บทที่ 9
ติดใจ
“อ๊ะ! เยอะขนาดนี้เลยเหรอ” มะเหมี่ยมทำตาโตและมองคนตรงหน้าอย่างเอาคำตอบ เธอไม่รู้ว่าวายุนั้นจะแกล้งเธออีกหรือเปล่า
“มันก็เยอะแบบนี้แหละ หาข้อมูลแค่ในอินเตอร์เน็ตมันจะไปเพียงพออะไร อาจารย์เขาไม่ชอบเหรอกนะพวกที่ก็อปเน็ตมาน่ะ” เสียงเข้มเอ่ยพร้อมกับทำหน้าดุใส่คนตัวเล็ก
“ฉันจะตายคากองหนังสือไหมเนี่ย!”
“ไม่มีใครตายเพราะเรื่องแบบนี้หรอกนะ” วายุส่ายหน้าเบาๆเมื่อเห็นคนตัวเล็กบ่น
“ฉันจะอ่านหมดเหรอ เหลือเวลาแค่ไม่กี่วันต้องส่งแล้วนะ”
“ก็เธอไม่รีบทำตั้งแต่ต้นมันก็เป็นแบบนี้แหละ โทษตัวเองเถอะที่ค้างงาน”
“ฮือออ ชีวิตของไอ้เหมี่ยวทำไมมันน่าสงสารแบบนี้นะ!”
“ก็เดี๋ยวฉันช่วย” วายุเอ่ยทำให้คนตัวเล็กรีบเงยหน้าและมองคนตัวโตอย่างมีความหวัง
“นะ นายพูดจริงนะ จริง ๆ นะวา”
“อืม แต่ต้องทำวันนี้นะ ไม่งั้นไม่ทันแน่”
“วันนี้หรอ...” คนตัวเล็กชะงักไปเล็กน้อย
“วันนี้ไม่ว่างเหรอ พรุ่งนี้ก็ได้”
“พรุ่งนี้ก็ไม่ได้อะ พรุ่งนี้มันเป็นวัน...ช่างมันเถอะ วันนี้ก็ได้” มะเหมี่ยวไม่ได้เอ่ยอะไรต่อได้แต่พยักหน้ารับ เธอเองก็อยากรีบทำงานให้เสร็จไว ๆ เหมือนกัน
“พรุ่งนี้วันอะไร?”
“ไม่มีไรหรอก งั้นเรามารีบทำงานดีกว่า จะได้เสร็จไว ๆ”
“อืม ถือหนังสือแล้วเดินตามออกมา” เสียงเข้มเอ่ยก่อนจะเดินออกจากห้องไปทิ้งให้มะเหมี่ยวโอบอุ้มกองหนังสือไว้คนเดียว
“ดะ เดี๋ยวสิ! ใจคอจะไม่ช่วยฉันถือเลยรึไง!”
ร่างสูงของวายุกำลังนั่งอยู่หน้าจอโน้ตบุ๊กด้วยสีหน้าเคร่งเครียดส่วนมะเหมี่ยวก็กำลังนั่งอ่านจับใจความสำคัญกับหนังสือกองโตที่วายุได้มอบหมายงานให้เธอ
ใบหน้าหล่อเหลาที่สวมใส่แว่นสายตาทำให้คนตัวเล็กชะงักและมองหน้าอีกฝ่ายไปชั่วครู่เนื่องจากเธอเองก็รู้สึกแปลกใจอยู่ไม่น้อยที่เห็นเขาใส่แว่นแบบนี้
‘พออยู่ในโหมดจริงจังแบบนี้ก็เท่อยู่เหมือนกันแฮะ’ มะเหมี่ยวเอ่ยคนเดียวภายในใจพลางมองใบหน้าหล่อเหลาไม่วางตา
“มองอะไร อยากเอาฉันรึไง” คนตัวเล็กสะดุ้งเมื่อวายุละสายตาจากหน้าจอโน้ตบุ๊กและหันมามองเธอนิ่ง
“บะ บ้า! จะบ้าเหรอ นี่นายคิดเรื่องว่าอย่างเป็นอย่างเดียวรึไง!!”
