ฤทัยรักแม่หญิง

ฤทัยรักแม่หญิง

book_age16+
74
FOLLOW
1K
READ
HE
kicking
detective
ancient
like
intro-logo
Blurb

เมื่อบุรุษอันเป็นที่รักและมอบหัวใจให้กลับกลายเป็นภัยต่อแผ่นดิน แล้วเธอควรเลือกสิ่งใด ระหว่างหัวใจรักมั่น หรือแผ่นดินที่หวงแหนเหนือชีวิต

“หากฉันเกิดเป็นเพียงมดปลวกจะรักใครก็ช่างเถิด แต่นี่ฉันเป็นคนที่เกิดมาในแผ่นดินนี้ แม้นจะรักพี่เท่าดวงใจทั้งหมดที่มี แต่จะให้ทรยศต่อชาติบ้านเมือง ฉันก็ขอยอมตายดีกว่า!”

……………………………………..

“โอ้หนอ...ตัวข้าช่างอาภัพนัก หากแม้นข้าจักต้องเลือกระหว่างแผ่นดินเกิดกับสตรีผู้เป็นยอดดวงใจ ข้าจักเลือกได้เยี่ยงไรกัน เหตุใดข้าจึงมิอาจมีทั้งสองสิ่งได้ในคราเดียว

“ฤาบาปกรรมอันใดตั้งแต่ชาติปางไหนถึงได้กลั่นแกล้งข้าเยี่ยงนี้ สู้ให้ข้าตายดับสิ้นจมธรณีเสียยังดีกว่าที่จักต้องมีชีวิตอยู่อย่างอดสูใจจนมิสามารถเผชิญหน้าผู้ใดได้อย่างภาคภูมิ”

‘ซุกคยีตีฮะ’

