เสียงสายน้ำไหลรินออกมาจากกระบอกไม้ไผ่ลงสู่สระน้ำมีลักษณะเป็นวงกลม บริเวณขอบสระมีก้อนหินขนาดใหญ่และเล็กวางรายล้อมเพื่อประดับให้เกิดความสวยงาม ไอควันขาวพวยพุ่งออกมาจากสระเป็นระยะๆ เพราะเป็นน้ำแร่เกิดจากธรรมชาติไหลลงมารวมตัวเป็นแอ่งน้ำที่อุดมไปด้วยน้ำแร่ขนาดใหญ่ ก่อนจะถูกสูบเข้ามาอยู่ในบ่อและต่อตรงเข้ามาถึงสระน้ำสหรับทำความสะอาดร่างกายภายในห้องขนาดใหญ่ที่ตกแต่งทุกอย่างเป็นอย่างดี
ภายในห้องดังกล่าวตกแต่งอย่างสวยงาม บริเวณด้านข้างของสระบานประตูถูกเลื่อนออกเผยให้เห็นทิวทัศน์ด้านนอก มองออกไปไกลคือเทือกเขาสูงเสียดฟ้า ในขณะที่บริเวณตรงหน้าลานกว้างถัดจากประตูที่เปิดอยู่ในขณะนั้นคือต้นดอกเหมย กำลังยืนต้นเบ่งบานดอกสีขาวสะพรั่งไปทั่วบริเวณ และร่วงหล่นลงสู่พื้นเป็นระยะแข่งกับสายน้ำไหลที่หลั่งรินออกมาจากปากกระบอกไม้ไผ่
ภายในห้องตั้งโต๊ะตัวยาวมีกู่ฉินวางอยู่ด้านบน ราวกับว่ากำลังคอคอยใครบางคนมาบรรเลงเสียงดนตรีขับขาน บริเวณข้างโต๊ะตั้งเตาไฟพร้อมกาน้ำและชุดชงชา ไอควันขาวลอยออกจากกาน้ำอยู่เป็นระยะ ครั้นมองไปทางประตูทางเข้าปรากฏโคมไฟถูกแขวนไว้อยู่ตรงหน้าประตูและบริเวณกลางสระน้ำ ตรงริมห้องทั้งซ้ายและขวาตั้งโคมไฟตัวยาวเพื่อเพิ่มความสว่างให้มากขึ้น
ท่ามกลางไอควันขาวที่ตลบอบอวลไปทั่วทั้งห้อง ปรากฏร่างของหญิงสาวนางหนึ่งกำลังนอนหงายใช้ศีรษะพาดไปกับก้อนหินที่ถูกนำมาวางประดับเอาไว้และสามารถใช้อิงแอบแทนหมอนหนุนได้ดีทีเดียว ใบหน้ามีผ้าผืนน้อยบางเบาวางทาบทับอยู่ด้านบนนอนดื่มด่ำท่ามกลางสระน้ำดังกล่าว
ในขณะเดียวกันมือเรียวขาวดั่งลำเทียนดูก็รู้ว่าของสตรีถูกแต่งแต้มเติมสีเล็บฉาบสีกลีบบัวเอาไว้อย่างสวยงาม บริเวณเล็บถูกตัดแต่งเอาไว้อย่างปรานีตสวยงามอย่างลงตัว ใบหน้าสวยเฉี่ยวหันรีหันขวางมองไปทั่วบริเวณห้องดังกล่าวด้วยความสงสัย ก่อนจะดึงแว่นกันแดดที่สวมอยู่บนใบหน้าออกมา
“ฉันมาอยู่ที่ไหน! บ้านของใครก็ไม่รู้สวยจังเลย” หยางเฟยอี้พูดออกมาเบาๆ ด้วยความสงสัยกับสิ่งที่เธอเห็นอยู่ในขณะนี้ก่อนจะนึกขึ้นได้ว่า ทางทีมงานที่มารับหญิงสาวจากสนามบินเพื่อเดินทางเข้าที่พักซึ่งจัดเตรียมเอาไว้ให้ล่วงหน้าแล้ว
