เส้นทางที่เปลี่ยนไป ตอนที่ 1

3946 Words
เช้าวันนี้ที่บ้านหลังใหม่ของมธุรสดูสดชื่นที่สุดนับตั้งแต่มารดาเสียชีวิต เธอช่วยป้าศรีทำงานบ้านทุกอย่างไม่เคยเกี่ยงงอน จนเป็นที่เอ็นดูของคนในบ้าน สามวันแล้วกับการดำเนินชีวิตในบ้านหลังนี้และนับจากวันที่เหยียบย่างเข้ามาเธอเองก็ไม่เห็นใครอื่นนอกจากผู้เฒ่าสองคนแม้แต่คนที่มีบุญคุณกับเธอ ทุกครั้งที่ได้ยินเสียงรถก็มักตั้งความหวังว่าจะเป็นเขา แต่ก็ต้องผิดหวังทุกครั้งไป เธอเองก็ไม่รู้เหมือนกันว่าทำไมถึงได้อยากเจอเขาหนักหนา รู้เพียงแต่คิดถึงเขา...คิดถึงตอนที่อยู่กับเขาเธอ ก็ร้อนวูบวาบไปทั้งใบหน้า “นี่เจ้าณกรมันยังไม่โผล่มาอีกเหรอหลายวันแล้วนะ หทัยไม่อยู่สักคนมันจะกินอยู่อย่างไรล่ะเนี่ย” เสียงของชายชราเอ่ยขึ้นขณะรับประทานอาหารเช้าซึ่งนางศรีเป็นคนดูแลความสะดวกให้ ด้วยตอนนี้ไม่มีใครอยู่บ้านกันเลยทำให้สองตายายเงียบเหงาไปไม่น้อย ยังดีที่ได้มธุรสมาคอยอ่านหนังสือให้ฟัง และคอยบีบนวดชวนพูดคุยบ้างพอได้คลายเหงา แต่ก็ยังไม่วายเอ่ยถึงหลานชายบุญธรรมที่หายหน้าหายตาไปเกือบๆ อาทิตย์แล้วเห็นจะได้ วันที่มาส่งมธุรสก็ไม่ได้เข้ามา ปกติแล้วนางศรีและดวงหทัยจะคอยดูแลเรื่องกับข้าวกับปลาให้บ้าง แต่ด้วยไม่มีใครอยู่บ้านนางศรีก็ต้องดูแลสองตายายอย่างใกล้ชิด ณกรจึงไม่มีคนส่งข้าวส่งน้ำเหมือนอย่างเคย                                                                                               “ก็คงกินกับคนงานในไร่นั่นแหละค่ะ...คุณณกรเธอกินอยู่ง่ายคงไม่เป็นไรหรอกค่ะ” นางศรีตอบไปตามความคิด “กินแต่อาหารพวกนั้นคงเบื่อ...เดี๋ยวแม่ศรีก็ทำกับข้าวสักสองสามอย่างไปให้หน่อยก็แล้วกันนะสงสารมัน เจ้าคนนี้ทำแต่งาน วันๆ ไม่ได้สนใจตัวเองหรอก อ้อ...พวกของบำรุงร่างกายอะไรนั่นก็ช่วยจัดไปให้ด้วยก็ดี ฝากบอกว่ามาหาตากับยายบ้าง คนแก่มันเหงา” หญิงชราพูดขึ้นบ้าง ด้วยนึกขึ้นได้ว่าดวงหทัยไม่อยู่สักคนหลานคนนี้ของเธอคงกินอยู่ลำบากไม่น้อยเพราะไม่มีคนคอยจัดการให้ คงมัวแต่ทำงานหามรุ่งหามค่ำนั่นเอง ยิ่งตอนนี้หลานชายคนโตก็ไม่อยู่ด้วยภาระหน้าที่ทุกอย่างจึงตกอยู่ที่ณกรคนเดียว นางจึงเริ่มจะเป็นห่วงขึ้นมา “เดี๋ยวให้ตาพวงเอาไปให้ก็แล้วกันค่ะคุณท่าน อิฉันจะทำไว้ให้ วันนี้ต้องไปจ่ายตลาดค่ะของหมดเกือบทุกอย่างเลยคงไปด้วยไม่ได้หรอกค่ะ” นางศรีที่กำลังสาละวนกับการเตรียมอาหารบนโต๊ะบอกเสียงเรียบ “ได้อย่างไรกัน...