-Type-
“เบอร์ 15 ไม่ได้จะจริงจัง แค่จะล่อมาเป็นพรีเซนเตอร์ห้างเฉย ๆ” ผมพูดออกไปหลังจากเห็นสีหน้าแอนนี่ตอนที่ผมบอกให้เธอส่งดอกไม้ให้นางงามคนนั้น เธอไม่เคยเป็นแบบนี้นะ ปกติก็ส่งให้ตลอดถึงจะมีส่งผิดบ้าง ตอนนี้ผมชักจะเริ่มคิดว่าที่ชอบส่งดอกไม้ผิดคนเป็นเพราะว่าเธอชอบผมหรือเปล่า พอย้อนไปก็นึกขำถ้ามันเป็นอย่างที่ผมพูดจริง ๆ
ผมชำเลืองสายตามองเธอเล็กน้อยก็เห็นว่าเธอพยักหน้าเบา ๆ แต่กลับไม่แสดงสีหน้าดีใจอะไรออกมาเลย
บ้าหน่า…
“จิ๊” ผมจิ๊ปากอย่างนึกหงุดหงิด ก่อนที่จะหันกลับมาหาเธอก็พบว่าเธอเปิดแล็บท็อปขึ้นมาพิมพ์งาน
“บอสคิดว่าเธอจะชนะเหรอคะ” แอนนี่เอ่ยถามขณะที่มือของเธอยังคงพิมพ์อะไรบางอย่างอยู่ ถ้าเดาไม่ผิดก็คงเป็นรายละเอียดงานประชุมเมื่อสักครู่ ดูเหมือนเธอจะได้งานเพิ่มจากความคิดของผม เพราะทุกอย่างจะถูกเปลี่ยนแพลนไปที่ห้างสรรพสินค้าทั้งหมด ทำงานเป็นเกลียวเลยล่ะทีนี้
“ใน VTR สวยดี” อยู่ ๆ ก็อยากพูดขึ้นให้เธอชักสีหน้าแบบผมบ้าง แต่กลับนิ่ง อ้ากกก~ อยากจับแล็บท็อปทุบทิ้ง
“ค่ะ”
แอนนี่!
ผมเค้นเสียงในใจ ขณะที่จ้องมองเธอไม่ละสายตา ก่อนที่ผมจะแอบชะโงกหน้าไปดูว่าเธอพิมพ์อะไรไปบ้างทำไมถึงจริงจังขนาดนี้
“หึ” ผมหัวเราะออกมาเบา ๆ เมื่อเห็นว่าเธอพิมพ์อะไรลงไปก่อนที่เธอจะเบี่ยงตัวหลบ
เธอพิมพ์ด่าผมเป็นชุดเลย!
“มีอะไรกันครั้งเดียวคุณกล้าที่จะด่าผมเลยเหรอ” แอนนี่หันขวับมาหาผม ก่อนจะมองผมเหมือนจะกินเลือดกินเนื้อ
“ครั้งเดียว ฉันนับถุงยางที่บอสใช้ฉันว่ามันไม่ใช่!”
“_” ผมยักไหล่ขึ้น เธอพูดแบบนี้แล้วนึกถึงตอนที่เราเพิ่งรู้จักกัน ก่อนที่ผมจะเอื้อมมือไปจับศีรษะเธอมาส่องดูอะไรบางอย่าง
“โอ๊ย!” แอนนี่ร้องโอดครวญขึ้นเพราะผมดึงมาอย่างแรงเลยล่ะ
“ไม่มีรังแคแล้วนิ”
“บอส!” เธอแว้ดเสียงพร้อมกับยกมือขึ้นดึงมือผมออก แรงเพียงน้อยนิดของเธอจะสู้อะไรผมได้
“วันนี้ ทำได้ดีนะ” ผมบอกเธอก่อนจะผลักศีรษะเธอออกอย่างแรง ผมที่กระเซอะกระเซิงทำให้เธอดูตลก
“_” เธอไม่ตอบอะไร ได้ไงวะ อุตส่าห์ชม ก่อนที่เธอจะหันหน้าไปทางหน้าต่างรถ พร้อมกับเปิดงานออกมาทำอย่างจริงจัง
โกรธเหรอวะ?
