bc

พันธะรักร้อยดวงใจ

book_age16+
562
FOLLOW
2.1K
READ
HE
second chance
stepfather
sweet
like
intro-logo
Blurb

เพราะความผิดพลาดก่อให้เกิดหัวใจดวงน้อยๆที่ทั้งเขาและเธอจะต้องช่วยกันดูแลด้วยความรักตั้งแต่ครั้งแรกที่ได้พบหน้า ยิ่งนานวันก็ยิ่งตกหลุมรักอีกฝ่ายจนถอนตัวไม่ขึ้น

chap-preview
Free preview
บทที่ 1 บทนำ
กรรัมภาสาวดวงตากลมโตมีลักยิ้มดูมีเสน่ห์ดึงดูดเพศตรงข้ามหลังจากเรียนจบก็ยึดอาชีพนักเขียนที่ตนรักมาตลอด หล่อนมีความสุขทุกครั้งที่ได้วาดฝันคิดจินตนาการถึงตัวละครต่างๆในนิยายของตน ตอนจบในนิยายมักจะมีความสุขต่างจากชีวิตจริงของเธอที่ถูกแฟนหนุ่มที่คบหากันสมัยเรียนนอกใจ มันจึงเป็นเหมือนปมในใจทำให้เธอไม่กล้าเปิดใจให้ใครเข้ามาเป็นเวลาสี่ปีแล้ว มารดาของเธอจึงเป็นกังวลว่าเธอจะเป็นโสดอย่างนี้ตลอดไป ท่านจึงอยากให้เธอแต่งงานกับภานุลูกชายของเพื่อนที่ประกอบกิจการโรงสีข้าวขนาดใหญ่ “แม่คะ ทำไมต้องจับคู่ให้พรีนด้วยละคะ” กรรัมภาถามออกไปหน้ามุ่ยหลังจากที่กลับมาจากไปรับประทานอาหารกับครอบครัวของภานุ “ก็เพราะว่าแม่หวังดีกับพรีนไงลูก” กมลทิพย์ตอบกลับน้ำเสียงอบอุ่น คนเป็นแม่หวังดีกับลูกสาวเสมอหล่อนอยากให้ลูกมีชีวิตที่สุขสบาย “แต่ความหวังดีของแม่มันกำลังจะทำให้พรีนไม่มีความสุขนะคะ” หญิงสาวตอบกลับเสียงอ่อน หล่อนรู้ดีว่ามารดาอยากให้หล่อนมีชีวิตสุขสบาย “แม่ให้เวลาลูกแล้วแต่ลูกก็ยังไม่เห็นจะมองผู้ชายคนไหนเลย แต่งๆกันไปเดี๋ยวก็รักกันเองนั่นแหละลูก” “แม่ขานั่นมันพล็อตในนิยายค่ะ ชีวิตจริงไม่เป็นแบบนั้นหรอกนะคะ” หญิงสาวถอนหายใจออกมาอย่างปลงๆ ไม่ใช่ว่าทุกคู่ที่ถูกจับคู่กันจะลงเอยกันด้วยดีทุกคู่นี่หน่าเธอจึงไม่อยากให้ท่านคิดแบบนั้น “แม่ให้เวลาลูกนั่งคิดนอนคิดอีกสองวันก็แล้วกันเพราะทางฝั่งนู้นเขาพร้อมจะมาสู่ขอลูกแล้ว” จบประโยคของคนเป็นแม่เธอก็ล้มตัวลงนอนบนเตียงกว้างอย่างคิดไม่ตก แม้ภานุจะมีฐานะดีแค่ไหนแต่นิสัยคิดอะไรไม่เป็นต้องคอยให้มารดาบงการชีวิตจะทำให้ชีวิตคู่ของเขาและเธอไปกันไม่รอดแน่ๆ ใครจะยอมให้ครอบครัวนั้นโขกสับก็เชิญแต่เธอขอปฏิเสธแล้วกัน กรรัมภาตัดสินใจเก็บกระเป๋าออกจากบ้านไปตั้งแต่เช้ามืด หล่อนกำลังจะไปอาศัยอยู่กับชญานีเพื่อนสมัยมัธยมที่กรุงเทพมหานคร ชญานีเป็นหมอทำงานอยู่ที่โรงพยาบาลเอกชนชื่อดัง เพื่อนคนนี้ของเธอเป็นโสดโหยหาความรักดีๆมาตลอดแต่โชคร้ายเจอแต่ผู้ชายที่หวังผลประโยชน์ “ยัยพรีนทางนี้” ชญานีโบกไม้บอกมือให้เพื่อนสาว หล่อนคิดถึงกรรัมภามากๆเพราะไม่ได้เจอกันมาเป็นปีแล้ว “เห้อ ถึงสักที” “เหนื่อยเลยหรอ” “ไม่เหนื่อยกายหรอกแต่เหนื่อยใจ ปานนี้แม่คงรู้แล้วว่าฉันหนีออกจากบ้านตอนอายุยี่สิบเก้า” “ฮ่าๆฉันก็นึกว่าอะไร ถ้ารู้ว่าอยู่กับฉันป้าทิพย์คงไม่ห่วงหรอก” ชญานีหัวเราะชอบใจ หล่อนและเพื่อนสาวโตพอที่จะมีครอบครัวเป็นของตัวเองแล้วจริงๆแต่จะให้ทำไงได้ล่ะในเมื่อเนื้อคู่ของเธอยังไม่เกิด “อย่าลืมสิฉันเพิ่งบอกว่าหนีออกจากบ้านมานะยะ ถ้าแม่รู้ว่าอยู่กับแกก็โดนลากตัวกลับบ้านน่ะสิ” “เออจริงด้วย ไปๆไปคอนโดฉันกัน หลังจากนี้จะได้มีแกเป็นเพื่อนคุยแล้ว” “แล้วหนุ่มๆของแกล่ะ” “มีที่ไหนล่ะ ฉันว่าจะพาแกไปมูด้วยกันอยู่” “ไม่เอาอ่ะ” “ไม่เชื่อก็อย่าเพิ่งปฏิเสธเลย เอาไว้พรุ่งนี้ไปไหว้ขอพรความรักหน่อยแล้วกัน” “ตอนนี้ขอเตียงนุ่มๆก่อนดีกว่าจ้ะ ขอห้องทำงานที่มองเห็นวิวด้วยนะ” “ได้เลยค่ะคุณเพื่อน” ชญานีไม่ทำให้เพื่อนผิดหวังหล่อนพาเพื่อนสาวมาไหว้พระตรีมูรติ เทพที่ใครๆก็บอกเป็นเสียงเดียวกันว่าท่านประทานความรัก ประทานความสำเร็จความเจริญรุ่งเรืองในชีวิตและหน้าที่การงานให้ได้ดั่งใจหวัง กรรัมภามองไปรอบๆอย่างสนใจเพราะเวลานี้มีคนทยอยเข้ามากราบไหว้ไม่ขาดสาย แสดงว่าท่านจะต้องศักดิ์สิทธิ์มากแน่ๆ “แกขอเรื่องความรักหรือเปล่ายัยพรีน” “อือ ก็ขอตามที่หล่อนบอกนั่นแหละเผื่อจะมีผู้ชายดีๆตกถึงฉันบ้าง” “ดีมากจ้ะที่เชื่อฟังเพื่อนสาวคนนี้ สบายใจละวันนี้ฉันจะพาแกไปที่คลายเครียดสักหน่อย” “ไปที่ไหนอ่ะ” “เดี๋ยวไปถึงแกก็รู้เองนั่นแหละแต่รับรองว่าแกต้องชอบ” ชญานีส่งสายตาแพรวพราวให้เพื่อนสาว กรรัมภารู้เลยว่าตอนนี้ชญานีกำลังวางแผนอะไรพิเรนๆอยู่แน่ๆ ปริญชายหนุ่มรูปหล่อร่างกายสูงใหญ่เป็นที่สนใจของสาวน้อยสาวใหญ่มากมายต้องอยู่ในความดูแลของปกรณ์ผู้ซึ่งเป็นลุงหลังจากที่บิดาและมารดาจากไปด้วยอุบัติเหตุทางรถยนต์ เขาเรียนจบปริญญาโทด้านการบริหารจากมหาวิทยาลัยชื่อดังของประเทศอังกฤษ ชายหนุ่มเป็นประเภทชอบเก็บตัวแต่เขาก็ยังสามารถบริหารธุรกิจของครอบครัวได้อย่างดีเยี่ยมแม้จะไม่เข้าทำงานในบริษัททุกวัน วันนี้เขาเข้ามาจัดการเรื่องสัญญาต่างๆแต่เช้าและเตรียมที่จะกลับไปทำงานต่อที่ห้องทำงานส่วนตัวที่คอนโด “บอสครับ วันนี้มีประชุมตอนบ่ายโมงนะครับ” “แต่ในตารางของผมไม่มีนี่ครับ” ชายหนุ่มก้มลงมองตารางงานในมือของตนอีกครั้งด้วยความสงสัย “เราจะทำเซอร์ไพรส์ให้คุณพฤกษ์ไงครับ เห็นว่าจะมีการมอบของขวัญให้ด้วยนะครับ” พฤกษ์นั้นกำลังจะย้ายไปทำงานต่างสาขาวันนี้ทุกคนเลยตั้งใจจัดงานเลี้ยงส่งให้กับชายหนุ่มที่ผับชื่อดังแห่งหนึ่ง “จริงด้วยวันนี้วันสิ้นเดือนแล้วสินะ ผมทำงานลืมวันลืมคืนไปเลย” ปริญส่ายศีรษะตัวเองไปมาเบาๆ อาจจะเป็นเพราะเขาเอาแต่คิดเรื่องงานจนลืมเรื่องราวต่างๆรอบกายไปบ้างรวมถึงการหาคนรักคู่เคียงข้างกายในวันที่ต้องการพักพิงหัวใจ “วันนี้บอสต้องออกล่าเหยื่อแล้วครับ การที่มีสาวๆข้างกายมันทำให้หัวใจของเรากระชุ่มกระชวยได้นะครับบอส” พงษ์ศักดิ์พูดน้ำเสียงหยอกเย้า “วันนี้ผมไม่ปฏิเสธก็แล้วกัน จะไปที่ไหนตอนไหนก็ส่งรายละเอียดมาด้วยแล้วกัน” ไหนๆคนสนิทก็จะต้องไปทำงานไกลกันเขาคงจะใจร้ายเกินไปแล้วถ้าไม่ไปร่วมฉลองเลี้ยงส่งด้วย “จริงนะครับบอส วันนี้ผมจะดูแลบอสเอง ฮ่าๆ” พงษ์ศักดิ์หัวเราะชอบใจที่วันนี้บอสหนุ่มไม่ปฏิเสธงานเลี้ยงสังสรรค์ที่กำลังจะเกิดขึ้น ณ ผับหรูแห่งหนึ่ง รถหรูของชญานีขับมาจอดที่ด้านหน้าทางเข้า จากนั้นพนักงานก็บริการนำรถไปจอดที่ลานจอดรถด้านหลังให้ ชุดที่กรรัมภาสวมใส่คือชุดของคุณหมอชญานีซึ่งมันเซ็กซี่บาดใจคนที่มองมาจนเธอรู้สึกว่ากำลังเป็นจุดสนใจ สองสาวตรวจเช็คความเรียบร้อยก่อนที่จะสาวเท้าเดินเข้าไปด้านในแต่แล้วโทรศัพท์เครื่องหรูก็กรีดร้องเสียงดัง ชญานีทำหน้าไม่ถูกเมื่อเห็นว่าสายที่โทรเข้ามาเป็นมารดาของเพื่อนสนิท ใจจริงหล่อนไม่อยากโกหกแต่เพื่อเพื่อนหล่อนจะยอมทำมันอีกสักครั้งก็แล้วกัน "สวัสดีค่ะคุณป้าทิพย์" "หนูนีจ้ะ ลูกสาวของป้าอยู่กับหนูใช่ไหมลูก" "ยัยพรีนน่ะหรอคะ ยัยพรีนไม่ได้อยู่กับหนูนะคะ" "อย่าโกหกป้านะลูก ป้าเป็นห่วงลูกสาวของป้าจริงๆ" "คือพรีนโทรมาหาหนูค่ะว่าจะมาอยู่กับเพื่อน แต่ไม่ได้บอกหนูเลยค่ะคุณป้าว่าเพื่อนคนนั้นคือใคร คุณป้าไม่ต้องเป็นห่วงนะคะเดี๋ยวยัยพรีนเลิกติสท์ก็คงกลับไปหาคุณป้าเอง" "จ้ะ อย่างน้อยรู้ว่ายังปลอดภัยก็ยังดี ป้าไม่น่ารีบบอกเรื่องแต่งงานกับพรีนเลย ไม่อย่างนั้นก็คงไม่หนีป้าไปแบบนี้" "แต่งงานกับใครหรอคะ ขออนุญาตถามนะคะคุณป้า" "แต่งกับภานุไงลูก หนูก็น่าจะเคยเจอตาภานุแล้วนะจ๊ะ" "คุ้นๆชื่อนะคะ คุณป้าคะนีต้องขอวางสายก่อนนะคะ" "โอเคจ้ะ ป้าไม่รบกวนหนูแล้ว ขอบคุณนะจ๊ะ" "ไม่เป็นไรเลยค่ะ สวัสดีค่ะ" หลังจากวางสายชญานีก็ถอนหายใจออกมาเสียงดัง แม้จะรู้สึกผิดแต่ก็เพราะทำเพื่อความรู้สึกของเพื่อน "ราบรื่นดีจังคุณเพื่อน" กรรัมภาเอ่ยแซวเพื่อนสาวยิ้มๆ เธอหวังว่ามารดาจะเชื่อสิ่งที่ชญานีบอก "ก็ถ้าตีบทไม่แตกก็โดนแม่หล่อนจัดการข้อหาริอาจโกหกท่านน่ะสิ เผลอๆอาจจะให้เราสองคนเลิกคบกันเลยก็ได้" ชญานีไม่อยากให้ประเด็นนี้กลายมาเป็นตัวตัดสินความเป็นเพื่อน แถมนายภานุอะไรนั่นเธอจำได้ดีว่าเขาเป็นคนแบบไหน ไม่น่าคบหาเอาเสียเลย "ขอบใจแกมากนะ" กรรัมภารู้สึกซาบซึ้งใจมากๆที่เพื่อนสาวให้ความช่วยเหลือ "ไม่ต้องขอบใจหรอก ฉันรู้ว่าแกอึดอัดแค่ไหนที่จะโดนจับแต่งงานกับคนที่ตัวเองไม่ได้ชอบพอด้วย" "มีแต่แกนี่แหละที่เข้าใจฉัน" กรรัมภาทำท่าโผเข้ากอดเพื่อนสาวแต่โดนปฏิเสธทันที "โนค่ะอย่ามากอดเดี๋ยวคนอื่นจะหาว่าเราเป็นเลสเบี้ยนแล้วไม่มีหนุ่มๆมาสนใจ" "ฮ่าๆ โอเคค่ะคุณเพื่อน เข้าไปข้างในกันเถอะฉันอยากสนุกจะแย่แล้ว" กรรัมภาหัวเราะคิกคักชอบใจ เวลาที่เธอได้มาอยู่กับชญานีทีไรเธอเหมือนได้มาปลดปล่อยความเป็นตัวเองออกมา เมื่อก้าวเข้ามาด้านในผับหรูสองสาวก็ตกเป็นที่สนใจของหนุ่มๆ กรรัมภาสวมชุดเดรสเข้ารูปสีดำด้านหน้าปิดมิดชิดแต่ด้านหลังเปิดเผยแผ่นหลังขาวเนียน ส่วนชญานีสวมเดรสสั้นสีแดงมีโบว์อยู่บริเวณต้นคอดูน่ารักและเซ็กซี่ ด้วยความที่เป็นเดรสตัวสั้นเลยทำให้เป็นการอวดเรียวขาขาวเนียนในเวลาเดียวกัน กรรัมภายิ้มพอใจที่มีหนุ่มๆมาส่งยิ้มให้ทั้งเธอและเพื่อนสาว “เห็นม่ะว่ามีหนุ่มๆส่งยิ้มให้แกเต็มเลย คนอย่างแกถ้าจะหาลูกเขยให้ป้าทิพย์สักคนก็ไม่ใช่เรื่องยากหรอกนะยัยพรีน” “คนแถวนี้จะไว้ใจได้แค่ไหนกันแก เช้ามาก็จำไม่ได้แล้วมั้งว่าใครเป็นใคร” “ฮ่าๆแกก็แรงเกิน แต่ละคนที่จะเข้ามาที่นี่ได้ไม่ธรรมดาหรอกนะ” “แล้วแกกับฉันไม่ธรรมดาตรงไหน” “นั่นน่ะสิ” ชญานีทำหน้าครุ่นคิดอย่างหนัก “เห็นไหมว่าพอมีเงินก็เข้ามาด้านในนี้ได้แล้ว บางคนอาจจะเก็บเงินเพื่อเข้ามาเที่ยวเลยก็ได้นะ” “โอเคๆฉันเข้าใจแล้วค่ะคุณเพื่อน เราไปนั่งมุมนู้นกันดีกว่านะ” “ไปสิ” สองสามเดินตามกันไปนั่งที่มุมหนึ่งซึ่งสามารถมองเห็นบนเวทีชัดเจนและไม่ไกลกันก็เป็นบาร์เครื่องดื่ม อีกมุมหนึ่งปริญนั่งอยู่บริเวณชั้นสองเป็นโซนวีไอพีที่ลูกน้องของเขาทำการจองเอาไว้ล่วงหน้าแล้วซึ่งมุมนี้มองลงไปเห็นเวทีด้านล่างอย่างชัดเจน “วันนี้คนเยอะมากเลยนะครับบอส คงเป็นเพราะวันนี้บอสมาด้วยแน่ๆ” “ไม่ขนาดนั้นหรอกมั้งครับ” “ผมขอบคุณบอสมากเลยนะครับที่ให้เกียรติมาร่วมงานเลี้ยงส่งของผม แค่บอสมอบโบนัสพิเศษให้ผมก็ดีใจแล้วครับ” “ใครทำงานได้ดีก็สมควรแล้วนี่ครับที่จะได้อะไรตอบแทนกลับไป ถ้าใครอยากได้โบนัสก็ตั้งใจทำงานให้ผมแล้วกันนะครับ” ประโยคหลังเขาหันไปบอกลูกน้องคนอื่นๆ บริษัทจะดำเนินต่อไปได้ก็เพราะคนในองค์กรที่ช่วยกันผลักดันให้ก้าวเดินไปข้างหน้านี่แหละถึงจะถูกต้อง "พวกเราจะตั้งใจทำงานค่ะบอส วันนี้แอนนี่ดีใจมากเลยนะคะที่ได้มาฉลองกับบอส ให้เกียรติดื่มกับแอนนี่สักแก้วนะคะ" "ได้ครับ" ชายหนุ่มตอบกลับยิ้มๆแล้วก็รับแก้วเครื่องดื่มมาจากสาวประชาสัมพันธ์หุ่นแซ่บของบริษัท แอนนี่ยิ้มอย่างพอใจที่แผนการของตัวเองสำเร็จ วันนี้หล่อนหวังจะรวบหัวรวบหางท่านประธานเพื่อเป็นบันไดไต่ไปถึงความสะดวกสบายในอนาคต หลังจากที่ปริญดื่มเครื่องดื่มไปสามแก้วเขาก็ขอตัวไปเข้าห้องน้ำเพราะเริ่มรู้สึกไม่สบายตัว เมื่อมาถึงห้องน้ำก็รีบทำธุระของตนเองแต่หูดันไปได้ยินเรื่องที่ไม่ชอบมาพากลเรื่องหนึ่งเข้า ใจความที่เขาได้รู้คือผู้ชายที่ห้องข้างๆกำลังจะมอมเหล้าผู้หญิงคนหนึ่ง เขาไม่อยากให้มีเรื่องแบบนี้เกิดขึ้นจึงสะกดรอยตามผู้ชายคนนั้นไปเงียบๆ "น้องพรีน" "..." กรรัมภาเงยหน้าขึ้นมาจากโต๊ะอัตโนมัติเพราะเสียงเรียกอันคุ้นหู พอรู้ว่าเป็นแฟนเก่าอย่างรณกรก็พูดอะไรไม่ออกไม่คิดว่าจะมาเจอเขาอีก "พรีนสบายดีไหมครับ พี่ยังคิดถึงพรีนเหมือนเดิมนะครับ" "หึ พี่มันหน้าตัวเมียยังจะกล้ามายุ่งกับเพื่อนของนีอีกหรอเนี่ยหน้าด้านชะมัด" "ใจเย็นๆยัยนี อย่าทำให้ต้องหมดสนุกสิ เราไม่ควรไปมีเรื่องกับคนไม่มีค่าหรอกนะ" "มันจะไม่แรงเกินไปหน่อยหรอครับ" "แค่นี้ยังน้อยไปด้วยซ้ำ พวกเราไปกันเถอะนี" "เดี๋ยวสิครับ" "หลีกทางด้วยค่ะ รีบกลับไปหาภรรยาแล้วก็ลูกของคุณซะ" "พี่กับเขาเลิกกันแล้วนะครับน้องพรีน พี่กลับมาดูแลน้องพรีนเหมือนเดิมได้แล้วนะครับ" "แต่ว่าฉันไม่ต้องการค่ะ ขอตัว" กรรัมภาคว้าข้อมือของเพื่อนพากันเดินออกมาจากผับหรูแต่ว่ารณกรก็ยังไม่ยอมปล่อยผ่าน "ปล่อยมือฉันเดี๋ยวนี้นะ" "พี่ไม่ปล่อยจนกว่าพรีนจะยอมคุยกับพี่ดีๆ พี่ยังรู้สึกดีกับพรีนเหมือนเดิมนะครับ" "ผู้หญิงเขาไม่อยากยุ่งด้วยทำไมยังไม่ยอมปล่อยมือเธออีกล่ะครับ" "แกเป็นใครอย่ามายุ่งเรื่องผัวเมียได้ไหม" รณกรตวาดออกไปอย่างอารมณ์เสีย "พูดให้มันดีๆนะใครเป็นเมียคุณไม่ทราบ" "หรืออยากจะให้ผมแจ้งตำรวจ" "เออ ไปก็ได้ว่ะ อย่าให้เจออีกนะโดนดีแน่" "เฮ้อไปสักที พรีนฉันขอโทษนะมีเคสด่วนฉันต้องไปดูแลเดี๋ยวนี้เลย" "แกไปเถอะไม่ต้องเป็นห่วงฉัน ฉันไม่ใช่เด็กสามขวบสักหน่อย" "โอเคๆแล้วเจอกันนะ" "อืม" หลังจากที่ชญานีผละห่างออกไปกรรัมภาก็หันหน้ามาคุยกับชายหนุ่ม "ขอบคุณที่ช่วยเหลือเราสองคนนะคะ แต่ฉันว่าตอนนี้คุณกำลัง...