ชิดใกล้ ตอนที่ 2

1670 Words
สาวน้อยที่นอนคว่ำกับที่นอนในชุดล่อแหลมที่เป็นเสื้อเชิ้ตสีฟ้าของเขาตัวสั่นงกไม่รู้เพราะกลัวเขาหรือเจ็บแผล มือทั้งสองข้างงอข้อศอกแนบกับลำตัวแต่กำผ้าปูที่นอนไว้แน่น เมื่อเขาหยิบหลอดยาและค่อยๆ ทาเบาๆ เริ่มจากบริเวณใต้น่อง ปัญหาใหญ่ของณกรตอนนี้ก็คือผิวขาวนวลที่ช่างยั่วใจเขาเหลือเกิน ผิวเรียบลื่นที่เขากำลังสัมผัสมันนุ่มนิ่มผุดผ่อง...ชายเสื้อถูกถกขึ้นไปเรื่อยๆ ตามแผลที่มีหลายแผล เธอคงเจ็บไม่ใช่น้อย น่าสงสารนักแม่กระต่ายตื่นตูม และแล้วณกรก็ต้องมีอาการที่เรียกว่าตกตะลึงกลืนน้ำลายเอื๊อกแล้วเอื๊อกเล่าเมื่อชายเสื้อถูกถลกขึ้นเหนือแผ่นหลังขาวเนียนแม้บาดแผลจากการถูกตีจะน่าตระหนกแต่ที่น่าตื่นเต้นกว่านั้นคือ บั้นท้ายกลมกลึงของสาวแรกรุ่นที่ขาวปานน้ำนมแม้มีรอยฟกช้ำห้อเลือดให้ต้องมัวหมองไปบ้างแต่ความงามนั้นไม่ได้ลดไปเลย เธอเป็นสาวแรกแย้มที่มีเรือนร่างงามไม่มีที่ติ สะโพกผายกลมกลึงเอวคอดกิ่ว แม้เสื้อจะปกปิดเรือนกายด้านหน้าอยู่แต่ให้เดาเขาคิดว่ามันคงงดงามไม่แพ้กัน นั่นเรียกร้องอารมณ์ดิบในกายเขาได้เป็นอย่างดี แต่เขาคิดจะทำมิดีมิร้ายกับสาวน้อยวัยสิบแปด ที่เพิ่งจะสูญเสียมารดาและถูกพ่อเลี้ยงทารุณกรรมมาอย่างนั้นหรือ คำตอบคือไม่ เขาแค่ช่วยเธอเท่าที่จะทำได้ก็แค่นั้นและพรุ่งนี้เขาจะนำเธอไปให้แม่จัดการต่อไป เป็นการตัดปัญหาที่มันกำลังทรมานร่างกายเขาอย่างหนัก มังกรที่กำลังหลับใหลเมื่อได้กลิ่นสาวมันกลับตื่นเต็มตัว ณกรกำลังปวดร้าวกับความต้องการที่ไม่ได้รับการปลดปล่อย ชายเสื้อถูกตลบมาปิดเหมือนเช่นเดิม แต่บุรุษพยาบาลจำเป็นกลับถลาลุกขึ้นยืนหันหลังให้ มธุรสที่ลุกขึ้นนั่งตอนนี้อายจนไม่รู้จะบรรยายอย่างไรแล้ว “กินยาแล้วก็นอนซะ...นอนที่นี่แหละ” พูดจบก็เดินดุ่มๆ ออกจากห้องไปทำให้นางอายที่ทำตามคำสั่งใจเต้นระรัวเหมือนกลองศึกกับเหตุการณ์วาบหวิวเมื่อครู่ ไม่มีคำใดเอื้อนเอ่ยจากปากบาง เธอพูดไม่ออก ให้ตายเถอะแม้แต่แม่เธอยังไม่เคยเห็นขนาดนี้เลยนะตั้งแต่เธอเป็นสาวมา จิตใจที่สับสนเริ่มนับหนึ่งไม่ได้ว่าจะร้องไห้เสียใจหรือดีใจที่มีคนช่วยเหลือและไม่คิดอกุศลกับเธอ “แม่จ๋า แม่ไม่ต้องห่วงนะจ๊ะลูกชายคุณหทัยเขาไม่ทำอะไรน้ำหวานหรอกจ้ะ น้ำหวานดูแลตัวเองได้” เสียงสั่นเครือยามเอ่ยถึงมารดาผู้ล่วงลับ มารดาเธออาจจะดลบันดาลให้เขามาช่วยเหลือจากความอัปยศนั้นก็ได้ มธุรสคิดอย่างเป็นสุขก่อนจะผล็อยหลับไปโดยไม่รู้ตัว ด้านณกรที่ยังคงนั่งสงบอารมณ์อยู่บนเก้าอี้ติดกับระเบียง เป็นเวลานานเท่าไหร่เขาไม่รู้ที่เขาพาตัวเองออกมาจากห้องนอนเพื่อให้เจ้าลูกชายสุดที่รักเลิกงอแงอ้อนที่จะเขมือบแม่กระต่ายน้อยนั่น เขาคงบ้าไปแล้วจริงๆ ตอนแรกคิดแค่จะช่วยให้เจ้าหล่อนรอดพ้นจากเหตุการณ์ร้ายนั่น จากนั้นก็ไม่รู้จะพาไปไหนเลยพามาพักที่นี่ แล้ว...