เสียงรถยนต์วิ่งเข้ามาในรั้วบ้านหลังใหญ่ มธุรสรีบวิ่งออกไปคอยแอบเกาะขอบประตูห้องรับแขกดูด้วยใจจดจ่อ มีความหวังในใจลึกๆ อยากขอให้เป็นรถของคนที่เธอตั้งหน้าตั้งตารอ แต่แล้วเมื่อรถคันนั้นแล่นเข้ามาด้านในถึงบริเวณที่จอดรถหน้าบ้านเธอก็ต้องใจแป้ว...ไม่ใช่อีกแล้ว
เธอใจจดจ่อรอการกลับมาของณกรสองวันเต็มๆ แล้ว
หลังจากภูมิศิลามาจากกรุงเทพฯ และนอนพักที่บ้านถึงหนึ่งอาทิตย์ณกรก็กลับมานอนที่บ้านทุกวันด้วยเช่นกัน และที่ทำให้เธอต้องหน้าแดงระเรื่อยามคิดถึงเขาก็คือ ชายหนุ่มมักจะหาโอกาสดอดเข้าไปนอนกับเธอในห้องเกือบทุกคืน แม้จะเป็นแค่การนอนกอดเฉยๆ แต่ใจสาวก็ต้นระส่ำทุกครั้งที่นึกถึง แต่นี่ทั้งสองหายไปพร้อมกัน แล้วยังไม่มีวี่แววว่าจะกลับมาเลย ดูเหมือนคนในบ้านจะไม่ค่อยเดือดเนื้อร้อนใจเท่าไหร่ พวกเขาคงเคยชินและเห็นเป็นเรื่องปกติ
“อ้าว...น้ำหวานมายืนทำอะไรตรงนี้จ๊ะ” เสียงเรียกทักคุ้นเคยดังไล่หลังเมื่อเธอกำลังจะเดินกลับเข้าไปในครัว...จบสิ้นการรอคอยของเช้านี้ หญิงสาวหันกลับมามองหน้าผู้ที่ทักทายนั่นก็คือนางชบาที่เป็นแม่ครัวของบ้านนั่นเอง แต่วันนี้แม่ครัววัยแปดสิบต้นๆ กลับไม่ได้มาคนเดียวพ่วงชายหนุ่มหน้าตาดีแต่งตัวสุภาพมาด้วยคนหนึ่ง ชายหนุ่มคนนั้นจ้องมองเธอเหมือนกับตกตะลึงอะไรบางอย่าง
“เอ่อ...สวัสดีค่ะป้าชบา น้ำหวานกำลังจะเข้าครัวค่ะ ป้าชบามาพอดีเลยวันนี้คุณตาอยากทานซุปเห็ดหอม น้ำหวานทำคงไม่ถูกปาก เดี๋ยวป้าช่วยทำให้หน่อยนะคะ” มธุรสหลบสายตาหวานเชื่อมที่มองมาแล้วเบนความสนใจไปที่แม่ครัวของบ้าน
“ได้สิๆ ไปเราไปช่วยกันทำดีกว่าจะได้เสร็จเร็วๆ นี่ก็ใกล้เวลาอาหารของพวกคุณๆ เธอแล้ว...” นางชบาจูงมือมธุรสแล้วพากันเดินเข้าไปในครัวและแล้วก็ต้องชะงักกึกเหมือนนึกอะไรขึ้นได้ นางคุยเพลินจนลืมชายหนุ่มที่ติดตามมาด้วยเสียแล้ว
“อ้อ...ลืมเลย น้ำหวานนี่ลูกชายของป้าจ้ะ ชื่อพี่เพชร เขาเป็นหมอกำลังจะย้ายมาอยู่โรงพยาบาลที่บ้านเรานี่แหละ รู้จักกันไว้สิ หมอเพชรนี่หนูน้ำหวานเป็นหลานป้าศรีไง แล้วก็เป็นคุณหนูของที่นี่ด้วย” นางชบาแนะนำให้คนทั้งสองรู้จักกันด้วยใบหน้าระรื่น แต่คนถูกแนะนำกลับขัดเขินกับตำแหน่งคุณหนูที่ดูไม่เหมาะกับเธอสักนิด แม้ว่าคนในบ้านจะให้เกียรติเธอในฐานะนั้นก็ตามที มธุรสยกมือไหว้ผู้อาวุโสกว่าแต่ก็ยังหลบหน้าไม่ยอมสบตา ซึ่งเขาก็รับไหว้ด้วยรอยยิ้มแต่สายตานั้นยังไม่ยอมละจากดวงหน้าหวานที่เขินจนแก้มแดงระเรื่อ
“รู้จักกันแล้วก็ไปกันเถอะวันนี้ลูกชายป้าเขาหยุดจ้ะ อีกหลายวันกว่าจะเริ่มทำงานอยู่บ้านบ่นว่าเบื่อป้าก็เลยพามาช่วยเข้าครัวซะเลย” แม่ครัวจูงมือมธุรสแล้วก็พูดจ้อเรื่อยเปื่อยโดยมีคุณหมอหนุ่มเดินตามหลังสุภาพสตรีทั้งสอง