อะ เอ่อมีปัญหาอะไรหรือเปล่าคะ" "ผมก็คิดว่าอย่างนั้นครับ" "คุณเจ็บปวดตรงไหนหรือเปล่าคะ ไปโรงพยาบาลดีไหม" "อย่าเลยครับเดี๋ยวก็คงหาย" "แต่ฉันว่าอาการมันหนักขึ้นเรื่อยๆแล้วนะคะ ให้ฉันช่วยคุณนะคะไหนๆคุณก็ช่วยฉันจากผู้ชายคนนั้นแล้ว" "งั้นไปส่งผมที่คอนโดหน่อยได้ไหมครับ" "ฉันไม่มีรถค่ะฉันเองยังต้องกลับรถประจำทางเลย" "ผมมีรถครับ นั่นไงครับ" กรรัมภาหันไปมองรถยนต์คันหรูแล้วก็รู้สึกทึ่งๆ แต่ก็ช่วยพยุงเขาขึ้นรถได้สำเร็จ เมื่อขับมาถึงคอนโดก็ยิ่งแปลกใจเพราะคอนโดหรูอย่างนี้ผู้อาศัยก็ต้องมีฐานะ "คุณอยู่ที่นี่หรอคะ" "ใช่ครับ คอนโดที่บริษัทให้อยู่น่ะครับมันเป็นสวัสดิการ" "บริษัทใจปล้ำจังเลยนะคะแล้วอย่างรถคันนี้ละคะ" "ผมเป็นผู้จัดการเลยมีรถประจำตำแหน่งครับ" "เยี่ยมไปเลยค่ะ บริษัทชื่อว่าอะไรคะเผื่อว่าฉันจะได้ไปสมัครบ้าง" "บอกไม่ได้หรอกนะครับมันเป็นความลับ" "ความลับอะไรกันคะ แต่ช่างเถอะค่ะ ถึงที่หมายของคุณแล้วฉันก็ควรจะกลับแล้วเหมือนกัน" หญิงสาวยังไม่ทันผละห่างก็โดนคนตัวโตรวบตัวอุ้มในท่าเจ้าสาวหายเข้าไปในคอนโดด้วยกัน "ว้าย! ปล่อยฉันนะคะ คุณเมาแล้วคุณปล่อยฉันลงเดี๋ยวนี้นะ" หญิงสาวร้องออกมาเสียงดังด้วยความตกใจ ไม่คิดเลยว่าเขาจะทำอะไรแบบนี้ "ผมขอโทษครับแต่ว่าวินาทีนี้มีคุณคนเดียวที่ช่วยผมได้แน่นอน" ชายหนุ่มตอบกลับน้ำเสียงออดอ้อน เขาจะต้องทรมานมากๆถ้าปล่อยกวางน้อยกลับบ้านไปง่ายๆ "ชะ ช่วยอะไรคะ" หญิงสาวถามกลับเสียงสั่น "ผมคิดว่าผมถูกวางยาครับ คุณเท่านั้นที่จะช่วยผมได้" "อะไรนะคะ! ละ แล้วเกี่ยวอะไรกับฉันละคะฉันบอกให้คุณไปโรงพยาบาลก็ไม่ยอมไปเองนี่หน่า" กรรัมภาหน้าเสียรู้ดีว่าความหมายที่เขาสื่อกับเธอคืออะไร เขาพาเธอเข้ามายังห้องนอนด้านในสุด ในห้องมีกลิ่นกายบุรุษชวนให้เธอรู้สึกหวิวๆในช่องท้องอย่างน่าประหลาด ทุกอย่างในห้องยังคงมืดสนิทมีเพียงเสียงเครื่องปรับอากาศที่ยังคงทำงาน ซึ่งคาดว่าเขาคงจะทำการตั้งค่าก่อนที่จะมาถึงห้องนอนใหญ่ "คุณชื่ออะไรครับ" เขาก้มลงมาถามข้างหู ลมหายใจอุ่นๆของเขาทำให้เธอต้องรีบย่นคอ "พะ พรีนค่ะ" "ผมชื่อปริญนะครับ ขอบคุณนะครับที่คุณยอมช่วยผม" "ยอมอะไรละคะคุณบังคับฉันต่างหาก" หญิงสาวตอบกลับเสียงดังแล้วก็ส่งสายตาดุๆไปให้คนตัวโต "เรียกแทนตัวเองว่าพรีนสิครับมันน่าฟังกว่า" ชายหนุ่มตอบกลับน้ำเสียงแหบพร่า คำพูดของเขาเหมือนสะกดให้เธอทำตามความต้องการของเขาอย่างง่ายดาย "ปะ ปล่อยพรีนเถอะนะคะ คุณกำลังควบคุมสติของตัวเองไม่ได้นะคะ" "ผมปล่อยพรีนไปไม่ได้จริงๆครับ รับรองว่าค่ำคืนนี้ของเราสองคนจะเป็นค่ำคืนที่แสนพิเศษ คุณจะไม่มีวันลืม" ชายหนุ่มก้มลงมามอบจุมพิตแสนหวานให้เธอจนเธอรู้สึกมึนเมาเปิดทางให้เขาเข้ามาสำรวจร่างบอบบาง คนมากประสบการณ์อย่างปริญที่มัวแต่มุ่งเรื่องงานพอมีโอกาสได้แสดงฝีมือเขาก็อยากจะทำให้คนใต้ร่างประทับใจไม่รู้ลืม เขาเองก็ไม่รู้เหมือนกันว่าทำไมเขาถึงสนใจเธอมากเป็นพิเศษตั้งแต่เธอก้าวเดินเข้ามาในผับหรูกับเพื่อนสาว หญิงสาวใจเต้นระรัวรู้สึกตื่นเต้นแต่แปลกที่ไม่นึกรังเกียจชายแปลกหน้าที่หล่อเหลาคนนี้เลยสักนิด "คะ คุณปริญ คุณทำแบบนี้รู้ไหมคะผลที่ตามมาคืออะไร" "ผมรู้ครับ ผมพร้อมจะรับผิดชอบคุณทุกอย่าง" เธอมองเห็นดวงตาของเขาสะท้อนภาพของตัวเองที่กำลังเขินอาย จบประโยคของชายหนุ่มสองร่างก็ขยับเข้ามาแนบชิดกันกว่าเก่า ชายหนุ่มผละห่างจากร่างงามงอนบอบบางเพื่อถอดเสื้อผ้าที่มันขวางกั้นออกจนหมด ตามด้วยเสื้อผ้าของเธอ พลันใจเขาถูกภาพตรงหน้าสะกด เขามองเธอด้วยสายตาหลงใหลและชื่นชมจนคนถูกมองต้องยกมือขึ้นมาปิดบังความสวยงามของร่างกายให้พ้นจากสายตาเจ้าเล่ห์คู่นั้น ชายหนุ่มส่ายศีรษะไปมาช้าๆไม่ถูกใจนักที่เธอยกมือขึ้นมาปิดบัง เขารวบมือทั้งสองข้างของเธอเอาไว้เหนือศีรษะทำให้อกอวบอิ่มแอ่นขึ้นล่อตาล่อใจมากกว่าเดิม “พรีนกำลังทำให้ผมคลั่งนะครับ” “ก็คุณมาล่อลวงพรีนเองนี่คะ พรีนไม่ได้ทำอะไรสักหน่อย” หญิงสาวตอบกลับเสียงสั่น บทรักเริ่มต้นขึ้นและไม่รู้เลยว่าจะมีจุดจบตอนไหนเพราะคนตัวโตแสนจะเอาใจและพยายามป้อนบทเรียนแปลกใหม่ให้เธอจดจำครั้งแล้วครั้งเล่า เมื่อทั้งสองถึงจุดหมายปลายทางชายหนุ่มก็ปลดปล่อยสายธารแห่งรักเข้าไปในกายเธอทุกหยาดหยด เธอรู้สึกเหมือนโดนคนตัวโตสูบพลังออกไปจนหมด ตอนนี้เธอทำได้แค่นอนหายใจหอบเหนื่อยบนแผงอกกำยำที่กระเพือมไหวเบาๆ “พรีนพิเศษที่สุดเลยรู้ไหมครับ” “คุณมันคนเจ้าเล่ห์” หญิงสาวส่งสายตาดุๆกลับไปให้เขาเขาเห็นดังนั้นก็หัวเราะออกมาเบาๆ หญิงสาวเห็นดังนั้นก็อดไม่ได้ที่จะหยิกไปที่เอวสอบของเขา “โอ๊ย อย่าทำร้ายกันสิครับคนสวย” “ปล่อยฉันไปได้แล้วค่ะ ปานนี้เพื่อนฉันคงเป็นห่วงแย่แล้ว” “พรีนครับแทนตัวเองว่าพรีนอย่าลืมสิครับหรือจะให้ทำโทษ” “อะ อย่านะคะ” “เพื่อนของพรีนเป็นหมอใช่ไหมครับ” “ใช่ค่ะ” “เผลอๆยังไม่กลับที่พักเลยด้วยซ้ำเชื่อผมสิครับ” “รู้ดีจังเลยนะคะ” “เพราะว่าญาติห่างๆของผมก็เป็นหมอน่ะสิครับผมถึงได้รู้ว่าไม่ค่อยมีเวลาเป็นของตัวเองเท่าไร” “ปล่อยได้แล้วค่ะ” “ผมเพิ่งปล่อยไปเองนะครับพรีนใจร้อนจะเริ่มอีกยกแล้วหรอ” “บ้า! พรีนหมายถึงให้ปล่อยมือได้แล้วค่ะ พรีนต้องกลับแล้ว” ใบหน้าของเธอแดงกล่ำด้วยความเขินอายถึงขีดสุด ใครใช้ให้เขามาพูดเรื่องต่ำกว่าสะดือหน้าตาเฉยอย่างนี้กันเล่า “เราสองคนจะได้มีโอกาสทำความรู้จักกันมากกว่านี้ไหมครับ” “ไม่รู้สิคะ ถ้ามีโอกาสก็เป็นเรื่องของอนาคตแต่ว่าตอนนี้พรีนต้องไปแล้วจริงๆ” “ขอเบอร์พรีนหน่อยครับ” ชายหนุ่มคว้าเอาโทรศัพท์ของตนเองมาให้หญิงสาวกดบันทึกเบอร์โทรศัพท์ หลังจากบันทึกเสร็จเขาก็เป็นเพื่อนกับเธอทางไลน์อัตโนมัติ “ขอบคุณครับ” ชายหนุ่มยอมปล่อยคนตัวน้อยเป็นอิสระ หญิงสาวรีบคว้าเสื้อผ้าวิ่งหายเข้าห้องน้ำไปทันที ปริญแปลกใจตัวเองมากที่ตอนนี้รู้สึกเสียดายไม่อยากให้หญิงสาวอยู่ห่างจากกายเลย เขาเองก็ลุกขึ้นอาบน้ำแต่งตัวในห้องนอนอีกห้องที่อยู่ติดกัน กรรัมภาจ้องมองตัวเองในกระจกแล้วใบหน้าก็ขึ้นสีแดงระเรื่อ วันไนท์สแตนด์มันเป็นแบบนี้นี่เองเธอเข้าใจดีแล้ว เธอไม่รู้ว่าในอนาคตจะได้เจอเขาอีกไหมแต่เขาจะเป็นความทรงจำของเธอตลอดไป พอปริญทำธุระเสร็จแล้วก็รีบกลับมาหาคนที่นอนกกกอดกันทั้งคืนแต่พบเพียงความว่างเปล่า ไม่รู้ว่าเธอมีพลังวิเศษหายตัวได้หรือยังไงถึงได้หายตัวไปแล้ว ดีที่เขายังขอเบอร์ติดต่อเธอเอาไว้ กรรัมภานั่งแท็กซี่กลับมายังคอนโดของเพื่อนสาว เวลานี้เป็นเวลาเจ็ดโมงเช้าแต่ว่าภายในห้องยังคงเงียบสนิทไม่มีการเคลื่อนไหวใดๆแสดงว่าชญานียังไม่กลับตามที่ปริญบอกเอาไว้จริงๆ ไม่รู้เขามีตาที่สามหรือยังไงถึงได้รู้ไปหมด เธอรีบเข้าห้องไปเปลี่ยนชุดเพราะกลัวเพื่อนจะรู้เรื่องที่เกิดกับเธอเมื่อคืน “กลับมาแล้วยัยพรีน แกตื่นหรือยัง” “อื่อ ตื่นแล้วล่ะ” “ทำไมอาบน้ำเร็วจังจะไปไหนหรอ” “ปะ เปล่า พอดีสมองมันแล่นๆว่าจะมานั่งเขียนนิยายน่ะ” “ขยันจริงๆเพื่อนคนนี้ ฉันขอไปอาบน้ำนอนก่อนนะ ยืนมาตั้งหลายชั่วโมงตอนนี้เหมือนร่างจะพัง” “ไปๆรีบไปอาบน้ำแล้วก็เข้านอนนะ เดี๋ยวฉันจะเตรียมของอร่อยๆเอาไว้ให้เอง” “ขอบคุณค่ะคุณเพื่อน ฝากด้วยนะของในตู้เย็นใช้ได้หมดเลย” “โอเคจ้ะ รีบไปนอนเถอะ” กรรัมภาเป็นห่วงชญานีมากกว่าเดิมเพราะไม่รู้ว่าก่อนหน้านี้เพื่อนใช้ชีวิตอย่างไรเพราะหน้าที่การงานที่แสนสาหัสทำให้ไม่มีเวลาแม้กระทั่งจะรับประทานอาหารแสนอร่อยตามใจชอบ วันนี้เธอเลยจัดการเมนูง่ายๆให้เพื่อนและตัวเองได้รับประทาน หลังจากรับประทานอาหารแล้วเธอก็กลับเข้ารู้โหมดทำงานของตัวเองเหมือนเดิม 1 เดือนผ่านไป ต่างฝ่ายต่างกลับไปใช้ชีวิตของตนเอง กรรัมภาส่งข้อความไปหามารดาอยู่เรื่อยๆว่าตนยังอยู่สุขสบายดีไม่อยากให้ท่านต้องเป็นกังวลแต่ก็ไม่สามารถทำตามที่ท่านต้องการได้ ส่วนปริญที่ไม่ได้ติดต่อกลับไปหากรรัมภาอีกเพราะหลังจากวันนั้นเขาก็ต้องบินไปจัดการปัญหาที่ต่างประเทศอยู่ร่วมเดือนเพราะต้องการส่งมอบกิจการให้ญาติผู้น้องที่แต่งงานมีครอบครัวอยู่ที่นู้น ส่วนตัวเขารับเพียงเงินปันผลตอบกลับก็เพียงพอแล้ว “เฮ้อ เหนื่อยชะมัด ฉันจะทำงานหนักแบบนี้ไปเพื่อใครกันนะในเมื่อทุกวันนี้ก็สุขสบายอยู่แล้ว” ปริญได้แต่บอกกับตัวเองปลงๆ เพราะมีกิจการมากมายทำให้เขาต้องทำงานอยู่ตลอด เรียกได้ว่าสมองไม่เคยได้ว่างเลยก็ว่าได้ เขาชักจะอยากหาที่พักใจแล้วเหมือนกัน จู่ๆใบหน้ารูปไข่ของสาวปริศนาในคืนนั้นก็ลอยเข้ามา เขาไม่เคยลบเธอออกจากความทรงจำได้เลยสักครั้ง หลับตาลงที่ไรก็ยังนึกถึงบทรักที่แสนประทับใจวันนั้นได้ เขาไม่รู้ว่าเธอจะเป็นอย่างไรในตอนนี้ อยากจะทักไปหาแต่ก็ไม่รู้จะทักไปหาในฐานะอะไรเพราะเขาเองก็รู้สึกผิดไม่น้อยที่บังคับจิตใจของเธอ ด้านกรรัมภาใช้ชีวิตอย่างปกติสุขจนกระทั่งเมื่อสองสามวันก่อนเธอเริ่มเหม็นกลิ่นอาหารสด มันให้ความรู้สึกคาวจนอยากจะอาเจียนออกมาจนชญานีเองยังจับได้ถึงความไม่ปกตินี้ “พรีนแกเป็นอะไรหรือเปล่า ฉันเห็นแกจ้องปลาตัวนี้มาสักพักแล้วนะ ไหนว่าจะทำข้าวต้มปลาไงล่ะ” “คือว่าฉันว่ามันคาวมากเลย” “ปลาสดมันก็ต้องคาวอยู่แล้วนี่แกเป็นอะไรหรือเปล่า” “คือมัน...