ธรรม์พลิกข้อมือดูนาฬิกาแล้วยิ้ม ๆ สายตาของเขาไม่ได้มองเพื่อนของน้องเมียที่พยายามเสนอหน้ากันสุดฤทธิ์ เขามองใบบัวที่นั่งยิ้มเจื่อน ๆ เหมือนหล่อนกำลังเขินอาย
“น้องบัว พอดีว่าพี่ติดลูกค้า เป็นเคสสำคัญด้วย พี่นึกว่าบัวจะกลับบ้านไปแล้วซะอีก”
“บัวทราบค่ะว่าพี่ธรรม์งานยุ่ง แต่รับปากว่าจะกลับพร้อมพี่แล้วบัวก็ต้องรอค่ะ”
ใบบัวตอบก่อนหยิบกระเป๋าสะพายพร้อมหนังสือสองสามเล่มแล้วลุกจากที่นั่ง หล่อนหันไปทางเพื่อนทั้งสองที่นั่งมองพี่เขยของหล่อนตาหยาดเยิ้ม
“เจนนี่ ภาวินี บัวกลับก่อนนะ”
“บ๊าย...ค่อยเจอกันนาจา แล้วพรุ่งเนี๊ยไม่ทราบว่าพี่ธรรม์ยจะมารับหนูบัวอีกรึเปล่าจ๊า”
เจนนี่จีบปากจีบคอถามพร้อมส่งสายตาหวานหยดให้พี่เขยของเพื่อนสนิทที่ยิ้มให้โดยไม่แสดงออกว่ารำคาญแม้แต่น้อย
“ช่วงนี้พี่ก็คงต้องมารับบัวทุกวันล่ะครับเพราะต้นน้ำไม่ว่างเลย งานเขายุ่งกว่าพี่เพราะต้องติดต่อกับลูกค้าบางครั้งก็กลับดึก”
“ว้าว...แบบนี้ก็ดีเลยนะคะพี่ธรรม์ขา เรสองคนจะได้เห็นหน้าพี่ธรรม์บ่อย ๆ ไงค๊า”
ภาวินีรีบเสริม ธรรม์และใบบัวยิ้มให้ทั้งคู่ก่อนจะเดินตามกันไปที่รถ และเมื่อธรรม์ยขับรถออกไปภาวินีก็รีบหันกลับมาหาเพื่อนของหล่อนทันควัน
“หนิ...นังกระทิง หล่อนว่ามีอะไรแปลก ๆ รึเปล่ายะ”
“อะไรแปลก...ฉันไม่เห็นว่าจะมีอะไรแปลกนี่ยะนังชะนีนี”
“แกนี่มันไม่เคยสังเกตอะไรเลยนะ มัวแต่กินแบบนี้นี่ไง อีกหน่อยคงได้กลายร่างจากนังกระทิงเปป็นหมีควายสักวัน”
“โอ๊ย...นังนี่...เผลอไม่ได้ชอบกัดชอบจิก จะบอกอะไรก็บอกฉันมาซียะ หลอกด่าอยู่ด๊ายนังชะนีหน้าขาว”
“ถ้าอย่างนั้นมาเข้าประเด็นกันเลยนะ ฉันสงสัยว่าหนูบัวมันจะแอบชอบพี่เขยของมันแน่ ๆ”
“เรื่องแบบนี้แกไวมากเลยนะ สมแล้วกับที่เป็นลิงค่างบ่างชะนี มีประสาทสัมผัสไวกว่ามนุษย์ธรรมดา”
“เออสิ เรื่องแบบนี้กระทิงอย่างหล่อนไวสู้ฉันไม่ได้ นี่ฉันสังเกตมันหลายหนแล้วนะ เวลาเห็นพี่ธรรม์ตาของหนูบัวก็จะเป็นประกายวิบวับ”
“น้อยกว่าแกม้าง หนูบัวมันเด็กเรียบร้อยเหมือนผ้าพับไว้ มันไม่ไวไฟอย่างแกหรอก นังชะนีเรียกผัว”
“แล้วแกคอยดูว่าฉันจะเดาถูกมั้ย ถ้าไม่แน่ใจชะนีไม่ปริปากหรอกนะยะ...โอ๊ย...นังกระทิง แกหลอกด่าจนฉันคิดว่าตัวเองเป็นชะนีจริง ๆแล้วนะเนี่ย”
เจนนี่หัวเราะพลางหยิบขนมเข้าปาก และในเวลานั้นเองที่ทั้งสองพูดคุยอย่างออกรสออกชาติใบบัวก็นั่งเงียบในรถของธรรม์ไปตลอดทาง หล่อนแกล้งมองออกไปนอกหน้าต่างทั้งที่อยากจะหันกลับไปมองคนข้าง ๆ ที่กำลังบังคับพวงมาลัยรถ ใบบัวจะรู้สึกแปลก ๆ ทุกครั้งเวลาอยู่ใกล้พี่เขยของหล่อนซึ่งไม่รู้ว่าเป็นเพราะอะไร หล่อนจะตื่นเต้นและใจหวิว ๆ ยิ่งได้สบตากับพี่เขยหนุ่มหล่อก็ยิ่งทำให้ไหวหวั่น