ช่างแม่ง!
ผมค่อย ๆ หันหน้ากลับไปทางหน้าต่างรถอีกฝั่ง ดูเหมือนเราสองคนต่างหันหลังให้กัน แต่ก่อนไม่เห็นโกรธอะไร ทีนี้ทำเป็นโกรธ
“จิ๊!” นานพอสมควรก่อนที่ผมจะจิ๊ปากเสียงดังและหวังให้คนที่กล้าหันหลังให้ผมได้ยิน แต่เธอกลับไม่สนใจอะไร เธอนิ่งเหมือนกับว่า
“_” ผมค่อย ๆ หันหลังกลับก่อนจะพบว่าเธอ
หลับ…
ศีรษะทุยเล็กของเธอผงกลงเมื่อเครื่องยนต์เบรก ก่อนที่ผมจะเอื้อมมือไปรั้งไว้เสียก่อนไม่งั้นคงหัวทิ่มพื้นไปแล้ว
“ขับเบา ๆ หน่อย” ผมเอ่ยปากบอกการ์ดเสียงเรียบ ก่อนจะค่อย ๆ ขยับตัวเข้าให้เธอแล้วให้เธออิงที่ไหล่ของผม
“สบายเลย” ผมพึมพำออกมาเมื่อนึกขึ้นได้ว่าคนที่ต้องหลับควรเป็นผม เพราะผมยังไม่ได้นอนแต่เธอนอนไปก่อนหน้าแล้วถึงจะหนึ่งชั่วโมงก็เถอะ ไม่ไหวขนาดนี้ยังจะอยากขับรถ แล้วตอนนี้ยังจะเอางานขึ้นมาทำให้เวียนหัวอีก
ผมคิดในใจก่อนจะเอื้อมมือไปหยิบแล็บท็อปออกจากตักเธอมาทำต่อ ก่อนจะมองเห็นแถบไฟล์ข้าง ๆ ไม่รอช้ากดสลับแถบเพื่อดูว่าเธอพิมพ์อะไรด่าผมอีกหรือเปล่า
“หึ” ผมแค่นหัวเราะออกมาเมื่อเห็นว่าเธอพิมพ์ด่าผมต่อจริง ๆ ด้วย ก่อนที่ผมจะไล่อ่านข้อความที่เธอระบายมันออกมาพร้อมกับชำเลืองสายตามองเธอเป็น ระยะ ๆ ก่อนจะไปหยุดชะงักกับประโยคหนึ่ง
‘มีไม่มีรังแคบอสก็ไม่คิดอะไรกับฉันอยู่แล้วนิ!’
ผมอ่านจบประโยค มันทำผมชะงักไปชั่วขณะ เหมือนกับเธอกำลังจะบอกว่าไม่ว่าเธอจะสวยไม่สวยผมก็ไม่คิดอะไร ซึ่งมันทำให้ผมคิดหนักก่อนที่ผมจะค่อย ๆ พิมพ์ข้อความตอบกับลงไปในหน้าเดียวกันพร้อมกับสลับแถบกลับมาทำงานที่เธอพิมพ์ค้างไว้ด้วยความรู้สึกแปลก ๆ
ชั่วโมงต่อมา…
@The Gf drinking water
-Annie-
พรึ่บ!
ตุบ!
“โอ๊ย!”
“ถึงแล้ว” เสียงทุ้มลึกคุ้นหูดังขึ้นก่อนที่ฉันจะค่อย ๆ ยันตัวเองลุกขึ้นนั่ง เมื่อกี้ถ้าฉันเดาไม่ผิดเขาคงผลักฉันจนหน้าขมำลงเบาะรถ ไม่งั้นฉันก็อิงไหล่เขาแล้วเขาลุกขึ้นกระทันหัน แต่น่าจะเป็นอย่างแรกมากกว่า
“จะให้ปูพรมให้ด้วยไหม” เขาว่าพร้อมกับเดินนำฉันออกไป ฉันค่อย ๆ เอื้อมมือไปหยิบเอาแล็บท็อปและออกจากรถเดินตามเขาไป
“สวัสดีครับท่านประธาน” เสียงของผู้จัดการโรงงานดังขึ้น ก่อนที่เขาจะไม่ได้ตอบอะไรแล้วเดินออกไป ฉันถึงกับวิ่งตาลีตาเหลือกตามไปแทบไม่ทัน
“ตอนแรกผมนึกว่าคุณไทป์จะมาไม่ทันซะแล้ว”
กึก!
