ตอนที่7

1246 Words
EP. 07 ร้านอาหารภายใต้ตึกอาคารพาณิชย์ มีผู้คนเดินเข้าออกกันอย่างล้นหลาม เจ้าของร้านเป็นชายวัยกลางคน คนทำอาหารล้วนแต่เป็นคนในครอบครัวทั้งสิ้น เด็กเสิร์ฟมีอยู่สามคนซึ่งเป็นบุตรชายหญิงของเจ้าของร้าน มาช่วยธุรกิจครอบครัวยามว่างจากการเรียน นาฏนรินทร์ หรือ นาถ ชายหนุ่มวัยยี่สิบสองลูกชายคนโต นีรนุชหรือน้องนี ลูกสาวคนกลางและคนเล็กคือน่าน นทีกร วันนี้คนที่ช่วยบิดามารดาทำงานมีแค่นีรนุชและนทีกร ส่วนนาฏนรินทร์มีกิจกรรมที่มหาวิทยาลัย ลูกค้าคนแล้วคนเล่าต่างติดใจในรสอาหาร บางคนเอ่ยชมลูกชายหญิงของบ้านนี้ที่ช่วยเหลือกิจการงานของครอบครัว เย็นวันนั้น คนซาเหลือลูกค้าที่ร้านแค่ไม่กี่คน ขณะที่นทีกรกำลังเก็บกวาดโต๊ะอยู่นั้น ร่างเฉิดฉายของคุณหญิงดารารายจึงปรากฏขึ้นที่หน้าร้าน ครั้งเห็นว่าลูกค้ารายนั้นคือมารดาของเพื่อน เด็กหนุ่มจึงรีบกระวีกระวาดเข้าไปหาทันที “สวัสดีครับคุณแม่ ผมไม่ทราบว่าคุณแม่จะมาที่นี่เลยไม่ทันได้ต้อนรับ” “ใครเป็นแม่ของนาย” คุณหญิงทำเชิดไม่รับไหว้เด็กหนุ่ม ขณะนทีกรหน้าเผือดลงไปอย่างทันที “เชิญนั่งก่อนนะครับ” เขาเปลี่ยนเป็นผายมือเชิญให้นั่งยังเก้าอี้ ทั้งยังเข้าไปเช็ดเก้าอี้และโต๊ะเกรงว่าจะทำให้คุณหญิงระคายเคือง “วันนี้จะทานอะไรดีครับ เมนูอาหารของเรามี...” “ฉันไม่ได้จะมากินอาหาร...” คุณหญิงกวาดสายตามองบรรยากาศและลูกค้าภายในร้านแล้วยิ้มเหยียด หล่อนยกมือขึ้นโบกมือแล้วบ่นเสียงดัง “ร้านอะไรไม่มีแอร์ ร้อนก็ร้อน” “คุณแม่ไม่รับประทานอาหารแล้วมีธุระอะไรหรือเปล่าครับ” “ใช่ ฉันมีธุระ ธุระกับเธอนั่นแหละ นทีกร” นีรนุชเห็นท่าทางไม่ดีจึงเข้ามาหาน้องชาย เธอชายตามองยายคุณหญิงหยิ่งทระนงนิดหนึ่งแล้วถามน้อง “มีอะไรหรือน่าน แล้ว...รู้จักเขาหรือ” “หล่อนคงจะเป็นพี่สาวของนายคนนี้ใช่ไหม...” ยายคุณหญิงเหยียดตามองสตรีวัยแรกรุ่นซึ่งมัดผมรวบไว้ข้างหลัง สวมผ้ากันเปื้อนที่สกปรกโสโครก “อี้...