8

4145 Words
ชั่วโมงต่อมา... ฟ้ารดาเอ่ยขอตัวออกไปรับสายของมารดาที่ด้านนอก พอคุยเสร็จก็แวะเดินออกมาไปรับลมที่ระเบียง ที่ซึ่งสามารถมองเห็นบรรยากาศในงานด้านล่างได้อย่างชัดเจนและสวยงาม เพชรดนัยรีบเดินตามร่างระหงไปติดๆ พร้อมกับสะกิดเรียกเพื่อจะทวงถามถึงสัญญาในครั้งนั้น “น้องฟ้าครับ!” “พะ...พี่เพชร” ฟ้ารดาตกใจ! ที่พอหันหลังกลับมาแล้วเห็นว่าใครยืนซ้อนด้านหลังของเธอ “ใช่! พี่เอง” เพชรดนัยบอกก่อนจะรีบคว้าข้อมือบางของคนที่ทำท่าจะขยับหนีเอาไว้มั่น “สะ...สบายดีไหมคะ?” ฟ้ารดาตอบเสียงสั่น เริ่มหายใจติดๆ ขัดๆ ขึ้นมาทันใด “ไม่! พี่กำลังไม่โอเค” เพชรดนัยบอกด้วยน้ำเสียงตึงๆ เมื่อนึกไปถึงเหตุการณ์ครั้งก่อนที่สาวเจ้าได้เคยให้คำมั่นสัญญาเอาไว้ แต่สุดท้ายกลับหลอกให้เขารอเก้อ “ฟะ...ฟ้าต้องกลับเข้าไปในงานแล้วค่ะ” ฟ้ารดาบอกพลางมองไปทางด้านหลังของอีกฝ่ายก็เห็นหลายๆ คนกำลังมองมาที่เธอกับเขาอย่างสนใจ “ทำไมถึงหนีพี่กลับไทยโดยไม่บอกสักคำ” เพชรดนัยถามพร้อมกับจ้องมองใบจิ้มลิ้มของสาวเจ้าไม่วางตา “ฟ้าไม่ได้หนีค่ะ! คุณแม่ท่านมีเรื่องด่วน ก็เลยต้องบินกลับกระทันหัน”    ฟ้ารดาบอกโดยไม่ยอมสบสายตาของอีกฝ่าย ‘บ้าจริง! ทำไมเขาต้องทำเหมือนว่าเธอเป็นคนรักที่กำลังง้องอนกันอยู่นะ ทั้งๆ ที่มันก็แค่สัญญาส่งๆ เท่านั้น’ “แล้วทำไมถึงไม่บอกพี่” เพชรดนัยถามต่ออย่างไม่หายขุ่นเคือง “ฟ้ารีบค่ะเลยไม่ทันได้คิด” เธอบอกก่อนจะเงยหน้าขึ้นสบตากับอีกฝ่าย “จำสัญญาคืนนั้นได้ใช่ไหม?” เขาเอ่ยทวง พลางรับรู้ถึงอาการสั่นของสาวตรงหน้า “เอ่อ...ดะ...ได้ค่ะ” ฟ้ารดาตอบอย่างรู้ดีแก่ใจ “พรุ่งนี้ทำตัวให้ว่าง! พี่จะไปรับเราที่บ้านตอนสิบโมง” เพชรดนัยบอกก่อนจะยอมปล่อยมือบางลง เมื่อเห็นมารดาของตนกำลังหันมามอง “ฟ้าต้องดูคิวงานก่อนค่ะพี่เพชร” ฟ้ารดารีบบอก “ส่งมือถือมาให้พี่” เพชรดนัยบอกพร้อมกับยื่นมือไปรอรับ “พี่เพชรจะ...” ฟ้ารดาลังเล “พี่จะจูบเราตรงนี้ ถ้าเรายังไม่ส่งมันมา” เขาบอกด้วยน้ำเสียงหงุดหงิดที่สาวเจ้าทำท่าไม่อยากให้เบอร์โทร. ทั้งๆ ที่ไม่ได้อยู่ในสถานะจะต่อรอง “นี่ค่ะ” ฟ้ารดาล้วงมือถือออกจากกระเป๋าถือใบเล็กส่งให้คนหน้าบึ้งอย่างจำใจ “ต้องรับสายทุกครั้งที่พี่โทรหา” เพชรดนัยบอกพร้อมกับกดเบอร์ของตัวเองแล้วโทรออก ไม่ถึงสองวินาทีมือถือที่อยู่ในกระเป๋าเสื้อก็สั่นขึ้น “ค่ะ” ฟ้ารดาตอบรับก่อนจะส่งยิ้มเจื่อนๆ ไปให้แพรณารากับแพรลานนาที่กำลังมองมายังเธอ “รู้ไหม! พี่เกลียดคนที่ไม่รักษาสัญญาที่สุด ฉะนั้น! อย่าทำให้พี่ต้องทำอะไรบ้าๆ โอเค้!” เพชรดนัยบอกก่อนจะส่งมือถือคืนให้ “ฟ้าไม่ได้ตั้งใจสักหน่อย” เธอเอ่ยตัดพ้อเบาๆ “พี่ดีใจที่เราไม่ได้ตั้งใจ” เพชรดนัยยกยิ้มที่มุมปากอย่างชอบใจกับคำตอบ ก่อนจะหันไปมองตามเสียงฝีเท้าที่เดินใกล้เข้ามา “เพชร! หนูฟ้า ไปถ่ายรูปกับแม่ที่โต๊ะด้วยจ้ะ” พราวดาราบอกหนุ่มสาวที่ยืนคุยกันอยู่ที่ระเบียงด้วยสีหน้ายิ้มแย้ม ‘นี่อย่าบอกนะว่าตาเพชรกำลังจีบหนูฟ้าอยู่น่ะ?’ คนอาบน้ำร้อนมาก่อนมองบุตรชายคนเล็กกับนางแบบสาวสลับกันไปมาอย่างประเมินความน่าจะเป็น ที่เธอเองก็อยากให้เป็น “ครับ” เพชรดนัยยิ้มพร้อมกับดึงสาวเจ้าเข้ามาแนบกาย ประหนึ่งราวกับคนรักที่คบหากันมานาน จากนั้นก็ส่งยิ้มและมองไปยังกล้องที่เลขาส่วนของมารดากำลังเตรียมเก็บภาพ “หนูฟ้ายิ้มหน่อยจ้ะลูก” พราวดาราบอกคนที่กำลังทำหน้าเหวอนิดๆ อย่างรู้สึกขำๆ “ค่ะ” ฟ้ารดาพยักหน้าตอบก่อนจะฉีกยิ้มหวานให้กล้อง ขณะที่มือหนาของคนข้างๆ โอบรัดต่ำลงไปที่บั้นท้ายคล้ายกับจงใจ! แต่เธอไม่กล้าปัดออกหรือหันไปต่อว่า เพราะเกรงใจมารดาของอีกฝ่าย แชะ! แชะ! แชะ! “เรียบร้อยค่ะคุณพราว” จินดาพยักให้กับทั้งสามหลังจากที่เก็บภาพเสร็จ “คุณจินครับ รบกวนถ่ายรูปคู่ให้ผมกับน้องฟ้าหน่อยสิครับ” คนที่ได้ที รีบรั้งเอวบางที่เตรียมจะขยับหนีให้ยืนคู่กับตนต่อ “ได้ค่ะคุณเพชร” จินดายิ้มกว้างขึ้นมาทันทีทันใด เมื่อสิ่งที่แอบลุ้นเอาไว้ในใจเป็นจริง ‘ช่างเหมาะสมกันอะไรอย่างนี้นะ’ ฟ้ารดาตาโต เมื่อมือหนาของอีกฝ่ายรั้งให้เธอเข้าไปใกล้ชิดติดแนบลำตัว “เอ่อ...พี่เพชรคะ ฟะ...ฟ้าว่า...” “ยิ้มหน่อยสิคะคนดี” เพชรดนัยไม่สนใจเสียงทักท้วงของคนในอ้อมแขน กับสายตาข้องอกข้องใจของมารดาที่มองมาล้อเลียน   ฟ้ารดาฝืนยิ้มให้กล้อง เพราะตอนนี้แขกในงานกำลังชำเลืองมองมาตามๆ กันอย่างมีมารยาท ประหนึ่งว่าไม่ได้มองเธอกับเขาตรงๆ แต่ก็อยู่ในม่านสายตา ‘บ้าจริง! ทำแบบนี้เดี๋ยวพรุ่งนี้ก็เป็นข่าวหรอก’ แชะ! แชะ! “เรียบร้อยค่ะ” จินดาบอกยิ้มๆ “ขอบคุณมากๆ ครับ ยังไงรบกวนส่งเข้าในไลน์ให้ผมด้วยทุกรูปเลยนะครับ” เพชรดนัยบอกพลางหันมองใบหน้าจิ้มลิ้มที่แดงปลั่งขึ้นมานิดๆ อย่างรู้สึกชอบใจ ‘หรือว่าเราจะพาเธอหลบมุมไปหาที่ส่วนตัวๆ แล้วจูบให้หนำใจตอนนี้เลยวะ?’ คนที่หัวใจเต้นเร่าเริ่มลังเล “ได้ค่ะ” จินดาพยักหน้ารับยิ้มๆ “แม่ว่าเราเข้าไปข้างในกันเถอะ ไปจ้ะหนูฟ้า” พราวดาราเอ่ยชวน เมื่อเห็นทุกคนกำลังจะไปส่งตัวเจ้าบ่าวเจ้าสาวเข้าห้องหอ “ค่ะคุณพราว” ฟ้ารดายิ้มก่อนจะดึงมือหนาที่เอวออก แล้วรีบเดินเร็วๆ ตามผู้ใหญ่ไป “หึๆ” เพชรดนัยหัวเราะเบาๆ ก่อนจะเดินตามหลังทุกคนเข้าไปข้างในงานอย่างอารมณ์ดี พลางคิดไปว่าพรุ่งนี้จะจัดการชำระความกับสาวเจ้ายังไงให้สาสมกับการที่ทำตนต้องรอเก้อเมื่อครั้งก่อน   วันต่อมา...10:14 น. หลังจากที่ตื่นนอน เพชรดนัยก็ควานหามือถือเพื่อจะต่อสายหาฟ้ารดา เมื่อคืนเขาขับรถไปส่งเธอกลับบ้าน สารภาพว่ามีหลายต่อหลายครั้งที่อยากจะจอดแวะข้างทาง แต่ก็กลัวว่าจะทำไก่ตื่นเอาซะก่อน จึงห้ามใจ! แล้วเสแสร้งสวมวิญญาณสุภาพบุรุษ โปรยยิ้มหวานๆ พร้อมกับบอกกู๊ดไนท์ จากนั้นก็ขับรถกลับมานอนที่โรงแรม ร็อฟเวลล์ แกรนด์ ตู๊ด...ตู๊ด... “สวัสดีค่ะ” ผู้จัดการสาววัยสามสิบแปดเอ่ยทักทาย “เอ่อ...นี่เบอร์ของน้องฟ้าหรือเปล่าครับ?” เพชรดนัยถามอย่างรู้สึกมึนๆ กับเสียงตอบกลับมา “ใช่ค่ะ! น้องฟ้ากำลังถ่ายแบบอยู่ค่ะ” จิราตอบพลางยืนดูฟ้ารดาโพสท่าให้ช่างภาพ “ถ่ายที่ไหนเหรอครับ” เพชรดนัยถามต่ออย่างอยากรู้ “ที่สตูดิโอของ MZ ค่ะ” “จะเสร็จประมาณกี่โมงครับ” “อืม...อันนี้ก็ตอบไม่ถูกเหมือนกันค่ะ เดี๋ยวถ้าน้องฟ้าพักเบรกแล้ว จิราให้โทรกลับนะคะ” “ได้ครับ” เพชรดนัยกดวางสายแล้วรีบเดินเข้าห้องไปอาบน้ำชำระร่างกาย เพื่อเตรียมตัวให้พร้อมสำหรับการออกเดต โดยพาเจ้าหมาตัวน้อยของเพื่อนรัก ‘อรอง’ กับ ซีซ่าร์ ไปฝากให้คนสนิทดูแล   สองชั่วโมงต่อมา...คนที่อาบน้ำแต่งตัวหล่อเสร็จแล้ว นั่งรอสายเรียกเข้าอยู่นานจนทนไม่ไหว กลั้นใจกดต่อสายโทรไปหาสาวเจ้าอีกครั้ง ตู๊ด...ตู๊ด... “สวัสดีค่ะพี่เพชร” ปลายสายเอ่ยทักทายทันทีที่กดรับ “น้องฟ้า...เสร็จงานหรือยังครับ?” “เอ่อ...เสร็จแล้วค่ะ” “ดีเลย! งั้นเดี๋ยวพี่ไปรับที่สตูดิโอนะครับ” เพชรดนัยรีบอาสา “ฟ้าขับรถมาค่ะ” ฟ้ารดารู้สึกผิดนิดๆ ที่ต้องโกหก “งั้นพี่ไปรับที่บ้าน” เพชรดนัยยังไม่ละความพยายาม “เอ่อ...คือว่าวันนี้ที่บ้านของฟ้ามีเรื่องวุ่นๆ น่ะค่ะ ขอเป็นพรุ่งนี้ได้ไหมคะพี่เพชร” ฟ้ารดาบอกความจริงอย่างเลี่ยงไม่ได้ “...” คำตอบของสาวเจ้าเล่นเอาคนที่เตรียมตัวพร้อมเสียยิ่งกว่าพร้อม ถึงกับใบ้แดกไปชั่วขณะ “ฮัลโหล! พี่เพชรคะ?” ฟ้ารดาเอ่ยเรียกคนที่เงียบหายไป “นี่น้องฟ้าไม่ได้คิดจะหลบพี่ใช่ไหม?” เพชรดนัยถามด้วยน้ำเสียงตึงๆ ‘อะไรกันวะ! นี่มันครั้งที่สองแล้วนะที่เธอหลอกให้เราแต่งตัวเก้อแบบนี้’ “ไม่ได้หลบค่ะ พอดีเมื่อช่วงสายๆ ฟ้าว่าจะโทรไปบอกพี่เพชรแล้ว แต่กลัวว่ายังไม่ตื่นก็เลย...” “พรุ่งนี้ก็พรุ่งนี้ครับ” เพชรดนัยกัดฟันบอกอย่างพยายามข่มใจให้เย็น ‘หึ! พรุ่งนี้เถอะ จะทบต้นทบดอกให้ดู’ “ขอบคุณค่ะ งั้นฟ้ากลับบ้านก่อนนะคะ” ฟ้ารดาเอ่ยเสียงใส เมื่อเห็นว่าอีกฝ่ายยอมเข้าใจอะไรง่ายๆ ‘พี่เพชรนี่ทั้งหล่อทั้งน่ารักจริงๆ’ “ครับ! ขับรถดีๆ นะ ถึงบ้านแล้วแชตบอกพี่ด้วยล่ะ” คนที่แทบจะเขวี้ยงแก้วน้ำในมือทิ้งเอ่ยตอบด้วยน้ำเสียงนุ่มนวล “ค่ะ” ฟ้ารดาขานรับอย่างเขินอาย ก่อนจะกดวางสาย “เฮ้อ...” คนที่แต่งตัวเก้อถอนหายใจอย่างเซ็ง ที่ต้องทำเหมือนเข้าใจในเหตุผลของอีกฝ่าย ทั้งที่จริงแล้วไม่ได้เข้าใจอะไรเลยสักนิด ก๊อกๆ คนที่กำลังใช้ความคิด ตกใจนิดๆ กับเสียงเคาะประตูห้องที่ดังขึ้นสองสามครั้ง จึงรีบลุกเดินไปเปิดด้วยสีหน้าเซ็งๆ คลิก! “แหม! แต่งตัวหล่อแบบนี้จะไปไหนหรือเปล่าเนี่ย?” พราวดารามองบุตรชายคนเล็กอย่างสำรวจ “ก็ปกตินี่ครับ” เพชรดนัยตอบก่อนจะหลบสายตาของมารดาที่จ้องมองมาเหมือนจะจับผิดตน “จ้า...แล้วนี่ลูกจะไปเชียงใหม่ด้วยกันไหม?” พราวดาราถามเข้าเรื่อง เพราะเธอกับมารดาและสามี จะเดินทางกลับไร่สิรันยากรณ์ในช่วงเย็นๆ “ยังครับ” เพชรดนัยรีบบอก “มีธุระอะไรงั้นเหรอ” “ผมต้องไปคุยเรื่องงานกับอีวานน่ะครับ” คนหล่อตั้งแต่เกิดรีบออกตัว “งั้นเสร็จแล้วก็รีบตามแม่ไปที่เชียงใหม่นะ” พราวดารากำชับ กลัวว่าบุตรชายจะหนีกลับอังกฤษเหมือนครั้งก่อน “ครับ แล้วป๋าต้อมล่ะ” เพชรดนัยตอบก่อนจะเบี่ยงประเด็นไปถามหาพี่ชาย “พาน้องแพรไปเที่ยว” “ฮ่าๆๆ คู่นี้เมื่อวานยังไงๆ อยู่นะครับ” คนที่โดนพี่ชายเหวี่ยงใส่บอกอย่างรู้สึกนอยด์ “ก็พี่ชายเราน่ะสิ! เจ้าชู้จะตาย” พราวดาราบอกด้วยน้ำเสียงหงุดหงิด เมื่อนึกไปถึงเรื่องที่จินดารายงานเมื่อยี่สิบนาทีก่อน ว่าเสกสรรขับรถปาดหน้าแท็กซี่คันที่แพรลานนานั่ง   “โห...แม่ก็พูดซะเหมือนป๋าเป็นคนไม่ดีเลยงั้นแหละ” คนที่ยังไม่รู้เรื่อง หัวเราะเบาๆ กับท่าทีที่เปลี่ยนไปของมารดา “น้อยไปน่ะสิ! นี่ถ้ามีเรื่องผู้หญิงเข้ามาเกี่ยวข้องก่อนแต่งงานล่ะก็ คุณยายไม่เอาไว้แน่!” “ฮ่าๆๆ ไม่มีหรอกมั้งครับ ป๋าน่ะแอบชอบน้องแพรมานานแล้ว แต่ทำท่าเยอะไปงั้นเอง” “เรารู้ได้ไง?” พราวดาราถามอย่างสนใจ เพราะตลอดเวลาที่ผ่านมานั้น เสกสรรไม่ได้แสดงอาการสนใจในตัวของแพรลานนาเลยแม้แต่นิด จนทำให้เธอกับมารดาที่เคยวางแผนว่าจะให้ทั้งสองรักกันต้องถอดใจ! “โธ่...