-Type-
“พอก็บ้าแล้ว ดีขนาดนี้” ผมพูดออกไปด้วยความรู้สึกชั่วขณะก่อนจะชะงักกับคำว่าดีของตัวเอง พร้อมกับเงยหน้ามองคนที่นอนหอบหายใจด้วยความรู้สึกว่า…ช่างเถอะ
“ฉัน เอ่อ…ไม่เอาแล้วค่ะ” เธอว่าพร้อมกับหุบเรียวขาเข้าหากันพร้อมกับดึงผ้าห่มมาคลุมร่างกายตัวเองไว้ ร่องรอยคราบเลือดติดเป็นปื้นสีแดงบนที่นอนมันยังมีให้เห็น
“คุณควรดีใจนะ ผมไม่เคยขอต่อกับใคร” ผมจัดการใส่ถุงยางอันใหม่เข้าแก่นกายของผมที่มันไม่เล็กลงเลย จะให้หยุดง่าย ๆ ตอนนี้มันหยุดไม่ได้ไง อีกอย่างผมอยากให้เธอรู้สึกว่าไม่ควรยั่วผมตั้งแต่แรก
“ตอนนี้มันใกล้เช้าแล้วค่ะ ฉันต้องไปทำงาน” ผมมองคนที่บอกว่าจะไปทำงานพร้อมกับเอื้อมมือไปดึงผ้าห่มออกอย่างแรง ของสวย ๆ ปิดไว้ทำไม เห็นแล้วหงุดหงิด
“หึ” ผมไล่สายตามองเรือนร่างของเธอด้วยความไม่ดับความหื่นกระหายเลยสักนิด พร้อมกับหัวเราะออกมาในลำคอ เธอมีทำงานหรอกเหรอ จะมีได้ไงเจ้านายเธอยังไม่มีเลย
“ฉัน…” เธอพึมพำออกมาเหมือนไม่อยากจะพูดอะไรมากความอีก ก่อนจะยกนิ้วชี้ขึ้นกัดอีกรอบเหมือนกับกำลังใช้ความคิด
แม่ง ช่างยั่ว!
หมับ!
พรืดดด
“กรี๊ดดด~”
ผมเคลื่อนไหวอย่างรวดเร็วลงที่ปลายเตียงก่อนจะคว้าหมับที่ข้อเท้าของเธอลงมาด้วย แอนนี่ตกใจส่งเสียงกรีดร้องก่อนจะยืนขึ้นที่ปลายเตียงพร้อมกับมองผมด้วยสายตาคาดโทษ
เธอไม่เคยมองผมแบบนี้
มันเหมือนกับกำลังงอนอยู่
ตาของเธอมันขวางแล้วริมฝีปากที่ยู่ออกมามันทำให้ผม
หมับ!
“อื้อออ” ผมคว้าหมับที่ท้ายทอยของเธอก่อนจะดึงใบหน้าสวยนั้นเข้ามาจูบอย่างดุดัน เรียวลิ้นเล็กถูกผมดูดดึงจนเกิดเสียงดังจ๊วบจ๊าบ ผมใช้ฝ่ามือหนาบีบเค้นอกอวบของเธออย่างแรงเช่นกันเพื่อลงโทษที่กล้ามองผมด้วยสายตาไม่พอใจแบบนั้น
“อื้อออออ” คนตัวเล็กดินพล่านเหมือนกับโดนน้ำร้อนลวก ปกติผมมีเซ็กซ์กับคนอื่นไม่ค่อยมีอารมณ์แบบนี้นะ ไม่เคยมีใครขัดขืนเลยสักนิด
จ๊วบบบ~
“แฮ่ก ๆ” เธอหอบหายใจก่อนจะยกมือขึ้นเหมือนจะตบหน้าแต่ก็เหมือนจะชะงักไป
“เป็นอะไร” ผมถามเสียงแผ่วเบาเมื่อเห็นว่าเธอดูงอแง เหมือนกับไม่พอใจอะไรผม
“ไม่ได้เป็นอะไร…” เธอว่าพลางหันหน้าหนีในขณะที่ผมขยับลำตัวเข้าเบียดเสียดกับร่างกายชวนมองของเธอ แก่นกายผมปวดร้าวไปหมดขืนยืนอยู่อย่างนี้มีหวังผมล้มแน่
“เหมือนคุณไม่พอใจ” ผมพูดออกไปตามจริง ผู้หญิงแม่งเข้าใจยาก เป็นอะไรก็ไม่บอก พอถามก็ไม่บอก นี่นะ
