บทนำ
แจกันลายครามเปล่าบนโต๊ะข้างเตียง ภาพวาดดอกมู่ตัน[1]ที่แขวนบนผนังไม้ กลิ่นหอมอ่อนๆ ของกำยานและฉากกั้นลายฉลุอันคุ้นตา
ห้องนอนแห่งนี้เป็นห้องนอนบุตรสาวคนรองของสกุลจาง หนึ่งในตระกูลเก่าแก่ซึ่งปรนนิบัติรับใช้ราชวงศ์มาหลายชั่วอายุคน
แม้ข้าวของเครื่องใช้แต่ละอย่างจะถูกเลือกเฟ้นมาอย่างพิถีพิถัน งดงามและอ่อนช้อยสมกับเป็นสมบัติของคุณหนูสกุลจาง ทว่าเจ้าของห้องที่เพิ่งตื่นขึ้นได้ไม่นานกลับทอดสายตามองมันอย่างเฉยเมย
“เฮ้อ...”
จางเหนียนถอนหายใจเสียงดัง ก่อนที่ร่างบอบบางในชุดนอนสีขาวนวลจะขยับตัว ห้อยศีรษะลงมาจากขอบเตียง ปล่อยให้เรือนผมเงางามที่ยาวสยายจนถึงสะโพกคลุมแผ่ลงบนพื้น
นางย้อนเวลากลับมาอีกแล้ว
ผู้ที่นอนมองบานประตูห้องแบบกลับหัวคิดพลางกลอกตาอย่างเบื่อหน่าย
หนแรกที่จางเหนียนรู้ตัวว่าตนเองตายแล้วย้อนเวลากลับมาได้ ความรู้สึกตกใจ หวาดกลัวและอีกมากมายก็ประดังถาโถมเข้ามาดุจคลื่นมหาสมุทร โดยเฉพาะอย่างยิ่ง...ความหวังที่ว่านางจะสามารถใช้ชีวิตที่ดีกว่าชาติแรก หลีกเลี่ยงภัยอันตรายที่สร้างหายนะให้กับตนเอง
ทว่าชีวิตของผู้คนนั้นราวกับการเดินอยู่ในเขาวงกต แม้นางเบี่ยงหนีทางตันในทางแยกอันแรกได้ นางก็ต้องเผชิญหน้ากับทางแยกอันถัดมาที่ต่างออกไปจนดูเหมือนไร้จุดสิ้นสุด
ตายอนาถ... ตายโง่ๆ... ตายแบบโดนลูกหลง...และล่าสุด ตายแบบไม่รู้ตัว
หัวคิ้วของร่างบนเตียงกดเข้าหากันเมื่อเจ้าตัวพยายามนึกย้อนถึงการตายที่ผ่านมา
ชีวิตของนางในฐานะคุณหนูรองแห่งสกุลจางประหนึ่งต้องเดินผ่านกับดักอันตรายอยู่ทุกลมหายใจ ตายแล้วตายเล่า ตายซ้ำตายซาก ตายเสียจนด้านชา
ทว่านางกลับจำการตายครั้งล่าสุดไม่ได้...
จางเหนียนชูมือของตนเองขึ้นมาในระดับสายตา ขนาดของมือที่เล็กบาง ไร้ซึ่งความหยาบกร้านจากการทำงานหนักในชาติที่ผ่านมาเป็นเครื่องยืนยันว่านางได้ย้อนเวลากลับมาอีกครั้งแล้วจริงๆ
และอีกไม่นาน เหตุการณ์ที่มักจะต้อนรับการย้อนเวลากลับมาของนางก็จะเกิดขึ้น
ว่าแล้วนางก็เริ่มนับถอยหลังในใจ
สาม สอง และ...
ก๊อก! ก๊อก!