“ยังไม่เริ่ม?” เขาพูดพร้อมกับกลอกตาขึ้นมองบนอย่างเอือมระอา
“ครับ หน่วยงานตรวจคุณภาพเพิ่งมาเหมือนกันครับ” บอสขมวดคิ้วยุ่ง ก่อนจะเดินออกไปเหมือนเดิม ปกติแล้วฉันไม่มีปัญหาในการเดินตามขายาว ๆ ของเขานะเพราะขาของฉันก็ค่อนข้างยาว แต่ตอนนี้ฉันเดินช้ามากด้วยเหตุว่าฉันใส่ส้นสูง ซึ่งฉันไม่ได้ใส่มันมานานมากแล้ว และดูเหมือนว่ามันจะกัดเท้าฉันเข้าแล้ว
“เอ่อ ถ้าคุณไทป์มีธุระที่อื่นต่อ เดี๋ยวผมขับรถเอาเอกสารไปให้เซ็นอยู่สำนักงานใหญ่เลยดีกว่าครับ” ฉันที่เดินตามไปซึ่งก็ไกลพอสำควรแต่ด้วยโรงงานมันค่อนข้างกว้างทำให้ฉันได้ยินว่าผู้จัดการโรงงานกำลังคุยอะไรกับบอส ฉันเม้มปากแน่นทันทีเมื่อกำลังรู้สึกถึงการหยุดเดินและหันมามองฉันของบอส
หนึ่ง ชุดฉันไม่เหมาะในการมาทำงานเดินตามหน่วยงานตรวจคุณภาพ
สอง ฉันเจ็บเท้า และเจ็บแอนนี่น้อยของฉันมากเช่นกัน อดทนมาทั้งวันแต่ดูเหมือนจะเจ็บขึ้นเรื่อย ๆ เลย
“ยกเลิกสัญญากับบริษัทนี้ ผมไม่ชอบรอ” เขาตอบพร้อมกับค่อย ๆ เดินกลับมาหาฉัน ซึ่งประโยคที่เขาพูดทำเอาฉันตกใจ การฉีกสัญญาแน่นอนเราต้องจ่ายค่าเสียหายให้กับเครื่องมือที่ถูกเตรียมขึ้นเพื่อตรวจคุณภาพ
กึก!
“ทำไมไม่บอกว่าเจ็บ” บอสเดินมาหยุดอยู่ตรงหน้าฉันก่อนที่จะพูดประโยคที่ทำให้ฉันกลืนไม่เข้าคายไม่ออก
“ไม่ได้เจ็บขนาดนั้นค่ะ” ฉันตอบก่อนจะค่อย ๆ ถอยหลังออกเมื่อเห็นว่าเขาเดินเข้ามาประชิดตัว
“_”
“ทำไมยกเลิกคะ มันถึงวันที่ต้องตรวจคุณภาพน้ำแล้วนิคะ” ฉันมองไปรอบตัวที่เต็มไปด้วยเครื่องจักรในการผลิตขวดน้ำสำเร็จรูปจำนวนมาก อยากจะบอกว่านี่เป็นผลงานการออกแบบขวดน้ำของบอส และฉันเองด้วย ซึ่งมันเป็นโปรเจกต์เล็ก ๆ ที่ฉันกับบอสทำในตอนที่เขายังไม่ได้เป็นผู้บริหาร
และเขาได้รับการยอมรับเพราะโปรเจกต์นี้เพราะมันทำเงินได้มหาศาลอย่างคาดไม่ถึง เขาถึงอยากมาดูการตรวจคุณภาพเอง แม้ว่าไม่จำเป็นจะต้องมา
“เดินไหวหรือไง” หรือที่เขายกเลิกเป็นเพราะฉันที่เดินไม่ไหว