ตาพวงจะไปรู้อะไรเล่าอย่างดีก็คงได้แต่ส่งปิ่นโตให้แล้วก็เลี้ยวหัวกลับบ้าน ฉันไม่ได้ให้ส่งข้าวส่งน้ำอย่างเดียวนะ ว่าจะให้แวะไปดูบ้านช่องมันด้วย ป่านนี้คงเป็นรังหนูแทนที่จะเป็นรัง ณกรไปแล้วล่ะ” “งั้นให้น้ำหวานไปก็ได้ค่ะ แล้วเย็นๆ ค่อยให้ตาพวงไปรับ ให้น้ำหวานไปซื้อของคงไม่ได้เรื่องค่ะ รายนั้นยังไม่เคยไป” นางศรีเสนอ “อืม...เอาไงก็เอากัน” หญิงชรากล่าวก่อนจะหันมาสนใจข้าวต้มตรงหน้าต่อ เมื่อนางศรีมาบอกให้นำกับข้าวไปให้กับณกรและอยู่ทำความสะอาดบ้านให้เขาด้วยเพราะตนเองไม่ว่าง มธุรสตื่นเต้นราวกับเด็กได้ของเล่นชิ้นแรก เธอจะต้องกลับไปบ้านหลังที่เจ้าของบ้านเคยฝากความหลังอันร้อนรุ่มไว้ให้เธอ แล้วถ้าเธอเจอเขาล่ะ...จะทำหน้าอย่างไรดี จะกล้ามองหน้าเขาไหมเนี่ยยิ่งต้องไปตามลำพังด้วยแล้ว...โอย! อาย                                                                                      เมื่อนายพวงกับนางศรีมาส่งมธุรสที่บ้านสวนทั้งสองก็กลับไปเพื่อไปซื้อของเข้าบ้านต่อ นางศรีบอกกับเธอว่าเย็นๆ จะให้นายพวงแวะมารับอีกที มธุรสเงยหน้ามองบนตัวบ้านที่เธอเคยมาพักอาศัยคืนที่เกิดเหตุ เมื่อเห็นว่าเจ้าของบ้านคงออกไปทำงานแล้วเพราะตอนนี้ก็เกือบๆ จะสิบโมงเห็นจะได้ จึงเดินขึ้นบันได และนำกุญแจที่นางศรีให้ไขเข้าไปข้างในนำของต่างๆ ที่หอบหิ้วมาไปจัดการทันทีเพื่อไม่ให้มีเวลาคิดเรื่อยเปื่อย มธุรสทำกับข้าวเพิ่มอีกสองสามอย่าง จากนั้นจึงจัดการปัดกวาดเช็ดถูในบ้านซึ่งก็ใช้เวลาไม่นานนักเพราะไม่ได้สกปรกมากมายอะไร เพียงแต่คนอาศัยไม่ค่อยมีเวลามาสนใจเท่านั้นเอง ตอนเที่ยงเขาไม่ได้กลับมาดั่งที่เธอแอบหวัง และคิดว่าเขาคงกลับมาหลังจากเธอกลับไปแล้ว มธุรสเดินเข้ามาในห้องนอนเขาที่ทำความสะอาดเรียบร้อยแล้วเดินไปที่เตียงอย่างถือวิสาสะด้วยอาการเหม่อลอย ร่างบางคุกเข่าใกล้ๆ กับเตียงนอนหลังใหญ่สะอาดตาด้วยฝีมือของเธอ วงหน้ารูปไข่แนบลงไปบนที่นอน มือเรียวลูบไล้อย่างแผ่วเบาเตียงที่เธอเคยนอนเคียงคู่ในอ้อมกอดเขาถึงสองคืนด้วยกัน ผู้ชายเขาจะคิดเหมือนกับผู้หญิงหรือเปล่าเธอไม่รู้ คืนที่เขากกกอดเธอไว้เพราะไม่อยากให้เธอตายเท่านั้น แต่สำหรับเธอแล้วตั้งแต่ตื่นขึ้นมาจนถึงตอนนี้หัวใจมันยังสั่นไม่หายทุกครั้งที่นึกถึง ร่างน้อยค่อยๆ ลุกขึ้นนั่งบนเตียงกว้างก่อนจะเอนตัวลงนอนตะแคงแนบวงหน้ากับหมอนใบใหญ่ที่มีกลิ่นกายกรุ่นของบุรุษที่เธอคะนึงหาอยู่  ริมฝีปากเหยียดยิ้มเมื่อยามหลับตาแล้วนึกว่าเหมือนมีเขานอนอยู่ใกล้ๆ     แสงแดดในยามเย็นทอแสงให้ท้องฟ้าเป็นสีส้มอมแดง วันนี้ทั้งวันณกรวุ่นอยู่กับการทำโน่นทำนี่ทั้งวัน ไหนจะลำไยที่เป็นเชื้อรา ไหนน้ำเริ่มจะไม่พอในการนำมารดต้นไม้ ไหนจะแม่ม้าในคอกตกลูก ซึ่งทั้งเขาและลูกน้องต่างลุ้นเป็นกำลังใจให้สร้อยทองแม่ม้าพันธุ์ดีตัวโปรดของเขาและก็ไม่ผิดหวังเมื่อปรากฏว่ามันได้ลูกชาย เอ๊ย! ลูกเป็นตัวผู้ ทั้งๆ ที่นายพวงคนขับรถที่บ้านโทร.มารายงานแทนสองตายายแล้วว่าวันนี้มธุรสอยู่ที่บ้านเขาเพื่อทำความสะอาดบ้านและสองตายายฝากความคิดถึงพร้อมกับของต่างๆ มาให้ แต่เขาก็ยังไม่ได้โผล่ไปเลยจนเย็นเหมือนทุกๆ วัน ณกรรู้สึกผิดนิดๆ ที่หลายวันมานี้เขาไม่ได้แวะไปบ้านใหญ่เลยเพราะมัวแต่ทำงานจนไม่รู้เวล่ำเวลากลับถึงบ้านก็นอนหลับเป็นตาย ท่านทั้งสองคงเหงาเพราะที่บ้านตอนนี้ก็ไม่มีใครอยู่ เขาจึงบอกกับนายพวงว่าค่ำนี้จะแวะเข้าไปและจะรับมธุรสไปพร้อมกันเลยทีเดียวจะได้ไม่ต้องเทียวไปเทียวมากันหลายเที่ยว ณกรไม่ได้แปลกใจที่บ้านไม่ได้ล็อกเพราะรู้อยู่แล้วว่าหญิงสาวมาทำความสะอาดให้ แต่เมื่อเปิดประตูบ้านเข้าไปก็พบแต่ความเงียบงันไร้วี่แววของสาวน้อย ชายหนุ่มขมวดคิ้วเข้าหากันอย่างสงสัยแต่ก็ไม่ได้ใส่ใจมากนักสองเท้าสาวไปยังห้องนอนของตนเพื่อเตรียมตัวอาบน้ำ เพียงแค่ประตูเปิดออกเขาก็รู้คำตอบแล้วว่าแม่บ้านจำเป็นหายไปไหน แม่กระต่ายตื่นตูมขี้เซาแอบอู้งานมานอนหลับปุ๋ยอยู่ในห้องเขานี่เอง ชายหนุ่มเดินไปนั่งบนเตียงใกล้ๆ กับร่างน้อย นิ้วเรียวเกลี่ยผมที่ปลิวปรกใบหน้าเผยให้เห็นใบหน้านวลแสนจิ้มลิ้ม หญิงสาวขยับตัวอย่างรำคาญเมื่อถูกกวน โดยไม่รู้ว่าตัวเองงานเข้าเสียแล้ว นั่นเรียกเสียงหัวเราะเบาๆ จากคนแกล้ง  ชายหนุ่มเองแทบจะไม่รู้ตัว มือหนาสองข้างก็คร่อมร่างระหงเสียแล้วและเมื่อได้พินิจดวงหน้านวลนั้นณกรก็เผลอตัวก้มลงสูดดมความหอมจากพวกแก้มนุ่ม เป็นผลให้คนถูกขโมยหอมแก้มรู้สึกตัวทันที ด้วยความตกใจมธุรสที่รับรู้ถึงการถูกรุกรานจึงรีบผลักอกชายหนุ่มสุดแรงแต่ก็ไม่เป็นผล ร่างหนาเหมือนยักษ์ปักหลั่นไม่ได้ขยับสักนิด เธอยังคงตกอยู่ในวงแขนที่เจ้าของส่งยิ้มยียวนมาให้ “ทำอะไรคะ ปล่อยฉันนะคะ คุณณกร...” หญิงสาวพยายามเอามือค้ำหน้าอกเขาไว้แล้วหลบหน้าด้วยความเขินอายกับความใกล้ชิดแบบไม่ได้ตั้งตัว “มานอนรอฉันไม่ใช่หรือ...