ตอนที่ 4 นักบำบัดสาวNC18+

3065 Words
​ “ตอนนี้พี่ริกเขาไม่ได้เป็นแบบเมื่อก่อนแล้ว แกไม่ต้องห่วงหรอกว่าพี่ริกจะเขมือบเด็กแก สบายใจได้” รันทิชาบอกไปพร้อมกับใบหน้าเรียบเฉย “ฉันจะแน่ใจได้ยังไงยะว่าพี่ริกจะไม่ยุ่งกับเด็กของฉัน” เจ้หลินถามออกไปอย่างต้องการคำตอบ “ถ้าฉันบอกเรื่องนี้กับแก แกห้ามไปบอกใครเด็ดขาดเข้าใจไหม แกรับปากฉันมาก่อน” รันทิชาบอกไปก็ให้เพื่อนสาวรับปากเธอว่าจะไม่แพร่งพรายเรื่องที่เธอจะเล่าออกไป “อืม แกก็รู้ว่าฉันน่ะเก็บความลับดีขนาดไหน รับรองฉันไม่พูดหรอกน่า ว่าแต่เรื่องอะไรรีบพูดมาสิยะ” เจ้หลินถามกลับก็รอเพื่อนสาวเล่าให้ฟัง “แกจำตอนที่พี่ริกรถคว่ำเมื่อสองปีก่อนได้ไหม นั่นแหละทำให้พี่ริกต้องหนีไปรักษาตัวอยู่ที่ไร่เพราะว่า พี่ริกเขามีอาการเสื่อมสมรรถภาพทางเพศ แล้วตอนนี้ก็ไม่มีวี่แววว่าจะหายเลยด้วยซ้ำ แกเข้าใจรึยังว่าทำไมฉันถึงให้เด็กของแกไปอยู่ที่นั่น รับรองว่าปลอดภัยแน่ แล้วก็อย่าไปบอกเรื่องนี้กับใครเด็ดขาดเข้าใจไหม” รันทิชาเอ่ยบอกไป เพราะต้องการให้เพื่อนสาวสบายใจกับเรื่องนี้ “อย่างพี่ริกเนี่ยนะเสื่อมสมรรถภาพ ฉันไม่อยากจะเชื่อเลย” เจ้หลินพูดไปก็คิดว่าคนอย่างริชาร์ทจะเป็นแบบที่รันทิชาพูดจริงหรือ แต่มันก็น่าจะเป็นไปได้ เพราะตั้งแต่ที่ริชาร์ทประสบอุบัติเหตุเมื่อสองปีก่อน เธอก็ไม่เคยเห็นเขาอีกเลย เห็นก็แต่ยัยลิตาแฟนของเขาที่ควงคนนั้นทีคบคนนี้ที จนมาสิ้นสุดที่ไฮโซหนุ่มอย่างนภัทร เจ้าของแบรนด์น้ำหอมชื่อดังที่มีข่าวกับรมิดาเมื่อไม่นานมานี้ “สรุปจะให้ฉันช่วยไหม เพราะฉันคงช่วยแกได้เท่านี้แหละ ที่อื่นก็ไม่ปลอดภัยเท่าที่นี่แล้ว” รันทิชาบอกไปก่อนจะมองเพื่อนสาว แล้วรอคำตอบ “อืมก็ได้ ที่ไร่พี่ริกก็ได้ แต่ฉันขอคนติดตามยัยฟ้าไปคนหนึ่งก็แล้วกัน จะได้ป้องกันไว้ก่อน เผื่อพี่ชายแกคิดไม่ซื่อกับเด็กของฉัน” เจ้หลินเอ่ยบอกไป เพราะเธอควรกันไว้ดีกว่าต้องมานั่งแก้ทีหลังให้ปวดหัว “งั้นก็ตามนี้ พรุ่งนี้ถ้าเด็กแกมาหาฉัน ฉันจะจัดการเรื่องนี้ให้เอง” รันทิชาบอกไปก็ยิ้มออกไป เพราะเธอเชื่อว่าเด็กสาวแบบรมิดาคงไม่ถูกใจพี่ชายเธอแน่ เพราะรายนั้นชอบสาวๆอายุเท่าๆกันมากกว่ากินเด็กแบบนี้ เธอจึงยอมช่วยเจ้หลินไปเพราะเหลือแค่ฝึกงาน รมิดาก็จะเรียนจบสักทีหลังจากที่เรียนมาหลายปี “โอเค