บทที่ 1
เหยื่อของมะเหมี่ยว NC18++
พลั่ก!
“อะ อึก” มือเล็กผลักร่างสูงของวายุให้นอนราบไปกับเตียงตามด้วยร่างของเธอตามทาบทับก่อนจะบดริมฝีปากอย่างหนักหน่วงลงไปที่ริมฝีปากของคนตัวโต
สัมผัสรุนแรงสลับกับอ่อนโยนพร้อมกับมือของร่างบางกำลังปลดกระดุมเสื้อเชิ้ตสีดำสนิทของวายุออกทีละเม็ดอย่างใจเย็นโดยที่ริมฝีปากยังคงทำหน้าที่อยู่ไม่ห่าง มือหนาบีบเคล้นตามเนื้อเนียนก่อนจะเคลื่อนไปวางที่หน้าอกอวบของหญิงสาว
เมื่อเสื้อเชิ้ตถูกถอดออกให้พ้นทางเรือนร่างแข็งแกร่งและแผงอกที่ออกกำลังกายมาอย่างดีปะทะกับสายตาหวานของร่างบาง เธอยกยิ้มอย่างพอใจพลางปาดนิ้วไล้ตามร่องเนื้อเบา ๆ และค่อย ๆไล้ต่ำไปยังท้องน้อยที่มีขนอ่อน ๆ ขึ้นอยู่เหนือขอบกางเกง
ไม่รอช้าคนตัวเล็กจัดการปลดเข็มขัดออกและรูปซิบของวายุลงด้วยความรีบร้อน เธอปฏิเสธไม่ได้เลยว่าร่างกายกำยำตรงหน้าทำให้ความอยากของเธอเพิ่มมากขึ้นกว่าเดิมเท่าตัว กลิ่นน้ำหอมราคาแพงพร้อมกับสัมผัสตอบรับที่ร้อนแรงทำให้คนตัวเล็กพึงพอใจเป็นอย่างมาก
“ถุงล่ะ” มะเหมี่ยวเอ่ยถามเสียงแหบพร่าที่เต็มไปด้วยความต้องการเมื่อถอดกางเกงและอันเดอร์แวร์ของร่างสูงออกจนหมด แก่นกายใหญ่โตดีดผงาดอยู่ตรงขาเรียวของเธอที่บ่งบอกว่ามันพร้อมใช้งานแล้ว
“ไม่มี” คนตัวเล็กหยุดการกระทำพร้อมกับขมวดคิ้วยุ่งเมื่อได้ยินประโยคที่น่าหงุดหงิด
ร่างบางขยับตัวออกในท่าคร่อมยืมกอดอกมองชายหนุ่มข้างเตียงด้วยความโมโห เธอไม่คิดจะไม่ป้องกันเลยสักครั้งและแน่นอนว่าเธอจะไม่ทำแบบนั้นด้วย!
“ไม่อยากแล้ว?”
“ก็นายไม่มีถุง!” เสียงเล็กตวาดลั่นพลางด่าทอคนตัวโตในใจ
เสือผู้หญิงบ้าอะไรไม่พกถุง...!
“แล้วเธอไม่มีรึไง”
“ฉันมี แต่ปกตินายต้องพกอยู่แล้วไม่ใช่รึไง!” คนตัวเล็กถอนหายใจออกมาเฮือกใหญ่ ตัวเธอมีสำรองไว้อยู่แล้วแต่เธอแปลกใจมากกว่าว่าทำไมคนอย่างเขาถึงไม่มี
“อยู่กระเป๋ากางเกง” คนตัวโตยกยิ้มขบขำเมื่อเห็นอาการหัวเสียของเธอ
“ก็แค่นั้น!” ร่างบางก้มลงไปหยิบถุงยางอนามัยที่กระเป๋ากางเกงของเขาออกมาก่อนจะกลับมาคร่อมร่างของวายุดังเดิม
“เวลาเสืออย่างเธอโมโหมันก็เซ็กซี่ดีเหมือนกันนะมะเหมี่ยว” ริมฝีปากหนาจูบซับที่แขนเล็กก่อนจะดูดเม้มเนินออกของจนเกิดรอยแดง
“เมื่อกี้ฉันเกือบจะฆ่านายแล้วรู้ไหม!”