“คุณหนู ตื่นหรือยังเจ้าคะ เป็นข้าเอง ชิวชิว”
“อืม” ผู้ที่กะเวลาการมาถึงของสาวใช้ประจำตัวได้อย่างแม่นยำตอบรับ “เข้ามาสิ”
ผู้ที่เปิดประตูเข้ามาเป็นสาวใช้วัยสาวสะพรั่ง ร่างกลมกลึงแต่งกายด้วยชุดสีเขียวซีด ใบหน้าอ่อนเยาว์มีรอยกระบางๆ ตรงจมูกและพวงแก้ม
“อ๊ะ! คุณหนู เหตุใดจึงห้อยหัวนอนลงมาแบบนั้นเล่าเจ้าคะ!” ชิวชิวเห็นท่าทางของผู้ที่ตนรับใช้ก็ทำหน้าตกใจ รีบถลาเข้ามาหาสตรีร่างบอบบางซึ่งนอนห้อยหัว ครั้นสังเกตเห็นสีหน้าของจางเหนียนก็ชะงักไป “ทะ...ท่านไม่สบายตรงไหนหรือไม่”
เนื่องจากรับใช้จางเหนียนอย่างใกล้ชิดมาหลายปี หากอีกฝ่ายมีสิ่งใดผิดปกติแม้เพียงเล็กน้อย ชิวชิวก็สามารถสัมผัสมันได้ทันที
เมื่อวานคุณหนูยังตื่นเต้นดีใจกับงานเลี้ยงวันเกิดในวันนี้อยู่เลย เหตุไฉนวันนี้สายตาของนางถึงได้เปลี่ยนไปมากถึงเพียงนี้
นอกจากสีหน้าและแววตาของจางเหนียนจะเปลี่ยนไปจากเมื่อคืนแล้ว กลิ่นอายรอบๆ ตัวก็ยังแตกต่าง หากจะบอกว่าเปลี่ยนไปราวกับเป็นคนละคนก็คงไม่ผิด นั่นทำให้ชิวชิวสับสนและอึกอัก ไม่ได้ชวนอีกฝ่ายคุยต่อเหมือนเคย
ด้านจางเหนียนซึ่งย้อนเวลากลับมานับครั้งไม่ถ้วนเคยชินกับอาการแบบนี้ของสาวใช้มานานแล้ว แต่ครั้งนี้มันต่างออกไปตรงที่รู้สึกว่าสาวใช้ประจำตัวของนางดูอ่อนเยาว์กว่าในความทรงจำที่ผ่านมา
“วันนี้ข้าตื่นนอนได้เร็วกว่าเวลาที่เจ้ามาปลุก” จางเหนียนแสร้งยิ้มให้ชิวชิวอย่างโอ้อวด “ท่านแม่ที่เฝ้ามองข้าบนสวรรค์จะต้องภูมิใจในตัวข้าแน่”
สาวใช้ผู้น้อยได้ฟังเช่นนั้นก็เบิกตากว้าง ยกมือทาบอกอย่างตกใจ “คุณหนูพูดอันใดออกมาเจ้าคะ! แม้ฮูหยินสามจะร่างกายอ่อนแอและล้มป่วยบ่อย แต่ว่าท่าน...ท่านยังมีชีวิตอยู่ คุณหนู...หรือว่าท่านจะฝันร้าย”
สีหน้าเป็นกังวลของชิวชิว ส่งผลให้จางเหนียนเด้งตัวขึ้นมานั่งบนเตียงแล้วจับจ้องนางตาไม่กะพริบ
จะเป็นไปได้อย่างไร ตลอดทุกชาติที่นางย้อนเวลากลับมา ก็เป็นช่วงเวลาที่มารดาของนาง ซีเซี่ย...จากโลกใบนี้ไปได้ครึ่งปีกว่า
หรือสาเหตุที่ชิวชิวดูอ่อนเยาว์... กับการที่มารดาของนางยังไม่ตายจะเกี่ยวข้องกัน?
ดวงตาสีน้ำหมึกทรงดอกท้อของหญิงสาวกลอกไปมาอย่างใช้ความคิด ก่อนจะเอ่ยถามสาวใช้ด้วยสีหน้าจริงจังกว่าเดิม
“ชิวชิว ปีนี้เป็นปีอะไร”
“รัชศกชิงฮวาปีที่สิบห้า” ชิวชิวตอบพลางสังเกตสีหน้าของจางเหนียนที่ผงะไปคล้ายกำลังตกใจ
“สิบห้า...” เสียงหวานพึมพำแผ่วเบา
ทุกครั้งที่นางย้อนเวลากลับมามักจะเป็นต้นฤดูใบไม้ผลิ รัชศกชิงฮวาปีที่สิบเจ็ด
“ฤดูใบไม้ผลิ?”
ชิวชิวเอียงคองุนงงกับคำถามของคุณหนูรอง “คุณหนูรอง วันนี้เป็นวันเกิดครบรอบสิบห้าปีของท่าน จะเป็นฤดูใบไม้ผลิไปได้อย่างไร”
คุณหนูรองแห่งสกุลจางเกิดปลายฤดูร้อน หรือนางจะตื่นเต้นดีใจมากเกินไปจนเลอะเลือน เพราะปกติก็ไม่ค่อยจะปราดเปรื่องอยู่แล้ว
ครั้นได้ฟังถ้อยคำยืนยันจากชิวชิว จางเหนียนก็ยกมือขึ้นมาทาบพวงแก้มทั้งสองของตนเอง
เหตุใดชีวิตที่ห้าของนางจึงได้คลาดเคลื่อนไปจากครั้งก่อนๆ ถึงสองปี!
[1] ***หมายถึง ดอกโบตั๋น