แต่แกอย่าให้ยัยฟ้ารู้นะว่าฉันมาขอร้องแกอ่ะ แล้วก็ขอบใจมากที่ช่วยเหลือเพื่อนสาวตาดำแบบฉัน รักแกที่สุดเลย” เจ้หลินพูดไปก็ลุกขึ้นเข้าไปกอดเพื่อนสาวอย่างขอบคุณ “ฉันก็รักแกเหมือนกันแหละ เสร็จธุระแกแล้วเดี๋ยวฉันขอตัวก่อนนะ ต้องไปบริษัทต่อ” รันทิชาบอกไปก็หยิบกระเป๋าใบหรูมาสะพายก่อนจะออกไปพร้อมกับเพื่อนสาวทันที พอตกเย็นหลังจากที่รันทิชาเลิกงานที่บริษัทเธอก็โทรหาพี่ชายสุดที่รักทันที เพราะต้องขอร้องให้พี่ชายของเธอดูแลรมิดา แต่เธอโทรหาพี่ชายมาสามสายแล้วก็ไม่มีวี่แววว่าริชาร์ทจะรับโทรศัพท์ของเธอ “พี่ริกค่ะ รันโทรไปหาตั้งนานทำไมไม่ยอมรับสักทีค่ะ” รันทิชาบ่นพี่ชายทันทีที่ริชาร์ทรับสายของเธอ “อืม มีอะไรไหม ถ้าไม่ด่วนเอาไว้คุยกันทีหลัง” ริชาร์ทพูดไปขณะกำลังโยกเอวกระแทกท่อนเอ็นใส่ร่องสาวของนันทิตา หลานสาวแม่บ้านที่เขาจ้างให้มาเป็นนางพยาบาลรักษาอาการเสื่อมสมรรถภาพของเขา “ด่วนค่ะ คือรันจะให้นักศึกษาของรันไปฝึกงานที่ไร่ของเราน่ะคะพี่ริก รันก็เลยอยากจะให้พี่ริกช่วยดูแลเด็กคนนี้หน่อยนะคะ” รันทิชาบอกไปก็รอคำตอบจากพี่ชายว่าจะตกลงหรือไม่ “พี่ไม่รับเด็กฝึกงาน เอาไปฝึกที่อื่น บริษัทเรามีที่ให้ไปฝึกตั้งเยอะแยะ รันเอาไปที่อื่นก็แล้วกันพี่ไม่ว่างมาคอยดูเด็กๆให้เราหรอก” ริชาร์ทพูดไปพร้อมกับกัดฟันแน่นด้วยความเสียว พร้อมกับมองนันทิตาที่กำลังเอามือขย้ำหน้าอกตัวเองอยู่อย่างเสียวๆ “ไม่ได้ค่ะ ยังไงเด็กคนนี้ก็ต้องฝึกที่ไร่ของพี่ริก ไม่งั้นรันจะบอกทุกคนว่าทำไมพี่ริกถึงต้องไปอยู่ที่ไร่แล้วหายตัวไปแบบนี้ เอาสิคะพี่ริก อย่าคิดว่ารันไม่กล้านะคะ” รันทิชาขู่พี่ชายออกไป เพราะพี่ชายของเธอไม่ต้องการให้ใครรับรู้เรื่องนี้ แม้กระทั่งคนในครอบครัวเองก็ตาม เพราะมีแค่เธอและคุณปู่เท่านั้นที่รู้ว่าริชาร์ทป่วยเพราะอะไร “อ่าส์ ก็ได้ จะส่งเด็กนั้นมาเมื่อไหร่ก็บอกนายกล้าก็แล้วกัน ตอนนี้พี่ไม่ว่าง” ริชาร์ทพูดจบก็กดวางสายแล้วปาโทรศัพท์ไปที่ข้างเตียง ก่อนจะรัวเอวกระแทกท่อนเอ็นใส่ร่องสาวของนันทิตาอย่างไม่ลดละ “อ้ะ อ้ะ คุณริกขา อ้ะ อ้ะแรงอีกค่ะ อ้ะ อ้ะ” นันทิตาครางเสียงดังทันทีที่ริชาร์ทวางสายไปแล้ว เธอต้องพยายามเก็บเสียงเพราะกลัวว่าคนในสายจะได้ยิน เนื่องจากตอนนี้อาการเสื่อมสมรรถภาพของริชาร์ทนั้นกลับมาเหมือนเดิมแล้ว