“คุณบอกผมได้ไหมว่าทำไมคุณไม่ต้องการให้ผมเข้ามาในชีวิตของคุณ ผมสับสนว่าทำไมคุณถึงปฏิเสธข้อเสนอของผม”คาลวินขมวดคิ้วและพูดอย่างใจเย็น
“คุณเป็นคนที่ฉันชอบน้อยที่สุดในโลกนี้ โดยเฉพาะพวกคนรวม พวกนั้นชอบนอกใจ” ฉันจ้องมองเขาและตอบอย่างแหลมคม โปรดอย่าเสียเวลากับฉัน
“ทำไมคุณถึงคิดว่าผมจะเป็นเหมือนไอ้เลวนั้น ถ้าคุณไม่ต้องการที่จะยอมรับว่าผมเป็นแฟนของคุณ” คาลวินยิ้มอย่างมีเลศนัย
“คุณรู้หรือไม่ว่ามีผู้หญิงกี่คนที่ไล่ตามคุณ พวกเขาสวยกว่าฉลาดกว่าและร่ำรวยกว่าฉัน” ฉันเหลือบมองเขาและดวงตาของเขาเต็มไปด้วยความเกลียดชัง
“ช่างมันเถอะ เพื่อเป็นการชดเชยการเตะของคุณ ผมเสนอสิทธิพิเศษให้คุณไปกินมือค่ำกับผม ไปร้านอาหารที่ผมชอบกันดีกว่า หรือเธออยากไปร้านอื่นมากกว่ากันล่ะ”ฉันเดาน้ำเสียงของคาลวินได้ยากมากจนฉันพบว่าตัวเองไม่สามารถปฏิเสธได้ อย่างไรก็ตามฉันรู้สึกเสียใจที่ทำให้เขาเจ็บแบบนี้และฉันต้องการอยู่กับเขาก่อน ฉันจึงเห็นด้วยกับคำขอของเขา
เมื่อเราเดินไปที่รถของเขาเขาหันมาเปิดประตูให้ฉัน เราไปที่รถของคาลวินและขับรถไปที่ร้านอาหารหรู
แต่ฉันจะไม่ปล่อยให้เขากินอาหารเย็น ฉันสั่งอาหารจานที่เผ็ดสุดๆ มามันมีรสชาติที่ยอดเยี่ยมและดูน่ากินมากๆ ฉันผิดหวังเล็กน้อยฉากตลกที่ฉันคาดหวังว่าจะได้เห็นกับไม่ได้เกิดขึ้น บางทีมันอาจจะไม่เผ็ดพอสำหรับคาลวิน
ฉันลองกินดูในคำแรก เมื่อข้าวแตะลิ้นมันรู้สึกเผ็ดร้อนมาก ลิ้นของฉันแสบร้อนจนน้ำตาไหล ฉันหันไปเช็ดน้ำตาคาลวินมองฉันและขำออกมาอย่างตลก ฉันจิบน้ำที่เขาส่งมาให้ฉันอย่างเชื่องช้าจากนั้นก็ดื่มในครั้งเดียวจนหมด
คาลวินกล้าหาญจริงๆเขาไม่แปลกใจกับอาหารรสเผ็ดที่ฉันสั่งให้เขา แต่ยังอยู่ในชีวิตส่วนตัวด้วย เขามีสไตล์ที่เป็นเอกลักษณ์
นอกจากอาหารที่เผ็ดสุดๆ จานนี้ สิ่งที่ฉันประทับใจที่สุดคืออาหารอร่อยถูกปากฉันมากๆ นี่เป็นอาหารจานโปรดของฉันเลยตอนนี้ ฉันมองไปที่ดวงตาของคาลวินและยิ้มให้เขา
“ผมจะพาคุณไปส่งที่บ้าน”น้ำเสียงของคาลวินนั้นยืนกรานมากฉันไม่สามารถปฏิเสธได้ฉันไม่มีทางเลือกนอกจากต้องขึ้นรถของเขา ฉันไม่รู้ว่าขึ้นรถเขากี่ครั้งแล้ว
คาลวินสตาร์ทเครื่องยนต์ของรถ ฉันคิดว่าเขาจะพูดอะไรบางอย่าง เพราะว่าฉันตั้งใจสั่งอาหารรสเผ็ดมาให้เขา ฉันคิดว่าเขามีแนวโน้มที่จะแก้แค้น แต่หลังจากอยู่ในรถเป็นเวลานานเขายังคงนิ่งเงียบ เขาไม่พูดอะไรเลยมันทำให้ฉันรู้สึกประหม่ามากขึ้น
ในตอนที่ฉันต้องการเลิกหวังว่าเขาจะคุยกับฉันเขาจอดรถที่ข้างทางและเดินเข้าไปในร้านสะดวกซื้อใกล้ๆ แต่ไม่นานนัก เขากลับมาพร้อมกับน้ำสามขวด
