คุณเคยแอบรักเพื่อนสนิทไหมครับ
ถ้าคุณเคย…ผมก็คงเป็นแบบคุณในตอนนี้
ผมแอบรักเพื่อนสนิทในกลุ่มของตัวเองมานานถึงสองปีและผมไม่ได้แอบรักเพียงอย่างเดียว
ผมทั้ง หวง ห่วง และ อยากได้มันเป็นเมีย
แต่เพื่อนสนิทของผมคนนี้ดูเหมือนว่าจะไม่คิดกับผมมากกว่าเพื่อนเพราะบ่อยครั้งมันมักจะขีดเส้นกับความสัมพันธ์ของเราเสมอ
จริงอยู่ที่ผมไม่เคยพูดออกไปเพราะทุกการกระทำต่างๆของมันทำให้ผมไม่กล้าแต่ตอนนี้ผมกลับมีความรู้สึกว่าถ้าผมไม่กล้าตอนนี้แล้วตอนไหนผมถึงจะกล้า
คนที่ผมแอบรักมันชื่อว่า ไข่ดาว เป็นเพื่อนสนิทผู้หญิงคนเดียวในกลุ่มของผม
มันเป็นผู้หญิงแรงๆ แซ่บๆ แต่งตัวโป๊ๆ เรียกได้ว่า ครบเครื่อง แต่ถึงแบบนั้นตลอดสองปีที่เป็นเพื่อนกันมา ผมไม่เคยเห็นมันคบผู้ชายคนไหนจริงจังนอกจากการเต๊าะเล่นและโปรยเสน่ห์ไปวันๆและการโปรยเสน่ห์ของมันดันเข้าตาผมตั้งแต่วันแรกที่เจอ
ที่สำคัญ ไข่ดาว เพื่อนสนิทคนที่ผมแอบรักก็จัดเป็นตัวท็อปของคณะบริหารเลยก็ว่าได้เพราะความ ครบเครื่อง ทำให้ตัวของมันเองสามารถทำผู้ชายตกหลุมรักได้ไม่เว้นแต่ละวันและไม่เว้นแต่ผมที่อยากจะเก็บมันไว้เป็นของตัวเองแค่คนเดียว
“คืนนี้ไปกินเหล้ากันไหม” ภีมเอ่ยปากชวนแก๊งเพื่อนของตัวเองทันทีเพราะในค่ำคืนวันศุกร์แบบนี้ เราก็ควรสังสรรค์ให้ความสนุกกับตัวเองกันหน่อย
“กูไปอยากไปโปรยเสน่ห์ให้ผู้ชายสนใจเล่นๆ” แน่นอนว่าคนที่ตอบมาคนแรกเป็นใครไปไม่ได้เลยนอกจากไข่ดาว แต่เจ้าตัวหารู้ไม่ว่าทุกวันนี้แค่อยู่เฉยๆ คนเขาก็ต่างให้ความสนใจกับมันจนหมด
“กูไปด้วยเพราะกลับห้องไปก็เหงา” ดิวดี้สาวประเภทสองคนเดียวคนในกลุ่มพูดขึ้นทันทีและแน่นอนว่าที่ไหนมีไข่ดาวที่นั่นต้องมีดิวดี้
“แล้วมึงอะไอ้ภาม” ภีมหันหน้าไปถามแฝดพี่ของตัวเองทันทีเพราะตอนนี้ก็เหลือแค่ภามแล้วล่ะที่ยังไม่ปริปากพูดอะไรออกมา
“กูไม่ไป กูจะกลับไปนอนกอดเมีย” ทุกคนถอนหายใจออกมาเพราะภามมันคลั่งรักบทเพลงมากๆ เรียกว่าหายใจเข้าเป็นเมีย หายใจออกก็ยังเป็นเมีย
“แล้วแต่มึงแล้วกัน” ภีมพูดขึ้นอีกครั้งเพราะไม่อยากจะบังคับใคร
“แล้วจะไปกี่โมง กูจะได้กะเวลาแต่งตัวถูก” ไข่ดาวถามขึ้นเพราะคนสวยคนแซ่บแบบไข่ดาวใช้เวลาการแต่งตัวนานพอสมควร
“สักสามทุ่มเป็นไง” ภีมพูดขึ้นเพราะเวลานี้สำหรับเขามันกำลังดีเลยแต่ไม่รู้ว่าสำหรับคนอื่นจะเป็นอย่างไร
“กูได้นะ สามทุ่มกำลังดี”
“งั้นก็สามทุ่มแล้วกัน” เมื่อทุกคนเห็นพร้อมตรงกันไข่ดาวก็พูดขึ้นอีกครั้ง
“แยกกันกลับเลยไหม” ภีมถามขึ้นอีกครั้งเพราะทุกคนก็ไม่มีเรียนกันแล้ว ควรรีบกลับไปนอนเอาแรงสำหรับคืนนี้ก็คงจะดี
“กลับเลยก็ได้ ไปกันเถอะภีม กูอยากนอนแล้วอะ” ไม่ต้องแปลกใจว่าทำไมไข่ดาวถึงชวนภีมกลับแบบนี้
ภีมกับไข่ดาวทั้งสองคนไม่ได้มีความสัมพันธ์เกินเลยกันไปมากกว่าคำว่าเพื่อน ถึงแม้ในใจของภีมจะคิดไปเกินเพื่อนแล้วก็เถอะ แต่ที่ไข่ดาวเอ่ยปากชวนภีมแบบนี้เพราะทั้งสองคนอยู่คอนโดเดียวกันและที่สำคัญทั้งสองคนก็สลับผลัดกันติดรถมาเรียนด้วยกันอยู่บ่อยๆ