ขนาดผ้ากันเปื้อนยังสกปรก อาหารที่กินไปนี่จะมีเชื้อโรคหรือเปล่าก็ไม่รู้” “ถ้าเห็นว่ามันสกปรกนัก คุณจะก้าวเท้าอันสะอาดๆ ของคุณเข้ามาทำไมล่ะคะ” นีรนุชตาเป็นประกายขณะว่า ยายคุณหญิงคุณนายนี้ดูถูกดูหมิ่นครอบครัวของเธอและร้านของเธอมากขนาดไหน “ถ้าไม่จำเป็นฉันไม่ก้าวเข้ามาที่นี่หรอกย่ะ นี่นายนทีกร...ฉันขอห้ามเธอเด็ดขาดเลยนะว่าอย่าไปรู้จักหรือคบกับลูกสาวของฉันเด็ดขาด ยายหนูนกยูงสูงส่ง ฉันเลี้ยงมาอย่างดี ทะนุถนอมอย่างกับไข่ในหิน ขาว สะอาด บริสุทธิ์ผุดผ่อง ส่วนนายถ้าจะเทียบเท่าเล็บเท้าคงได้เป็นแค่ขี้เล็บเท่านั้น ดูซิสกปรกโสโครก ดูอาชีพสิ ขายข้าวขายน้ำ มีทางไหนบ้างที่จะทำให้ลูกสาวของฉันอยู่สูงเหมือนทุกวันนี้ได้ เทียบกันไม่ได้” นทีกรหน้าจ๋อย เด็กหนุ่มรู้สึกเหมือนเลือดลมตีแล่นพล่านไปทั่วทั้งร่างกาย พอๆ กับนีรนุชที่รู้ถึงรังสีดูหมิ่นดูแคลนเธอและครอบครัวของเธออย่างมากมาย หล่อนเท้าสะเอวมองหน้ายายคุณนายปากม้าอย่างไม่สนหน้าอินทร์หน้าพรหมอีกต่อไป “นี่คุณป้า...” “ฉันชื่อคุณนายดาราราย บรมฤทธิ์กุลย่ะ” “ฉันไม่อยากจะรู้จักหรอกนะไอ้พวกผู้ดีตีนแดงตะแคงตีนเหยียบหัวคนอื่นน่ะ เห็นแล้วมันพะอืดพะอมกับหน้ากากหนาและหยาบกระด้างของพวกคุณๆ แต่ที่ฉันอยากจะบอกก็คือ น้องชายของฉันผิดอะไรถึงจะไม่ให้คนสองคนได้รู้จักและคบกัน” “ผิดมากเลยย่ะ ผิดมาก ผิดที่หล่อนและน้องชายของหล่อนจนติดดิน ส่วนลูกสาวของฉันมันนางหงส์สูงส่งเทียมฟ้า” “ถ้าอย่างนั้นเชิญคุณกรุณาบินออกไปจากร้านนี้เลยค่ะ เพราะที่นี่มันต่ำตรม เดี๋ยวฉันจะห้ามเอาเท้าอันสกปรกไปยันหน้านางหงส์บนสวรรค์ชั้นฟ้าไม่ไหว” “อ๊าย ย ยายปากไม่สิ้นกลิ่นน้ำนม อายุแค่นี้ทำมาเป็นกร่าง พ่อแม่ไม่เคยสั่งเคยสอนล่ะสิถึงมารยาททรามแบบนี้..” “มารยาททางสังคมฉันรู้ค่ะ แต่หมาระยาดอย่างคุณ ฉันไม่เคยรู้จัก” เสียงโต้เถียงของทั้งสองดังขึ้นเรื่อยๆ จนมารดาของนีรนุชออกมาดู จึงเห็นว่ามีสตรีวัยคราวหล่อนคนหนึ่งยืนชี้หน้าว่าลูกชายลูกสาวของหล่อน คุณนรีจึงเข้าไปหาอย่างทันที “มีอะไรกันหรือคะ” คุณดารารายเหยียดตามองนางแม่ค้าที่อยู่ในชุดโทรมๆ สกปรกแล้วชี้หน้า “นี่หล่อน หัดสั่งสอนลูกชายลูกสาวของหล่อนบ้างนะ มารยาททรามกันมากเลย อ้อ...