เขาจิบเล็ก ๆ แล้วดื่มทั้งขวดในเวลาน้อยกว่าหนึ่งวินาที
เขากระหายน้ำจริงๆหรอ ฉันอึ้ง“คุณหิวน้ำขนาดนี้เลยคุณไม่ได้ดื่มน้ำตอนเราอยู่ในร้านอาหารหรอ”
ดังนั้นเขาจึงวางมือบนประตูแล้วพูดช้าๆ ว่า “อาหารที่คุณสั่งมา มันเผ็ดสุด ๆ ผมเผ็ดจนแสบลิ้นไปหมดแล้ว”
ฉันหัวเราะ ตอนแรกฉันเชื่อว่าเขาชอบกินอาหารรสเผ็ดนั้นซะอีก การแสดงของเขาทำให้เขาได้รับรางวัลนักแสดงนำชายยอดเยี่ยม
เขาต้องอดทนขนาดไหนกัน ฉันหัวเราะจนท้องแข็ง ฉันหยุดหัวเราะเขาไม่ได้จริงๆ หลังจากเห็นการแสดงออกที่น่าอึดอัดใจของฉัน ฉันหัวเราะดังกว่าปกติ
คาลวินกัดฟัน คุณนี่ร้ายจริงๆ ลิ้มของผมแทบจะหลุดออกมาแล้ว ผมมีประชุมที่สำคัญในเช้าวันพรุ่งนี้ ผมไม่แน่ใจด้วยซ้ำว่าผมพรุ่งนี้ผมยังจะพูดได้ไหม
คุณสมควรโดนแบบนี้แหละ หลังจากที่คิดอยู่นานฉันก็ไม่เห็นใจคุณเด็ดขาด เพราะคุณมารังแกฉันก่อน
เนื่องจากการกินอาหารรสเผ็ดลิ้นของผมจึงไหม้อย่างรุนแรงจนไม่รู้สึกถึงรสชาติหรือกลิ่นใด ๆ แต่ผมก็ยังสงบอยู่ ตลอดเวลาและใช้ความสามารถในการแสดงทุกหยดเพื่อตบตาเธอ เพื่อเก็บอาการเผ็ดจนปากชานี้ไว้ แต่ผมก็ทนไม่ไหว ผมชอบทานอาหารรสเผ็ดนะแต่นี่มันเผ็ดเกินไปจนผมทนไม่ได้
ในสายตาของผม เธอทำตัวเหมือนเด็กน้อยที่ไร้เดียงสา โอ้เธอน่ารักมาก
จากการสังเกตของผม เธอทำตัวเหมือนเด็กสาว เธอไม่ได้ตระหนักถึงผลกระทบของพฤติกรรมของเธอที่มีต่อผมเลย โอ้พระเจ้า ผมอยากกอดเธอจริงๆ เธอช่างน่ารักและแสนดีมาก
“โอเค ไปกันเถอะ”ผมมองกลับมาและพบว่าอเล็กเซียจ้องมองมาที่ผม น่าแปลกที่เธอดูเหมือนจะสงสัยว่าผมดื่มน้ำอย่างไร แม้ว่าเธอจะรู้ว่าอาหารจานนั้นเผ็ดขนาดไหนไหนเธอก็ยังกล้าหัวเราะ
“เงียบไปเลย ลิ้นผมไม่รู้รสชาติแล้วด้วยซ้ำ” ผมขมวดคิ้วและตะโกน
อเล็กเซีย ปิดริมฝีปากของเธอด้วยรอยยิ้มบนใบหน้าของเธอ
“ถ้าคุณไม่หยุดหัวเราะผม ผมจะโกรธคุณจริงๆ นะ”
“ได้เลยค่ะ ไม่เป็นไรค่ะ โกรธฉันเลยค่ะ” อเล็กเซียกระพริบตาและพูดว่าเธอต้องการทำให้ผมโกรธ
แน่นอนผมจะไม่โกรธเพราะสิ่งนี้ ผมแค่หวังว่าเธอจะยิ้มได้ทุกวัน ตราบใดที่เธอเต็มใจที่จะยิ้มให้ผม ผมก็ยินดีจ่าย แม้แต่ยินดีที่จะกินอาหารรสเผ็ดอีกครั้งเพื่อทำให้เธอหัวเราะ
“ขอบคุณสำหรับมื้อค่ำนะคะ และฉันขอโทษด้วยสำหรับอาหารที่ฉันสั่งไปมันเผ็ดเกินไปฉันรู้”ในที่สุดเมื่อรถจอดอยู่ชั้นล่างในอพาร์ตเมนต์ของเธอเธอพูดด้วยความเคารพ