“อ่านต่อดิ จะเสร็จไหมงานอะ”
“จะดุทำไมเนี่ย ฉันก็เหนื่อยเป็นนะ” ว่าแล้วมะเหมี่ยวก็ฟุบใบหน้าลงกับหนังสือด้วยความเหนื่อยล้าเนื่องจากเธอนั้นนั่งต้องหนังสือมานานหลายชั่วโมงแล้ว
“ก็เพราะเธอเป็นแบบนี้ไงงานเลยไม่เสร็จสักที”
“ชิ ขี้บ่นเป็นคนแก่ไปได้ ขอพักสักหน่อยน่าเดี๋ยวอ่านต่อ” คนตัวเล็กลุกขึ้นก่อนจะเดินไปที่ครัวอย่างถือวิสาสะทำเอาเจ้าของห้องถึงกับผ่อนลมหายใจออกมาเบา ๆ
สายตาหวานมองไปตามเคาน์เตอร์ในครัวจนกระทั่งไปหยุดอยู่ที่ขวดไวน์ราคาแพงที่ตั้งอยู่ มือเล็กหยิบมันขึ้นมาก่อนจะเดินไปหาคนตัวโตทันที
“ดื่มไวน์กันไหม”
“ทำตัวเหมือนเป็นห้องตัวเองเลยนะ”
“ได้ไหมล่ะ ฉันอยากกินอะ”
“มาทำงาน”
“น้าาา ดื่มเป็นเพื่อนหน่อยนะ เดี๋ยวฉันจ่ายค่าไวน์ให้ นะๆๆ” มะเหมี่ยวเอ่ยเสียงอ่อนพลางส่งสายตาออดอ้อนวายุอย่างเอาใจเพียงหวังว่าเขาตะใจอ่อนกับเธอบ้าง
“...”
“เงียบแบบนี้แปลว่าตกลงนะ โอเค! ตามนั้น^^” คนตัวเล็กพูดเองเออเองก่อนจะรีบวิ่งไปหยิบแก้วไวน์ที่ครัวอีกครั้งราวกับเป็นห้องของตัวเอง
มือเล็กจัดการรินไวน์ทั้งสองแก้วให้ตัวเองกับคนตัวโตด้วยรอยยิ้มกว้าง เดิมทีแล้วคืนนี้เธอนัดกับหนุ่มๆในสต็อกไว้เนื่องจากเธอไม่อยากรีบกลับบ้านเพราะเธอต้องอยู่บ้านคนเดียว อีกทั้งวันพรุ่งนี้ก็เป็นวันเกิดของเธอด้วย
มะเหมี่ยวเป็นคนที่ต้องการความรักแต่กลับไม่เคยได้รับมันเลย ครอบครัวของเธอนั้นต้องบินไปต่างประเทศอยู่บ่อยครั้งทำให้เธอต้องอยู่คนเดียวกับพี่เลี้ยงมาตั้งแต่เด็ก ๆ ซึ่งนี่ก็เป็นอีกสาเหตุหนึ่งที่ทำให้เธอกลายมาเป็นแม่เสือสาวล่าเหยื่อแบบนี้
“ชนนนน” มะเหมี่ยวยกแก้วของตัวเองขึ้นมาขนกับแก้วคนตัวโตที่วางอยู่บนโต๊ะ
“เงียบ ๆ ฉันต้องใช้สมาธิ” เสียงเข้มเอ่ยพลางมองคนตัวเล็กด้วยสายตาดุ
“ชิ! วันนี้ดุชะมัด นึกว่าหมา”
“นี่มันงานของเธอนะ แต่ฉันช่วยก็ดีแค่ไหนแล้ว”
“ค่าาา ทำไป ๆ เดี๋ยวฉันนั่งให้กำลังใจอยู่ตรงนี้แล้วกัน” วายุส่ายหน้าออกมาเมื่อคนตัวเล็กทิ้งภาระให้กับเขาทั้งที่งานชิ้นนี้มันไม่ใช่หน้าที่อะไรที่เขาต้องมารับผิดชอบเลยด้วยซ้ำ และเขาเองก็ไม่รู้เหมือนกันว่าทำให้ถึงได้ออกปากจะช่วยเธอตั้งแต่แรก
หนึ่งชั่วโมงผ่านไป
“อื้อออ~” เสียงเล็กเอ่ยในลำคอเบาๆเมื่อรู้สึกมึนเมากับไวน์ที่ได้ดื่มเข้าไป
“นั่นไง เมาจนได้”
“อื้อ~ วา...”
“อะไรของเธอวะเนี่ย”
“อื้อ~ งานเสร็จยางงง” วายุเดินมาช้อนร่างบางเอาไว้ในอ้อมแขนเมื่อเห็นนอนฟุบหน้าลงบนโต๊ะ
วงแขนแกร่งช้อนคนตัวเล็กเอาไว้ก่อนจะวางเธอลงบนโซฟาตัวยาวอย่างเบามือพลางปัดป่านเรือนผมที่ปกปิดใบหน้าหวานเอาไว้
“มันใช่หน้าที่ที่ฉันต้องมาทำงานให้เธอไหมเนี่ย” เสียงทุ้มบ่นอุบเมื่อเห็นสภาพของคนตัวเล็กแต่ก็ไม่วายแอบอมยิ้มออกมากับความน่ารักของหญิงสาวตรงหน้า
พอสิ้นฤทธิ์แล้วก็น่ารักเหมือนกัน...
“อื้อ...วา...” ดวงตาฉ่ำปรือช้อนมองคนตัวโตและจับแขนแกร่งเอาไว้เมื่อเห็นว่าวายุกำลังจะเดินออกไป
“อะไร เมาก็นอนไป”
“อยากอะ เอากันไหม”