แล้วให้ปล่อยทำไม” “เปล่า...เปล่านะคะคุณเข้าผิดแล้วค่ะ ฉัน...เอ่อน้ำหวานทำความสะอาดแล้ว...แล้วเผลอหลับไปเท่านั้นค่ะ ไม่ได้ทำอย่างที่คุณว่านะคะ” ถึงจะรอเขาจริงแต่เธอไม่คิดจะให้เขาทำอะไรเธออย่างนี้สักหน่อย มธุรสยังคงดิ้นเพื่อให้หลุดจากพันธนาการ “งั้น...ไม่คิดจะตอบแทนอะไรฉันหน่อยเหรอ?” คนเป็นต่อขออย่างเห็นแก่ตัวหน้าตาเฉย ยิ่งเห็นแววตาตื่นๆ ของแม่สาวตัวน้อยเขาก็อยากแกล้งขึ้นมาครามครัน ก็ใครใช้ให้แอบมานอนอู้ในห้องเขาล่ะ “ตอบแทน...ตอบแทนอะไรคะ” “ก็ตอบแทนที่ฉันช่วยชีวิตเธอไงล่ะ โดยการ...ตามใจฉันได้ไหม?” ท้ายประโยคเอ่ยเสียงพร่า จมูกได้รูปของชายหนุ่มตอนนี้เกือบๆ จะชนแก้มสาวอยู่รำไร “คุณ...อย่านะคะมันไม่เหมาะถ้าคุณอยากให้ตอบแทน น้ำหวานจะมาทำความสะอาดบ้านให้บ่อยๆ ทำอาหารให้ด้วยค่ะ นะคะ ปล่อยน้ำหวานไปเถอะค่ะ เดี๋ยวลุงพวงก็มารับแล้วค่ะ” หญิงสาวยังคงใช้สองมือค้ำระหว่างเธอกับเขาไว้ ใบหน้านวลอายจนแก้มเป็นสีชมพูระเรื่อเบี่ยงหนีลมหายใจจากจมูกโด่งที่กำลังประชิดแก้ม “งานที่เธอว่ามีคนทำเยอะแยะ แล้วตาพวงก็ไม่มารับหรอก” น้ำเสียงแหบพร่าบ่งบอกว่าเขาเริ่มควบคุมตัวเองไม่ได้เมื่อเห็นความเขินอายของสาวน้อยวัยกำดัด อีกทั้งตอนนี้ในหัวเขามีเพียงเรือนกายที่เปลือยเปล่ายามเขาดูแลในคืนนั้น มันเรียกอารมณ์ดิบเถื่อนที่หลับใหลในกายได้ดีนักเมื่อเจ้าของเรือนกายในความคิดอยู่ในวงแขน                                                                                         “อยู่เฉยๆ แล้วจะดีเองเชื่อฉัน ตาพวงไม่มาเพราะฉันจะไปส่ง” เขาตอบคำถามจากสายตาของหญิงสาวที่ทำหน้าสงสัยปนตระหนก แต่ยังไม่ทันที่ริมฝีปากบางจะได้ปริภาษใดๆ ก็ถูกฉกจูบจากคนตัวใหญ่เสียก่อน สองแขนที่คร่อมตัวเธอขยับโอบรัดแนบแน่นยิ่งขึ้น มธุรสตกใจแทบสิ้นสติไม่นึกว่าณกรจะทำกับเธอย่างนี้ แต่จะให้โต้แย้งอย่างไร เมื่อเธอกระดุกกระดิกไม่ได้เลย ลิ้นหนาเริ่มทำงานเมื่อสาวเจ้านิ่งงัน ชายหนุ่มปาดไล้ไปตามริมฝีปากบาง มือขวาสอดเข้าใต้ฐานคอเป็นการบังคับไม่ให้เธอหนีริมฝีปากและเรียวลิ้นฉ่ำของเขาไปได้ ชายหนุ่มดูดดื่มกับความหวานนั้นก่อนจะสอดลิ้นเข้าไปในโพรงปากกวาดฉกไปทั่วจากอ่อนโยนในตอนแรกเริ่มทวีความรุนแรงขึ้นเมื่ออารมณ์เริ่มกระเจิดกระเจิง ชายหนุ่มดึงพันลิ้นเล็กอย่างดูดดื่ม จากที่คิดแกล้งกลายเป็นยิ่งเลยเถิด เขาดูดเม้มริมฝีปากเธอครั้งแล้วครั้งเล่าอย่างเมามัน ส่งเสียงครางในลำคออย่างพอใจก่อนจะระลงมายังซอกคอระหง ลิ้นหนาเริ่มกับพื้นที่ทำงานใหม่เลียไล้อย่างเพลิดเพลิน “อืม...