เธอจึงต้องคอยปรนนิบัติเขาในยามที่เขาต้องการ เพราะเมื่อก่อนเธอต้องมาคอยดูแลทำกายภาพบำบัดแก่นกายของเขา สลับกับพยาบาลสาวอีกคนนั่นก็คือเทริซ่า ซึ่งเป็นพยาบาลที่ริชาร์ทจ้างมาบำบัดเขาโดยเฉพาะ ส่วนเธอก็แค่คนที่มายั่วเขาจนกลายมาเป็นคนดูแลเขาจนถึงทุกวันนี้ ยิ่งตอนนี้เทริซ่ากลับไปอเมริกาแล้ว หน้าที่ดูแลเขาจึงตกมาอยู่ที่เธอแทน เพราะอาการของริชาร์ทถือว่าหายเป็นปกติแล้วหลังจากที่ต้องรักษามานานกว่าสองปี ส่วนเธอพึ่งมาดูแลเขาได้แค่สามเดือน แต่เธอกลับหลงใหลเซ็กส์ของเขาเป็นอย่างมาก จนไม่อยากให้เขาเบื่อเธอเลย “อ่าส์ ซี้ด” ริชาร์ทถอนท่อนเอ็นของเขาออกมาจากร่องสาว ก่อนจะดึงเอาถุงยางอนามัยออก แล้วรูดชักท่อนเอ็นจนน้ำรักพุ่งออกมาอย่างเสร็จสม เขารู้สึกดีเวลาที่เขาเสร็จแบบนี้ที่สุด เพราะมันทำให้เขารู้สึกว่าเขานั้นกลับมาเป็นปกติแล้ว กว่าเขาจะรักษาไอ้อาการเสื่อมสมรรถภาพนี่ได้ต้องใช้ยาไปไม่รู้กี่เข็มเพื่อกระตุ้นให้น้องชายของเขามันพร้อมสู้ แต่ตอนนี้มันเป็นปกติแล้ว แล้วเขาก็เริ่มจะเบื่อหน่ายเซ็กส์ไปเรื่อยๆ นานๆเขาถึงจะเรียกนันทิตามาทำให้เขาได้ปลดปล่อยที เพราะกลัวว่าอาการเสื่อมสมรรถภาพจะกลับมาอีก เขาจึงต้องมีเซ็กส์อาทิตย์ละหนึ่งครั้งเพื่อป้องกันไว้ “แต่งตัวแล้วก็ออกไปซะ แล้วอย่าให้ใครเห็นล่ะ” ริชาร์ทบอกไป เพราะที่นี่ไม่มีใครรู้ว่านันทิตามีหน้าที่อะไรนอกจากเป็นผู้จัดการของไร่ ที่เขาแต่งตั้งเธอเป็นการตอบแทนเธอที่ช่วยดูแลเขาร่วมกับเทริซ่า พยาบาลที่อาจารย์ของชยุตส่งมาช่วยบำบัดเขา “ค่ะคุณริก ถ้าอยากเมื่อไหร่ก็เรียกนันอีกนะคะ” นันทิตาบอกไปพร้อมกับรอยยิ้ม ก็หยิบเสื้อของตัวเองแล้วเดินไปแต่งตัว ก่อนจะออกไปจากห้องของริชาร์ท เธอไม่ได้หวังจะเป็นเจ้าของเขา เพราเธอรู้ดีว่าเธอไม่มีสิทธิ์ แค่เขายอมเรียกใช้เธอ เธอก็มีความสุขแล้วด้านรมิดาก็มาพบอาจารย์รันทิชาที่สอนวิชาประสบการณ์ฝึกงานของเธอในเทอมนี้ เพราะตอนนี้เธอต้องไปฝึกงานเพื่อที่จะได้จบการศึกษาหลังจากร่ำเรียนมาหลายปี จนเพื่อนๆของเธอต่างพากันเรียนจบไปหมดแล้ว มันก็ควรถึงเวลาที่เธอจะเรียนจบบ้าง “พี่รันค่ะ เทอมนี้ฟ้าขอไปฝึกงานที่บริษัทสิทธารักษ์นะคะ เพราะว่าฟ้าได้เข้าไปคุยกับทางบริษัทนั้นเรียบร้อยแล้วค่ะ” รมิดาบอกไปก็ยิ้มอย่างยินดี