“หรือว่าจะเป็นที่พักรับรองจัดเตรียมไว้ให้เรา” หยางเฟยอี้ยืนพึมพำตามความคาดเดาของตัวเอง
ร่างอรชรอ้อนแอ่นในชุดทันสมัยค่อยๆ ก้าวเดินออกไปทางประตูห้องที่สามารถเห็นต้นเหมยสีขาวบริสุทธิ์ ท่ามกลางขุนเขาสูงเสียดฟ้าที่ปรากฏให้เห็นอยู่ตรงหน้าไกลลิบ สายหมอกไหลพาดผ่านราวกับว่ากำลังยืนอยู่สวรรค์เบื้องบน
“โอโห่! สวยจังเลยนี่เราอยู่บนสวรรค์หรือเปล่า ไม่เคยเห็นวิวแบบนี้มาก่อนเลย อยู่ฮ่องกงก็ไม่เคยเห็นทิวทัศน์แบบนี้ แผ่นดินจีนมีบรรยากาศงดงามที่ซุกซ่อนตามเทือกเขาได้อย่างเหลือเชื่อจริงๆ” นักร้องสาวชื่อดังยืนชื่นชมท่ามกลางความงามของธรรมชาติอย่างตื่นตะลึง
นักร้องสาวคนดังยืนเอามือไพล่หลัง หลับตาพริ้มดื่มด่ำอยู่กับธรรมชาติและสูดอากาศบริสุทธิ์เข้าไปจนเต็มปอด ท่ามกลางดอกเหมยสีขาวร่วงหล่นจากต้นลงสู่พื้นเป็นระยะ จนไม่รู้ว่ายืนมองผ่านไปนานแค่ไหน
จ๊อกกก!!! เสียงท้องร้องเพราะเกิดจากกรดในกระเพาะอาหาร ส่งเสียงดังปลุกนักร้องสาวคนดังให้รู้สึกตัว เปลือกตาที่ปิดอยู่ในขณะนั้นเปิดขึ้นพร้อมทำหน้าละเหี่ยใจ เมื่อได้ยินเสียงท้องร้องของตัวเอง
“อะไรจะร้องดังขนาดนี้แน่ใจนะว่าเสียงน้ำย่อยในกระเพาะของเรา” หญิงสาวบ่นพึมพำให้กับตัวเองพลางยกมือลูบไล้หน้าท้องราบเรียบใต้เสื้อเชิ้ตสีขาว
ร่างของนักร้องดังหันกลับมามองภายในบริเวณห้องเพื่อสำรวจตรวจตราว่ามีโทรศัพท์ภายในสามารถติดต่อกับห้องอาหารของที่พักดังกล่าวซึ่งเธอกำลังยืนอยู่ในขณะนี้หรือไม่ และพบว่าภายในห้องเป็นสระน้ำสำหรับใช้เป็นสถานที่ชำระล้างร่างกายเสียมากกว่าที่จะใช้เป็นสถานที่พักผ่อน
“ห้องสำหรับอาบน้ำเหรอ ทำไมที่นี่ถึงสร้างกินพื้นที่มากมายขนาดนี้นะไม่เปลืองค่าก่อสร้างแย่เลยเหรอ แล้วห้องขับถ่ายอยู่ตรงไหนก็ไม่รู้ แล้วห้องอาบน้ำอะไรกันมีชุดชงชาพร้อมกาต้มน้ำเหมือนในสมัยโบราณวางเอาไว้ด้วย” หญิงสาวพูดพลางสำรวจไปทั่วบริเวณก่อนจะเดินตรงไปที่โต๊ะตัวยาวที่เห็นอยู่ตรงหน้า
ทันทีที่เดินมาหยุดยืนตรงโต๊ะดังกล่าว สายตาจับจ้องอยู่ที่เครื่องดนตรีโบราณที่วางอยู่ตรงหน้าพลางเอื้อมมือใช้นิ้วเรียสวยจับสายเส้นบางเบาเพื่อทดสอบเสียง
