บทที่5

1130 Words
บทที่5 “น้องหญิง” อู่ไท่จงรีบวิ่งมาประคองน้องสาวลงจากรถม้า เหมยตาฮวยยกยิ้มรับ พี่ชายนางแสดงออกอย่างเปิดเผยว่ารักน้องสาวขนาดนี้ ไม่มีที่ใดอยู่แล้วสุขใจเท่าที่บ้านอีกแล้ว “คนสกุลจางดูแลเจ้าไม่ดีหรือเจ้าถึงอยากกลับ แล้วอาการป่วยเป็นอย่างไรบ้าง หายแล้วใช่หรือไม” “ทีละคำถาม” เหมยตาฮวยรีบยกมือห้ามก่อนจะมีคำถามเพิ่ม “ตอนรู้ว่าเจ้าพลัดตกน้ำ ข้ากับท่านพ่อร้อนใจแวะไปเยี่ยมเจ้าวันแรก แต่ท่านป้าจางก็บอกวว่าเจ้าไม่เป็นไร หมอหลวงดูอาการอย่างใกล้ชิด ข้ากับท่านพ่อเลยรอฟังข่าวอยู่ที่จวน” ร่างบางเดินเข้าไปในเรือนรับรอง ส่งยิ้มกว้างอย่างสดใสให้พี่ชาย ในอีกภพนางไม่มีพี่น้อง เป็นลูกสาวคนเดียว พอมีพี่ชายเดินตามประกบเป็นห่วงเป็นใย นางรู้สึกดีอย่างประหลาด “หมอหลวงที่เสด็จป้าส่งไปจัดเทียบยาให้ข้าทุกวัน จนข้าทนไม่ไหวเลยต้องหนีกลับบ้านนี่ไงเล่า” อู่ไท่จงมองรอยยิ้มของเหมยตาฮวยจนตาค้าง น้องสาวของเขานางไม่ยิ้มแบบนี้มานานเท่าไรแล้ว “เจ้าเป็นใคร คนสกุลจางทำอะไรเจ้า” หาเพิ่งมาถึงพี่ชายอู่เหมยตาฮวยก็จับได้แล้วเหรอว่านางไม่ใช่ตัวจริง เหมยตาฮวยถึงกับหยุดซะงัก “ขะ..ข้า” “เจ้ายิ้ม” อู่ไท่จงเห็นสีหน้าอึกอักของนางจึงรีบบอก “ข้ายิ้มไม่ได้เหรอ” ยิ้มแล้วทำไม ร่างบางขมวดปมคิ้ว “คุณหนูใหญ่สกุลอู่ผู้แสนเย็นชายยิ้ม พระอาทิตย์ตกผิดทิศแน่วันนี้” พูดจบอู่ไท่จงก็หัวเราะลั่น ดันแผ่นหลังบางให้เดินเข้าไปในห้องรับรองที่บิดาและท่านอาสะใภ้รออยู่ “ลูกรัก” อู่หยงหนิง รีบเดินเข้ามาจูงมือบุตรสาวให้มานั่งข้างๆ “ท่านพ่อ ลูกกลับมาแล้วเจ้าค่ะ” “พ่อตกใจแทบแย่ที่เจ้าเขียนจดหมายมาให้ส่งคนไปรับ” “ข้าแค่คิดถึงบ้าน” เหมยตาฮวยโน้มตัวตามแรงกอดของบิดา ศีรษะเล็กๆแนบลงบนท่อนแขนแข็งแรง แม้อู่หยงหนิงจะลาออกจากกองทัพหลายปีแล้ว แต่ร่างกายยังคงแข็งแรง “นึกอยากจะไปก็ไป นึกอยากจะมาก็มา” อู่ฮูหยินกลอกตาไปมาหลายสิบตลบ ก็ตามใจกันแบบนี้ นางถึงได้เอาแต่ใจตน อยากทำอะไรก็ทำ จองหองพองขนเย่อหยิ่งทำตัวราวกับเป็นองค์หญิงของแคว้น “แล้วเมื่อไรท่านจะกลับสกุลเดิมท่านสักที่เล่าท่านอา” เหมยตาฮวยหันไปถามสตรีที่แขวะนางเมื่อครู่ นางสอบถามสมาชิกในจวนแห่งนี้มาจากชิงชิงหมดแล้ว อู่ฮูหยิน หรือหูปิงชิง เป็นภรรยาของน้องชายบิดาของเหมยตาฮวย สามีของนางเสียชีวิตไปหลายปีแล้ว มีบุตรสาวหนึ่งคนชื่อ อู่เม่ยเหนียง แต่ยังอาศัยอยู่ในจวนสกุลอู่ เนื่องจากบิดาเหมยตาฮวยไม่ได้แต่งฮูหยิน หูปิงชิงจึงดูแลจวนทั้งหมดแทน ทำหน้าที่นายหญิงของจวน “เอาล่ะๆ อย่ามีเรื่องกันเลย นานๆจะได้กลับมาอยู่พร้อมหน้าพร้อมตากัน อีกไม่นานจางซานฟงก็จะกลับมาแล้ว เห็นว่าศึกสงครามสงบลงแล้ว