บทนำ
หัวใจดวงน้อยของเซียงรื่อแทบหยุดเต้นเมื่อเห็นภาพใบหน้าจิ้มลิ้มที่สะท้อนบนผืนน้ำ ดวงตาสีม่วงกลมราวกับอัญมณีที่จ้องกลับมากะพริบถี่ หลังจากนั้นเธอค่อยเคลื่อนมือไปแตะใบหูทรงสามเหลี่ยมซึ่งมีขนสีชมพูฟูฟ่องบนศีรษะของตนเองเบาๆ
นุ่ม...นุ่มมาก
พวงแก้มของสตรีในน้ำเริ่มเห่อแดง ริมฝีปากสีแดงหวานยิ้มกว้างอวดเขี้ยวเล็กวาววับ พอเจ้าตัวถอยห่างและเริ่มทำท่ากระโดด พวงหางนุ่มฟูสีชมพูอ่อนก็โยกขึ้นลงตามจังหวะ เรือนผมยาวสีเดียวกันปลิวสะบัดคลอใบหน้ากลมมนของหญิงสาววัยไม่เกินยี่สิบปี
“ฮุๆๆๆ”
เซี่ยงรื่อลอบหัวเราะพลางเอามือกุมแก้มนุ่มหยุ่นของตนเอง
เธอไม่ได้ฝัน ทุกอย่างมันเป็นเรื่องจริง!
เธอเข้ามาอยู่ในโลกของหนังสือการ์ตูน!
เมื่อหนึ่งชั่วโมงก่อน เซียงรื่อเพิ่งเลิกงานและกำลังเดินทางกลับบ้าน ในระหว่างนั่งอ่านการ์ตูนรอรถบัส ลูกแมวสีขาวตัวหนึ่งก็กระโดดตัดหน้าเธอแล้วตรงไปที่ถนนซึ่งมีรถแล่นเร็ว เซียงรื่อที่มีสัญชาตญาณรักสัตว์เข้ากระดูกดำจึงพุ่งตัวตามไปก่อนจะสังเวยชีวิตให้กับรถบรรทุกคันใหญ่ที่ขับฝ่าไฟแดงมา
พอรู้สึกตัวอีกครั้ง เธอก็พบว่าตนเองยืนเปลือยกายอยู่หน้าสระน้ำขนาดใหญ่ในร่างของผู้อื่น
...หากจะพูดให้ถูก มันคือร่างของตัวละครตัวหนึ่งในหนังสือการ์ตูนที่เธออ่านก่อนจะถูกรถชนนั่นเอง
ท่านเจ้าเมืองหมอกอสูร มหานครซึ่งเป็นที่อยู่อาศัยของเหล่ามนุษย์ที่มีสายเลือดของสัตว์อสูรไหลเวียนอยู่ในร่าง เมืองลึกลับที่ไม่เคยมีระบุไว้ในแผนที่
ดินแดนนี้ไม่เคยถูกกล่าวถึงในเนื้อหาหลักของการ์ตูนเรื่อง ‘เจตจำนงแห่งรัก’ แต่ปรากฏขึ้นในการ์ตูนชุดพิเศษที่เขียนขยายเพิ่มเติม โดยเน้นเรื่องราวของตัวละครฝั่งวายร้ายเป็นหลักเนื่องจากได้รับความนิยมในหมู่แฟนคลับอย่างล้นหลาม
และตัวละครที่ว่าก็คือ ‘ฝูหมิง’ พี่ชายของนางร้ายซึ่งควบตำแหน่งลาสต์บอส (Last Boss) ในช่วงท้ายเรื่อง
ถึงแม้ว่าจอมมารซึ่งมีฐานะเป็นประมุขพรรคมารอันดับหนึ่งในยุทธภพจะถูกพระเอกกับนางเอกสังหารในตอนจบ แต่การ์ตูนภาคแยกนี้ก็ได้บอกเล่าความเป็นมาและการผจญภัยมากมายก่อนที่ชีวิตของฝูหมิงจะดำเนินไปถึงจุดจบ และหนึ่งในนั้นจะมีช่วงที่เขาถูกจับตัวมาเป็นทาสในเมืองลึกลับที่ไม่เคยมีผู้ใดรู้จักมาก่อน
หลังจากฝูหมิงหนีออกไปได้ก็พาพวกพ้องกลับมาแก้แค้น ทำลายเมืองที่งดงามแห่งนี้จนราบเป็นหน้ากลอง และผู้ที่เขาผูกใจเจ็บแค้นมากที่สุดก็ไม่พ้นท่านเจ้าเมืองที่เธอเข้ามาอยู่ในร่างนี่แหละ!