ผมส่งสัญญาณให้เธอเข้าใกล้ เธอขมวดคิ้วและก้มศีรษะลง เมื่อผมสังเกตเห็นพฤติกรรมการเชื่อฟังของเธอ ผมก็หัวเราะออกมา เหมือนแมวเพิ่งเกาหน้าอกของผมผมก้มลงและจูบเบาๆที่หน้าผากของเธอ เมื่อผมเข้าหาเธอครั้งแรกเธอแข็งทื้อและไม่ตอบสนองเป็นเวลานานจนกระทั่งผมเลื่อนริมฝีปากเข้าไปใกล้เธอ และกดลิ้นของผมเข้าไปในปากของเธอวาดริมฝีปากของเธอเบา ๆ และจูบอย่างอ่อนโยน เธอยิ้มเมื่อลิ้นของผมลูบไปบนปากของเธอ พอเธอตั้งสติได้เธอดูประหลาดใจ จากนั้นเธอก็ตอบโต้ราวกับว่าเธอไม่แน่ใจว่าเธอควรจะผลักผมออกไปหรือจูบผมต่อไป ให้ตายสิ คุณกำลังทำให้ผมบ้า ผมจูบเธออย่างกระตือรือร้นและหัวเราะอย่างมีความสุขมากขึ้น ในที่สุดเราก็แยกทางกันหลังจากรู้ความรู้สึกของกันและกัน
ระหว่างทางกลับไปที่บ้านของเธอเธอถูกล้างออกเมื่อเธอคิดว่าจะบอกลา “ขอให้มีค่ำคืนที่ดีและราตรีสวัสดิ์”
อเล็กซ์ - pov
แอนนี่สังเกตเห็นฉันจากหน้าต่างและเริ่มทำให้ฉันสนุกทันที เรานั่งลงที่โต๊ะและดื่มชาสักถ้วย
“มันเป็นเรื่องที่ดีที่จะออกเดทกับคนที่ดีนะ”แอนนี่พูด
“เราเพิ่งพบกันและเขาก็ส่งฉันกลับบ้านแบบนี้”
“นี่อเล็กเซีย ฉันไม่คิดอย่างนั้นหรอกอย่าพยายามหลอกฉันฉันไม่ใช่เด็กฉันเป็นเพื่อนของเธอนะ และเห็นว่าเธอหัวเราะมากที่สุดในคืนนี้”
ตอนนั้นเองที่ฉันบอกเธอว่าเกิดอะไรขึ้นในร้านอาหารซึ่งแสดงว่าฉันปฏิเสธเขา โอเค ฉันพูด แน่นอนฉันไม่ได้พูดถึงการจูบที่โดดเด่นของเขาเมื่อฉันพูดถึงเขาเธอดูผงะ
เมื่อแอนได้ยินสิ่งนี้เธอก็ตกใจ “พระเจ้าเธอนี่สุดยอดจริงๆ คนที่มีพร้อมทุกอย่างมาชอบเธอ แต่เธอยังคงปฏิเสธเขาเนี่ยนะ”
“ไม่งั้นจะทำไงดี เราไม่เหมาะสมกัน เขาเก่งเกินไป ดีเกินไปสำหรับฉัน ฉันไม่เชื่อเรื่องรักแรกพบ ฉันรู้สึกว่าเขาเข้าหาฉันด้วยเหตุผลอื่น ฉันคิดว่าเขาแปลกมาก” ฉันตอบแอนนี่
ผู้ชายที่ใกล้ชิดกับผู้หญิงนอกเหนือจากความงามและร่างกายของเธอเขาจะมีจุดประสงค์อื่นได้อย่างไร ฉันกำลังพูดความจริง
“เธอบอกฉันสิว่าเธอมีอะไรให้เขาต้องมาหลอกหรือทำตัวแปลกๆ กับเธอ นอกเหนือจากความงามและร่างกาย”
แอนนี่ทำตาโตเป็น ประกาย
มันทำให้ฉันเศร้ามาก ฉันคิดอย่างจริงจังมันน่าตกใจจริงๆ แต่คุณยังคงพยายามลบล้าง ด้วยความงามและรูปร่างของฉัน
“ฉันไม่เชื่อ เธอต้องบ้าไปแล้วแน่ๆ”เธอหยุดและพูดว่า “เดี๋ยวนะ ฉันว่าเขาจริงใจกับเธอมากเลยนะ นั้นเขายังไม่กลับไปอีกหรอ”แอนนี่มองออกไปนอกหน้าต่าง
ไม่ ฉันตกใจและมองออกไปที่นอกหน้าต่าง แต่ไม่มีรถ
“ฮา คุณมีความรักต่อเขาจริงๆ” นินทาแอนนี่
“ฉลาดมาก” ฉันจ้องที่แอนนี่แอนนี่นั่งอยู่บนโซฟาและขดตัวอยู่ที่มุมห้อง
แต่คำพูดของแอนนี่เข้ามาในใจฉันจริงๆ ฉันคิดถึงเขาจริง ๆ หรอ ไม่งั้นทำไมฉันถึงรู้สึกประหม่าทุกครั้งที่เห็นเขาและเมื่อเขาจูบฉันฉันก็รู้สึกมีความสุขเล็กน้อย
“เธอกำลังคิดอะไรอยู่ หรือเธอกำลังรอจอห์นนี่อีแวนส์ เธอลืมเขาได้แล้วใช่ไหม?”