ตึ้งงงง!!! เสียงใสก้องกังวานดั่งกระจกดังก้องไปทั่วห้อง ท่ามกลางรอยยิ้มปรากฏบนใบหน้างาม
“แจ๋ว! เสียงใสดีจังเลย! กู่ฉินตัวนี้คนทำจะต้องมีฝีมือดีมากทีเดียวถึงมีเสียงก้องกังวานและคมขนาดนี้” นักร้องดังกล่าวชื่นชมพลางเงยหน้าเพื่อสำรวจหาโทรศัพท์ติดต่อภายในเพื่อสั่งอาหารมาทาน ด้วยเธอยังไม่ได้ทานอาหารตั้งแต่เช้ามีเพียงกาแฟแก้วเดียวเท่านั้นที่ตกถึงท้องก่อนจะขึ้นเครื่องรีบบินตรงมาที่เซี่ยงไฮ้
ดวงตาสีน้ำตาลอ่อนสำรวจไปทั่วห้องก่อนจะมาหยุดชะงัก เมื่อสายตากระทบถูกร่างเปลือยเปล่าของสตรีที่กำลังนอนแช่น้ำอยู่ในสระซึ่งอยู่หลังก้อนหินจนไม่มีใครสามารถสังเกตได้ หากไม่มายืนอยู่ฝั่งตรงกันข้าม บริเวณใบหน้ามีผ้าสีขาวผืนบางปกคลุมใบหน้าอยู่ในขณะนั้น
“ตายแล้วถิงถิง! นี่เธอเดินเข้ามาอยู่ในห้องของใครก็ไม่รู้ ห้องนี้มีเจ้าของนี่หว่ารีบเผ่นก่อนที่เจ้าหล่อนจะลุกมาอาละวาดแล้วกล่าวหาว่าเราเป็นขโมยย่องเบาเข้ามาห้องของคนอื่นที่ไม่ใช่ของตัวเอง” นักร้องสาวบ่นพึมพำ
หยางเฟยอี้รีบจรดปลายเท้าอย่างแผ่วเบาด้วยกลัวว่าหญิงสาวที่กำลังนอนแช่น้ำอยู่ในสระจะตื่นขึ้นมาเห็นเธอเสียก่อน นักร้องคนดังก้าวเท้าพลางจับจ้องร่างที่อยู่ในสระจนเผลอสะดุดขาของตัวเอง
เหวอออ!!! เสียงอุทานร้องออกมาจนสุดเสียงเมื่อเธอเสียการทรงตัว
โครม!!!ร่างกระแทกลงกับพื้นห้องเสียงดังสนั่นหวั่นไหว แน่นอนว่าเจ้าของห้องที่กำลังนอนแช่อยู่ในสระจะต้องรู้สึกตัวขึ้นมาอย่างไม่ต้องสงสัย
โอ๊ยยยย!!! นักร้องสาวส่งเสียงโอดโอยด้วยความเจ็บปวด เมื่อร่างเล็กๆ ของเธอล้มฟาดลงกับพื้นห้องอย่างแรง
“ถิงถิงเอ๊ยถิงถิง ทำไมเธอมันถึงได้ซุ่มซ่ามอะไรแบบนี้นะให้ตายเถอะ!” หญิงสาวบ่นกระปอดกระแปดให้กับตัวเอง
ทว่าทุกสิ่งยังเต็มไปด้วยความเงียบที่แม้แต่เข็มหมื่นเล่มร่วงหล่นยังพากันได้ยิน ไม่มีเสียงร้องโวยวายออกมาจากร่างที่นอนอยู่ในสระน้ำแม้แต่น้อย ยังคงแน่นิ่งไม่ไหวติงอยู่เช่นเดิม จนนักร้องสาวที่กำลังก้มหน้าแนบอยู่กับพื้นเกิดความสงสัยขึ้นมาทันทีเมื่อไม่ได้ยินเสียงร้องโวยวายใดๆ ออกมา
