Chapter 12

1385 Words
คชาภัทรคุยกับคุณแม่พร้อมกับเดินเข้ามาในตัวบ้าน เชื่อสิว่าท่านไม่เคยรู้จักเขามาก่อนแน่นอน และมาแนะนำตัวให้ท่านรู้จักแต่จะยังไม่บอกว่าเป็นใครมาจากไหนหรอกนะ "เราเป็นแฟนลูกสาวแม่เหรอ" "ใช่ครับ เราสองคนกำลังคบกันอยู่" ดารารัตน์มองทั้งสองคนที่เดินเข้ามาพร้อมกันก็รีบเข้าไปหาชายหนุ่มทันที จะมาก็ไม่บอกกันก่อนถ้าเกิดว่าคุณแม่รู้ขึ้นมาจะไม่แย่ไปกว่าเดิมหรือไง "คุณแม่ คุณคชา" "เรามีแฟนทำไมไม่เห็นเคยพามาเจอแม่เลย เรานี่นะมันน่าตีจริงเชียว ไปเถอะพ่อคชาไปทานข้าวเย็นด้วยกัน" คุณแม่เอ่ยชวนชายหนุ่มอย่างเป็นมิตร เขาดูเป็นคนจิตใจดีเข้าหาผู้ใหญ่เป็น ท่านชอบผู้ชายที่เข้าหาผู้ใหญ่แบบนี้แหละเป็นการให้เกียรติผู้หญิงด้วยถือว่าใช้ได้ "ครับคุณแม่" "พาแฟนเราเข้ามาในบ้าน แม่จะไปเตรียมกับข้าวก่อน" "ค่ะแม่" เธอตอบรับคุณแม่เสียงเบาก่อนจะหันไปหาชายหนุ่มดึงแขนเขาพาไปยังที่เงียบๆจะได้คุยกันสองคน "คุณมาทำไมคะ ถ้าแม่รู้ขึ้นมาจะทำยังไง" "ไม่เห็นรู้เลย ท่านก็ดูปกติดีนี่นาไม่เห็นเป็นเหมือนที่หนูบอกเลย" เขาทำหน้ามึนไม่สนใจที่หญิงสาวพูด ถึงจะรู้ก็รู้ไปเลยเขาพร้อมที่จะอธิบายทุกอย่างอยู่แล้ว แต่ตอนนี้ท่านไม่รู้ก็ปล่อยเฉยไปก่อนแล้วกัน "แล้วไปบอกว่าเป็นแฟนหนูเหรอคะ" เธอเอ่ยถามอย่างจับผิด ทำไมถึงร้ายแบบนี้เพิ่งจะคุยกันได้ไม่นานนี่เองแต่ไปบอกคุณแม่แบบนั้นเสียแล้ว ถ้าคนในบ้านเธอรู้จักเขาสักคนรับรองว่าความแตกแน่นอน "แล้วจะให้บอกว่าเป็นผัวเหรอ... คุณแม่เป็นลมพอดี" ชายหนุ่มอมยิ้มเจ้าเล่ห์ก่อนจะดึงหญิงสาวเข้ามาใกล้แล้วจูบริมฝีปากเธอด้วยความคิดถึง ดารารัตน์ตีหน้าอกชายหนุ่มหลายทีอย่างหมั่นไส้ ไม่เคยคิดเลยว่าเขาจะดื้อด้านได้มากขนาดนี้ "คุณมันร้ายที่สุดเลย หนูคิดผิดที่เชื่อใจคุณ" "ร้ายกับเชื่อใจมันคนละส่วนกัน ว่าแต่วันนี้เซ็นสัญญาแล้วใช่มั้ย อ่านดีรึเปล่า" เขาเปลี่ยนเรื่องเพราะไม่อยากทะเลาะกับหญิงสาวแล้ว เธอถอนหายใจออกมาก่อนจะพยักหน้าเล็กน้อย "อ่านดูแล้วค่ะ ดาราสามารถตัดสินใจเลือกงานได้ด้วยค่ะ ส่วนแบ่งก็70/30เปอร์เซ็นต์ ถือว่ากำลังดีเลยค่ะ" "ก็ดีนะส่วนแบ่งถือว่าได้เยอะกว่าที่อื่นด้วย เตรียมถ่ายโฆษณาได้เลยนะ ฉันให้ทางทีมงานติดต่อผู้จัดการหนูไปแล้ว" "ตกลงว่าโฆษณาปีโป้จริงๆใช่มั้ยคะ" เธอยังคาใจอยู่ ตอนแรกนึกว่าเขาพูดเล่นเสียอีก ปีโป้มันควรเป็นดาราเด็กน่ารักสดใส มันจะเป็นเธอก็เลยรู้สึกแปลกๆ "ใช่สิ เหมาะกับหนูที่สุดเลย อ่อ มีเครื่องดื่มด้วยเดี๋ยวผู้จัดการคนใหม่คงมาบอกแหละ" เขายิ้มออกมาลูบผมหญิงสาวอย่างเอ็นดู เธอยกมือไหว้ขอบคุณชายหนุ่มที่เขาป้อนงานให้ตั้งสองอย่าง "ขอบคุณนะคะคุณคชา" "หนูน่ารักไงฉันเลยอยากให้มาเป็นพรีเซ็นเตอร์ นี่ไม่ได้ช่วยอะไรเลยนะ จริงๆทีมงานเลือกหนูอยู่ในตัวเลือกยี่สิบคนด้วย" ดารารัตน์ได้ยินแบบนั้นก็ยิ้มออกมาอย่างดีใจ อย่างน้อยทางทีมงานของเขายังมองเห็นความสดใสของเธอมาเป็นทางเลือก แต่ที่ได้งานก็ต้องขอบคุณชายหนุ่มเนี่ยแหละ เพราะถ้าเขาไม่เลือกคนอื่นก็คงจะได้ไปแล้ว "จริงเหรอคะ นึกว่าคุณเลือกเองซะอีก" "ไม่หรอกทางทีมงานเลือกมา ฉันแค่สนับสนุนชื่อหนูเข้าชิงแค่นั้นเอง" เขายิ้มออกมาก่อนจะกุมมือเธอเอาไว้แน่น หญิงสาวมองสบตาชายหนุ่มก่อนจะเอ่ยชวนเขาเข้าไปในบ้าน "เข้าบ้านเถอะค่ะ ไม่ใหญ่โตเหมือนบ้านคุณหรอกนะแต่ว่าอบอุ่นแน่นอน" "แค่มีหนูตรงนี้ฉันอยู่ได้หมดแหละ" เขาหยอดคำหวานใส่หญิงสาวก่อนจะกุมมือพากันเดินไปยังในตัวบ้าน ตอนนี้ทั้งสองคนกำลังนั่งรับประทานอาหารเย็นกับคุณแม่ ซึ่งพี่ชายทั้งสองคนยังไม่กลับเข้าบ้าน ไม่รู้ว่างานยุ่งหรือติดสาวกันแน่ "พ่อคชาทำงานในวงการเหมือนกันเหรอ แม่ไม่เคยเห็นหน้าเลยนะ หน้าตาดีอย่างกับพระเอกแหนะ" คุณแม่เอ่ยชมชายหนุ่มไม่หยุดด้วยความที่ชาวหนุ่มรูปร่างดีผิวพรรณไม่เหมือนคนทั่วไป ใบหน้าหล่อเหลาอย้างกับพระเอกในละคร "คุณคชาเค้าเป็น..." "ผมไม่ได้ทำงานอยู่ในวงการบันเทิงหรอกครับคุณแม่ ทำงานอยู่ที่บริษัทในเครือของจิรมินทรนนท์ครับ" "บริษัทมหาเศรษฐีที่รวยๆนะเหรอ" คุณแม่เคยได้ยินผ่านๆเพราะบริษัทนี้เป็นสปอนเซอร์หลักรายการในโทรทัศน์ อีกอย่างสินค้าของบริษัทนี้ก็มีหลายอย่าง เห็นตามห้างสรรพสินค้าเยอะแยะไปจึงพอรู้จัก "ประมาณนั้นครับ" เขายิ้มออกมาก่อนจะมองหญิงสาวไม่ให้เธอพูดอะไรมากกว่านี้ไม่อย่างนั้นคุณแม่จะตกใจเอาได้ ดารารัตน์ตัดสินใจเงียบไม่อธิบายให้คุณแม่ของเธอฟังต่อ ให้เขาจัดการเองแล้วกัน "อย่างนี้นี่เอง ไม่เคยเห็นลูกแม่มีแฟนมาก่อนเลย