เมื่อเสี่ยวชิงตื่นขึ้นมานางพบว่าตัวเองนอนอยู่บนเตียงเล็กๆ
ในห้องนี้มีผนังเป็นหยกสีขาวมันแพะราคาแพง มีช่องหน้าต่างบานใหญ่มองเห็นเมฆสีขาวคล้ายสำลี หญิงสาวนอนอยู่บนเตียงหยกขาวห่มผ้าห่มอุ่นๆ ด้วยความรู้สึกผ่อนคลาย นางคิดว่าตนเองไม่เคยนอนบนเตียงที่สบายเช่นนี้มาก่อน
เสี่ยวชิงโล่งใจดูเหมือนว่านางจะยังไม่ถูกฆ่าตาย มังกรตนนั้นไม่ได้โหดร้ายอย่างที่คิด หญิงสาวลุกขึ้นจากเตียงอย่างลังเลใจ นางเหยียบไปบนพื้นด้วยเท้าเปล่า บนร่างกายมีเสื้อคลุมสีขาวตัวใหญ่ห่อหุ้มอยู่ ตัวเสื้อมีกลิ่นของไม้สนและหมึกเขียนหนังสือลอยออกมาจางๆ
เนื่องจากเสื้อคลุมตัวใหญ่จึงทำให้คอเสื้อกว้างมาก มันจึงเลื่อนหลุดจนเผยให้เห็นไหล่ข้างหนึ่งของนาง
เสี่ยวชิงเพิ่งได้กลายร่างเป็นมนุษย์ นางไม่คุ้นเคยกับการสวมเสื้อผ้า ดังนั้นหญิงสาวจึงไม่สนใจที่จะดึงเสื้อขึ้นมาปกปิดไหล่ของตนเอง นางมองไปรอบๆ ห้อง และเห็นวัตถุกลมใสแปลกตาชิ้นหนึ่งลอยอยู่บริเวณหน้าต่าง
วัตถุกลมใสชิ้นนั้นมันเปลี่ยนแปลงรูปร่างได้ มันดูใสราวกับกระจกและดูเหมือนว่าจะแตกได้ทุกเวลา
เสี่ยวชิงขยับเข้าไปใกล้ พยายามเอื้อมมือไปแตะมัน แต่ก่อนที่นิ้วของนางจะแตะถูกวัตถุชิ้นนั้นมันก็หดตัวหลีกเลี่ยงราวกับมีชีวิต
"เอ๊ะ…เจ้าคืออะไรกันแน่"
หญิงสาวไม่เคยเห็นวัตถุประหลาดเช่นนี้นางจึงใช้มือไล่จิ้มมันไปทั่วห้อง
แต่อีกด้านหนึ่งของวัตถุประหลาด ม่อเทียนนั่งเงียบ ๆ เฝ้าดูเสี่ยวชิงเป็นเวลานาน
เมื่อคืนเป็นวันพระจันทร์เต็มดวง ภูติผีปีศาจมีพลังแรงกล้ามากเป็นพิเศษ เขาจึงสามารถทำลายผนึกออกจากแม่น้ำขึ้นไปบนบกได้ ชายหนุ่มไปที่หุบเขาแห่งความตายของกลุ่มปีศาจเพื่อขโมยเมล็ดวิญญาณออกมา
กว่าเขาจะมาถึงริมแม่น้ำได้ก็หมดแรง และถูกเจ้าปีศาจงูน้อยตัวนี้จู่โจมด้วยยาบางอย่างจนเขาขาดสติทำเรื่องเช่นนั้นลงไป ชายหนุ่มก็คิดว่านางชั่งใจกล้ายิ่งนัก
แต่ตอนนี้เมื่อเห็นหญิงสาวทำตัวโง่งมอยู่อีกฝั่งของกระจก เขานวดคลึงหัวคิ้วด้วยความเครียด
มีบันทึกในหนังสือโบราณว่าแม้ว่าเมล็ดวิญญาณจะสามารถดูดซับแก่นแท้ของดวงอาทิตย์และดวงจันทร์มันสามารถเพิ่มพลังวิญญาณให้กับเทพหรือปีศาจได้ เขาจึงขโมยมันมาเพราะร่างเทพมังกรที่ถูกผนึกมานับหมื่นปีนี้ค่อนข้างอ่อนแอ
แต่เนื่องจากเมื่อคืนนี้เป็นเหตุสุดวิสัยเมล็ดวิญญาณที่เขาขโมยมานั้นมันได้เชื่อมต่อวิญญาณของเขากับนางเข้าด้วยกัน ตอนนี้เขาและนางเหมือนจะกลายเป็นคนเดียวกัน พวกเขาทั้งคู่จะได้รับความรู้สึกเจ็บปวดทางร่างกายเหมือนกัน
วิธีเดียวที่จะทำลายการเชื่อมต่อนี้คือการแลกเปลี่ยนหยินและหยางซึ่งกันและกัน
ก่อนที่เขาจะถูกผนึก ม่อเทียนคือบุรุษเผ่ามังกรที่รักษาตนเองประดุกหยกไม่เคยใกล้ชิดกับสตรี เมื่อคืนนี้เขาได้มอบหยางบริสุทธิ์ให้กับปีศาจงูน้อยนางนั้นเป็นครั้งแรก...