เซียงรื่อยกมือขึ้นมากอดร่างที่สันเทาจากอาการขนลุกด้วยความหวาดกลัว ทว่า...ตราบใดที่เธอไม่พลาดจับตัวอันตรายอย่างฝูหมิงมาเป็นทาส เธอก็สามารถนอนตีพุงเสวยสุขอยู่กับลูกหลานของสัตว์อสูรที่มีหูและหางที่นุ่มฟูได้อย่างสบายใจ
เพราะสำหรับคนที่รักสัตว์แบบเธอ เมืองแห่งนี้ก็ไม่ต่างจากสวรรค์บนดิน!
“ว่าแต่...ตอนนี้เนื้อเรื่องมันไปถึงช่วงไหนแล้วนะ”
เซียงรื่อหย่อนตัวลงไปในสระน้ำที่มีควันสีขาวลอยคลุ้ง อุณหภูมิที่ค่อนข้างอุ่นสบายส่งผลให้ผิวขาวสะอาดย้อมสีแดงระเรื่อ
“นะ...น่ารัก...”
เธอไม่ใช่ผู้หญิงที่หลงตัวเอง แต่ท่านเจ้าเมืองน่ะน่ารักมากจริงๆ
ก่อนหน้านี้เธอเห็นท่านเจ้าเมืองในรูปแบบภาพวาดการ์ตูน แต่พอได้มาเห็นตัวจริงแบบนี้ก็ยิ่งทำให้เธอรู้สึกว่าน่ารักเข้าไปใหญ่ โดยเฉพาะใบหูและพวงหางของกระรอกที่นุ่มฟูชวนให้ใจสั่น มันทำให้เธอนึกถึงสาวคอสเพลย์[1] ที่มีชื่อเสียงโด่งดังในโลกโซเชียลมีเดีย
ที่สำคัญ ท่านเจ้าเมืองยังมีชื่อ ‘เซียงรื่อ’ เหมือนกันกับเธออีกต่างหาก
ตอนแรกที่ตัวละครตัวนี้เปิดตัวมา เซียงรื่อก็ค่อนข้างให้ความสนใจเป็นอย่างมาก แต่พอเธอได้อ่านไปเรื่อยๆ จนกระทั่งถึงตอนที่นางต้องมาตายด้วยน้ำมือของฝูหมิง เธอก็แทบอยากไปเปลี่ยนชื่อเสียให้รู้แล้วรู้รอด
จริงด้วย! นี่ไม่ใช่เวลาที่จะมาสบายใจ เธอต้องรีบออกไปบอกคนให้ยกเลิกการจับตัวทาสมนุษย์มาชั่วคราวเพื่อป้องกันหายนะที่จะเกิดขึ้นเสียก่อน
ซ่า!
ร่างเล็กรีบผุดกายยืนขึ้นจากสระที่สูงถึงระดับหัวเข่า กวาดสายตามองหาชุดที่น่าจะแขวนรออยู่ที่ไหนสักแห่ง
“ท่านเจ้าเมือง ข้าพาตัวเขามาแล้วเจ้าค่ะ”
เสียงของสตรีที่ดังจากประตูทางด้านหลังส่งผลให้เซียงรื่อหันขวับ หากยังไม่ทันที่เธอจะได้ส่งเสียงขานรับ บานประตูดังกล่าวก็ถูกเลื่อนเปิดออกจากด้านนอก ก่อนที่หญิงสาวร่างผอมสูงเจ้าของเรือนผมสีน้ำเงินอมเทาสะดุดตาจะก้าวเท้าเข้ามา
ขณะที่เซียงรื่อกะพริบตามองผู้มาใหม่ตาปริบๆ อีกฝ่ายที่เห็นเธอก็ผงะไปเช่นเดียวกัน
“อ๊า!”
เสียงร้องแหลมหูของคนแปลกหน้าทำเอาเซียงรื่อสะดุ้งโหยง
ว่ากันว่าพวกสัตว์อสูรมีสัญชาตญาณที่ฉับไว พลเมืองที่นี่ต่างมีสายเลือดของสัตว์อสูรไหลเวียนอยู่ในตัว ไม่แน่ว่าแค่มองปราดเดียว...อีกฝ่ายก็คงรู้แล้วว่าวิญญาณในร่างนี้ไม่ใช่ท่านเจ้าเมืองตัวจริง!
ในสถานการณ์แบบนี้ สิ่งแรกที่ต้องทำคือขอโทษก่อน!
“มันไม่ใช่...!” เซียงรื่อพูดยังไม่ทันจบ เสียงแหลมบาดหูจากผู้ที่กรีดร้องเมื่อครู่ก็ดังแทรกขึ้นมาอีกหน
“ท่านเจ้าเมือง พวงหางและใบหูของท่านเจ้าเมืองที่เปียกน้ำช่างงดงามประหนึ่งประติมากรรมที่สวรรค์เป็นผู้สรรค์สร้าง!”
“...” เธออ้าปากกว้างจนกลายเป็นรูปสามเหลี่ยม
นะ...นางพูดว่าอะไรนะ?
ขณะที่เซียงรื่อกำลังอึ้ง สตรีในชุดสีน้ำตาลก็ยกมือขึ้นมาปิดแก้มที่เห่อร้อนพร้อมกับพล่ามต่อ
“โอ้...พวงแก้มและผิวขาวสะอาดของท่านที่เห่อแดงอยู่ท่ามกลางไอน้ำให้ความรู้สึกลึกลับน่าค้นหา การที่ข้าเกิดมาชาตินี้ได้มีโอกาสรับใช้ใกล้ชิดกับเทพธิดาเยี่ยงท่านถือว่าไม่เสียชาติเกิด ข้า...ข้าพร้อมที่จะตายด้วยน้ำมือท่านแล้ว!”
“หยุด!”
เซียงรื่อส่ายหน้าไปมาพลางเอามือนวดคลึงหว่างคิ้ว เธอคิดว่าตัวเองชอบท่านเจ้าเมืองมากแล้ว แต่พอเจอผู้หญิงตรงหน้าเข้าไป เธอก็ถึงกับอึ้งจนไปต่อไม่ถูก
นี่มันไม่ใช่การชื่นชมแล้ว แต่มันคลั่งไคล้ถึงขั้นบ้าเลยต่างหาก!
ปัง!
ทันใดนั้นประตูอีกฟากหนึ่งก็ถูกเปิดออก
“เสียงตะโกนของท่านเจ้าเมืองช่างไพเราะดุจระฆังที่หล่อจากทองคำบริสุทธิ์ อา...ข้าอยากฟังท่านตะโกนอีก ได้โปรดด่าข้าเถิดเจ้าค่ะ!”
คราวนี้เซียงรื่อถึงกับโมโหจนหน้าเปลี่ยนสี
มิน่าเซียงรื่อในหนังสือการ์ตูนถึงได้มีนิสัยเพี้ยนๆ เหมือนคนเป็นโรคประสาท ก็เพราะคนใกล้ชิดของนางเองยังเพี้ยนเสียขนาดนี้!