นี่แม่ไม่รู้เหรอว่าป๋าส่งไอ้เจมส์มาเฝ้าสอดส่องดูน้องแพรอยู่ที่ไร่เอื้องลานนา ตั้งแต่ที่น้องแพรบินกลับไทย” “จริงเหรอ!” พราวดาราตาโตขึ้นมาทันทีทันใด “ครับ ไม่เชื่อแม่ก็ลองถามพ่อดูสิ” เพชรดนัยยิ้มก่อนจะโยนเรื่องให้กับบิดาที่เพิ่งจะเดินเข้ามาในห้อง “นี่พ่อเราก็รู้งั้นเหรอ?” พราวดาราถามอย่างไม่เชื่อหูของตัวเอง “นินทาอะไรผมอยู่เหรอพราว” โดมินิกเอ่ยหยอกภรรยา “คุณรู้เรื่องที่ต้อมส่งเจมส์มาแอบส่องน้องแพรใช่ไหม?” พราวดาราหันไปถามสามีด้วยสีหน้าเอาเรื่อง เพราะตลอดเวลาที่เธอและมารดาวางแผนให้เสกสรรกับแพรลานนาได้กัน อีกฝ่ายก็อยู่ด้วยตลอด “ก็เพิ่งจะรู้เมื่อไม่นานนี้แหละคุณ” โดมินิกกลอกตาอย่างเพลียๆ กับท่าทางขึงขังของภรรยา “แล้วทำไมคุณไม่บอกฉัน!” พราวดาราถามกลับด้วยน้ำเสียง ขุ่นเคือง “พราวใจเย็นก่อนสิ” โดมินิกรีบเข้าไปกอด เพราะกลัวว่าภรรยาจะลงไม้ลงมือทำร้ายตนต่อหน้าลูก “เอ่อ...ผมขอตัวก่อนนะครับ” เพชรดนัยบอกพลางกลั้นหัวเราะ รู้ได้ทันทีว่า...อีกสองนาทีข้างหน้าจะมีพายุเข้า “เพชร! ทิ้งบอมให้พ่อแบบนี้ไม่โอเคเลยนะ” โดมินิกต่อว่าบุตรชาย “ค่อยๆ เคลียร์กันนะครับ” เพชรดนัยบอกก่อนจะรีบเดินตรงไปยังประตูห้อง “โดมินิก ซาเก้! ตลอดเวลาที่ผ่านมาคุณเห็นฉันเป็นอะไร?” พราวดาราถาม   ผู้เป็นสามีด้วยน้ำเสียงตัดพ้อ “โธ่...พราว” โดมินิกกลอกตาอย่างเพลียๆ เมื่อเห็นภรรยาเริ่มจะดราม่า “บอกมา!” คนที่เกลียดการมีความลับ บอกเสียงดังพร้อมกับจ้องมองด้วยสายตาเอาเรื่อง คลิก! เพชรดนัยปิดประตูห้อง พร้อมกับหัวเราะจนหน้าแดงก่ำ หลังจากที่จุดชนวนระเบิด แล้ววางลงในมือให้ผู้เป็นบิดารับช่วงต่อ ครึ่งชั่วโมงต่อมา...ลัมโบร์กินีสีขาวมุกแล่นเข้ามาจอดยังหน้าบริษัท kyler of Diamond บริษัทที่เป็นเสมือนคู่แข่งทางการค้า เพราะเพชรดนัยนั้นเป็นประธานผู้บริหารดูแลบริษัท Diamonds of Angel ซึ่งขายเครื่องประดับราคาแพง ที่ปีหนึ่งจะมีการเปิดตัวคอลเลกชันใหม่ถึงสองครั้ง ร่างสูงสง่าดุจเจ้าชายผู้สูงศักดิ์ ก้าวออกจากรถ แล้วเดินผ่านเข้าไปยังด้านในล็อบบีอย่างคุ้นเคย ทำเอาพนักงานต้อนรับสาวที่กำลังจะอ้าปากถามถึงกับไปไม่ถูก เมื่อหนุ่มหล่อเดินตรงไปยังลิฟต์ของผู้บริหาร แล้วกดขึ้นไปประหนึ่งว่าเป็นหุ้นส่วนคนสำคัญของบริษัท “ผู้ชายคนเมื่อกี้ใครเหรอ?” ลดาที่เพิ่งจะมาทำงานเป็นวันแรกถามอย่างมึนงง “นั่นคุณคารอส ร็อฟเวลล์ เจ้าของ Diamond of Angel จ้ะ” นารีรีบบอกเพื่อนสาว “คู่แข่งของบริษัทนี่” ลดาตาโตขึ้นมาทันใด “ใช่! คู่แข่งของบริษัทแต่เป็นเพื่อนสนิทของคุณอีวาน” นารีไขข้องใจให้  อย่างขำๆ “แม่เจ้า! หล่ออย่างกับเจ้าชายกรีกแน่ะ” ลดาเอ่ยปากชม “ใช่! แถมยังติดหนึ่งในสิบของผู้ชายหล่อรวยระดับโลกอีกนะลดา” นารีบอกก่อนจะส่งแฟ้มเกี่ยวรายละเอียดของงานที่ต้องทำให้ “ไม่แปลกใจเลย” ลดาพยักหน้าอย่างเห็นด้วย แล้วรับเอาแฟ้มมาเปิดดูกำหนดการนัดหมายต่างๆ ของลูกค้าที่จะเดินทางมายังบริษัทในวันนี้ “แต่บอสของเราก็หล่อนะ ถึงแม้จะไม่ได้ติดอันดับก็เถอะ” นารีบอกพลางทำหน้าเคลิบเคลิ้ม เมื่อนึกไปถึงประธานใหญ่ที่หล่อเหลาไม่แพ้ชายใดในโลก เพียงแต่อีกฝ่ายเป็นคนเงียบๆ ไม่ค่อยออกสื่อเท่านั้น “ฉันยังไม่เคยเห็นบอสเลย” ลดารู้สึกอยากจะเห็นหน้าท่านประธานขึ้นมาตงิดๆ “อีกเดี๋ยวก็ได้เห็นจ้า” นารีบอกก่อนจะเริ่มสอนงานให้กับเพื่อนสาวอย่างอารมรณ์ดี   ชั้นบนสุดของ kyler of Diamond (ชั้นของผู้บริหาร) เพชรดนัยเดินออกจากลิฟต์ แล้วพยักหน้าให้กับเลขาที่กำลังยุ่งอยู่กับเอกสาร “อีวานอยู่ไหมครับ?” “ยะ...อยู่ค่ะ” ชิสาตอบอย่างมึนงง เมื่อเห็นเพื่อนรักของบอสโผล่มาโดยไม่ได้นัดหมาย “ขอบคุณครับ” เพชรดนัยยิ้มให้อีกฝ่าย ก่อนจะเดินตรงไปยังประตูห้องบานใหญ่ แล้วยกมือขึ้นเคาะอย่างมีมารยาท ก๊อกๆ อีวานที่กำลังตรวจแฟ้มสรุปยอดการขายเงยหน้าขึ้นมองที่ประตูห้องนิดหนึ่ง กับน้ำเสียงเคาะที่ดูจะหนักไปกว่าทุกครั้ง “เชิญครับ” “สวัสดีครับคุณอีเวร เอ๊ย! อีวาน” เพชรดนัยทักทายเพื่อนสนิทที่ไม่ได้เห็นหน้าค่าตากันมานาน เมื่อคืนเขาเห็นอีกฝ่ายแว่บๆ ในงานแต่งของแพททริกสันกับพิมพลอย แต่ก็ไม่มีโอกาสได้พูดคุยใดๆ เพราะโดนมารดาลากไปไหว้คนนั้น ถ่ายรูปกับคนนี้อยู่ตลอด “หึ! มาถึงก็กวนเลยนะไอ้เพชร!” อีวานส่ายหน้าอย่างเพลียๆ ก่อนจะถามหาเพื่อนสนิทอีกคน ที่มีข่าวเมาหัวราน้ำดังไปทั่วบ้านทั่วเมืองเมื่อหลายวันก่อน “แล้วอลันล่ะ ไม่มาด้วยเหรอ?” “ติดสัด” เพชรดนัยบอกพลางหัวเราะเบาๆ เมื่อนึกไปถึงคนที่โดนสาวทิ้งแล้วจะเป็นจะตาย ปล่อยหนวดเครารกรุงรังดูคล้ายกับมหาโจร แต่พอเจอแพรณาราไม่ถึงครึ่งชั่วโมง ก็กลับเป็นผู้เป็นคนขึ้นมาจนใครต่อใครต่างก็ตกใจไปตามๆ กัน “หึ! แกนี่ปากร้ายไม่เปลี่ยนเลยนะ ฉันล่ะงงที่ใครๆ ก็เรียกแกว่าเจ้าชายผู้อบอุ่น” อีวานถอนหายใจอย่างรู้สึกเอือมระอา หากคนที่ไม่รู้จักก็อาจจะคิดว่าเพชรดนัยเป็นผู้ชายที่แสนสุภาพ แต่หากได้คบหาจริงๆ จะรู้ว่าอีกฝ่ายปากจัดกว่าผู้หญิงหลายเท่า “แหม...ขอบคุณที่ชมครับ” คนหล่อสร้างภาพยกไหล่ขึ้นนิดๆ อย่างไม่รู้สึกสะทกสะท้านใดๆ “ประชดโว้ย! แล้วนี่มาทำไม?” อีวานรู้สึกสังหรณ์ใจไม่ค่อยดีที่อยู่ๆ อีกฝ่ายก็โผล่มา “โธ่...