“ไม่ไหวก็ต้องไหวค่ะ หรือบอสจะจดบันทึกเอง” ฉันอมยิ้มเมื่อเห็นว่าบอสหน้าบึ้งตึงขึ้นมา ฉันจำได้ว่าเมื่อวานที่ฉันหยุดงาน เขาไลน์มาต่อว่าฉันยกใหญ่ แถมยังบอกให้ฉันกลับมาทำงานแม้ว่าจะเป็นคนบอกให้ฉันลาหยุดเอง
“นั่งอยู่นี่แหละ” บอสบอกฉันทำเอาฉันชะงักไปเลย เหมือนเขาจะจดบันทึกเองนะ
“_” เขาหมุนตัวเดินกลับไปหาผู้จัดการโรงงานมันทำให้เขาไม่เห็นว่าฉันยิ้มกว้างแค่ไหน ฉันมีหวังถูกไหม เหมือนกับเขามีใจให้ฉันเลย
“ไปเอาไอแพดในสำนักงานย่อยมา” เขาเอ่ยคำสั่งให้ผู้จัดการโรงงานก่อนที่เขาจะเดินนำหน้าออกไปก่อน ตามทางเดินที่เขาเดินผ่านมีพนักงานโรงงานโค้งศีรษะให้เขาด้วยความเคารพ เห็นแบบนี้แล้วเขาดูเท่เนอะ สงสัยความรักมันจะบังตาฉันอีกแล้วเขาทำอะไรก็ดูดีไปหมด
“เฮ้ออออ~” ฉันถอนหายใจเฮือกใหญ่ก่อนจะเดินกะเผลกไปนั่งที่เก้าอี้ที่อยู่ใกล้ ๆ พร้อมกับถอดรองเท้าส้นสูงก่อนจะพบถึงรอยถลอกของส้นเท้าจนมีเลือดซิบ
ถึงจะเจ็บเท้าแต่มือฉันก็ไม่ได้เป็นอะไร ฉันค่อย ๆ เปิดแล็บท็อปขึ้นมาทำงานที่ทำค้างไว้ แต่ก็ต้องขมวดคิ้วสงสัย เมื่อมันเขียนชื่อไฟล์ที่ถูกเปลี่ยนเป็น ‘ส่งให้ฝ่ายการจัดการแล้ว’ ไม่รอช้าฉันกดเปิดไฟล์ดูทันทีว่าเสร็จแล้วจริงไหมก่อนที่ตาของฉันเบิกกว้างเมื่อพบกับรูปถ่ายของฉันที่นอนหลับอ้าปากอยู่
น่าอายชะมัด…
“:)” แต่ถึงกระนั้นฉันก็ยังยิ้ม เพราะเขาทำงานแทนฉัน เหมือนกับเมื่อกี้ที่เขาจะจดบันทึกงานแทนฉัน แต่แล้ว
“โอ๊ย! แย่แล้วไง” ฉันอุทานขึ้นมาเมื่อนึกขึ้นได้ว่าฉันได้พิมพ์อะไรลงไปในแล็บท็อปด้วย มันทำให้ใจฉันหล่นวูบเมื่อนึกได้ว่าเขาต้องเปิดอ่านแน่
ฉันค่อย ๆ เปิดไฟล์ที่ขึ้นแสดงว่าเมื่อไม่กี่ชั่วโมงที่แล้วขึ้นมาดู พร้อมกับไล่อ่านประโยคที่ฉันได้พิมพ์ด่าเขาไปเพื่อดูว่าเขาจะพอให้อภัยฉันไหม แต่แล้ว
กึก!
ฉันกลับชะงักเมื่อเห็นข้อความที่จำได้ว่าฉันไม่ได้เป็นคนพิมพ์ มันทำให้ฉันรู้สึกจุกแปลก ๆ แม้ว่าจะรู้อยู่แล้ว
‘ผมมองคุณเป็นเพื่อนมาตลอดนะ รวมถึงตอนนี้ด้วย’