ยะ...อย่าค่ะ อย่าทำน้ำหวานเลยนะคะ” เมื่อปากบางเป็นอิสระมธุรสก็อุทธรณ์เขาอีกครั้งด้วยน้ำเสียงสั่นๆ เธอแทบจะทำอะไรไม่ถูก เพราะไม่เคยได้ใกล้ชิดผู้ชายคนไหนในลักษณะแบบนี้มาก่อนเลยคงมีแต่เขาที่ถึงเนื้อถึงตัวกันตั้งแต่ครั้งแรกที่เจอ เสียงหวานปนสะอื้นด้วยความตกใจที่เล็ดลอดออกมาจากปากบางเป็นระยะหาได้นำพาต่ออารมณ์เตลิดเปิดเปิงของณกรไม่ กลิ่นกายสาวนั้นยั่วยวนเขาเกินกว่าจะทนไหวเสียแล้วยามนี้ ทั้งที่ไม่เข้าใจตัวเองแต่เขาก็ไม่มีเวลาหาคำตอบมากนัก ใบหน้าเข้มซอกซอนหาความหอมหวานมาตลอดทางที่ผ่านจนมาถึงหน้าอกหน้าใจอันไม่สมตัวกับร่างบาง ณกรถึงกับครางฮือในลำคอ ใบหน้าฟอนเฟ้นดุนดันโดยใช้สองมือประคองผ่านเสื้อยืดตัวบาง ปากหนากัดหยอกเอินพุ่มปทุมถันก่อนจะถอดเสื้อยืดของเจ้าหล่อนออกด้วยความทุลักทุเลเพราะไม่ได้รับความร่วมมือจากเจ้าของร่าง  ดอกบัวตูมคู่งามตระหง่านอยู่ต่อหน้า ณกรถึงกับกลืนน้ำลายเอื๊อกใหญ่ ภายใต้บราสีขาวที่โอบอุ้มความเป็นสาวสะพรั่งเอาไว้ทำให้เขาแทบคุมสติไม่อยู่แม้สาวเจ้าจะออกอาการปกป้องตัวเองโดยการใช้มือปัดสะเปะสะปะก็ตามที จมูกโด่งคมสันถูกกดฝังระหว่างสองเต้าอย่างหนักหน่วงก่อนจะใช้ลิ้นไล้เลียทีละข้าง บราเจ้าปัญหาเริ่มน่ารำคาญในสายตาทันทีมันจึงถูกดึงทิ้งไปอย่างไม่แยแสเจ้าของ ยิ่งเผยให้เห็นปทุมสองช่อที่ผลิบานโดยมีเม็ดยอดสีหวานแข็งเป็นไตประดับอยู่ มธุรสรีบเอามือปิดทันที “คุณณกร...อย่าค่ะ ฮือๆๆ ได้โปรดเถอะค่ะ อย่าทำน้ำหวานเลย” “อย่าปิดน้ำหวาน...ฉันกำลังจะโปรดเธอ ไม่มีอะไรน่ากลัว ไม่ต้องร้อง เอามือออกคนดี ฉันสัญญาจะไม่ทำอะไรไปมากกว่าจูบ” เสียงแหบพร่าออกคำสั่งแต่ไม่ได้รอให้เจ้าตัวปฏิบัติ มือหนาแกะมือเรียวขาวผ่องนั้นออกเสียเอง “สวยเหลือเกิน สาวน้อย...” สิ้นเสียง มธุรสก็รับรู้ถึงความเปียกชื้นที่ชายหนุ่มส่งมอบจากปลายลิ้นสู่ยอดถันซึ่งชูช่อเหมือนรอคอยการเด็ดดมจากเขา มือสองข้างเคล้าคลึงบีบเคล้นไปตามอารมณ์ข้างหนึ่งในขณะที่อีกข้างถูกครอบครองโดยปาก เขาดื่มกินเหมือนมันอร่อยเสียเหลือเกินสลับจากซ้ายไปขวา จากขวาไปซ้ายซ้ำๆ กัน บัดนี้มธุรสรู้สึกได้ดึงความเสียวซ่านที่ถูกส่งมอบ มือควานหาหลักเหนี่ยวยึดไปทั่ว บางครั้งก็ผลักไสเขาออกห่างทว่าหามีเรี่ยวแรงไม่ กลับยึดเสื้อยืดที่ชายหนุ่มสวมใส่เป็นที่ระบายทั้งดึงทั้งกระชากเพื่อหาที่แบ่งเบาความรู้สึกในยามนี้ “ไหนว่าไม่ทำอะไรนอกจากจูบไงคะ...