ต้องปฐมพยาบาลให้เธอด้วยการเกือบจะถอดผ้าหมดทั้งตัว แก้วกาแฟถูกบีบกำแน่นเมื่อนึกถึงเรือนกายที่เร้าอารมณ์ดิบเถื่อนนั่น ชายหนุ่มต้องบังคับตัวเองให้หยุดความคิดต่อจากนั้นเพราะกลัวว่าเจ้าลูกชายหัวแก้วหัวแหวนจะเริ่มเอาแต่ใจลุกขึ้นมาหาของโปรด (ที่ตอนนี้ต้องห้าม) รับประทาน ซึ่งเมื่อมันไม่ได้ดั่งใจมันจะดื้อทำให้เขาเจ็บปวดจนไม่ได้นอน       นาฬิกาบนฝาผนังบอกเวลาตีหนึ่ง นั่นทำให้ณกรรู้สึกตัวแล้วว่าวันนี้เขานอนดึกมาก ปกติเขาจะเข้านอนไม่เกินห้าทุ่มเพื่อให้ร่างกายได้พักผ่อนเต็มที่ สองเท้าจึงรีบสาวก้าวไปยังห้องนอนที่ตอนนี้ถูกจับจองโดยผู้มาเยือน สายตาคมดุจพญาเหยี่ยวมองร่างบางใต้ผ้าห่มที่นอนกระสับกระส่ายลนลานอยู่บนเตียงกว้างก็ส่ายหัวอย่างเหนื่อยหน่าย...เขามีงานทำอีกแล้ว...เธอไม่สบาย! คิดได้แค่นั้นก็พาตัวเองไปนั่งข้างๆ แสงไฟจากโคมไฟมากพอจะทำให้ชายหนุ่มได้เห็นหน้าที่ซีดเผือดนั่น ริมฝีปากแห้งผาด มือหนาตบที่แก้มขาวเบาๆ “เธอๆ...น้ำหวาน” ไม่มีเสียงตอบรับแต่เขารับรู้ได้ถึงไอความร้อนที่โดนเข้ากับมือ เธอมีไข้เหมือนอย่างที่เขาคิดไว้จริงๆ นี่ขนาดให้กินยาแล้วนะ กะละมังใบเล็กถูกนำเข้ามาตั้งข้างเตียง ผ้าขนหนูผืนเล็กที่ถูกบิดหมาดน้ำค่อยๆ ไล้ไปตามแขนเรียวของสาวน้อยก่อนณกรจะทำใจให้ปลดพันธนาการเสื้อเพียงตัวเดียวของมธุรสออกจากร่างบาง สาวน้อยหน้าหวานเหมือนชื่อช่างมีรูปร่างที่ตรึงใจนัก กายสาวที่สั่นสะท้านไม่ได้สติเพราะพิษไข้ แต่กลับน่าชมยิ่งสาบเสื้อถูกแหวกออกจากกันค่อยๆ เผยให้เห็นเนินอกผ่อง ชายหนุ่มหยุดชะงักก่อนจะกัดฟันข่มใจตัวเองทำหน้าที่ต่อไปเพราะหากปล่อยไว้อย่างนี้ดีไม่ดีอาจเป็นอันตรายเพราะไข้ขึ้นสูงมากเธออาจจะมีอาการชักตามมาก็อาจเป็นได้ “แม่จ๋า...ช่วยน้ำหวานด้วย...แม่...จ๋า...ฮือๆๆๆ แม่จ๋า...น้ำหวานหนาว” เสียงแหบพร่าพึมพำไม่เป็นศัพท์มือน้อยก็พยายามไขว่คว้าสะเปะสะปะอยู่ตลอดเวลาที่ณกรพยายามเช็ดตัวให้เธอบางครั้งก็สะดุ้งเมื่อผ้าไปเช็ดไปโดนแผล “อยู่นิ่งๆ สิแม่คุณจะมาจับอะไรกันหนักหนาเดี๋ยวพ่อก็อดใจไม่ไหวขึ้นมาจริงๆ หรอก” ชายหนุ่มที่ตอนนี้กำลังควบคุมตัวเองสุดขีดกำลังจะตบะแตกเมื่อเจ้าหล่อนทั้งคว้าทั้งดึงแถมยังถีบผ้าห่มที่คลุมท่อนล่างซะกระจุยเผยให้เห็นเนินสาวอวบอูมที่ถูกปกคลุมด้วยปอยไหมสีดำเพียงบางๆ เท่ากับในตอนนี้เธอไม่มีอะไรปกปิดแม้แต่นิดเดียว                                                                                   ณกรมองภาพนั้นอย่างตื่นตะลึงอีกทั้งทรวงอกอวบใหญ่เกินตัวทั้งสองข้างที่กำลังชูช่ออวดปลายพุ่ม เต้าอวบอิ่มได้รูปกระเพื่อมตามแรงหายใจปนหอบของคนป่วย