ถามแบบนี้ได้ไงวะ” เพชรดนัยมองค้อนทันใด “เข้าเรื่องเถอะ” อีวานบอกอย่างรู้สึกรำคาญ “จะชวนไปกินข้าว” คนที่โดนสาวยกเลิกนัดบอกยิ้มๆ “ไม่ว่าง!” “เฮ้ย! นี่ฉันนานๆ มาที แกรีบปฏิเสธแบบไม่คิดหน้าคิดหลังแบบนี้น่ะเหรอ?” เพชรดนัยถามกลับด้วยน้ำเสียงขุ่นเคือง “ก็งานมันยุ่งจะให้ทำไงล่ะ?” อีวานบอกพลางชี้มาที่กองเอกสารบนโต๊ะด้วยสีหน้าเซ็งๆ “ไม่เห็นจะยุ่งเลย” เพชรดนัยบอกก่อนจะเข้าไปดึงปากกาที่อยู่ในมือของเพื่อนสนิทออก แล้วก็ดึงแขนให้อีกฝ่ายลุกจากเก้าอี้ “ไอ้เพชร! ปล่อยนะ” อีวานหน้าตึงขึ้นมาทันใด “แกไม่มีวันจะปฏิเสธคนอย่างคารอสได้หรอกอีวาน” เพชรดนัยบอกอย่างขำๆ “มึงเป็นบ้าอะไรเนี่ย กูทำงานอยู่นะโว้ย” อีวานสะบัดแขนที่โดนไขว้ไว้ด้านหลังแต่ก็ไม่เป็นผล “แหม! พูดเพราะๆ หน่อยสิ เดี๋ยวพนักงานได้ยินก็เอาไปนินทาว่าท่านประธานพูดจาหยาบคายหรอก เพชรดนัยบอกพลางประคองร่างสูงใหญ่ของเพื่อนให้เดินไปที่ประตูห้อง เตรียมจะออกไปด้านนอก “เพชร! กูมีประชุมรอบบ่าย” อีวานขืนตัวพร้อมกับบอกด้วยน้ำเสียงจริงจัง “เหรอ...” เพชรดนัยลากเสียงยาว อย่างกวนๆ ก่อนจะใช้มืออีกข้างหมุนลูกบิด แล้วดึงประตูให้เปิดออก คลิก! “เลื่อนประชุมรอบบ่ายเป็นพรุ่งนี้เช้าครับ” เพชรดนัยสั่งการเลขาใหญ่ที่ยืนถือแฟ้มอยู่ ชิสามองหน้าผู้เป็นนายอย่างขอความเห็น และทันทีที่อีกฝ่ายพยักหน้าให้ เลขาใหญ่ก็ขานรับอย่างมึนงง “อะ...เอ่อ...ค่ะ” “ให้ตายสิ! ทำไมแกต้องมาป่วนฉันด้วยวะ” อีวานสบถอย่างหัวเสียนิดๆ ที่หลังจากที่โดนดันตัวเข้าไปในลิฟต์ “เอาน่า...ถ้าแกโผล่ไปอังกฤษเมื่อไหร่ฉันจะต้อนรับขับสู้เป็นอย่างดีเลยโอเค้!” คนที่ลากเพื่อนหนีงานมาได้สำเร็จฉีกยิ้มกว้าง ก่อนจะกดลิฟต์ลงไปยังด้านล่างอย่างไม่รอช้า “หึ! ให้จริงเถอะ” อีวานกลอกตาอย่างเซ็งๆ “เราไปหาร้านนั่งดื่มสบายๆ กันไหม?” เพชรดนัยเอ่ยชวนด้วยน้ำเสียงสดใส “เอ่อ! เอาให้เมาสุดตีนกันไปข้างหนึ่งเลย” อีวานตอบกลับอย่างโมโห “โห...ใจเย็นๆ เพื่อน” เพชรดนัยหัวเราะอย่างขำๆ กับท่าทางหัวเสียของเพื่อนสนิท ที่นานๆ ทีจะได้เห็น ติ้ง! “แกขับรถนำไปเลย” อีวานบอกเมื่อลิฟต์ลงมาถึงด้านล่าง “ได้! ตามมาให้ทันล่ะ” เพชรดนัยบอกก่อนจะก้าวออกจากลิฟต์ด้วยสีหน้ายิ้มแย้ม “หึ! ถ้าแกขับช้าฉันจะเสยท้ายลัมโบร์กินีให้ดู” อีวานคาดโทษคนปากดี “ฮ่าๆๆ ว่าแต่จะเปิดตัวคอลเลกชันใหม่เมื่อไหร่?” เพชรดนัยรีบเปลี่ยนเรื่องคุย “ปีนี้ยัง น่าจะต้นปีหน้า” “ของฉันจะเปิดตัวอีกเดือนสองเดือนนี้แหละ” “ทำไมเราไม่จัดแค่ปีละครั้งวะ ฉันจัดต้นปี แกจัดกลางปี ประหยัดงบประมาณ แถมอาจจะทำให้เราได้กำไรเพิ่มจากการขายและตัดค่าใช้จ่ายที่ฟุ่มเฟือยทิ้ง” อีวานเสนอไอเดีย ประหนึ่งว่าบริษัทของตนกับอีกฝ่าย เป็นบริษัทเดียวกัน         ที่แยกสาขา “อืม...