ฤทัยรักแม่หญิง

ic_default
chap-preview
Free preview
เกริ่นนำ
“หลวงพ่อเจ้าขา ลูกขอตั้งจิตอธิษฐาน ไม่ว่าบุญกุศลใดที่ลูกเคยทำมาตั้งแต่อดีตจนถึงปัจจุบัน ขอให้ลูกได้พบเจอเนื้อคู่ที่ดี เป็นคนดี ที่เขารักลูกจริง ๆ และขอให้ลูกไม่ต้องแต่งงานกับหลวงหาญเลยนะเจ้าคะ แล้วถ้าเกิดว่า...หลวงหาญผู้นี้มิได้เป็นเนื้อคู่ของลูกแล้วไซร้ขอให้มีเหตุต้องแคล้วคลาดมิต้องครองคู่ ขอให้ออกไปจากชีวิตของลูกด้วยเถิดเจ้าค่ะ หลวงพ่อเจ้าขา สาธุ”   พริ้มพราวตั้งจิตอธิษฐานด้วยจิตตั้งมั่นต่อหน้าพระประธานในวัดที่เธอมาทำบุญเนื่องในวันเกิดอายุครบสิบแปดปีกับน้องสาวอีกสองคน “พี่พราวเจ้าขา เมื่อกี้อธิษฐานขอสิ่งใดจากหลวงพ่อหรือเจ้าคะ น้องเห็นคุณพี่นั่งอธิษฐานอยู่ตั้งนานสองนาน” เพราะพริ้งในวัยสิบหกปีทักขึ้น เมื่อเห็นพริ้มพราวพี่สาวคนโตเดินตรงเข้ามาหาด้วยท่วงท่างามระหงกิริยาชวนมอง ชายสไบสีกลีบบัวพลิ้วไสวตามแรงลม ผมทรงมหาดไทยดำงามสลวยปล่อยสยายยาว รอยยิ้มหวานบนใบหน้ารูปไข่นั้นยิ่งทำให้ผู้ที่ได้พบเห็นต่างจ้องมองความงามนั้นราวกับตกอยู่ภายใต้มนต์สะกด “มิมีอันใดดอกแม่พริ้ง พี่ก็แค่อธิษฐานขอเนื้อคู่น่ะจ้ะ” น้ำเสียงหวานของพี่สาวตอบอย่างใจดี “พุทโธ่ ก็หลวงหาญนั่นปะไรล่ะเจ้าคะ ที่คอยมาเทียวไล้เทียวขื่อแวะเวียนมาที่บ้านเราบ่อย ๆ น้องว่าหลวงหาญผู้นี้คงอยากออกเรือนกับคุณพี่จนใจจะขาดแล้วล่ะเจ้าค่ะ” เพราะพริ้งใบหน้างอง้ำไม่ค่อยชอบใจคู่หมายของพี่สาวตัวเองเท่าไรนัก “ก็ช่างเขาปะไรล่ะจ๊ะ พี่มิได้อยากออกเรือนกับเขานี่นา ถ้าเขาอยากจะแต่งก็ให้เขาแต่งไปคนเดียวเถิด” พริ้มพราวอดจะมีอารมณ์คุกรุ่นไม่ได้เมื่อหวนนึกถึงบุรุษที่ไม่ชอบหน้า “คุณพระ! น้องก็เพิ่งเคยได้ยินพี่พราวว่าคนเป็นคราแรกนี่แหละเจ้าค่ะ ไม่เป็นไรนะเจ้าคะ หากหลวงหาญเข้ามาทำอะไรพี่พราวล่ะก็รีบบอกน้องนะเจ้าคะ พริ้งจะจัดการให้เอง” เพราะพริ้งพูดอย่างหมายมั่นปั้นมือเมื่อนึกถึงว่าที่พี่เขยที่ไม่ค่อยถูกชะตาเท่าไรนัก “แม่พริ้ง...แต่จันทร์ว่าคุณหลวงเขาก็ดูเป็นคนดีมีมารยาทออกนะ เวลาเขามาที่บ้านเราทีไรก็มักจะมีของฝากติดไม้ติดมือมาเสมอ แม่พริ้งเองก็ชอบมิใช่รึ?” จันทร์พิลาศลูกพี่ลูกน้องวัยเดียวกับเพราะพริ้งซึ่งย้ายเข้ามาอยู่ในบ้านเดียวกันตั้งแต่เด็กขัดขึ้น “พุทโธ่จันทร์ก็ ที่ฉันชอบน่ะชอบของฝากหรอกนะ เขาให้มาไม่ต้องเสียอัฐสักแดงใครเล่าจะมิชอบ แต่เจ้าตัวคนให้น่ะอีกเรื่องนึงนะ เพราะคนอย่างฉัน คนไหนที่พี่พราวไม่ชอบ ฉันก็ไม่ชอบด้วย คนไหนพี่พราวรัก ฉันก็รักด้วย มิว่าอย่างไร ฉันก็เข้าข้างพี่พราวอยู่วันยังค่ำ ไม่เหมือนแม่จันทร์ดอกที่เข้าข้างศัตรู” “อ้าวแม่พริ้ง กล่าวหาฉันเสียแล้ว ฉันมิได้เข้าข้างศัตรูเสียหน่อย ฉันเพียงแต่คิดว่า หลวงหาญผู้นี้เขาดูเป็นคนดี หน้าตาหล่อเหลา ท่าทางสุภาพเรียบร้อยดูมีสัมมาคารวะ ไหนจะฐานะครอบครัวอีกเล่าที่เป็นถึงบุตรชายคนโตของพระยาวิจิตรประจักษ์ที่มิว่าจะดูเช่นไรก็เหมาะสมกับพี่พราวราวกับกิ่งทองใบหยก ยังมิรวมตำแหน่งคุณหลวงที่ได้มาตั้งแต่ยังหนุ่มแน่นอีก ในอนาคตหากพี่พราวได้แต่งงานกับหลวงหาญละก็ ตำแหน่งคุณหญิงพราวต้องอยู่ไม่ไกลแน่นอนเลยเจ้าค่ะ” คำโต้เถียงกันของน้องสาวทั้งสองคนทำให้พริ้มพราวหัวเราะร่วนออกมาก่อนจะรีบพูดขัดขึ้น “พอแล้วทั้งสองคน เลิกโต้เถียงกันได้แล้ว พี่ยังมิได้รีบออกเรือนในตอนนี้ดอก แล้วเจ้าทั้งสองคนก็มิต้องรีบไล่ให้พี่รีบออกเรือนไปไหนด้วย พี่จะอยู่เช่นนี้กับน้อง ๆ ไปนาน ๆ เลยดีไหมล่ะจ๊ะ” “ดีเจ้าค่ะ” ทั้งสามสาวหัวเราะกันคิกคักอย่างสนุกสนานขณะที่กำลังเดินเคียงกันมาเรื่อย ๆ จนถึงหน้าประตูวัดพุทไธสวรรค์โดยมีบ่าวไพร่เดินตามมาติด ๆ  ตลาดเช้าในพระนครเพลานี้คลาคล่ำไปด้วยร้านค้าแลผู้คนที่เข้ามาจับจ่ายใช้สอย ตลาดแห่งนี้ได้ขึ้นชื่อว่าเป็นตลาดที่ใหญ่แห่งหนึ่งในเมืองอโยธยา โดยมีทำเลที่ตั้งอยู่ใกล้ริมแม่น้ำทำให้การเดินทางสัญจรไปมาสะดวกรวดเร็ว “พี่พราวเจ้าคะ ไหน ๆ เราก็ทำบุญเสร็จแล้ว ถ้าอย่างนั้นพวกเราไปเดินเที่ยวตลาดกันสักหน่อยดีไหมเจ้าคะ” เพราะพริ้งในวัย 16 ปีเอ่ยเสียงเล็กเสียงน้อย “ได้สิจ๊ะ ว่าแต่เราน่ะอยากจะไปเที่ยวซนใช่ไหมล่ะ พี่รู้ทันดอกนะแม่พริ้ง” “แหม พี่พราวละก็ พริ้งก็แค่อยากจะไปดูของแปลก ๆ ทางโน้นบ้างน่ะเจ้าค่ะ ไหน ๆ เราก็ออกมาทำบุญไหว้พระในวันเกิดของพี่พราวทั้งที ครั้นจะรีบกลับเรือนก็กระไรอยู่นะเจ้าคะ” จบประโยค น้องสาวก็หันไปพยักเพยิดกับจันทร์พิลาศอย่างเห็นดีเห็นงามด้วย “นั่นสิเจ้าคะพี่พราว ไหน ๆ เราก็ออกมาทั้งที แวะไปเดินเที่ยวกันอีกสักครู่เถิดเจ้าค่ะ จันทร์เองก็อยากจะไปเดินดูผ้าแพรด้านโน้นเหมือนกัน เห็นเขาว่ามีผ้าลายใหม่เข้ามางามนักหนาเจ้าค่ะ พี่พราวไปดูด้วยกันไหมเจ้าคะ”  “ไม่ล่ะ น้อง ๆ ตามสบายเลย พี่ว่าจะไปเดินดูของกินด้านนั้นเสียหน่อย” “เยี่ยงนั้นเราค่อยเจอกันนะเจ้าคะคุณพี่ ปะจันทร์” เพราะพริ้งพูดอย่างร่าเริงก่อนจะพาจันทร์พิลาศเดินลับหายไปอีกทางท่ามกลางฝูงคนทิ้งให้พริ้มพราวยืนยิ้มมองตามหลังกับความซุกซนของน้องสาวสุดที่รัก พริ้มพราวธิดาคนโตของพระยาคมฉกรรจ์กับคุณหญิงแพรพิไล เธอเป็นแม่หญิงที่ผู้คนทั่วพระนครต่างเล่าขานถึงความงามอันยากจะหาผู้ใดเปรียบ งามทั้งรูปกาย งามทั้งสมบัติ งามทั้งกิริยาวาจา