บทที่ 5

1507 Words
“แก้ตัว” หญิงสาวเริ่มหน้าตึงขึ้นมาเล็กๆ กับน้ำเสียงและคำว่ากระทบที่ได้ยิน แต่ก็จำต้องนิ่งไว้เพราะไม่อยากจะมีเรื่องแต่หัววัน “แล้วจะยืนค้ำหัวฉันอีกนานมั้ย มานั่งนี่สิ” นารถลักษณ์ตอบรับเพียงสั้นๆ และยอมทำตามคำสั่งของคนที่ได้ชื่อว่ากำลังจะเป็นเจ้านาย “เธอคิดว่าจะทำงานที่นี่ได้นานแค่ไหน ?” “ยังไม่รู้เลยค่ะ” เธอไม่ได้กวนประสาทเขา แต่เพราะยังไม่รู้จริงๆ ว่าจะทำงานที่นี่ได้นานสักแค่ไหน เพราะเธอไม่ได้รักที่จะทำงานนี้ตั้งแต่แรก แล้วยิ่งไม่ต้องสงสัยเลยว่าการที่ได้มาเป็นลูกน้องของตรีศูล นั่นก็เป็นเครื่องการันตีแล้วว่าเขาคงจะหาเรื่องเขี่ยเธอไปให้พ้นหูพ้นตาในเร็ววันเป็นแน่ “ฉันขอบอกไว้ก่อนว่าที่นี่งานเป็นงาน ไม่มีแบ่งว่าเส้นใครใหญ่เล็กแค่ไหน ถึงเธอจะได้ชื่อว่าเป็นคุณหนูของธีรการณ์คนหนึ่ง แต่ถ้าทำงานเหยาะแหยะ ไม่รู้จักเวลา หรือทำความเสียหายให้ทีเคฯ คงรู้นะ ว่าฉันมีสิทธิ์ไล่เธอออกได้ทุกเมื่อ” “ค่ะ ลักษณ์เข้าใจ” “เข้าใจยังไม่พอ เธอต้องปฏิบัติตามที่ฉันสั่งด้วย ไม่ใช่พอลับหูลับตาฉันแล้วจะมาวางก้ามข่มคนอื่นเหมือนแม่เธอ” “กรุณาอย่าลากแม่เข้ามาเกี่ยวด้วยเลยค่ะ ถ้าลักษณ์ทำผิดหรือทำงานคุณเสียหายขึ้นมาจริงๆ คุณจะไล่ลักษณ์ออกเลยก็ไม่เป็นไร แต่ขอให้จำคำพูดของตัวเองไว้ ว่างานคืองาน หวังว่าคุณตรีคงจะไม่เอาเรื่องส่วนตัวเข้ามาปะปนกับเรื่องงานหรอกนะคะ” ตรีศูลรู้ว่านารถลักษณ์กำลังดักคอตน “อวดดีเหมือนแม่” “คุณตรีบอกมาเถอะค่ะว่าจะให้ลักษณ์ทำอะไรบ้าง ลักษณ์จะได้รีบไปทำ” เธอเองก็ไม่อยากอยู่ใกล้ตรีศูลนักหรอก “ทำงานแผนกการตลาด ก็ต้องมองตลาดออก อย่างนั้นเธอออกไปพิมพ์แผนการตลาดที่คิดว่าจะนำเสนอฉันในไตรมาสหน้าสักหน้าสองหน้า ฉันอยากจะประเมินความสามารถเธอดู ถ้าน่าสนใจพรุ่งนี้ฉันจะพาออกไปตรวจตลาดด้วยกัน” “ค่ะ” ตรีศูลไม่ได้คิดจะกลั่นแกล้งหรือรังแกหญิงสาวอย่างที่เจ้าตัวคงจะกลัวและกำลังกังวลอยู่ แต่ไอ้เรื่องที่จะให้เลิกพาดพิงถึงเมียพ่อนี่ขอเป็นกรณียกเว้นไว้สักเรื่อง... “เข้าไปทำงานวันแรกเป็นยังไงบ้างจ๊ะเพื่อนรัก” “ไม่อยากจะบอกเลยตาลว่าลักษณ์เกร็งแทบแย่” “แล้วมีเหตุการณ์อะไรเกิดขึ้นบ้าง ไหนลองเล่ามาให้ละเอียดสิ” หญิงสาวปลายสายนามว่าตาลวดีซักไซ้ไล่เรียงเพื่อนรักยกใหญ่ คบกันมาหลายปีเธอรู้ดีเชียวละว่าบรรดาพี่ชายติดพ่อเลี้ยงแต่ละคนของเพื่อนมีดีกรีความร้ายกาจระดับไหน “ก็ยังไม่มีอะไรเกิดขึ้นนะ อวัยวะลักษณ์ยังครบสามสิบสองดีอยู่” กรอกเสียงใส่โทรศัพท์เสร็จนารถลักษณ์ก็หัวเราะออกมาเบาๆ รู้สึกโล่งใจที่ลุงปริตรหาห้องส่วนตัวให้อยู่ ถึงจะไม่ใหญ่โตนักแต่ก็ดีถมเถเกินไปแล้วกับตำแหน่งผู้ช่วยรองประธานฝ่ายบริหาร ที่พ่วงตำแหน่งลูกเลี้ยงอีกหนึ่งตำแหน่ง “ลักษณ์นี่พูดอย่างกับว่าไปออกรบ ตาลละอยากเจอหน้าคุณตรีของลักษณ์ซะจริงๆ ว่าเขาจะดุเดือดเลือดพล่านอย่างที่ลักษณ์เล่าให้ฟังจริงหรือเปล่า ถ้าเป็นอย่างนั้นจริงตาลจะได้จีบซะเลย ชอบนักแลผู้ชายแบดๆ เนี่ย แม่จะปราบให้อยู่หมัดเชียว” “เซี้ยวใหญ่แล้วนะตาล ทีหน้าทีหลังห้ามพูดเด็ดขาดเลยว่าเขาเป็นของลักษณ์ แค่ได้ยินก็สยอง” “ฮ่าๆ ขอโทษที ตาลไม่ทันคิดน่ะปากมันพาไป แต่ลักษณ์ไม่ต้องห่วงนะ ตาลว่ายังไงๆ คุณตรีที่ลักษณ์เคยเล่าก็คงไม่ใช่เนื้อคู่ของเพื่อนรักตาลแน่ ออกจะคนละขั้วซะขนาดนั้น” “คิดแบบนั้นก็ดีแล้ว งั้นแค่นี้ก่อนนะตาล ลักษณ์ต้องรีบทำงานชิ้นแรกไปส่งเจ้านายก่อนเที่ยง อ้อ... เย็นนี้ก็อย่าลืมมานอนเป็นเพื่อนลักษณ์นะ อยู่บ้านคนเดียวแล้วรู้สึกแปลกๆ” ตั้งแต่ช่วงที่เข้าเรียนในมหาวิทยาลัยใหม่ๆ เธอกับตาลวดีก็เริ่มสนิทกัน เวลาที่เธออยู่หอเพื่อนคนนี้ก็จะมานอนเป็นเพื่อนบ่อยๆ พอถึงคราวที่ต้องกลับมาอยู่ที่บ้านริมน้ำ ก็ได้ตาลวดีคนนี้อีกนั่นแหละที่คอยมาอยู่เป็นเพื่อน เพราะแม่เธอและคุณลุงปริตรต้องเดินทางไปต่างประเทศแทบจะทั้งปี “ได้เลย ไม่ลืมหรอก แต่อย่าว่าอย่างนั้นอย่างนี้เลยนะลักษณ์ ตาลไม่ค่อยเข้าใจสักเท่าไรว่าทำไมลักษณ์ถึงไปรับตำแหน่งผู้ช่วยรองประธานบริหารล่ะ ก็ไหนลักษณ์บอกว่าพวกธีรการณ์ไม่ค่อยอยากจะยอมรับลักษณ์นักนี่ โดยเฉพาะคุณตรีศูลอะไรนั่นยิ่งไม่น่าจะยอมง่ายๆ” “ที่จริงเขาก็ไม่ได้อยากยอมรับหรอก แต่เหมือนขัดทุกคนไม่ได้มากกว่า อย่างที่ลักษณ์เคยเล่าให้ฟังนั่นแหละว่าทีเคฯ อินดัสทรีของคุณลุง ธุรกิจหลักก็คือโรงภาพยนตร์และห้างสรรพสินค้า ซึ่งท่านก็ปล่อยมือให้ลูกชายคนโตและคนรองแบ่งกันไปบริหารแล้ว พี่โตเขาไม่ชอบวุ่นวายน่ะ เลยขอแยกไปทำทีเคฯ ซีนีเพล็กซ์ ซึ่งงานก็ไม่ใช่จะน้อยๆ ไปกว่าส่วนของคุณตรีหรอก แต่ก็ไม่ต้องมาวุ่นวายกับส่วนกลางมากนัก สำหรับลักษณ์เป็นไฟท์บังคับที่ต้องพิสูจน์ตัวเองให้ได้โดยเฉพาะกับคนหน้ายักษ์ใจมารนั่น ก็เลยได้มาเป็นผู้ช่วยฝ่ายบริหารนี่ หรือก็เป็นผู้ช่วยของเขานั่นแหละ” “อ๋อ แต่คุณลุงของลักษณ์ก็ยังเป็นประธานบริษัทอยู่ใช่มั้ยล่ะ” อย่างน้อยเพื่อนของเธอจะได้มีคนคอยให้ความยุติธรรมอยู่บ้าง “ก็ใช่นะ แต่คุณลุงมอบอำนาจเกือบจะทั้งหมดให้คุณตรีแล้ว จะมีบางโปรเจกต์สำคัญๆ ที่ท่านต้องเข้ามาร่วมตัดสินใจบ้างเท่านั้น” “อ้าว แล้วคุณลุงเขาทำอะไรล่ะ หรือว่างตลอด อิจฉาแม่ลักษณ์จริงๆ คุณลุงคงพาเที่ยวรอบโลกแหงๆ” “ไม่ใช่หรอก คุณลุงท่านร่วมหุ้นกับเพื่อนที่สนิทกันสองสามคน ไปเปิดตลาดที่ต่างประเทศน่ะ ก็หลายประเทศอยู่นะ แต่ลักษณ์จำได้ไม่หมดหรอก รู้สึกแม่จะเล่าให้ฟังว่ามีพวก ร้านสะดวกซื้อ แล้วก็แกลเลอรีภาพวาดจากนักวาดในเมืองไทยนี่แหละ ลักษณ์เห็นคุณลุงเขาชอบสะสมอยู่เยอะแยะไปหมด” “โห ท่าทางครอบครัวนี้ท่าจะรวยจริงๆ สินะ” “แล้วทำไมตาลถึงสงสัยอะไรเยอะแยะจังฮึวันนี้” ความจริงแล้วเธอตั้งใจเหย้าแหย่เพื่อนเล่นเท่านั้นแหละ เพราะรู้จักนิสัยตาลวดีดีว่าอยากรู้อยากเห็น เห็นทุกอย่างเป็นเรื่องสนุกไปซะหมด ... แต่คำตอบที่ได้รับกลับทำให้เธอทั้งอึ้ง ทั้งแอบขำกับความแก่นเซี้ยวไม่สมกับเป็นหญิง และหน้าตาที่จัดว่าสวยเฉี่ยวน่ามองจนได้เป็นถึงดาวคณะของตาลวดีเลยสักนิด “ก็ตาลชอบคนรวยนี่ ถามก่อนจะได้รู้ว่าคุณตรีที่หมายมั่นนี่ รวยจริงหรือเปล่า” หญิงสาวหัวเราะเสียงใสลอยมาตามสายโทรศัพท์ นารถลักษณ์เลยได้แต่บ่นกระปอดกระแปดไปตามสาย คนอย่างนั้นน่าเอามาเป็นคนรักที่ไหน ทั้งดุ ทั้งพาลแถมยังชอบหาเรื่องชาวบ้านไปทั่ว โดยเฉพาะชาวบ้านอย่างเธอนี่แหละที่ถูกเขาหาเรื่องมาให้ประจำ บ้านธีรการณ์ เวลา 11 : 00 นาฬิกา “แต่งตัวจะออกไปไหนเจ้าโต เจ้าตรี วันนี้วันหยุดไม่ใช่รึ” “ไปรับคณานางค์น่ะครับพ่อ” “แหม ไอ้ลูกคนนี้นี่มันได้ดั่งใจพ่อจริงๆ” ปริตรมองลูกชายคนโตด้วยความปลาบปลื้มสุดๆ “ดีๆ ทำความคุ้นเคยกันไว้ ตอนน้องแต่งเข้ามาบ้านเราจะได้ไม่ต้องปรับตัวอะไรมาก ทำดีแบบนี้ เดี๋ยวพ่อจะยกหอนัดดาวให้เป็นเรือนหอ” “ผมก็แค่ทำตามคำสั่งพ่อ” เขาไม่เห็นว่ามันจะเป็นเรื่องที่ได้ดั่งใจ หรือไม่ได้ดั่งใจตรงไหน เพราะคนพูดสั่งแล้วสั่งอีกให้เขาไปรับหญิงสาวจากงาน หรืออะไรสักอย่างที่ไปทำวันนี้ นอกเหนือจากที่ต้องไปกินมื้อกลางวันด้วยกันทุกวัน ตลอดหนึ่งสัปดาห์ที่ผ่านมา ตรีศูลที่นั่งเล่นอยู่กับเจ้าศรรามสุนัขแสนรักของเขา และกำลังมองพี่ชายคนโตที่เตรียมจะออกจากบ้านพร้อมๆ กับตนสนทนากับบิดาด้วยหัวข้อเกี่ยวกับคนที่กำลังจะเข้ามาเป็นสะใภ้ใหญ่ของธีรการณ์ด้วยความไม่ยินดียินร้ายอะไรสักเท่าใด
Free reading for new users
Scan code to download app
Facebookexpand_more
  • author-avatar
    Writer
  • chap_listContents
  • likeADD