“พวกเจ้าหุบปากให้หมด!” เสียงตวาดของท่านเจ้าเมืองส่งผลให้อีกฝ่ายชะงัก ไม่นานก็ก้มหน้างุดด้วยสีหน้าละอายใจ
“อา...ขออภัยด้วยเจ้าค่ะ ข้าทราบดีว่าท่านไม่ชอบคำฟังชมจากปากสตรี แต่เพราะท่านเจ้าเมืองเป็นสิ่งมีชีวิตที่แสนพิเศษ ข้าจึงได้หลุดพูดสิ่งที่คิดออกไปด้วยความชื่นชม”
“หุบปากเสีย! ไม่งั้นข้าจะเลาะกระดูกเจ้าไปทำเก้าอี้!”
“หากกระดูกของข้าสามารถเป็นเก้าอี้รองรับก้นของท่านได้...”
“...”
“ขออภัยเจ้าค่ะ ข้าจะไปเย็บปากตนเองประเดี๋ยวนี้” สาวใช้ที่จู่ๆ ก็โผล่หัวมารีบหมุนตัวกลับพร้อมกับปิดประตูลงอย่างรวดเร็ว
เซียงรื่อปวดหัวตุบๆ ถอนหายใจแล้วเดินไปหยิบผ้าคลุมที่แขวนอยู่บนราวพาดอย่างเอื่อยเฉื่อย
“เสี่ยวหลาน”
“ท่านเจ้าเมือง ข้าไม่ได้ชื่อเสี่ยวหลาน” สาวใช้ผมสีน้ำเงินอมเทาเถียง
“ต่อไปนี้เจ้าจะชื่อเสี่ยวหลาน” เซียงรื่อตอบเสียงเรียบ ตอนนี้เธอไม่มีอารมณ์มาโต้เถียงกับพวกนางแล้ว จากที่เคยดีใจกับการมาอยู่ในร่างของท่านเจ้าเมืองถูกเหล่าบริวารทำลายจนย่อยยับป่นปี้
นี่เธอต้องมาอยู่ท่ามกลางคนมีปัญหาทางจิตหรืออย่างไร!
“อา...ชื่อที่ท่านเจ้าเมืองประทานให้” นางพูดงึมงำก่อนที่ใบหูทรงกระต่ายจะผุดโผล่ขึ้นมาบนศีรษะ “ท่านเจ้าเมือง ข้าเสี่ยวหลานจะตั้งใจทำงานถวายชีวิตให้ท่านเพื่อแลกกับความเมตตาที่ท่านมอบให้เลยเจ้าค่ะ!”
“พอแล้ว” เซียงรื่อส่ายหน้าพลางสวมเสื้อคลุมสีขาวบาง “เจ้ามาทำอะไรที่นี่”
“ข้าพาทาสของท่านมาส่งเจ้าค่ะ”
“...ทาส?” ผู้ที่ถามทวนขณะที่ขนกายตั้งชัน
“ใช่ ทาสที่ท่านเพิ่งรับตัวมาเมื่อวานอย่างไรเจ้าคะ”
ม่านตาทรงกลมของผู้ฟังหรี่ลงเป็นเส้นตรง ใบหน้าที่แต่เดิมมีเลือดฝาดพลันถอดสี
สวรรค์! นอกจากเธอต้องมาอยู่ท่ามกลางสิ่งมีชีวิตที่ไม่ขาดก็เกินแล้ว...ช่วงเวลาที่เธอมาเข้าร่างท่านเจ้าเมืองยังเป็นตอนที่เธอรับระเบิดเวลาอย่างฝูหมิงมาเป็นทาสไปแล้วอีกต่างหาก!
หายนะ! นี่มันหายนะชัดๆ!
[1] คอสเพลย์ (Cosplay) หมายถึง การแต่งกายเลียนแบบตัวละครจากในเกมหรือในการ์ตูน