“ฉันไม่ได้รอเขา” ทันทีที่ฉันได้ยินชื่อของบุคคลนั้นฉันก็พูดออกมาทันทีโดยไม่ต้องคิด
“มีเพียงตัวเธอเองนั้นแหละ ที่รู้ว่าความจริงคืออะไร”
ฉันก้มศีรษะลงและไม่พูดอะไรเลย
“มีคนที่เขาเพียงพร้อมทุกอย่างมาชอบเธอตั้งกี่คนแต่เธอปฏิเสธหมดทุกคนฉันแปลกใจมาก”
“จริงๆ นะเธอควรคิดใหม่ ป้าต้องการเงินจำนวนมากเพื่อทำการผ่าตัด การหาคนธรรมดามันไม่ทำให้เธอแก้ปัญหาพวกนี้ได้ แต่มิสเตอร์สมิธเป็นข้อยกเว้น สำหรับเขาการวางแผนการผ่าตัดไม่ซับซ้อนเลยเป็นเพียงค่าใช้จ่ายพิเศษที่เพิ่มขึ้นนิดหน่อยด้วยซ้ำ และเขาชื่นชมร่างกายเธอและคิดว่าเธอสวย”
“แล้วทำแบบนี้ฉันต่างอะไรจากโสเภณีงั้นหรอ”
“จะเป็นอะไรได้อีก อย่าบอกนะว่าเธอยังเชื่อในความรักอยู่อีก”
“แต่-” ฉันพยายามที่จะตอบ
“อเล็กเซีย โปรดอย่าพูดถึงศักดิ์ศรีเลยตอนนี้ หนึ่งในเหตุผลคือตอนนี้ยังไม่เจอกับสถานการณ์ที่คับคันที่คุกคามชีวิต เมื่อเธอเจอกับสถานการณ์พวกนี้จริงๆ เธอจะต้องเสียใจกับการตัดสินใจในวันนี้ ฟังฉันในขณะที่มิสเตอร์สมิธกำลังสนใจเธอนะ” แอนนี่ตบไหล่ฉัน
“ฉันทำไม่ได้” ฉันซ่อนใบหน้าของฉันไว้ข้างหลังมือแล้วส่ายหัว ถ้าฉันทำอย่างนั้นฉันก็ดูไร้ค่า
แอนนี่ก็ตระหนักว่าฉันเป็นผู้หญิงที่มีค่ามากเสมอ ฉันแน่ใจว่ามันยากสำหรับฉันที่จะยอมรับคำแนะนำดังกล่าวทันที
ตอนดึกแอนนี่หลับไปแล้ว แต่ฉันไม่สามารถแม้แต่จะหลับตา
ทันใดนั้นฉันก็ได้รับข้อความจากคาลวิน
“คุณนอนหรือยัง” หัวใจของฉันเริ่มเต้นเร็วขึ้น
ฉันต้องการที่จะตอบ แต่นิ้วของฉันอยู่ในอากาศ ฉันไม่ตอบอะไรเลย
วันรุ่งขึ้นฉันเห็นกล่องจดหมายของฉัน วอร์เรนก็ส่งข้อความถึงฉันเมื่อคืนนี้ นั่นคือรูปถ่ายของกล่องยาถามฉันว่าจะกินยานี้อย่างไร
เมื่อฉันถามว่าเกิดอะไรขึ้นเขาตอบทันที เขาไม่อยากเอามันไป มันเป็นของพี่ชายฉัน
คาลวินทันใดนั้นฉันก็รู้สึกผิด มันจะต้องเป็นความผิดของจานเมื่อวานนี้ เขามีปัญหาอื่น ๆ นอกเหนือจากอาการปวดท้องหรือไม่
อาจเป็นเพราะการส่งข้อความช้าเกินไป ดังนั้นวอร์เรนจึงโทรหาฉันทันที “ไม่ เขาไม่ได้พูดอะไรเลยเขาไม่ได้เป็นอะไรมากหรอก แต่มันน่าแปลกใจทำไมเขาถึงป่วยแบบนี้”