“แปลก! ทำไมถึงได้เงียบจังแฮะ” หญิงสาวพูดพึมพำพร้อมค่อยๆ เงยหน้าขึ้นมาอย่างช้าๆ เพื่อสังเกตร่างของสตรีตรงหน้าที่กำลังนอนอยู่ในสระน้ำ
หยางเฟยอี้นอนมองร่างดังกล่าวอยู่ในท่านอนคว่ำโดยใช้แขนสองข้างยันไว้กับพื้นประมาณห้านาทีเห็นจะได้ จนเธอรู้สึกแปลกใจและเกิดความสงสัยขึ้นมาทันที
“คนอะไรจะนอนนิ่งไม่ไหวติงขนาดนั้นได้นะ จะว่าหลับลึกจนไม่ได้ยินเสียงอะไรเลยก็ไม่น่าจะใช่ แต่ถ้าจะบอกว่านอนหลับไม่รู้เรื่องเพราะเมามากก็ว่าไปอย่าง แต่ภายในห้องนี้ไม่มีกลิ่นเหล้าเลยนะ หลับอะไรของเขาจนไม่รู้เรื่องอะไรขนาดนี้เนี่ย” นักร้องดังบ่นพึมพำพลางยันตัวลุกขึ้นจากพื้นมายืนเคว้งคว้างอยู่กลางห้อง
“จะเอาอย่างไงดี! จะแอบออกไปเลยทำเหมือนไม่มีอะไรเกิดขึ้นจากไปแบบเนียนๆ หรือจะไปปลุกเธอดีนะ” นักร้องสาวยืนพึมพำพลางครุ่นคิดเพื่อตัดสินใจ
“แต่ถ้าผู้หญิงคนนั้นไม่ได้นอนหลับหรือเมาจนไม่รู้เรื่องละ” หยางเฟยอี้บ่นขึ้นมาอีกพลางใช้ความคิด
“ถ้าเธอป่วยแล้วเกิดหมดสติก็เลยทำให้ไม่ได้ยินหรือรู้เรื่องอะไรที่เกิดขึ้นในห้องนี้ อาการแบบนี้พอจะมีเหตุผลอยู่บ้างนะ” หญิงสาวเอ่ยออกมาตามความคิดของเธอก่อนจะเบิกตากว้างเมื่อสะดุดกับคำพูดของตัวเอง
“จริงสิ! เธออาจจะป่วยก็ได้ถึงไม่ได้ยินเสียงอะไรเลยไม่ได้การแล้ว!!!” นักร้องสาวกล่าวพร้อมรีบวิ่งอ้าวตรงไปที่สระน้ำตรงหน้าอย่างรวดเร็ว
ทันทีที่วิ่งมาถึงหยางเฟยอี้รีบนั่งคุกเข่าลงพลางเอื้อมมือหมายไปเขย่าร่างเปลือยที่โผล่มาเฉพาะช่วงเนินอกเท่านั้น เพื่อปลุกให้ตื่นจากการหลับใหลและตรวจดูว่าเป็นอะไรกันแน่
“คุณค่ะ! เป็นอะไรหรือเปล่า! คะ...” นักร้องสาวชื่อดังส่งเสียงร้องเรียกได้เพียงแค่นั้นกลับต้องเงียบงัน เมื่อมือของเธอสัมผัสได้ถึงความเย็นจากร่างของหญิงสาวตรงหน้าที่เย็นเฉียบราวกับคนตายก็ว่าได้
พรืดดด!!! หยางเฟยอี้รีบชักมือกลับมาทันทีเมื่อสัมผัสถูกร่างตรงหน้า
“ตัวเย็นเฉียบเสียขนาดนี้ ทั้งๆ ที่กำลังนอนแช่น้ำร้อนเป็นไปไม่ได้แน่นอน ต้องมีบางอย่างเกิดขึ้นแน่” นักร้องสาวคนดังกล่าวพึมพำพลางมองไปที่ใบหน้าที่ถูกผ้าผืนน้อยปกคลุมเอาไว้อยู่ด้านบน