เพราะบริษัทที่เธอจะไปฝึกงานเป็นของลุงดนุภพและป้าดวงพร ซึ่งทั้งสองคือคนที่คอยเลี้ยงดูเธอแทนพ่อและแม่ของเธอมาตั้งแต่เด็กๆ “ไม่ได้ เพราะพี่มีที่ฝึกงานให้เธอแล้วรมิดา แล้วเธอก็ต้องไปฝึกงานที่นั่นด้วยไม่ว่ากรณีๆใดที่เธอจะใช้เป็นข้ออ้าง พี่ไม่อยากจะรับรู้ เธอต้องไปฝึกงานที่นั่นเท่านั้นไม่งั้นก็ไม่จบ ”รันทิชาบอกไปอย่างขู่ๆ ก็ส่งแฟ้มเอกสารให้กับรมิดา ก่อนจะมองเด็กสาวอย่างสังเกต “นี่มันไร่ชนาธรนิคะ มันเป็นของตระกูลพี่รันไม่ใช่เหรอคะ” รมิดาอ่านชื่อสถานที่ฝึกงานของตัวเอง ก็รู้ทันทีว่ามันคือธุรกิจของตระกูลชนาธรวานิชแน่นอน เพราะเพื่อนสาวของเธอนั่นก็คือมีนาเป็นลูกพี่ลูกน้องกับอาจารย์รัน และยังใช้นามสกุลเดียวกันอีกด้วย “ใช่ เพราะพี่จะให้คนคอยดูการทำงานของเธอระหว่างที่เธอฝึกงานอยู่ เธอต้องเข้าใจนะรมิดาว่าพี่เป็นอาจารย์ พี่ก็อยากจะให้เธอได้เรียนรู้และฝึกงานแบบเพื่อนๆของเธอ พี่ถึงต้องหาที่ฝึกงานให้เธอเอง เพื่อที่เพื่อนๆคนอื่นจะได้ไม่มองว่าเธอเป็นเด็กเส้น ” รันทิชาบอกไป ก่อนจะมองไปหาเจ้หลินเพื่อนสาวของเธอที่นั่งอยู่ด้านหลังของรมิดา กำลังทำมือเยี่ยมให้เธออยู่ เธอจึงแอบยิ้มให้แล้วขยิบตาให้อย่างรู้กัน “พี่รันนี่เล่นละครเก่งใช้ได้เลยนะคะเจ้ แบบนี้เจ้เอาไปเป็นนางเอกในสังกัดเจ้ได้เลยนะคะเนี่ย ” เจนสุดาเอ่ยกระซิบกับเจ้หลินให้ได้ยินกันแค่สองคน เมื่อเธอนั่งฟังที่รันทิชาพูดมาตั้งแต่ต้น มันช่างเนียบเนียนจริงๆ “หุบปากเลยยัยเจน ฟังต่อสิยะ” เจ้หลินดุเจนสุดา ก่อนจะมองไปที่เพื่อนสาวของเธอและรมิดาที่กำลังนั่งนิ่งเงียบไป “แล้วฟ้าต้องฝึกงานที่นั้นกี่เดือนค่ะพี่รัน ถึงจะผ่านเกณฑ์ฝึกงาน” รมิดาถามออกไป เพราะเธออยากจะได้เวลาที่แน่นอน เพราะในอีกสามเดือนข้างหน้าเธอจะต้องถ่ายละครเรื่องใหม่แล้ว “สองเดือนหรืออาจจะมากกว่านั้น มันอยู่ที่เธอจะฝึกงานได้ดีมากน้อยแค่ไหน เมื่อคนที่ควบคุมไร่เซ็นเอกสารให้เธอผ่านการฝึกงานมาให้พี่ แค่นั้นเธอก็จะเรียนจบ แล้วนี่เป็นรายละเอียดของที่ไร่เอาไปอ่านดูก่อนที่เธอจะไป” รันทิชาบอกไปก็เอาข้อมูลของไร่มาให้รมิดาอ่าน แต่เธอก็ไม่ได้บอกรมิดาว่าพี่ชายของเธออยู่ที่นั่น “ฟ้าต้องไปฝึกงานเมื่อไหร่คะ แล้วต้องเริ่มวันไหน” รมิดาถามต่อ เพราะเธอจะได้เตรียมตัวไปฝึกงานในครั้งนี้ให้มันเสร็จๆไป “พี่ติดต่อที่ไร่แล้ว เธอจะต้องไปที่นั่นในอีกสามวันข้างหน้า แล้วเขาจะจัดการบอกเธอเองว่าเธอจะได้เริ่มงานวันไหน ตั้งใจหน่อยล่ะเพราะพี่อุตส่าห์ส่งเธอไปแล้วอย่าให้เสียชื่อพี่เด็ดขาดเข้าใจไหม” รันทิชาบอกไปก็ทำหน้าจริงจังใส่รมิดา “ค่ะพี่รัน ฟ้ามีทางเลือกอื่นหรือไงล่ะคะ ยังไงฟ้าก็ต้องไปที่นั่นอยู่ดี งั้นฟ้าขอตัวกลับก่อนนะคะ” รมิดาบอกไปก็ยกมือไหว้รันทิชา ก่อนจะหันไปหาเจ้หลินและเจนสุดาที่นั่งรออยู่ด้านหลัง ก่อนจะเห็นทั้งสองยิ้มออกมาอย่างดีอกดีใจ “ดีใจอะไรกันคะ” รมิดาถามออกไปจนสองสาวต้องรีบหุบยิ้มแล้วแก้ตัวทันที “ก็ดีใจที่แกจะเรียนจบสักทีไง ใช่ไหมคะเจ้หลิน” เจนสุดาแก้ตัวออกไปก็หันไปถามความเห็นจากเจ้หลินทันที “ใช่ๆจ่ะ ฟ้าจะได้มารับงานได้เต็มที่ไง พี่ว่าฟ้าไปฝึกที่นี่ก็ดีนะจะได้เรียนจบไวๆ แถมยังได้หลบข่าวบ้าๆพวกนั้นไปสักพัก” เจ้หลินพูดบอกไปก็ลุกขึ้นเดินไปหารมิดา “ฟ้าไม่ได้อยากหนีข่าวพวกนั้นสักหน่อย เพราะฟ้าไม่ได้ทำแบบที่ข่าวลงไป ทำไมฟ้าต้องยอมรับในสิ่งที่ฟ้าไม่ได้ทำด้วยล่ะคะ เฮ้อ งั้นเดียวเรากลับกันเถอะค่ะ เดี๋ยวต้องไปงานอีเว้นท์ต่ออีก” รมิดาบอกไปอย่างเหนื่อยใจ เพราะเธอชินกับข่าวฉาวๆพวกนี้ที่ออกไปแล้ว “เดี๋ยวฟ้าไปกับยัยเจนก่อนนะ เดี๋ยวเจ้ขอเม้าท์กับยัยรันก่อน นานๆจะเจกันสักที” เจหลินโกหกออกไป ทั้งที่เธอพึ่งเจอกับรันทิชาเมื่อวาน “ ค่ะ งั้นไว้เจอกันที่คอนโดนะคะเจ้ ฟ้าไปก่อนนะคะ” รมิดาบอกไปก็เดินออกจากห้องทำงานของรันทิชาไปพร้อมกับเจนสุดาทันที พอสองสาวออกไปเจ้หลินก็มานั่งเก้าอี้หน้าโต๊ะทำงานของรันทิชาทันที “โอ้ยแก เชื่อที่ฉันบอกรึยังล่ะว่ายัยฟ้ามันไม่ยอมหนีนักข่าวจริงๆ นี่ฉันคิดว่ายัยฟ้าจะไม่ยอมไปซะแล้ว แกนี่เล่นละครเก่งใช่ย่อยเลยนะยัยรัน ขอบใจแกมากเลยนะที่ช่วยฉัน” เจ้หลินบอกไปอย่างแซวๆก่อนจะขอบคุณเพื่อนสาวที่ยอมช่วยเหลือเธอ “อืม เพื่อนกันถ้าไม่ช่วยกัน แล้วจะไปช่วยใครล่ะ” รันทิชาบอกไปก็ยิ้มให้กับเพื่อนสาว ก่อนจะพูดคุยกันต่อเกี่ยวกับเรื่องของรมิดา หลังจากนั้นสามวันก็ถึงเวลาที่รมิดาจะต้องไปฝึกงานที่ไร่ในจังหวัดเชียงราย เธอก็มานั่งรอเพื่อนสาวและเจ้หลินที่จะไปส่งเธอที่สนามบิน “ยัยเจน แกจะขนกระเป๋าไปไหนน่ะ” รมิดาเอ่ยถามออกไปอย่างสงสัย