ฉันก็คิดเหมือนกัน” เพชรดนัยพยักหน้ารับอย่างเห็นด้วย “งั้นก็เอาตามนี้สิ” อีวานสรุป “ได้! แกต้นปี ฉันกลางปี” เพชรดนัยยิ้มรับข้อเสนอ เพราะหากเปิดตัวแข่งกันไป ก็ได้กำไรไม่มากเท่าที่ควร สู้เปลี่ยนกันเปิดตัวปีละครั้งน่าจะทำกำไรได้เยอะกว่าที่ผ่านมา “แบบนี้ค่อยคุยกันได้หน่อย” อีวานยิ้มออกมานิดๆ “ฮ่าๆๆ” เพชรดนัยหัวเราะเบาๆ กับท่าทางที่ดีขึ้นของเพื่อนสนิท “สรุปจะไปร้านไหนวะ?” อีวานถามเมื่อเดินออกมาถึงที่จอดรถด้านหน้าบริษัท “ร้านเอื้องลานนาเป็นไง” เพชรดนัยกดเปิดประตูรถก่อนจะหันมาถามความเห็น “ก็ดีสิ! ใกล้กับเพนต์เฮาส์ของฉัน” อีวานยิ้ม ก่อนจะหันไปพยักหน้าให้บอดี้การ์ดขับของตนตามไป “โอเค! งั้นก็ไปกันเลย” เพชรดนัยบอกก่อนขับนำออกไป   30 นาทีต่อมา... ลัมโบร์กินีสีขาวมุกป้ายแดง กับออดี้ R8 สีดำเงาขับตามกันเข้ามาจอดยังร้านอาหาร เอื้องลานนา บาร์ แอนด์ เรสเตอรองต์ เรียกสายตาของคนภายในร้านให้หันไปมองตามๆ กัน เมื่อสองหนุ่มก้าวออกจากรถและเดินเข้าไปยังด้านในของร้าน “สวัสดีเพชร อีวาน” ธนากรที่เพิ่งมาถึงก่อนหน้าเพียงไม่กี่นาทีเอ่ยทักทายสองหนุ่มด้วยสีหน้ายิ้มแย้ม “สวัสดีครับพี่กร” อีวานยกมือไหว้อีกฝ่ายอย่างนอบน้อม “สวัสดีครับ นี่นัดกับสาวไหนเอาไว้หรือเปล่าครับเนี่ย?” เพชรดนัยเอ่ยแซวคนที่เล่นด้วยกันมาแต่เด็ก “เปล่าสักหน่อย พี่แวะมาทานข้าวที่ร้านต่างหาก” เจ้าของร้านบอกก่อนจะยกมือให้เด็กเสิร์ฟเอาเมนูมาให้ “แหม! พอดีเลยครับ พวกผมกำลังจะดื่มกัน” เพชรดนัยเอ่ยชวน “แต่วันเลยเนี่ยนะ?” ธนากรมองหน้าสองหนุ่มสลับกันไปมาอย่างไม่อยากจะเชื่อ!  “ผมกำลังจะเข้าประชุมรอบบ่าย อยู่ๆ ก็โดนไอ้เพชรลากมานี่แหละครับ” อีวานรีบบอกเหตุผล พร้อมกับรับเมนูอาหารจากพนักงานมาส่งต่อให้ทั้งสอง “แหม! นานๆ เจอกันที” เพชรดนัยเอ่ยพร้อมกับหัวเราะเบาๆ “เมื่อคืนหลังจากงานแต่งของแพททริก พี่ก็นั่งดื่มกับต้อม อีเดนแล้วพวกฟีนิกซ์จนเกือบเช้า นี่ก็ว่าจะหาข้าวทานแล้วก็จะนั่งเครื่องกลับเชียงใหม่เลย” ธนากรบอกความตั้งใจ “งั้นก็สั่งมาทานด้วยกันสิครับ” อีวานบอกอย่างเข้าใจ “ใช่ครับ! แบบนี้ต้องถอนสักแก้วก่อนกลับครับ” คนที่รู้สึกเคว้งคว้างต้องการเพื่อนดื่มเอ่ยคะยั้นคะยออีกครั้ง “ก็ได้! แก้วเดียวนะ” ธนากรตอบรับอย่างมีมารยาท
Free reading for new users
Scan code to download app
Facebookexpand_more
  • author-avatar
    Writer
  • chap_listContents
  • likeADD