“หึ”
มะเหมี่ยวเลิกสนใจคนตัวโตเธอหยิบถุงยางอนามัยขึ้นมากัดที่มุมซองด้วยความชำนาญก่อนจะใส่ที่แก่นกายใหญ่โตตรงหน้า เดิมทีเธอตั้งใจจะ ‘ลีลา’ ให้เขาก่อนแต่เนื่องจากเธอรีบออกมาจากคลับไม่ได้บอกกล่าวเพื่อนสนิททำให้เธอไม่มีเวลามากพอ
เพียงแค่ขับรถหาโรงแรมใกล้ ๆ ก็กินเวลาไปเกือบครึ่งชั่วโมงแล้ว
ร่างบางยืดตัวขึ้นเล็กน้อยเธอจับแก่นกายจ่อที่ปากทางรักก่อนจะค่อย ๆ ใส่มันเข้าไปช้า ๆ
“เอาเปรียบกันเกินไปรึเปล่า ทำไมไม่ถอดเสื้อหืม?” เสียงทุ้มเอ่ยบอกพลางถอดเสื้อตัวจิ๋วของหญิงสาวออกให้พ้นทาง
“ชุดที่ฉันใส่ก็เหมือนจะไม่ใส่อยู่แล้วนะ อ๊ะ!” ใบหน้าหวานนิ่วหน้าด้วยความเจ็บเมื่อท่อนเอ็นได้สอดใส่เข้าไปจนลึกสุดลำ
“อ่า สมฉายาแม่เสือสาวจริง ๆ” วายุครางออกมาเมื่อคนตัวเล็กเริ่มขยับสะโพกขึ้นลงควบคุมแก่นกายของเขาอย่างรู้งาน
ทุกแรงขับเคลื่อนและทุกเสียงครางทำให้อารมณ์ของทั้งคู่เพิ่มทวีคูณมากยิ่งขึ้น มะเหมี่ยวกอดคอหนาเพื่อยึดหลักก่อนจะบดจูบเพื่อระบายความเสียวซ่านที่มี
“อึก! อ๊าา” เสียงหวานร้องครางเมื่อแก่นกายใหญ่โตของเขากระแทกจนสุดช่องทางแม้ว่าเธอจะเป็นฝ่ายควบคุมแต่ก็ไม่ได้ทำให้ลดความเสียวซ่านลงได้เลย
พรึ่บ!
“อ๊ะ! จะ...จะทำอะไร” คนตัวเล็กมองคนตรงหน้าด้วยความสั่นกลัวเมื่ออยู่ ๆ เจ้าตัวก็อุ้มร่างบางขึ้นไว้ในอ้อมแขนโดยที่แก่นกายยังสอดประสานกันอยู่
“ไม่เคยท่านี้?”
“อึก!” คนตัวเล็กเบ้หน้าเมื่อวายุเริ่มขยับสะโพก เธอกอดคอเขาไว้แน่นพลางซบหน้าลงที่ไหล่กว้างเพื่อยึดเกาะ
“อ่าาา” จังหวะและเสียงหยาบโลนยังคงดำเนินต่อไปพร้อมด้วยท่าทางที่แปรเปลี่ยนไปอย่างต่อเนื่อง
“อื้อ! ไหนนายบอกจะเป็นเหยื่อไง!” แล้วทำไมถึงเอาแต่ขย้ำเธอแทนแบบนี้
“เหยื่อก็ขย้ำเสือได้นะเผื่อเธอไม่รู้”
“อึก! อ๊าา! วะ วา...มันลึก!”
“เสืออย่างเธอนอนเฉย ๆ ไป เดี๋ยวเหยื่อจัดการเอง”
เมื่อเสร็จสิ้นกิจกรรมบนเตียงอันหนักหน่วงร่างบางยันกายขึ้นโดยมีผ้าห่มคลุมตัวไว้ มือเล็กก้มหยิบเสื้อผ้าที่ถูกโยนกระจัดกระจายตามพื้นห้องด้วยความยากลำบาก
เธอเจ็บ...
“ไอ้บ้านี่! เป็นพวกซาดิสม์รึไง” เสียงเล็กตวาดลั่นใส่คนตัวโตที่ยืนติดกระดุมอยู่หน้ากระจก สายตาคมมองร่างบางเล็กน้อยก่อนจะยกยิ้มออกมา
“ก็คิดว่าจะอึดกว่านี้”
“ไอ้บ้า!”
Rrrrr Rrrrr
ไม่ทันที่คนตัวเล็กจะเอ่ยคำด่าใดออกมาต่อเสียงโทรศัพท์ของเธอก็ดังขึ้น มือเล็กหยิบมันขึ้นมารับสายพลางสวมใส่เสื้อผ้าไปด้วย
“ฮัลโหล ว่าไงยัยบิว”
(ลากผู้ชายไปกินถึงเกาหลีเลยรึไง! กลับมาสักทีเถอะแม่!)
“โอ๊ย! มึงจะตะโกนทำไมวะเนี่ย!”