ม่อเทียนครุ่นคิดอยู่ครู่หนึ่ง จากนั้นก็ยกมือขึ้น บริเวณข้อมือปรากฏกำไลสีทองที่ตรงกลางมีระฆังส่งเสียงดังกรุ๊งกริ๊งออกมา
เขาไม่อยากที่จะร่วมรักกับนางอีก และจะลองใช้ของวิเศษชิ้นนี้ในการแลกหยินและหยางกับนาง
เมื่อม่อเทียนผลักประตูเข้าไป เสี่ยวชิงยังคงวิ่งไล่จิ้มวัตถุประหลาดอยู่ในห้องโดยที่ไม่สนใจเสื้อที่ห้อยตกลงมาจนเกือบเห็นเนินอก
แต่เมื่อนางได้ยินเสียงเคลื่อนไหวที่ประตู นางก็หยุดวิ่งแล้วหันไปเผชิญหน้ากับชายหนุ่ม หญิงสาวดูท่าทางกระวนกระวาย ดวงตามองเขาด้วยความหวาดกลัว
"เจ้า...ชื่ออะไร" ม่อเทียนลังเลอยู่ครู่หนึ่ง แต่ชิงพูดขึ้นก่อน
"ข้าชื่อ…เสี่ยวชิง" หญิงสาวรีบตอบแล้วก็ก้มหน้าลงไปอีกครั้ง
ชายหนุ่มจึงถามต่อ "เจ้าเป็นปีศาจงูเช่นนั้นรึ"
เสี่ยวชิงพยักหน้าโดยไม่พูดอะไรอีก
"เจ้ารู้ไหมว่าเมื่อคืนเจ้าทำอะไรกับข้าที่ริมแม่น้ำ"
เสี่ยวชิงไม่พูดแต่พยักหน้าแทน
ม่อเทียนขมวดคิ้วและถามต่อ "เจ้ารู้หรือไม่ว่าด้วยพลังบำเพ็ญของเจ้า เมื่อทำเรื่องเช่นนั้นจะทำให้ดวงวิญญาณอ่อนแอลง"
เมื่อเห็นหญิงสาวมีสีหน้าหวาดกลัวมากขึ้นเรื่อยๆ เขาก็พูดขึ้นอีกครั้ง "สามดวงจิตเจ็ดวิญญาณของเจ้า ดูเหมือนว่าตอนนี้จะขาดไปหนึ่งดวง อายุขัยของเจ้าใกล้จะสิ้นสุดลงแล้ว"
"ที่ท่านพูดหมายความว่า…" เสี่ยวชิง ตื่นตระหนกและเริ่มร้องไห้ขึ้นมาทันที "ข้ากำลังจะตายเช่นนั้นรึ!" หญิงสาวไม่คิดเลยเพียงแค่อยากลองวิชาดูดหยางเท่านั้นนางจะต้องตายเชียวหรือ!
"ไม่ใช่ว่าจะไม่มีหนทางนำวิญญาณกลับคืนมา..." เขาจงใจหยุดชั่วคราว รอให้เสี่ยวชิง ถามเขา แต่อย่างไรก็ตามเสี่ยวชิงยังคงคร่ำครวญร้องไห้โดยไม่ได้สนใจเขาเลย
ชายหนุ่มจึงทำได้เพียงพูดเองโดยไม่ต้องรอให้นางถาม "วิญญาณที่หายไปสามารถเอากลับคืนมาได้"
"หือ" ในที่สุดเสี่ยวชิง ก็หยุดร้องไห้เงยหน้าขึ้นด้วยดวงตากลมโตที่ชุ่มน้ำเอ่ยถามด้วยจมูกแดงๆ "ข้าจะเอามันกลับมาได้อย่างไร"
"วิธีแรกฆ่าข้า จากนั้นดึงจิตวิญญาณของเจ้าออกไป" ม่อเทียนมองหน้าหญิงสาวและถามอย่างเป็นกันเอง "เจ้าคิดว่าจะเอาชนะข้าได้ไหม"
เสี่ยวชิงมองเขาแล้วส่ายหัว นางถามขึ้นมาอย่างช้าๆ "แล้ววิธีที่สองล่ะ"
"พวกเราต้องแลกเปลี่ยนหยินหยางกัน"