มันจะอ้วก” หญิงสาวรีบยกมือขึ้นมาปิดปากแล้วรีบวิ่งหายเข้าไปในห้องน้ำทันที “เฮ้ย! แกเป็นอะไรอ่ะ อาการแกเหมือนคนแพ้ท้องเลย” “กะ แกว่าไงนะ” “อาการแกน่ะถ้ามีแฟนฉันคิดว่าแกท้องไปแล้ว ดูๆหน้าซีดไปหมดแล้วเนี่ย พอๆหลังจากนี้แกไม่ต้องทำอาหารแล้วนะ” ชญานีรีบวิ่งวุ่นหายาดมมาให้เพื่อนแล้วช่วยประคองไปนั่งลงที่โซฟาตัวใหญ่ “นี” “ว่าไงต้องการอะไรอีกไหมหรือจะไปโรงพยาบาล” “เปล่า ฉันมีเรื่องจะบอกแก” “เรื่องอะไรสำคัญไหมเอาชีวิตแกก่อนเถอะ” “สำคัญมาก” “…” “ฉันคิดว่าฉันท้อง” “ฮ่าๆ ตลกแล้วแกจะท้องได้ยังไงล่ะยัยบ๊องแกไม่มีแฟนไม่มีสามีค่ะคุณเพื่อน” ชญานีหัวเราะออกมาเบาๆรู้สึกตลกกับสิ่งที่เพื่อนบอก “ไม่ตลกนะแกฉันว่าฉันท้องจริงๆ นอกจากเหม็นอาหารแล้วฉันก็อยากจะนอนตลอดเลย” “มีลูกจะมามโนอย่างเดียวไม่ได้นะแกมันต้องมีขั้นตอนด้วย” "แล้วถ้าฉันบอกว่าฉันผ่านขั้นตอนนั้นมาแล้วล่ะ" "เอาดีๆจริงป่ะเนี่ย" "จริง" "ใคร ผู้ชายคนนั้นมันเป็นใคร" "คนที่เราเจอกันที่ผับวันนั้นน่ะ" กรรัมภาตอบกลับเพื่อนสาวไม่เต็มเสียง หล่อนรู้ว่าหล่อนจะต้องโดนบ่นจนหูชาแน่ๆ "บ้าไปแล้วมันเกิดอะไรขึ้นเนี่ย มันข่มขืนแกใช่ไหมฉันจะได้ให้ตำรวจไปลากคอมันกลับมาให้ได้ แกไม่ต้องกังวลใจไปนะฉันจะอยู่ข้างแกเสมอหลานก็ด้วยถ้าแกเกิดท้องขึ้นมาจริงๆอ่ะนะ" "ปะ เปล่าเขาไม่ได้ขืนใจ" ผิดคาดชญานีไม่ได้จะซ้ำเติมแต่กลับให้กำลังใจเธอ "เปล่าแปลว่าแกสมยอมเขาน่ะสิ" "ก็ไม่ถึงกับสมยอมหรอก" "อะไรของแกเนี่ยยัยพรีนฉันงงไปหมดแล้วนะ สรุปยอมหรือไม่ยอมถ้าไม่ยอมหมอนั่นก็ต้องโดนจัดการ" "ฉันอยากตรวจแล้วอ่ะ แกไปซื้อให้หน่อยได้ไหม" หญิงสาวขอร้องให้เพื่อนจัดการให้ หล่อนรู้สึกตื่นเต้นมากๆ "ได้สิแกรอฉันก่อนนะ เดี๋ยวฉันกลับมา" “ขอบใจนะ” ระหว่างที่นั่งรอการกลับมาของชญานีในใจของหญิงสาวก็คิดไปต่างๆนาๆแต่ที่แน่ๆเธอไม่อยากเอาชีวิตน้อยๆในท้องไปผูกมัดเขาคนนั้นเพราะเธอคิดว่าเธอสามารถเลี้ยงดูลูกเองได้ แต่ส่วนลึกในใจก็บอกกับเธอว่าเธออาจจะเลี้ยงได้แค่ตัวแต่เรื่องหัวใจไม่ว่าอย่างไรลูกก็ยังต้องการพ่อของเขาอยู่ดี เธอจะบอกเรื่องลูกให้เขารู้หลังจากนี้ก็อยู่ที่การตัดสินใจของเขาแล้วล่ะ

editor-pick
Dreame-Editor's pick

bc

สะใภ้ขัดดอก

read
26.0K
bc

สวาทรักใต้เพลิงแค้น

read
14.3K
bc

เมื่อฉันแอบรักซุปตาร์นายเอกซีรีส์วาย

read
13.6K
bc

Relazione เจ้าหัวใจสายใยรัก

read
4.1K
bc

เล่ห์รักนายหัว

read
6.7K
bc

ลุ้นรักสลับใจ

read
1K
bc

หวงรักเมียเด็ก

read
1K

Scan code to download app

download_iosApp Store
google icon
Google Play
Facebook