่อ?
ทรัพย์สมบัติจากกิจการต่างๆ ของสกุลจางซึ่งสืบทอดมาตั้งแต่รุ่นบรรพบุรุษมีมากพอที่จะเลี้ยงดูคนเป็นร้อยให้สบายไปได้ทั้งชาติ ผิดกับสกุลเถาที่แม้ตระกูลจะรับราชการมาหลายชั่วอายุคน แต่ขนาดบ้านยังเล็กกว่าคฤหาสน์สกุลจางหลายเท่าตัว ใหญ่กว่าที่พักอาศัยในส่วนของบ่าวไพร่ที่ทำงานในคฤหาสน์เพียงนิดเดียวเท่านั้น
ฝีเท้าของจางเหนียนชะงักลงทันใด หากความตายของมารดาเกี่ยวพันกับสกุลเถาจริง ต่อให้กำจัดสองแม่ลูกอย่างจ้าวชวนกับจางลี่ไปได้ ชีวิตของมารดาก็ยังตกอยู่ในอันตรายอยู่ดี
นางต้องการรู้ให้ได้ว่าข้อสันนิษฐานของตนเองนั้นเป็นจริงหรือไม่ แต่ก็มีความเป็นไปได้ที่คุณชายตระกูลเถากับสองแม่ลูกนั่นจะไม่ได้อยู่ที่สวนด้านหลังแล้ว
หากคนของจ้าวชวนจับได้ว่านางกับชิวชิวรีบมุ่งหน้าไปที่สวนก็อาจกระตุ้นให้พวกเขาไหวตัวทัน แถมก่อนหน้านี้นางเห็นหลี่เฉิงถิงออกมาด้านนอกกับจางลี่ หากพวกเขาอยู่ที่สวนแล้วนางไปเจอเข้าคงไม่ใช่เรื่องดี
ในเมื่อการไปที่สวนมีความเสี่ยงเช่นนี้ จางเหนียนจึงเลือกที่จะเปลี่ยนแผนการเสียใหม่
“ชิวชิว”
“เจ้าคะ คุณหนู” ผู้ถูกเรียกหันหน้ามาหา สะดุ้งตกใจเมื่อพบว่าใบหน้าของจางเหนียนซีดเผือด
นางถอนหายใจพลางยกมือมานวดคลึงระหว่างคิ้ว รู้สึกปวดหัวนิดหน่อยแต่ก็พอทนได้อยู่ วันนี้นางใช้ความคิดหนักๆ มาหลายเรื่องจึงเริ่มปวดหัว
“พวกเราไม่ต้องไปที่สวน”
“มะ...ไม่ไปหรือเจ้าคะ” ชิวชิวมีสีหน้าดีขึ้นเล็กน้อย “ถ้าเช่นนั้นเรากลับไปพักที่เรือนดีหรือไม่”
“ยัง ข้าอยากให้เจ้าทำงานอีกอย่างหนึ่งแทน” สีหน้าที่เคยซีดขาวของจางเหนียนเริ่มมีกลับมามีเลือดฝาด แววตาเปลี่ยนเป็นจริงจังขณะที่มุมปากยกยิ้ม “เย็นนี้ที่คฤหาสน์จะมีการจัดงานเลี้ยง เรือนสกุลเถาตั้งอยู่นอกเมืองหลวง คุณชายเถาน่าจะยังไม่เดินทางกลับ ในระหว่างนี้สารถีที่คอยขับรถม้าให้คุณชายคงเบื่อแย่... ชิวชิว เจ้าเข้าใจความหมายของข้าหรือไม่”
ชิวชิวเอามือเกาศีรษะ ย่นคิ้วอย่างใช้ความคิดอยู่ครู่หนึ่งค่อยถามอย่างระมัดระวัง “...คุณหนูต้องการให้ข้าไปทำความรู้จักกับคนขับรถม้าของคุณชายเถาหรือเจ้าคะ”
“ชิวชิวของข้าปราดเปรื่องมาก” จางเหนียนคลี่ยิ้มหวานอย่างพึงพอใจ ส่งผลให้ชิวชิวหน้าแดงก่ำ ขอบตาร้อนผ่าว
จางเหนียนกะพริบตามองอาการแปลกๆ ของคนเป็นบ่าว “เจ้าเป็นอันใดไป”
“ฮึก!” ชิวชิวยกมือปาดหยดน้ำที่หางตา “ไม่มีอันใดเจ้าค่ะ ข้าแค่รู้สึกแสบตานิดหน่อย”
นางถูกบิดานำมาขายเป็นบ่าวในคฤหาสน์สกุลจางตั้งแต่เด็ก เคยทำงานหนักทั้งในโรงซักล้าง แบกฟืนไปเติมไฟในครัว พอเริ่มเติบโตก็มีโอกาสได้มาทำงานรับใช้คุณหนูรอง