“ไม่ชอบให้พูดว่าเคยนอนกับคนอื่น…” เธอพึมพำออกมาข้างใบหูของผม เสียงของเธอมันเบา แต่ผมได้ยินทุกคำ
บ้าหน่า… แอนนี่คือคนที่คอยจัดการทุกอย่างในชีวิตผม เธอรู้หมดว่าผมนอนกับใครบ้าง เธอเป็นคนจัดการเรื่องค่าตอบแทนทุกอย่าง โดย- เฉพาะกับพวกคนมีชื่อเสียงที่ผมคั่วด้วย
“ในตอนนี้” ผมชะงักมือที่กำลังยกเรียวขาข้างหนึ่งของเธอตั้งฉากกับปลายเตียง ก่อนจะมองดวงหน้าของเธออีกครั้ง
“ทำไม”
“_” เธอไม่ตอบอะไร แต่กลับยกเรียวแขนขึ้นคล้องลำคอผม ใบหน้าสวยที่ก่อนหน้านี้ผมชอบด่าว่าเธอหน้าจืด แต่ตอนนี้มันกลับแดงซ่านเหมือนกับกำลังเขินอยู่
“เพราะว่าฉัน…อื้อออ” ผมประกบริมฝีปากลง เพื่อไม่ให้เธอพูดอะไรออกมาทั้งนั้น เมื่อกี้เหมือนเธอจะสารภาพรักกับผมนะ ประสบการณ์ผมบอกอย่างนั้น แต่ผม
ไม่ได้ชอบเธอ
-Annie-
บอสจูบฉันนานจนฉันรู้สึกว่าเขาอยากปิดปากฉันไว้นาน ๆ เขาเคยบอกฉันว่าเขาไม่ชอบผู้หญิงที่มาสารภาพรักกับเขา มันดูไม่จริงใจ เขามองผู้หญิงที่เข้ามาหาเขาว่าพวกหล่อนเข้ามาเพราะชอบเงินเขา แต่ฉัน
ไม่ใช่
จ๊วบบ~
“_” เขาไม่ตอบอะไรก่อนจะโน้มใบหน้าเข้าซุกไซ้ลำคอระหงฉันอีกครั้ง ลมหายใจอุ่นร้อนที่มันเป่ารินรดที่ต้นคอทำให้ฉันบิดเร้าลำตัวไปมา ใบหน้าคมสันไล่ลงไปหยุดที่หน้าอกของฉันก่อนที่เขาจะทำอะไรที่ทำให้ฉันจิกเล็บลงที่บ่าเขา
“อื้ออ…” ฉันปล่อยตัวเองให้เป็นไปตามอารมณ์อีกครั้ง เรียวลิ้นหนาที่ดูดดึงปลายถันของฉันทำเอาฉันสั่นไปหมด
ฉันเงยหน้าขึ้นร้องครางออกมาอย่างช่วยไม่ได้ พร้อมกับน้ำตาที่ไหลออกมา ยังไงดีล่ะ ฉันกำลังคิดสับสนกับวันข้างหน้า
“อ๊ะ…” บอสทำไมถึงรุนแรงจนฉันขาอ่อนได้ตลอดกันนะ เขาทำเหมือนหลงใหลในตัวฉัน แต่เหมือนว่าฉันจะคิดไปเอง
“อื้อออออ” ฉันค่อย ๆ ซบใบหน้าลงที่ไหล่ของเขา ไม่อายเลยสักนิดว่าน้ำตาของฉันมันจะเปื้อนไหล่ของเขา บอสชะงักเล็กน้อยแต่ก็ไม่ได้หยุดที่จะดันแก่นกายขนาดใหญ่เข้าช่องทางรักของฉัน
“ซี๊ดดด โคตรแน่น” เขาซี๊ดปากพร้อมกับมือหนาสองข้างที่บีบสะโพกฉันอย่างรุนแรง
“อื้อออ” ฉันครางเสียงในลำคอด้วยความจุกและเสียวซ่านในเวลาเดียวกัน ก่อนจะอ้าปากงับฟันลงที่ไหล่ของเขา
“ชอบความรุนแรงหรือไง” บอสว่าพลางขยับเอวหนาของเขาเข้ากระแทกอย่างแรงเหมือนจะเอาคืนที่ฉันกัดเขา
ตับ! ตับ! ตับ!