ฮือๆๆๆๆ แล้วถอดเสื้อถอดกางเกงทำไม” แม้อารมณ์ประหลาดเข้าครอบงำแต่สติอันน้อยนิดที่แสนจะหวาดหวั่นก็ถูกกลั่นออกมาเป็นเสียงเมื่อกางเกงขาสั้นและชั้นในตัวบางเริ่มจะเป็นสิ่งน่ารำคาญสำหรับเขา และเธอไม่รู้ตัวด้วยซ้ำว่ามันถูกถอดออกไปตอนไหน “ก็จะได้จูบทั้งตัวไงล่ะ” เมื่อให้คำตอบแล้วปากและลิ้นก็ทำหน้าที่อย่างเคร่งครัด ร่างบางถูกพรมจูบไปทั่วทิ้งรอยแดงไว้ประปรายตามอารมณ์ที่ทั้งนุ่มนวลและดิบเถื่อนในบางครา ชายหนุ่มจูบไล้ลงมาถึงสะดือบุ๋มน่ารัก กวาดเลียทิ้งความเปียกชื้นจากปลายลิ้นไว้ให้เจ้าของร่างขนลุกซู่ สองมือบีบเคล้นสะโพกผายก่อนจะหยุดใบหน้าตรงความงามที่มีปอยไหมบางๆ ปกคลุมความอวบอูมที่ซุกซ่อนความงามไว้ภายใน                                                                               “เคยไหมน้ำหวาน...เคยมีใครทำแบบนี้กับเธอไหม” แม้จะมีคำตอบแล้วแต่เขาก็ถามเพื่อความแน่ใจ ในขณะที่สายตาตอนนี้จดจ้องดอกกุหลาบงามที่กลีบดอกกำลังผลิบานยามเขาจับขาสองข้างแยกออกจากกัน ยิ่งทำให้คนตัวใหญ่ใจสั่นระรัวรอคำตอบกลืนน้ำลายลงคอครั้งแล้วครั้งเล่า “ไม่...ไม่ค่ะ ไม่เคย พอเถอะค่ะคุณ น้ำหวานกลัว” ด้วยความอาย มือเรียวรีบทำงานปกปิดของสงวนของตัวเองทันทีเมื่อขาสองข้างถูกจับแยกคนละทาง “อา...ดีมากเด็กดี ไม่ต้องกลัว ไม่มีอะไรน่ากลัว” มือบางของเด็กดีรู้สึกถึงความเปียกชื้นในยามสิ้นเสียงพร่าสั่นนั้น ณกรจูบเลียตามเรียวนิ้วงามก่อนจะใช้ลิ้นกดแทรกระหว่างนิ้วควานหาความหวานที่ถูกปิดไว้ ทั้งยังดูดดึงนิ้ว...ทีละนิ้วจนหญิงสาวเริ่มดิ้นพล่าน “อื้อ...อา...คุณณกร...” เสียงใสเปลี่ยนจากสะอื้นเป็นครวญครางอย่างห้ามตัวเองไม่อยู่ “หวานสมชื่อ...คนดี เอามือออกนะ มันจะดีกว่านี้” และไม่ได้รออีกเช่นเคยเขาก็แกะมือเธอออกจากความเป็นหญิงอย่างง่ายดายเพราะมันอ่อนปวกเปียกไปหมดแล้ว ช่อกุหลาบสีชมพูสดที่เริ่มฉ่ำเผยแก่สายตาคม เขาก้มจูบซับเบาๆ ก่อนลิ้นหนาจะเริ่มบรรเลงโลมเลียไปตามกลีบสีสด บางครั้งก็ดูดดึงเบาบ้างแรงบ้างสลับกันไป ไม่ลืมจะไล้เลียเม็ดทับทิมสีชมพู ยิ่งเพิ่มความซาบซ่านจนน้ำหวานจากกายสาวเริ่มขับออกมาอย่างล้นหลาม ชายหนุ่มดื่มกินเหมือนหิวกระหายหนักหนา ลิ้นชื้นชอนไชไปในช่องรักที่ยังปิดสนิทและเต็มไปด้วยความชุ่มฉ่ำก่อนจะสอดดุนดันเข้าไปจนสุดโคนลิ้นจนเจ้าของร่างบางเกร็งตัวยกสะโพกงามให้เขาเชยชมอย่างลืมตัว                                                                            “อาร์...