ตั้งแต่มาเรียนต่อและต้องอยู่บ้านเดียวกันกับสามีของพี่สาวก็ทำให้ใบบัวที่มีนิสัยเรียบร้อยและไม่ค่อยสุงสิงกับผู้ชายเหมือนเจนนี่กับภาวินีเพื่อนสาวทั้งสองเกิดความรู้สึกที่หล่อนเองก็บอกไม่ได้เหมือนกันว่าทำไม เพราะตั้งแต่ได้พบกับพี่เขยครั้งแรกหล่อนก็ถูกชะตากับเขา แต่เป็นเพราะหล่อนยังเด็กทำให้อับอายที่จะคิดว่าเป็นความรัก เพราะใบบัวไม่เคยยุ่งกับใครเลย ในมหาวิทยาลัยก็มีหนุ่ม ๆ ให้ความสนใจแต่หล่อนกลับรู้สึกเฉย ๆ
แต่เวลาที่หล่อนอยู่ใกล้ธรรม์กลับตื่นเต้นและเก็บอาการไม่ค่อยอยู่ เวลาจะพูดด้วยหล่อนก็ยังกล้า ๆ กลัว ๆ เพราะเยขาเป็นผู้ใหญ่และใจดีมาก ธรรม์เป็นคนมีน้ำใจและรักครอบครัว เขาไม่เคยหงุดหงิดเวลาพี่สาวของหล่อนกลับบ้านดึกดื่นเพราะต้องติดต่อลูกค้า ส่วนต้นน้ำก็ไม่ใช่คนโรแมนติกสักเท่าไหร่ บางครั้งเหมือนต่างคนต่างใช้ชีวิตด้วยซ้ำไปทำให้คนที่ได้ใกล้ชิดธรรม์กลายเป็นน้องสาวของหล่อนไปเสียแทน
เพราะธรรม์ต้องมารับมาส่งใบบัวที่มหาวิทยาลัยเกือบทุกวัน แถมเวลาอยู่บ้านก็มักจะอยู่กันสองคนเสมอเพราะต้นน้ำจะกลับดึกบ่อย ๆ แต่พี่เขยของหล่อนกลับไม่เคยแสดงความรุ่มร่าม มีแต่ใบบัวที่เคอะเขิน ยิ่งเวลากินข้าวกันสองคนหล่อนก็ยังไม่ค่อยกล้าตักข้าวใส่ปาก และบางทีก็น่าอายจริง ๆ ที่หล่อนฝันถึงธรรม์แทนที่จะเป็นผู้ชายคนอื่น ใบบัวนั่งคิดเพลิน ๆ มือก็เลื่อนไปหยิบขวดน้ำและเป็นจังหวะเดียวกันที่รถติดไฟแดงและธรรม์ก็เลื่อนมือที่ยจับเกียร์รถมาหยิบน้ำทำให้มือของเขากับน้องเมียสัมผัสกันพอดี
“อุ๊ย! พี่ธรรม์จะดื่มน้ำเหรอคะ”
ใบบัวรีบถามและเลื่อนมือออก ตอนที่มือของธรรม์โดนมือหล่อนเหมือนมีไฟฟ้าวิ่งแปล๊บเข้าไปที่แขน ธรรม์หันมายิ้ม
“บัวหิวเหรอ จะดื่มก่อนก็ได้นะ”
“ไม่เป็นไรหรอกค่ะ พี่ธรรม์ดื่มก่อนก็ได้นะคะเพราะทำงานกลับมาเหนื่อยๆ”
“ไม่เป็นไรจ้ะ บัวดื่มก่อนเถอะ พี่ยังไงก็ได้”
เมื่อเห็นว่าธรรม์ไม่ได้หิวน้ำขนาดนั้นใบบัวก็หยิบขวดน้ำขึ้นมาแล้วเปิดฝาดื่มจากขวดเพราะไม่มีหลอดในรถ หล่อนดื่มไปได้นิดหน่อยก็วางก่อนที่ธรรม์จะหยิบขวดน้ำขวดเดิมไปเปิดฝาแล้วดื่มต่อจากหล่อน ใบบัวนั่งมอง หล่อนหน้าแดงขึ้นมาทันควันเพราะนึกไม่ถึงว่าพี่เขยจะไม่รังเกียจที่หล่อนดื่มมันแล้วจะเป็นรอยปากของหล่อนติดอยู่ ธรรม์วางขวดน้ำกลับที่เดิมแล้วยิ้มกับหล่อนเหมือนเคย
“วันนี้เรียนหนักหรือเปล่า...ท่าทางเหมือนบัวก็เหนื่อย ๆ นะ”