(กูรอจนคลับปิด จนอีหมีสร่างเมามึงก็ไม่มาสักที กูถามจริงคนนี้ใครวะ สงสัยจะเด็ดมาก)
“เด็ดบ้านมึงอะ!” คนตัวเล็กตอกกลับทันควันเมื่อเพื่อนสนิทเริ่มรู้ทัน
ไม่เด็ดเท่าไหร่ ก็แค่...รู้สึกติดใจอยู่ไม่น้อย
“ฉันไม่เด็ดเหรอ” อยู่ ๆ วายุก็เอ่ยขึ้นพร้อมกับเดินเข้ามาใกล้มะเหมี่ยวทำเอาเธอรีบถลึงตาใส่คนตัวโตอย่างเอาเรื่อง
(เห้ยเสียงใครวะ กูอยากเห็นหน้า! อีเหมี่ยวเปิดกล้องดิ้!)
“อะ อีบ้า! แค่นี้แหละ พวกมึงกลับก็รีบกลับล่ะ กูจะกลับแล้วเหมือนกัน”
(เออ เจอกันวันจันทร์ อย่าลืมมารีวิวหนุ่มคนนี้นะเว้ย)
“ไอ้พวกบ้า!”
“หึ” คนตัวโตเค้นเสียงในลำคอทำให้ร่างบางหันไปมองขวางด้วยความไม่พอใจ เธอยังไม่ได้จัดการกับเขาเลยนะที่เมื่อกี้อยู่ๆ ก็พูดแทรกขึ้นมา หากเพื่อนของเธอจำเสียงได้ต้องเป็นเรื่องใหญ่แน่
เธอก็ย้ำชัดกฎก่อนที่จะมีเซ็กส์กันแล้วว่าห้ามให้ใครรู้เรื่องนี้เด็ดขาด!
“มองหน้าฉันแบบนี้หมายความว่าไง...”
“...อยากต่ออีกรอบ?”
“ไอ้บ้า! แค่นี้ก็เหนื่อยจะตายอยู่แล้ว”
“ก็ถึงได้ถามไงว่าฉันไม่เด็ดเหรอ ปวดเอวไปหมดแล้วนะ”
“ไอ้วายุ! นายจะพูดทำไมเนี่ย!”
“พูดไม่เพราะเลย ผู้หญิงอะไรวะ”
“ฮึ่ย! ฉันไม่พูดกับนานแล้ว” คนตัวเล็กรีบแต่งตัวให้เสร็จก่อนจะเก็บข้าวของส่วนตัวและเดินออกจากโรงแรมไปด้วยท่าทางฟึดฟัด
“เดี๋ยว จะไปไหน”
“ก็กลับไง”
“ก็รอด้วยดิ”
“ฉันจะกลับเอง แยกกันตรงนี้แหละเดี๋ยวเรียกแท็กซี่เอา” หญิงสาวตอบอย่างไม่ใส่ใจนักสายตาก็พลางกวาดมองรถแท็กซี่รอบๆ
“ขึ้นรถ” แต่อีกฝ่ายก็ไม่ยอมเช่นกัน
“ฟังไม่รู้เรื่อง?”
“ขึ้นเร็วดิ เดี๋ยวคนอื่นก็มาเห็นหรอก” ร่างบางได้สติเธอเม้มปากแน่นก่อนจะเดินย้อนกลับไปขึ้นรถหรูของวายุอย่างเลี่ยงไม่ได้
รถยนต์คันหรูขับเคลื่อนไปตามท้องถนนมือเล็กหยิบโทรศัพท์ขึ้นมาตอบข้อความไปพลาง ๆ โดยมีสายตาคมแอบมองอยู่ห่าง ๆ
“อย่าคิดว่าฉันไม่เห็นนะ จะมองอะไรนักหนา!” เสียงเล็กเอ่ยขึ้นพร้อมกับหันไปมองคนตัวโตอย่างเอาเรื่อง
“อะไร” คนขับรถทำหน้าตายมองเธอกลับอย่างไม่รู้ประสีประสา
“ฉันตอบผู้ชายอยู่!”
“เธอจะวีนอะไรนักหนาวะ หนวกหูชิบ!”
“แล้วใครใช้ให้นายมายุ่งเรื่องของฉันเล่า!”