เดี๋ยวเหมยตาฮวยก็จะต้องแต่งออกไป” อู่หยงหนิงรีบปรามก่อนที่น้องสะใภ้กับบุตรสาวจะปะทะคารมกันอีก ไม่อยากให้บรรยากาศดีๆขุ่นมัว “ข้าคงได้อยู่จวนสกุลอู่อีกนานเลยละเจ้าคะ” เหมยตาฮวยรีบบอก “ไม่นานหรอก ปีนี้เจ้าได้แต่งแน่ๆ” อู่หยงหนิงรีบให้คำมั่นกับบุตรสาว เหมยตาฮวยรอจางซานฟงมาเกือบห้าปีแล้วนางคงนับวันรอให้คู่หมั้นรับกลับมาใจแทบขาด “ข้าจะถอนหมั้น” “ห๊า!” ทุกคนในห้องร้องออกมาเป็นเสียงเดียวกัน ไม่เว้นแต่แต่ชิงชิงสาวใช้คนสนิทที่ยืนอยู่ไม่ไกล “ข้าไม่แต่กับท่านแม่ทัพแล้ว” “ตะ..แต่เจ้าเป็นคนขอฮองเฮาให้บีบบังคับจางซานฟงส่งหนังสือหมั้นหมายมาเองนะ” อู่ฮูหยินร้องถามด้วยความแปลกใจ เหมยตาฮวยจะเป็นจะตายให้ได้ ถ้าไม่ได้แต่งงานกับบุรุษที่นางปักใจตั้งแต่เด็ก ถึงกับร้องไห้บอกฮองเฮาว่าจะไม่แต่งงานชั่วชีวิตหากบุรุษผู้นั้นไม่ใช่จางซานฟง ร้อนจนฮองเฮาต้องเรียกแม่ทัพไปคุยถึงในวังหลวง “หมั้นได้ก็ถอนหมั้นได้ ท่านแม่ทัพมีสตรีในดวงใจอยู่แล้ว แต่งไปข้าก็หาความสุขไม่ได้ ไม่ช้าเขาต้องรับฮูหยินรองเข้ามาในจวนอีกคน” เหมยตาฮวยขยายความทุกคนในห้อง ยกชาขึ้นจิบด้วยท่าทีไม่ทุกข์ร้อนอะไร “ทำไมเจ้าไม่คิดได้ตั้งแต่วันนั้น บีบบังคับท่านแม่ทัพไปเพื่อสิ่งใดกัน แล้ววันนี้บอกไม่อยากแต่งแล้ว” อู่เม่ยเหนียงถามขึ้นมาอีกคน นางก็อยากแต่งกับแม่ทัพเช่นเดียวกัน แต่เป็นเหมยตาฮวยที่เดินหมากก่อนให้ฮองเฮาลงมือ นางจึงทำได้เพียงอยู่เงียบๆรอเวลา เหมยตาฮวยถอนหายใจ ยังไม่ได้แต่งงานกันเสียหน่อย เป็นเพียงคู่หมั้น คนอื่นยกเลิกหมั้นหมายมีออกถมไป ทำไมพอนางทำกลายเป็นเรื่องประหลาด “เจ้าคิดดีแล้วใช่ไหมลูกรัก” “ข้าคิดดีแล้วเจ้าค่ะท่านพ่อ” “ถ้าเจ้าคิดดีแล้วพ่อก็ไม่ยุ่ง แต่เจ้าอย่าลืมเรียนเรื่องนี้กับฮองเฮา หากพระองค์ไม่อนุญาตเจ้าก็ถอนหมั้นไม่ได้ เพราะการหมั้นหมายครั้งนี้ฮองเฮาเป็นผู้จัดการ” อู่หยงหนิงแม้เขาจะเป็นบิดาของเหมยตาฮวย แต่ก่อนสิ้นใจฮูหยินของเขาได้ยกลูกสาวให้ฮองเฮาไปแล้ว เขาจึงไม่อาจไปก้าวก่ายการเลือกคู่ครองของนางได้ “ข้าจะรีบเข้าเฝ้าเสด็จป้าเพื่อกราบทูลเรื่องนี้เองเจ้าค่ะ แต่ตอนนี้ข้าขอกลับเรือนนอนเพื่อพักผ่อนก่อนได้ไหมเจ้าคะ” ตั้งแต่ไม่ต้องตื่นแต่เช้าเพื่อผ่ารถติดออกไปทำงาน นางรู้สึกว่ากลายเป็นคนขี้เกียจอย่างไรไม่รู้ พอเดินทางเหนื่อยก็อยากล้มตัวลงนอนพักร่าง “เดี๋ยวข้าเดินเป็นเพื่อนเจ้าไปที่เรือนนอนเอง” อู่ไท่จงที่นั่งเงียบฟังอยู่นาน ขันรับอาสา เขามีเรื่องที่ต้องคุยกับน้องสาวเพียงลำพัง
Free reading for new users
Scan code to download app
Facebookexpand_more
  • author-avatar
    Writer
  • chap_listContents
  • likeADD