เพราะเธอเป็นคนไปแต่ทำไมเพื่อนสาวของเธอถึงขนกระเป๋าออกมาแบบนั้น “ก็ไปกับแกไงยะ” เจนสุดาบอกไปก็ยิ้มออกไป พร้อมกับขนกระเป๋าสองใบออกมาหยุดที่หน้าเพื่อนสาว “เฮ้อ แกไม่ต้องไปกับฉันก็ได้ ฉันไปฝึกงานนะยะ ไม่ได้ไปถ่ายแบบถ่ายละคร จะไปให้เขาว่าฉันเป็นคนอ่อนแอรึไงยะ” รมิดาบอกไป เพราะเธอไปฝึกงานเท่านั้น จึงไม่จำเป็นที่เพื่อนสาวของเธอจะต้องไปด้วย “ไม่ได้นะ ยัยเจนจะต้องไปกับฟ้าด้วย เกิดมีปัญหาอะไรยัยเจนจะได้ช่วยฟ้าได้ไง” เจ้หลินรีบเอ่ยบอกไป เพราะเธอไม่อยากจะให้รมิดาไปคนเดียว ขืนเจอกับพี่ริกเข้า เธอไม่อยากจะคิดเลยว่าจะเป็นยังไง ไม่ได้ๆ เธอต้องป้องกันไว้ก่อน “ไม่เป็นไรค่ะเจ้ ฟ้าไปเองได้ ให้ยัยเจนอยู่ช่วยเจ้ดูแลคนอื่นๆที่นี่เถอะค่ะ ฟ้าอยากไปฝึกงานคนเดียวค่ะเจ้” รมิดาบอกไปด้วยสายตาและเสียงจริงจัง จนเจ้หลินพูดแทบไม่ออก เพราะจะบอกได้อย่างไรว่าคนที่จะดูแลรมิดาเคยเป็นริชาร์ทที่เคยขึ้นชื่อว่าเป็นหนุ่มคาสโนว่า ถึงจะเป็นโรคเสื่อมสมรรถภาพ แต่พี่ริกจะไว้ใจได้จริงหรือเปล่าก็ไม่รู้ “แต่ฉันอยากไปอยู่ดูแลแกมากกว่านิยัยฟ้า ให้ฉันไปด้วยนะ” เจนสุดาพูดไปก็ทำเสียงอ้อนใส่รมิดาก่อนจะเดินเข้าไปกอดอย่างออดอ้อน “ไม่เอา ฉันเรียนเองก็ต้องฝึกงานเองสิ แกอยู่ที่นี่กับเจ้หลินนั่นแหละดีแล้ว นักข่าวจะได้ไม่สงสัยว่าฉันหายไปไหน นี่ถ้าแกยังฝืนจะไปกับฉัน ฉันจะไม่ไปฝึกงานแล้วนะยัยเจน” รมิดาขู่เพื่อนสาวออกไป เธอรู้ว่าทั้งสองเป็นห่วงเธอ แต่นี่มันคือสิ่งที่เธอต้องเจอและทำด้วยตัวเอง เธอจึงไม่อยากรบกวนคนอื่น “ก็ได้ๆ เจ้ให้ยัยเจนอยู่กับเจ้ที่นี่แหละ เราก็ไปฝึกงานเองก็แล้วกัน แต่ถ้ามีปัญหาอะไรรีบโทรมาบอกเลยนะเข้าใจไหมยัยฟ้า ห้ามดื้อ ห้ามรั้น ห้ามทำอะไรแผลงๆด้วยเข้าใจไหม” เจ้หลินเอ่ยเตือนรมิดาออกไป แล้วหวังในใจว่าริชาร์ทจะเสื่อมสมรรถภาพแล้วไม่คิดอะไรกับรมิดาจริงๆเถอะ “งั้นไปกันเถอะค่ะ เดียวฟ้าจะตกเครื่อง” รมิดาบอกไปก็ทำท่าทางดีใจที่จะได้ไปฝึกงาน เพราะนี่ถือเป็นครั้งแรกที่เธอได้ไปผจญภัยคนเดียว หลังจากนั้นเจ้หลินและเจนสุดาก็ต้องไปส่งรมิดาที่สนามบิน ก่อนจะต้องปล่อยให้รมิดาเดินทางไปเชียงรายเพียงคนเดียว
Free reading for new users
Scan code to download app
Facebookexpand_more
  • author-avatar
    Writer
  • chap_listContents
  • likeADD