“อื้ออออ อ๊ะ! อ๊ะ!” ฉันรู้แล้วว่าทำไมเขาถึงชอบแบบยืน เพราะมันลึกจนฉันทำหน้าเหยเกเลยล่ะ
ปึก! ปึก!
“อื้ออ จะ เสร็จ” นานพอสมควรที่เข้ากระแทกกระทั้นเข้ามา ฉันถึงเอ่ยปากบอกเขาหลังจากรอบที่แล้วฉันไม่ได้บอกเป็นผลให้คนตัวโตอัดกระแทกเข้าไม่ยั้ง ฉันกัดฟันแน่นพร้อมกับจิกเล็บลงที่บ่าเขาจนคิดว่าเขาคงได้เลือด
“ซี๊ดดด อ่าห์ อีกนิด” เขาบอกฉันก่อนที่ไม่นานฉันจะรู้สึกว่าข้างในตัวฉันมันบีบรัดแก่นกายของเขาแน่นขึ้น
“อื้อออ อ๊ะ! อร๊ายยยยยย~” ฉันกระตุกเกร็งอย่างช่วยไม่ได้ และไม่นานเหมือนเขาจะตามมาแล้ว
“อ่าห์~” เขาคำรามเสียงดังก่อนจะจะโอบกอดฉันแน่นขึ้น ฉันรู้สึกถึงการสั่นไหวของคนตัวใหญ่ที่สั่นเหมือนกับได้รับการปลดปล่อย
“โคตรดี”
พรึ่บ!
“แฮ่ก ๆ” บอสโอบกอดฉันก่อนจะหมุนตัวล้มตัวลงที่เตียงนอนขนาดใหญ่ เป็นผลให้ฉันเป็นฝ่ายอยู่บนตัวเขา ฉันหอบหายใจพลางยกมือขึ้นเสยผมเล็กน้อย เหงื่อมากมายผุดขึ้นที่ใบหน้าของฉัน และใบหน้าของเขา
“อีกเหรอคะ…” ฉันขมวดคิ้วยุ่งเมื่อเห็นว่าเขาจับยกเอวฉันออกมาวางที่หน้าท้องแกร่ง และเขาเอื้อมมือไปข้างหลังฉันเหมือนกับว่ากำลังดึงถุงยางออก และก็เป็นจริงอย่างที่ฉันคิด
“_” เขาหยิบซองถุงยางที่เกลื่อนบนที่นอนขึ้นมาก่อนจะกัดมันออก
“เหนื่อย…” ฉันพึมพำออกมาเมื่อเขาเริ่มจับยกสะโพกฉันขึ้น ก่อนจะกดมันลงที่แก่นกายขนาดใหญ่ที่ตั้งตระหง่านอยู่
“อื้อออออ~”
ปึก!
เวลาต่อมา… [12.00 น.]
ความหนาวเหน็บที่อยู่ ๆ ก็เกิดขึ้นทำให้ฉันรู้สึกตัวตื่นจากการหลับใหล พอเริ่มขยับตัวเล็กน้อยฉันก็รู้สึกเจ็บปวดเนื้อตัวไปหมด และในขณะนั้นภาพเหตุการณ์ต่าง ๆ ที่เกิดขึ้นเมื่อคืนก็วิ่งเข้ามาในหัวของฉันอย่างรวดเร็ว
พรึ่บ!