จนมีชายหนุ่มหลายคนอยากจะฝากตัวเป็นบุตรเขยของพระยาคมฉกรรจ์ หากความดุของท่านพระยานั้นมีมากจนมิมีผู้ใดกล้าที่จะเข้าใกล้นอกจากหลวงหาญณรงค์เพียงผู้เดียว ด้วยว่าเขานั้นเป็นบุตรชายของพระยาวิจิตรประจักษ์ที่ผู้ใหญ่ทั้งสองฝ่ายต่างสนิทสนมกัน อีกทั้งยังได้มีการพูดคุยกันไว้นานแล้ว แต่ดูเหมือนว่าหลวงหาญณรงค์ผู้นี้แม้จะคอยไปมาหาสู่หญิงสาวอยู่บ่อยครั้งหากก็มิเคยเอาชนะใจได้เลยแม้สักนิดเดียว          “เราไปทางนั้นกันเถอะพี่ชื่น” พริ้มพราวบอกบ่าวคนสนิทที่คอยดูแลมาตั้งแต่ยังเล็ก ขณะที่เธอก็รีบสาวเท้าเดินอย่างรวดเร็วไปอีกทางราวกับกำลังหนีใครบางคน          “แม่หญิงพราวเจ้าคะ ทำไมต้องรีบเดินด้วยล่ะเจ้าคะ แล้วทำไมแม่หญิงต้องทำท่าหลบ ๆ ซ่อน ๆ เยี่ยงนี้ด้วยล่ะเจ้าคะ” ชื่นถามด้วยความสงสัยเมื่อเห็นกริยานั้นของผู้เป็นนาย ทว่าแทนที่หญิงสาวจะตอบ เธอกลับชี้มือไปยังหลวงหาญณรงค์ที่กำลังยืนหันซ้ายแลขวาท่ามกลางคนหมู่มากซึ่งอยู่ไม่ไกลจากเธอมากนักโดยมีดินบ่าวคนสนิทของเจ้าตัวเดินตามหลังมาไม่ห่าง          “ตายแล้วหลวงหาญ! บ่าวนึกแล้วเชียวว่าคุณหลวงต้องมาตามหาแม่หญิงที่วัดแน่เลยเจ้าค่ะ”          “เช่นนั้นก็ปล่อยเขาตามหาไปเถิด ฉันมิอยากเจอหน้า พี่ชื่นเราหลบไปด้านโน้นกันเถอะ” ขณะที่หญิงสาวกำลังรีบหนีหลวงหาญณรงค์อยู่นั้น เสียงเรียกชื่อเธอก็ดังแว่วมา “แม่พราว แม่พราว”          “ตายแล้วแม่หญิง หลวงหาญเห็นเราแล้วเจ้าค่ะ ทำเยี่ยงไรดีล่ะเจ้าคะ” ชื่นถามด้วยความกังวลขณะที่ก้าวเท้าตามผู้เป็นนายไปติด ๆ พลางหาวิธีช่วยนายสาวของตน “แม่หญิงเจ้าขาบ่าวว่า... แม่หญิงไปรอบ่าวที่ท้ายวัดนะเจ้าคะ เดี๋ยวบ่าวจะเดินหลอกล่อหลวงหาญให้ไปอีกทางนะเจ้าคะ” หญิงสาวพยักหน้ารับคำก่อนจะรีบรุดเดินหลบไปอีกทางท่ามกลางผู้คนที่หนาแน่นขณะที่สายตาก็คอยสังเกตร่างสูงของหลวงหาญณรงค์ที่กำลังเดินไปอีกด้านตามการล่อหลอกของชื่นที่ดูเหมือนว่าจะได้ผล “เฮ้อ! แผนของพี่ชื่นนี่ได้ผลดีเหมือนกันนะ” หญิงสาวถอนหายใจออกมาโล่งอก ก่อนจะสังเกตเห็นว่าเพลานี้ตนเองเดินออกมาจนเกือบสุดปลายทางของตลาดอีกด้านที่มีร้านค้าหลงเหลือเพียงไม่กี่ร้านผู้คนที่เคยหนาแน่นก็บางตาลง

editor-pick
Dreame-Editor's pick

bc

วิญญาณตามรัก

read
1K
bc

แม่หมอแห่งซูโจว

read
7.1K
bc

พะยอมอธิษฐาน

read
2.3K
bc

คุณหนูสิบเจ็ดตระกูลเจียง

read
10.1K
bc

เชลยรักท่านอ๋องอำมหิต

read
15.2K
bc

พันธะร้าย..ดวงใจรัก

read
1.9K
bc

รักต้นฉบับ(ไม่ลับ)แม่มดมนตรา

read
1K

Scan code to download app

download_iosApp Store
google icon
Google Play
Facebook