มันสวยงามได้รูปกลมกลึงไม่แหลกเหลวเหมือนกับผู้หญิงบางคนที่เขาเคยเจอ ป้านสีชมพูอ่อนๆ ถูกประดับด้วยยอดอกสีชมพูสดนั้นกระตุ้นกำหนัดเขาให้เตลิดเปิดเปิงเลยทีเดียว แต่เสียงร้องแหบแห้งที่กำลังโหยหามารดาผู้ล่วงลับช่วยฉุดกระชากเขากลับมา เธอสูญเสียและเจ็บปวดมามากพอแล้วเขาไม่ควรจะซ้ำเติมความเลวร้ายแก่สาวน้อยผู้ไร้เดียงสาคนนี้อีก เท่านั้นชายหนุ่มจึงกัดฟันจัดการกับภารกิจจำเป็นต่อไปจนเสร็จสิ้น เป็นเวลาบ่ายคล้อยแล้วร่างใหญ่ยังนั่งพิงเก้าอี้หวายอยู่ริมระเบียงหลังจากส่งหมอกลับ เมื่อคืนเขาแทบไม่ได้นอนทั้งคืนเพราะมธุรสมีอาการเพ้อตลอด ตัวร้อนจัด เขาต้องเช็ดตัวให้หลายรอบจนเกือบเช้ากว่าอาการจะทุเลาแต่เธอก็ไม่รู้สึกตัวสักทีรอจนเที่ยงชายหนุ่มจึงตัดสินใจโทร. ตามหมอที่ดูแลคนในปกครองของเขาทั้งหมด ผลก็คือเธอเป็นไข้หนักเพราะอาการอักเสบจากบาดแผล แถมร่างกายยังอ่อนแอมาก หมอฉีดยาให้เธอและบอกให้เขาดูแลอย่างใกล้ชิดถ้าอาการหนักกว่านี้ก็ต้องส่งโรงพยาบาล “ชิ...หาเรื่องใส่ตัวชัดๆ เลยเรา” เขาไม่ได้ดีใจนักกับการต้องอยู่บ้านเฉยๆ เพราะนั่นหมายถึงงานในสวนเขาจะล่าช้าไปอีกหนึ่งวัน มือหนาเสยผมดกดำอย่างหัวเสีย เขาโทร.ไปหามารดาแต่เช้าเพื่อปรึกษาเรื่องของเด็กสาวและหวังให้ช่วยรับช่วงต่อแต่ปรากฏว่าพ่อกับแม่เขาไปทำธุระต่างจังหวัดแบบกะทันหันแถมยังโดนว่าที่เมื่อคืนไม่ยอมโทร.หาซะงั้น ดวงหทัยก็ตกใจไม่น้อยเมื่อทราบข่าวแต่เมื่ออยู่ระหว่างเดินทางก็ทำอะไรไม่ได้ ป้าศรีแม่บ้านที่รู้จักกับเด็กสาวก็ยังไม่กลับและเขาก็ไม่รู้ว่าเธอจะทราบเรื่องหรือยังจะให้คนอื่นมาดูแลก็มีแต่ผู้ชาย จะทิ้งไปก็กลัวเธอจะเป็นอะไรมากไปกว่านี้ ณกรไม่เคยรู้สึกเสียอารมณ์กับเหตุการณ์เล็กๆ ที่ไม่น่าจะเป็นเรื่องแต่กลับเป็นเรื่องอย่างนี้มาก่อนเลย                 ไม่ว่าเด็กคนนั้นจะเป็นใครเขาก็ไม่ควรเอามาใส่ใจจนเสียงาน ไม่ใช่คนรู้จัก ไม่ใช่ญาติพี่น้อง แค่เขาเข้าไปช่วยให้พ้นจากมือคนโฉดก็น่าจะเพียงพอแล้ว งานอีกมากที่รอเขา ยิ่งภูมิศิลาไม่อยู่ด้วยแล้วความรับผิดชอบทั้งหมดย่อมตกอยู่ที่เขา หากมัวแต่เฝ้าไข้แม่กระต่ายตื่นตูมนี่ อาจเกิดความผิดพลาดกับสินค้าที่จะส่งให้ลูกค้ารายใหญ่ในอีกสองวันข้างหน้าก็เป็นได้ และผลที่ตามมาก็คือ สวนของเขาจะเสียเครดิต อาจโดนคู่แข่งช่วงชิงลูกค้ารายสำคัญไป ณกรหยิบเสื้อแขนยาวพาดบ่าและเดินลงบันไดไปยังรถของตนทันทีที่คิดได้อย่างนั้น รถยนต์สี่ประตูสีดำถูกขับเคลื่อนออกไปจากบ้านกระท่อมโดยไม่คิดเหลียวแลร่างบางที่นอนซมไข้บนเตียงแม้แต่น้อย  
Free reading for new users
Scan code to download app
Facebookexpand_more
  • author-avatar
    Writer
  • chap_listContents
  • likeADD