อืม” มือทั้งสองข้างของหญิงสาวดึงผ้าปูที่นอนจนยับย่นเพื่อระบายความปรารถนา ปากบางก็ครางออกมาเป็นระยะยามเขาฉกลิ้นเข้าออกอย่างร้ายกาจ สองขาถูกจับอย่างหนาแน่นไม่ให้หนีบเข้าหากันตามสัญชาตญาณ ณกรละจากช่อกุหลาบงาม พาตัวเองขึ้นมานอนทาบทับคนตัวเล็กอย่างเต็มตัวก่อนจะดื่มกินทรวงอกอวบทั้งสองข้างอีกครั้ง มือหนึ่งบีบเคล้นเต้าข้างขวา ส่วนข้างซ้ายก็ถูกจองจำดูดดื่มโดยปากหนา ในขณะที่มืออีกข้างกำลังบีบเคล้นเนินสาว นิ้วหนากรีดกรายไปตามซอกกลีบกุหลาบ และดันเข้าไปข้างในซอกคับแน่น เสียงกรีดร้องครวญครางของหญิงสาวสร้างความพึงพอใจให้ชายหนุ่มยิ่งนัก เขายิ่งฮึกเหิมนำพานิ้วร้ายเข้าออกเร็วถี่ยิบ วนเวียนและหยอกเย้าในที หัวแม่มือถูกนำมาใช้งานให้กดเน้นเม็ดทับทิมของกายสาว การถูกโจมตีจากทุกด้านทำให้มธุรสแทบบ้า ความรู้สึกที่ควบคุมตัวเองไม่ได้และเสียวซ่านไปทั่วทุกอณูทำให้เธอหลงลืมทุกสิ่งทุกอย่างรอบตัว ปล่อยตัวเองไปตามครรลองที่ชายหนุ่มชักนำ “อื้อ...” เสียงกรีดร้องอย่างสุขสม อาการเกร็งสะโพกสูงรับกับนิ้วร้าย ก่อนจะตกลงสู่ที่นอนอย่างหมดแรงบวกกับการตอดรัดนิ้วใหญ่และน้ำหวานที่ทะลักเต็มอุ้งมือ ทำให้ชายหนุ่มรู้ว่าเขาส่งเธอถึงสวรรค์แล้ว ก่อนจะละจากร่างบางที่นอนหอบอย่างอ่อนแรงจากการเดินทางไปเยือนวิมานมาถอดเสื้อผ้าออกจากตัวจนหมดและคร่อมร่างสาวน้อยไว้อีกครั้ง “เป็นไงบ้างจูบของฉัน...มันดีไหม...น้ำหวาน” ไม่มีเสียงตอบรับนอกจากเสียงหายใจรัวเร็วเหมือนคนที่กำลังขาดอากาศหายใจ ชายหนุ่มดึงความสนใจมายังสองปทุมคู่งามที่เขากำลังฟอนเฟ้นด้วยสองมือจนมันล้นทะลักออกมาตามร่องนิ้ว แล้วก้มลงสูดเอาความหอมเข้าเต็มปอด ปากหนาทำงานอีกครั้งอย่างไม่มีเกียจคร้าน ทั้งดูดทั้งขบกัดแทบจะกลืนกินให้หมดเต้าเสียด้วยซ้ำ “อืม...คุณณกร...น้ำหวาน...อื้อ...น้ำหวาน” เป็นครั้งแรกที่ลืมตาตั้งแต่ไปท่องดินแดนฉิมพลี สายตาก็ปะทะกับร่างกายที่เปลือยเปล่ากำลังทรมานเธออย่างเอาเป็นเอาตาย หญิงสาวเบี่ยงหน้าหนีด้วยความอายเมื่อเห็นชายหนุ่มนั่งคุกเข่าตรงลำตัวอวบอิ่มไว้ เผยให้เห็นความเป็นชายแข็งแกร่งที่ผงาดอย่างเต็มที่ในกำมือของเขา ตอนนี้หัวใจเธอเต้นรัวเหมือนกลองยามออกศึกเมื่อเขาจับสองขานวลเนียนแยกออกจากกันและนำอาวุธร้ายมาถูไถตรงร่องสาว มธุรสก็ขยับหนีด้วยความกลัวตามสัญชาตญาณ “อย่ากลัว น้ำหวาน...