“เออ...จริงสิน้ำหวานอีกไม่กี่วันก็วันแต่งงานคุณลิล น้ำหวานไปด้วยหรือเปล่าจ๊ะ นี่คุณภูมิกับคุณณกรก็ยังไม่กลับมาจากจะสางเรื่องในสวนเลย หายไปกันสองวันสองคืนแล้วไม่รู้จะเสร็จงานทันได้ไปด้วยรึเปล่าจ” นางชบาวกชวนมธุรสคุยเรื่องที่เธอกำลังใจจดจ่ออยู่พอดี ความจริงงานแต่งของอลิลดาเธอก็ได้รับเชิญกับเขาเหมือนกัน แต่หญิงสาวก็สองจิตสองใจอยู่
“ยังไม่ทราบจ้ะป้าชบา น้ำหวานเกรงใจคุณๆ ไม่อยากไปเป็นภาระหรอกจ้ะ” หญิงสาวตอบตามที่ใจคิด ถึงแม้ทุกคนจะรักและเอ็นดูเธอเพียงใดแต่เธอเองก็ไม่เคยคิดจะทำตัวเทียบเท่า ไม่เคยคิดอยากดันตัวเองให้อยู่ในสังคมที่สูงเกินตัวนั้นด้วย แค่มีที่ซุกหัวนอนมีข้าวกินก็มากพอแล้วสำหรับเด็กกำพร้าที่ไม่มีที่ไปคนหนึ่ง
“อย่าถ่อมตัวนักเลยน้ำหวาน คุณเขาเมตตาก็รับๆ ไว้เถอะ อ้อ...หมอเพชรเดี๋ยวช่วยเอาผักกับเนื้อนี่ไปล้างนะลูกเดี๋ยวแม่กับน้ำหวานจะเตรียมของทำแกงกัน” แม่ครัวร่างท้วมพูดพลางบอกลูกชายให้จัดการกับของที่ซื้อติดมือมาด้วย ส่วนตัวเองก็จูงมือเด็กสาวให้เดินตามติดไปที่ตู้เย็นเพื่อหาของเตรียมทำอาหาร
“แม่ครับ...ผมชักน้อยใจแล้วนะ ดูสิจูงมือน้องเขาไม่ยอมปล่อยเลยทีกับผมล่ะใช้เอาๆ” ลูกชายบ่นกระปอดกระแปด มือก็สาละวนทำตามคำสั่งของมารดา ส่วนใบหน้าหมอนุ่มนั้นยิ้มแย้มอยู่ตลอด เขารู้สึกถูกชะตากับแม่สาวน้อยที่ตามติดมารดาต้อยๆ เหลือเกิน หรือทุกคนที่ใกล้เธอจะรู้สึกเหมือนเขาหมด ดูอย่างแม่ของเขาสิ ตั้งแต่มาถึงก็ตัวติดกันแจ
“หึ หึ หึ น้ำหวานเป็นเด็กน่ารักแกจะไปรู้อะไรคนบ้านนี้หลงเสน่ห์น้ำหวานกันทั้งนั้นล่ะ” แม่ครัวได้ทีอวดดีกรีเสน่ห์ในตัวมธุรส หญิงสาวผู้ถูกเอ่ยถึงได้แต่มองสองแม่ลูกสลับกันไปมาแล้วยิ้มเขินน้อยๆ ตามแบบของเธอ
“ถ้าอย่างนั้นพี่ก็คงต้องเป็นอีกคนที่หลงเสน่ห์น้ำหวานแล้วล่ะครับ ลองแม่อวดสรรพคุณขนาดนี้ถ้าไม่ยอมตกหลุมพรางง่ายๆ น้ำหวานจะเสียชื่อ จริงไหมครับ”
“อย่าให้ถึงขนาดนั้นเลยค่ะพี่หมอ...ป้าชบาแกก็ยอน้ำหวานเกินไป ความจริงทุกคนที่นี่น่ารักกันทั้งนั้นนะคะ น้ำหวานก็เลยวางตัวไม่ยาก” เมื่อโดนพาดพิงไม่เลิกสาวน้อยจึงออกตัวขึ้นมาบ้าง เสียงหยอกเอินดังครื้นเครงจากห้องครัวสร้างบรรยากาศแห่งความสนิทสนมให้แก่สองหนุ่มสาว มธุรสที่รู้สึกเกร็งในตอนแรกก็ผ่อนคลายมากขึ้นเมื่อพบว่าจริงๆ แล้วคุณหมอหนุ่มออกจะเป็นคนอารมณ์ดี อบอุ่น และนิสัยดีมากคนหนึ่ง
ส่วนนภดลนั้นเมื่อได้พูดคุยกันลึกขึ้นก็ยิ่งรู้สึกประทับใจในตัวของหญิงสาว เขารู้สึกเอ็นดูมธุรสอย่างบอกไม่ถูก หรือนี่จะเป็นเสน่ห์เฉพาะตัวที่คนรอบข้างต้องหลงอย่างที่แม่เขาบอกจริงๆ หารู้ไม่ว่าในอนาคตอันใกล้ความสนิทสนมนี่แหละที่จะนำความเดือดร้อนมาให้มธุรส