ก่อนหน้านี้บ่าวอื่นๆ พากันรังแกและหาว่านางโง่งม ยอมก้มหน้ารับใช้จางเหนียนที่สมองทึ่มทื่อและไม่เอาไหน ทว่าวันนี้จางเหนียนได้เปลี่ยนไปแล้ว ทั้งยังกล่าวชมเชยนางว่าปราดเปรื่องเป็นครั้งแรก
คำชมของนางสร้างความประทับใจใหจนชิวชิวถึงกับหลั่งน้ำตา ความลำบากในการใช้ชีวิตในคฤหาสน์มาหลายปีดูจะมลายหายไปในพริบตา
สำหรับจางเหนียนแล้วคำชมนี้อาจไม่ได้มีความหมายอันใดเป็นพิเศษ แต่สำหรับชิวชิว มันคือสิ่งที่ยืนยันว่านางเองก็เป็นคนที่มีคุณค่าคนหนึ่ง อย่างน้อยก็ในสายตาของผู้เป็นเจ้านาย
“ข้าจะรีบไปประเดี๋ยวนี้” สาวใช้คนสนิทกล่าวด้วยน้ำเสียงฮึกเหิม
นางพยักหน้า “คอยใช้สายตาสอดส่องให้ดี เก็บรายละเอียดให้หมด แต่อย่าให้ผู้อื่นรู้”
“เจ้าค่ะ”
ครั้นชิวชิวก้มหน้าเดินจากไปแล้ว จางเหนียนก็สะดุ้งตัวเล็กน้อยเมื่อได้ยินเสียงพี่ชายตะโกนเรียกจากด้านหลัง “เหนียนเหนียน!”
หญิงสาวรีบหันไปมอง เมื่อปะเข้ากับแววตาสงสัยของจางอวี้ นางก็คลี่ยิ้มหวาน “ท่านจะตะโกนไปไย ข้าตกใจหมดเลย”
จางอวี้สาวเท้าไวมาหาน้องสาว วางสองมือลงบนไหล่บาง “งานวันเกิดเจ้าแท้ๆ ไฉนเจ้าจึงมายืนอยู่ข้างนอกเช่นนี้”
“ข้า...”
“ก่อนหน้านี้ข้าเห็นเจ้าคุยกับเฉิงถิง สีหน้าของเจ้าดูไม่ดีเลย...” ดวงตาของชายหนุ่มสอดส่องนางอย่างเป็นห่วง “เหนียนเหนียน หรือเฉิงถิงจะรังแกเจ้าโดยที่ข้าไม่รู้”
ความเป็นห่วงเป็นใยที่นางสัมผัสได้จากจางอวี้ ส่งผลให้ใบหน้าของจางเหนียนอ่อนละมุนลง
“พี่ชายใหญ่” มือเรียวเคลื่อนไปกุมมือใหญ่กร้านที่คอยทะนุถนอมนางมาแต่เด็ก “ท่านเป็นสหายของหลี่เฉิงถิงและพี่ชายของข้าก็จริง แต่ท่านก็ไม่สามารถควบคุมการกระทำของหลี่เฉิงถิงและข้า ท่านเป็นห่วงพวกข้าได้...แต่ข้าหวังว่ามันจะไม่ทำให้ท่านตำหนิตนเอง”
ดวงตาของจางอวี้เบิกกว้างขึ้นเล็กน้อย ราวกับคาดไม่ถึงว่าจะได้ยินคำพูดทำนองนี้จากปากของจางเหนียน
“พะ...พวกเจ้าทะเลาะกันรุนแรงถึงเพียงนั้นเชียวหรือ”
หญิงสาวถอนหายใจพลางส่ายหน้าน้อยๆ ไม่มั่นใจนักว่าผู้เป็นพี่ชายเข้าใจความหมายที่นางพูดมากน้อยเพียงไร
“ข้าคิดว่าข้าคงเผลอทำร้ายความรู้สึกของเขาไปโดยไม่ตั้งใจ” นางตัดสินใจพูดถึงเรื่องที่เกิดขึ้นกับหลี่เฉิงถิงแบบอ้อมค้อม
“หรือเจ้าจะไม่ชอบของขวัญที่เฉิงถิงมอบให้” จางอวี้ถามอย่างกังวล
จางเหนียนนึกถึงที่ทับกระดาษไม้แกะสลักที่ตนให้ชิวชิวเอาไปวางรวมกับของขวัญที่จะส่งไปยังเรือนของตนเอง น่าขันนักที่ของรักซึ่งนางทะนุถนอมอย่างดีในชีวิตแรกกลับกลายเป็นหนึ่งในของธรรมดาที่นางไม่ได้ให้ค่าไปมากกว่าของทั่วไป