ฉันไม่ผิดสัญญาหรอกแค่เธออยู่นิ่งๆ ฉันจะจัดการเอง...อา ดีเหลือเกิน” ปากพร่ำบอกในขณะที่มือหนาก็กอบกำความเป็นชายที่ผงาดเต็มมือจ่อถูไถตามกลีบกุหลาบงาม บางครั้งก็กดส่วนหัวเข้าออกร่องรักเบาๆ เพื่อไม่ให้เธอเจ็บ สร้างความเสียวซ่านให้มธุรสยิ่งนัก “อา...คุณณกรขา น้ำหวานไม่ไหวแล้ว...ช่วยน้ำหวานด้วย...ช่วยหน่อย” กลับเป็นเธอที่คว้าควานหาเขาสะเปะสะปะเมื่อความต้องการของร่างกายมีอำนาจเหนือทุกสิ่งในตอนนี้ ณกรรู้ว่าถึงคราวที่เขาจะต้องส่งเธอขึ้นสวรรค์อีกรอบแล้วจึงลดตัวลงมาโน้มใบหน้าเข้าหาร่องรักฉกชิมความหวานตรงหน้าอย่างตะกรุมตะกรามก่อนจะสอดลิ้นหนาเข้าหาทางหฤหรรษ์ของหญิงสาว มือข้างหนึ่งกอบกำเป็นชายที่โตเต็มที่เอาไว้ ตอนนี้เขาปวดร้าวไปหมดกับความต้องการปลดปล่อยเต็มกำลัง มือบางจิกกดศีรษะเขาเข้าหาอย่างลืมตัว ชายหนุ่มตวัดลิ้นรัวเร็วดันจนสุดความยาว ควานหาความหวานลึกล้ำภายใน วินาทีนั้นมธุรสแทบลืมหายใจ บางอย่างที่เธอรอคอยและรู้ว่ามันใกล้จะสิ้นสุดแล้วเหมือนในรอบแรก เธอเผลอกดศีรษะเขาเข้าหาความเป็นหญิงพร้อมกับยกสะโพกรับกับลิ้นหนาอย่างลืมตัว และแล้ว... “คุณณกร...อา...” สะโพกผายทรุดลงกับที่นอนทันทีเมื่อสิ้นเสียงหวาน ชายหนุ่มละจากช่อนารีที่ชุ่มฉ่ำไปด้วยหยาดน้ำทิพย์ ขยับขึ้นมาคร่อมตรงหน้าท้องแบนราบ ความเป็นชายแข็งขึงที่ใหญ่โตในสายตาหญิงสาวถูกมือหนาสาวเข้าออกรัวถี่ยิบ มธุรสปิดตาเบือนหน้าหนีอย่างเขินอาย แต่นิ้วแกร่งกลับจับล็อกปลายคางเธอเอาไว้ “อา...ถึงตาฉันแล้วคนสวย” “มองฉันมธุรส...มองมัน...อา...ดีมาก” เมื่อเธอทำตามคำสั่งสายตาฉ่ำปรือจ้องมองมังกรที่กำลังทะยานในมือเขาอย่างเอียงอายยิ่งสร้างความพอใจและอารมณ์พิศวาสมากขึ้น ณกรเร่งความเร็วในการปีนป่ายไปแดนฉิมพลีถี่ยิบ “น้ำหวาน...สุดยอดคนดี...ดีเหลือเกิน” สายธารขาวขุ่นถูกปลดปล่อยมายังทรวงอกอวบจากส่วนปลายของอาวุธร้ายออกมาอย่างล้นหลามจนเปรอะเปื้อนเต็มไปหมด จนมธุรสต้องเบือนหน้าหนีบางส่วนที่กระเด็นมาโดนหน้าเธอก่อนที่คนตัวใหญ่จะล้มพับลงนอนข้างๆ ยังมิวายจับแก้มเธอมาหอมและฉกจูบปากบางอย่างดูดดื่มอีกครั้ง
Free reading for new users
Scan code to download app
Facebookexpand_more
  • author-avatar
    Writer
  • chap_listContents
  • likeADD