“ฉันก็แค่อยากรู้ว่าเธอคุยกี่คน”
“ห้า”
“ถามจริง!” เสียงเข้มเอ่ยขึ้นพร้อมกับหันมามองที่มะเหมี่ยวด้วยความตกใจ
“อืม” เธอพยักหน้าตอบพลางกดโทรศัพท์ไปด้วย
“แปลว่าไอ้พวกเดือนคณะเธอก็ได้มาหมดแล้วดิ”
“ทำไม...ทีนายยังเอาดาวคณะมาหมดแล้วเลย” ชื่อเสียงเขาออกจะโด่งดังมีใครบ้างที่จะไม่รู้
“อย่ามาใส่ร้ายกันนะ ฉันเรียบร้อยจะตาย”
“เหอะ”
“แล้วนึกไงถึงทำแบบนี้” ประโยคนั้นทำเอาร่างบางข้างๆเงียบไป เธอพยายามปรับสีหน้าให้เป็นปกติกันจะหันไปทำหน้ากวนๆ ใส่เขา
“แล้วทำไมจะทำไม่ได้”
“ก็ไม่ค่อยเห็นผู้หญิงทำ”
“ไม่ค่อยเห็นแต่ก็ไม่ได้แปลว่าไม่มี เรื่องแบบนี้ใคร ๆ ก็ทำได้ไม่เห็นเกี่ยวกับเพศเลย” เธอตอบออกไปตามตรง เธอล่ะเกลียดนักคนที่ชอบวัดค่าเพศหญิงแบบนี้
ผู้หญิงจะต้องเรียบร้อยอยู่ในกรอบตลอดเลยรึไง
ทำไมผู้หญิงจะล่าเหยื่อบ้างไม่ได้ล่ะทั้ง ๆ ที่ก็มีอารมณ์ทางเพศเหมือนกัน!
“ก็จริง...”
“เดี๋ยวแยกข้างหน้าเลี้ยวขวาเข้าหมู่บ้าน xx ด้วยนะวายุ”
“...” ร่างสูงนิ่งยังคงมองทางข้างหน้า
“ได้ยินไหมวา ฉันบอกว่าแยกด้านหน้าให้เลี้ยวขวา”
“ได้ยินแล้ว”
“แล้วทำไมไม่ตอบเล่า!” คนตัวโตยกไหล่กวนๆก่อนจะสนใจทางตรงหน้าต่อทำเอาคนข้างกายถึงกับฟึดฟัดออกมาเมื่อเห็นท่าทีเมินเฉยของวายุ
ไม่นานรถยนต์คันหรูก็มาจอดเทียบฟุตบาทที่หน้าบ้านหลังใหญ่ของมะเหมี่ยว สายตาคมกวาดมองรั้วบ้านก่อนจะยกยิ้มออกมาบางๆเมื่อเห็นป้ายนามสกุลประจำตระกูลติดอยู่ด้านหน้า
“ที่แท้ก็ลูกทูต”
“ยุ่งอะไรด้วย”
“ขาดความอบอุ่นสินะถึงได้มาเป็นแม่เสือสาวแบบนี้”
“ไอ้บ้า!” มะเหมี่ยวหันไปแว้งใส่ด้วยความโมโห เขาชักจะซักไซ้รู้เรื่องราวของเธอมากเกินไปแล้ว
คนตัวเล็กบีบมือตัวเองแน่นเมื่อถูกถามแบบนั้น มันเป็นความจริงที่เธอไม่อยากยอมรับมัน สาเหตุหลักที่ทำให้มะเหมี่ยวต้องหาความสุขจากการควงผู้ชายไปทั่วก็เพราะครอบครัวที่ไม่มีเวลาให้เธอ
มะเหมี่ยวเป็นลูกสาวคนตัวเดียวพ่อของเธอเป็นนักการทูตส่วนแม่ก็เป็นที่ปรึกษาด้านกฎหมายให้กับสำนักงานราชการ มะเหมี่ยวใช้เวลาส่วนใหญ่อยู่กับพี่เลี้ยงเธอเติบโตมาบนกองเงินกองทองแต่กลับไม่ได้รับการดูแลเอาใจใส่เท่าที่ควร เธอไม่ใช่เด็กมีปัญหาหรือเด็กที่เรียกร้องความรัก เธอเข้าไปพ่อกับแม่ในทุกๆอย่างและพร้อมสนับสนุนท่านเสมอ เธอเพียงแค่หาความสุขนอกบ้านโดยฆ่าเวลาช่วงเบื่อๆไปเท่านั้น เธอรู้สึกมีค่าและเป็นที่สนใจเมื่อกลายเป็นสาวฮอตที่ใครๆก็ต่างชื่นชอบเธอ
“เหมือนนายนั่นแหละ ขาดความอบอุ่น ไอ้ลูกพ่อแม่ไม่รัก!” ร่างบางเอ่ยเสียงดังก่อนจะรีบลงจากรถและวิ่งเข้าบ้านไปในที่สุด
เธอรับรู้มาบ้างว่าครอบครัวของวายุนั้นก็ไม่ธรรมดาพ่อเป็นถึงอัยการ ส่วนแม่ก็เสียชีวิตด้วยโรคร้ายเมื่อหลายปี ชีวิตของเขาและเธอก็ไม่ค่อยต่างกันสักเท่าไหร่
มีทุกอย่างเพียบพร้อมแต่ยกเว้นความรักจากครอบครัว...