ความรู้สึกบางอย่างทำให้ยื่นมือไปข้างหน้าเพื่อดึงผ้าผืนดังกล่าวออกจากร่างที่กำลังนอนแน่นิ่งไม่ไหวติงอยู่ในขณะนี้
“เอาผ้าที่ปิดใบหน้าออกก่อนดีกว่า หวังว่าคงไม่ใช่อย่างที่คิดเอาไว้หรอกนะ สมัยโบราณคนที่มีไอเย็นอยู่ในกายมีเยอะแยะไปเนอะถิงถิง” นักร้องคนดังพูดปลอบใจตัวเองพร้อมเอื้อมมือดึงผ้าผืนน้อยออกมาอย่างรวดเร็ว
พรืดดด!!! ผ้าสีขาวบางเบาถูกดึงออกมาทันใดจากปลายนิ้วของหยางเฟยอี้
ในขณะที่ร่างอรชรของนักร้องชื่อก้องถึงกับนั่งอยู่กับที่ในท่าเดิม เมื่อเห็นใบหน้าของหญิงสาวปริศนาตรงหน้ามีสภาพที่ทำให้ทุกคนต่างต้องพากันเบือนหน้านี้ไปทางอื่น ด้วยเธอมีใบหน้าที่ผิดรูปและเต็มไปด้วยตุ่มฝีหนองผุพอง คล้ายป่วยด้วยโรคอะไรบางอย่างและที่สำคัญร่างที่อยู่ในสระนั้นกำลังค่อยๆ แหงนหน้าขึ้นมามองหยางเฟยอี้อยู่ในขณะนี้
ริมฝีปากที่ห้อยย้อยลงมาและขยายใหญ่เพราะสาเหตุอะไรก็ไม่อาจรู้ได้ ส่งยิ้มแย้มเยือนให้แก่เธอ ดวงตาที่มองลอดออกมาซึ่งเหลือเพียงข้างเดียวเท่านั้น ส่วนอีกข้างเป็นฝ้าขาวจนทำให้บอดสนิทมองตรงมาที่นักร้องสาวคนดัง ดวงตาเปล่งประกายด้วยความดีใจอย่างเห็นได้ชัด
“ในที่สุดเจ้าก็มาเสียทีถิงเอ๋อ! ข้ารอเจ้ามานานแล้ว รอมานานเหลือเกิน” สิ้นเสียงดังกล่าว
ร่างตรงหน้าค่อยๆ หลอมละลายไปต่อหน้าต่อตาของอีกฝ่าย ใบหน้ายุบตัวลงอย่างรวดเร็ว ท่ามกลางอาการตื่นตกใจอย่างสุดขีดของหยางเฟยอี้ที่ได้เห็นภาพดังกล่าวตรงหน้า
“ร่างคน! กำลังละลาย! ละ...ละ...ละลาย!” นักร้องคนดังพูดตะกุกตะกัก
เพียงครู่ดวงตาคู่สวยมีอันต้องเบิกกว้างด้วยความตกใจสุดขีดขึ้นมาอีกครั้ง เมื่อใบหน้าที่กำลังหลอมละลายหายไปครึ่งซีกแล้ว แทนที่จะตายกลับสามารถยกมือตรงเข้ากระชากปกคอเสื้อเชิ้ตของนักร้องดังให้เข้ามาแนบชิดใบหน้าที่กำลังละลายอยู่ในขณะนั้น โดยที่เธอไม่ทันได้ตั้งตัวแม้แต่น้อย
“จวนเดียวดาย! จวน...เดียว...ดาย...” ร่างนั้นบอกชื่อสถานที่ทิ้งไว้กับหยางเฟยอี้ท่ามกลางอาการตื่นตกใจสุดขีดของนักร้องสาวคนดัง
กรี๊ดดดด!!! หยางเฟยอี้กรีดร้องออกมาจนสุดเสียงด้วยความตกใจสุดขีดกับเหตุการณ์ที่กำลังเกิดขึ้นอยู่ตรงหน้าเธอ