คนเป็นแม่มาก็ดีแล้ว ฉันขอบอกเลยนะ บอกว่าลูกชายของหล่อนอาจหาญชาญชัยคิดจะคบลูกสาวของฉันที่สูงส่งเทียมฟ้า ลูกของฉันฉันก็ต้องรักและหวงเป็นธรรมดา หล่อนเป็นแม่ประสาอะไรถึงได้ปล่อยให้ลูกชายมาคบมาจีบลูกสาวของฉัน หวังจะรวยทางลัดนะสิไม่ว่า ฉันขอเตือนตรงนี้เลยว่าอย่าคิดเด็ดขาด เหอะ....” หล่อนว่าแล้วมองสารรูปครอบครัวต่ำต้อยแล้วต่อด้วยน้ำเสียงสูงปรี๊ด “หัดเจียมกะลาหัวเอาไว้ด้วย ฐานะต่ำต้อย คิดจะห้อยลูกของฉันสบายนะสิ” “อ้อ...เข้าใจแล้วล่ะค่ะ” คุณนรีว่าด้วยน้ำเสียงเรียบเฉย หากแววตาแสดงซึ่งอารมณ์โกรธอย่างไม่เคยเป็นมาก่อน “ดิฉันจะบอกจะเตือนลูกชายของฉันเองนะคะ ว่าให้เจียมกะลาหัว อย่าคิดไปเห่าของสูงส่งอย่างพวกคุณ แล้วก็ขอ บอกไว้ตรงนี้เลยนะว่าขอให้ลูกสาวของคุณอย่ามายุ่งวุ่นวายกับลูกชายของดิฉันเช่นกัน” “ย่ะ...จำเอาไว้นะ อย่าคิดมาเทียบชั้นกับครอบครัวของฉันเด็ดขาด ไอ้พวกกระจอก” ว่าจบนางดารารายจึงคว้ากระเป๋าแล้วยิ้มกระหยิ่มออกจากร้านแห่งนั้นไป ท่ามกลางสายตาของบรรดาลูกค้าภายในร้านที่ตะลึงไปกับสมการเปรียบเทียบชนชั้นของยายคุณนายนิสัยเสีย ขณะคุณนรีมองหน้าบุตรชายอยู่เนิ่นนานก่อนจะถอนใจ “ไม่เป็นไรนะน่าน หนูไม่ผิดอะไร” คนเป็นแม่โอบกอดบุตรชาย ขณะนทีกรน้ำตารินไหล รู้สึกปวดร้าวไปถึงหัวใจ “ต่อไปก็อยู่ในที่ของเรา อย่าไปยุ่งเกี่ยวกับคนพรรค์นั้นอีก ตัดใจเสียเถอะนะ แม่รู้ว่าลูกของแม่เป็นคนอย่างไร อนาคตมันไม่แน่นอนหรอกนะน่าน ลูกยังมีโอกาสเจอผู้คนอีกมากมาย บางทีหนูนกยูงเธอคงจะไม่ใช่คู่ครองของลูก ทำในสิ่งที่เป็นตัวตนของเราให้มีความสุข ใครจะว่าอย่างไรก็ช่าง แค่รู้ว่าใจเราบริสุทธิ์ก็พอ...” คุณนรีพาบุตรชายกลับเข้าหลังร้าน ระหว่างเดินผ่านโต๊ะลูกค้า มีแต่เสียงให้กำลังใจเด็กหนุ่ม บางคนปลอบประโลมให้นทีกรคิดถึงการเรียนให้มาก เรื่องคู่รักอย่าเพิ่งด่วนตัดสินใจในวันนี้ อนาคตที่สวยงามยังรอเขาอยู่อีกมากมาย...
Free reading for new users
Scan code to download app
Facebookexpand_more
  • author-avatar
    Writer
  • chap_listContents
  • likeADD