ฉันเบิกตาโพลงขึ้นเมื่อนึกขึ้นได้ว่าเมื่อคืนเกิดอะไรขึ้น และฉันไม่ควรนอนอยู่อย่างนี้ แต่ทว่าฉันรู้สึกเหมือนจะขยับเขยื้อนไปไหนไม่ได้ ปวดเนื้อตัวไปหมดเลย
เมื่อคืนฉันรู้สึกเหมือนภาพตัดไม่รู้ว่านอนไปตอนไหน รู้แค่ว่าตอนนั้นฉันบอกเขาว่าฉันไม่ไหว และทันใดนั้น
“ตื่นแล้วก็ลุกไปทำงาน” เสียงทุ้มลึกที่ดังขึ้นทำเอาใจของฉันร่วงหล่นลงพื้น ฉันหันขวับไปยังต้นเสียงก็พบว่าเขากำลังนั่งที่เก้าอี้นวมอยู่ เขาใส่เสื้อคลุมอาบน้ำและมองมาทางฉัน
“ฉัน…” ฉันหยุดชะงักคำพูดไว้เมื่อมองไปยังโต๊ะขนาดเล็กที่อยู่ข้าง ๆ เขา กระเป๋าสะพายข้างของฉันถูกเทกระจาด ข้าวของส่วนตัวเกลื่อนอยู่บนโต๊ะ ทำเอาใจของฉันเต้นตุ่ม ๆ ต่อม ๆ เพราะในนั้นมันมี
บัตรประชาชน!!
“แอนนี่?” บอสเอ่ยเสียงเรียบ และเหยียดยิ้มอย่างเย้ยหยัน
“บอส…” ฉันพึมพำออกมาก่อนจะยกมือขึ้นเสยผม พร้อมกับยันตัวเองพิงหัวเตียง ฉันคิดไว้ว่าหลังจากที่ฉันตื่นฉันจะหลบหน้าเขา และไปต่อผม แต่ดูเหมือนว่ามันจะไม่ทันเสียแล้ว
ฉันหลบสายตาเขาไปทางอื่นก่อนจะกัดริมฝีปากตัวเองเมื่อไม่รู้จะต้องทำยังไง
มันอึดอัด
“หลอกผม??”
“_” ฉันไม่ตอบเขา เพียงแต่ผ่อนลมหายใจออกเหมือนกับหมดคำแก้ตัว เอาจริงตอนนี้อยากตะโกนร้องไห้ดัง ๆ แต่ก็ทำไม่ได้
“ก็รู้ว่าผมเกลียดคนโกหกแค่ไหน” ฉันหันมามองเขาเล็กน้อย ก่อนจะเม้มริมฝีปากไว้ ฉันรู้ดีเพราะครั้งหนึ่งเขาเคยโดนพี่ชายของเขาโกหก และเขาบ่นกับฉันว่าถ้าเป็นคนอื่นเขาจะฆ่าทิ้ง
“ลืมมันไปเถอะค่ะ” และนี่เป็นคำพูดแรกที่ฉันพูดออกมาหลังจากเงียบมานาน จะโกหกไม่โกหก ก็แค่ลืมมันไป
“ฮะ!” เขาชักสีหน้าไม่พอใจพร้อมกับลุกขึ้นยืนเต็มความสูง แต่มีหนึ่งอย่างที่ฉันอยากรู้
“รู้ตอนไหนคะ ตั้งแต่แรกหรือเมื่อกี้” ฉันสบตากับเขาหลังจากที่ถามออกไป อยากรู้ว่าที่มีอะไรกันเมื่อคืนมันเกิดขึ้นเพราะอะไร ถ้าเขารู้ตั้งแต่แรกแสดงว่าเขาเลือกที่จะมีอะไรกับฉัน แต่ถ้าไม่
“เมื่อกี้…” แสดงว่าเขาทำไปเพราะไม่รู้