“งั้นกูกับไอ้ไข่ไปแล้วนะ เจอกันคืนนี้” ภีมพูดขึ้นก่อนจะเดินออกมาพร้อมกับไข่ดาวและหน้าที่สารถีขับรถก็เป็นใครไปไม่ได้นอกจากภีม
“คืนนี้มึงก็อย่าแต่งตัวให้มันโป๊มาก” ภีมพูดขึ้นทันทีเมื่อขึ้นมานั่งบนรถเพราะทุกครั้งภีมมักจะขัดใจกับการแต่งตัวของไข่ดาวอยู่เสมอและบ่อยครั้งเรียกว่าทุกครั้งก็ว่าได้ที่ภีมทั้งปรามทั้งเตือนคนข้างๆเรื่องการแต่งตัว
“มึงก็รู้กูชอบอ่อยผู้ชาย จะให้กูแต่งตัวเรียบร้อยได้ยังไง” ไข่ดาวตอบกลับมาทันที ก็จริงเพราะนิสัยของไข่ดาวไม่ได่แค่เต๊าะเพียงอย่างเดียวแต่ทั้งขี้อ่อยและขี้ยั่วจนคนที่โดนกระทำใจเหลวไปตามๆกัน
“แต่บางชุดของมึงมันก็โป๊เกินไปไง” ภีมตอบกลับไปอีกครั้ง
“หวงกูหรือไงภีม”
“กูหวงดิวะ”
“หวงกูทำไมก่อน มึงเป็นเพื่อนนะไม่ใช่เป็นผัวสักหน่อย” ใจจริงก็อยากเป็นผัวอยู่หรอกแต่แม่งไม่เคยเปิดโอกาสให้กันสักที
“อ้าว เงียบเลยหรอ” ไข่ดาวพูดขึ้นอีกครั้งเมื่อ เห็นว่าภีมไม่ตอบ ก็อยากตอบอยู่นะ อยากตอบออกไปว่าอยากเป็นผัว ไม่ได้อยากเป็นเพื่อนแต่ก็กลัวว่าความสัมพันธ์มันจะจบลงและความว่าเพื่อนจะหายไป
“กูก็หวงเพื่อนแบบมึงไงไอ้ไข่” ภีมพูดขึ้นต่อเพราะเขาทั้งหวงและหวงเพื่อนคนนี้เลยแหละ
“อย่าหวงกูเลยน่า กูดูแลตัวเองได้” ก็จริงอยู่ที่ไข่ดาวพูดออกมาแบบนั้นเพราะไข่ดาวเรียนเทควันโด้มาตั้งแต่เด็กและที่สำคัญสายดำด้วยนะเรื่องการป้องกันตัวจึงไม่ต้องห่วงเลยกับไข่ดาว
“กูรู้ว่ามึงเก่งแต่ถ้ามีอะไรเกิดขึ้นมึงไม่มีทางสู้แรงผู้ชายตัวโตๆได้หรอกนะไข่” ภีมเองก็พูดขึ้นอีกครั้งเพราะร่างกายของผู้ชายกับผู้หญิงต่างกันอยู่แล้ว ต่อให้ไข่ดาวจะเก่งแค่ไหนแต่แรงของผู้ชายก็มากกว่าผู้หญิงอยู่ดี
“งั้นคืนนี้กูจะแต่งตัวซอฟท์ลงโอเคไหม” ไข่ดาวพูดขึ้นอีกครั้งเพราะในเมื่อภีมที่เป็นเพื่อนสนิทพูดแบบนี้ออกมา เธอเองก็ไม่อยากขัดเพราะเห็นแก่ความเป็นห่วงของเพื่อน
“ขอให้จริงแล้วกัน กูจะรอดูว่ามันจะซอฟท์ลงสักแค่ไหน” ภีมพูดขึ้นอีกครั้งเพราะชุดสำหรับการไปเที่ยวของไข่ดาวแทบจะไม่สามารถปกปิดร่างกายได้เลย จะเรียกว่าเศษผ้าก็ย่อมได้เพราะน้อยชิ้นไปหมด
“พูดแบบนี้มึงไปช่วยกูเลือกชุดเลยไหมภีม” ไข่ดาวพูดขึ้นอีกครั้งแต่ถึงแบบนั้นเธอก็ไม่ได้อึดอัดกับการกระทำของเพื่อนสนิทคนนี้
“ได้นะ กูไม่ติดเลยเพราะกูไม่ชอบให้มึงแต่งตัวโป๊” ภีมพูดออกไปตามตรงเพราะทุกคนย่อมเป็นห่วงเป็นใยเพื่อนอยู่แล้ว มันจึงไม่น่าเป็นที่สงสัยมากนัก
“รู้ไหมว่ากูเหมือนมีพ่อเพิ่มมาอีกคนเลยนะตั้งแต่รู้จักกับมึง” ไข่ดาวพูดขึ้นเพราะคุณพ่อของไข่ดาวก็ขี้หวงแบบนี้เลย เรียกว่าหวงลูกสาวมากๆไม่ต่างกับภีมที่คอยเป็นห่วงเธอ
“กูไม่ได้อยากเป็นพ่อมึงสักหน่อยไอ้ไข่”
“ไม่อยากเป็นพ่อแล้วอยากเป็นอะไร”
❤️
กิ้วๆ เปิดเรื่องใหม่แล้วนะคะ
ฝากภีมกับไข่ดาวไว้กับทุกคนด้วยน้าาาา