ไม่คิดว่าจะมีด้วยซ้ำไป ดารายังเด็กมากแต่เรานะดูเป็นผู้ใหญ่กว่าเยอะมาก ถ้าจะคบกันจริงจังแม่ไม่ได้ว่าอะไร แต่รายนี้ยังเด็กเราต้องใจเย็นเอาหน่อยนะ" คุณแม่เอ่ยเตือนชายหนุ่ม เธอไม่เคยบังคับลูกในทุกๆเรื่อง บ้านนี้เค้าเลี้ยงมาแบบให้อิสระเต็มที่ในการตัดสินใจ แม้กระทั่งเรื่องความรัก การทำงาน การใช้ชีวิตต่างๆ และถ้าลูกรักเธอก็พร้อมจะสนับสนุนเต็มที่ "ถึงน้องจะเด็กแต่ก็ไม่งอแงครับ ผมว่าน้องโตพอที่จะมีเหตุผล" "ถ้าเข้าใจกันได้แบบนั้นก็ดีจ้ะ ทานข้าวเถอะ" ทั้งสองคนมองสบตากันก่อนจะยิ้มออกมา คุณแม่เธอใจดีมากไม่ว่าใครที่ได้รู้จักก็จะพูดเป็นเสียงเดียวกัน ทั้งสามคนนั่งทานอาหารด้วยกันเกือบชั่วโมงก่อนจะมานั่งเล่นที่ห้องรับแขกของบ้าน "กินขนมก่อนพ่อคชา แม่ทำเองนะ" "น่ากินมากเลยครับ" เขาชิมขนมตรงหน้าอย่างเอร็ดอร่อย ครอบครัวของดารารัตน์อบอุ่นมากจริงๆ ต่างจากครอบครัวของเขาที่ต่างคนต่างอยู่ พี่น้องแยกย้ายกันไปทำธุรกิจของตัวเองคนละทาง พ่อกับแม่ก็ไม่ได้สนใจอะไรนานๆลูกก็ไปหารวมญาติกันปีไหนสองสามครั้งเท่านั้น เขาหันซ้ายหันขวาเหมือนหาอะไรบางอย่าง ดารารัตน์มองท่าทีของชายหนุ่มก่อนจะเอ่ยถาม "หาอะไรเหรอคะ" "พี่ทำกุญคอนโดหายอ่ะ สงสัยตกในรถแท็กซี่แน่เลย" เธอมองชายหนุ่มอย่างมึนงง บ้านเขาเป็นคฤหาสน์หลังใหญ่ทำไมถึงมาหากุญแจห้องล่ะ แล้วไหนจะแท็กซี่อีกปกติลูกน้องมาส่งไม่ใช่เหรอ "แต่ว่า..." "ช่างมันเถอะไม่เป็นอะไร เดี๋ยวพี่ไปหาเช่าห้องนอนก่อน พรุ่งนี้ค่อยให้ช่างมาเปิดให้ งั้นผมกลับก่อนนะครับคุณแม่" คุณแม่ได้ยินแบบนั้นก็รู้สึกสงสารชายหนุ่ม ถ้าต้องไปเช่าห้องนอนคงลำบากน่าดูไหนจะต้องมาเสียเงินอีก "ไม่ต้องไปเช่าหรอกค้างที่นี่ก็ได้ บ้านนี้ห้องรับแขกก็มี อยู่ที่เราแหละจะนอนได้รึเปล่า" "นอนได้ครับผมนอนได้ สบายมากเลยครับ" เขารีบตอบรับทันทีเพราะกลัวว่าคุณแม่จะเปลี่ยนใจ และแผนที่วางไว้มันได้ผลมาก ในที่สุดคืนนี้เขาก็จะได้นอนค้างที่นี่ แต่คนที่มึนงงที่สุดก็คือดารารัตน์ งงกับที่ชายหนุ่มพูดทั้งหมด 'อะไรของเค้าเนี่ย...'
Free reading for new users
Scan code to download app
Facebookexpand_more
  • author-avatar
    Writer
  • chap_listContents
  • likeADD