บทที่1
ปิ๊พี่เป้ย
หมู่บ้านโคกสะอาดตา
จักรยานเสือหมอบคู่กายนักเรียนหนุ่มมีนามว่า ปริญญ์ ปรัชญา อัครรุ่งเรือง ลูกชายเพียงคนเดียวของนายแพทย์ ปรเมศวร์ อัครรุ่งเรือง อาจารย์แพทย์ด้านสมองอีกทั้งยังพ่วงตำแหน่งผู้อำนวยการโรงพยาบาลบ้านโค้กอีกด้วย
เอี๊ยดดด
"พ่อครับแม่มาเหรอครับ" ปริญญ์เอ่ยถามขณะเดินเข้าบ้านวันนี้เป็นวันที่เขาดีใจและมีความสุขที่สุดในชีวิตเพราะเขามาพร้อมกับผลสอบเร็วๆนี้เขาจะได้เป็นนักศึกษาแพทย์ตามความฝันของพ่อกับแม่แล้ว
"ลูกชายยยย" ปรีชญาอ้าแขนรับลูกชาย เธอเป็นอาจารย์แพทย์อยู่โรงพยาบาลเอกชนที่กรุงเทพฯ ทำให้ต้องแยกกันอยู่นาน ๆ ทีถึงจะกลับมาหาลูกแต่ปริญญ์ก็ไม่ได้รู้สึกขาดอะไรเพราะเข้าใจว่าทั้งสองมีหน้าที่ต้องทำ
"ทำไมแม่มาไม่โทรบอกผมเลย พ่อครับแม่ครับผมมีข่าวดีมาบอกด้วย" ปริญญ์หยิบไอแพดขึ้นมาจากกระเป๋าเขากำลังเปิดเครื่องจนหน้าจอเผยให้เห็นรูปครอบครัว คนมีความสุขยิ้มหน้าบานแต่ทุกอย่างก็ดับวูบไปเมื่อแม่ของเขาพูดประโยคบางอย่างออกมา
"ปริญญ์ครับ พ่อกับแม่หย่ากันแล้วนะ ปริญญ์เตรียมตัวไปอยู่กับแม่ที่กรุงเทพฯ นะลูกจากนี้ไปแม่จะเป็นคนดูแลปริญญ์เอง"
หย่า?
ทำไม?
เพราะอะไร?
คำถามในหัวผุดขึ้นมาไม่หยุดแต่กลับพูดออกมาไม่ได้ ข่าวดีของเขาเหมือนไม่มีความหมายเมื่อเขาขอตัวออกมาเดินเล่นงานวัดให้สบายใจ เขาพยายามที่จะเข้าใจพ่อกับแม่แล้วแต่ก็ยังหาคำตอบให้ตัวเองไม่ได้ที่ผ่านมาพ่อกับแม่ก็ดูรักกันดี
"เฮ้ยไอ้ปริญญ์มึงเห็นพี่เป้ยยัง" เพื่อนแถวบ้านตะโกนถามจากที่เครียดสมองก็โปร่งขึ้นมาทันที
"พี่เป้ย! พี่เป้ยมาจริงเหรอวะไอ้จ้อย"
ปริญญ์รีบเดินตรงไปยังบ้านผู้ใหญ่ใคร ๆ ก็รู้ว่าพี่เป้ยเป็นผู้หญิงที่สวยมาก สวยที่สุดในหมู่บ้าน ยังไม่ทันที่ปริญญ์จะโผล่หน้าเข้าไปสาวสวยผมยาวก็เดินออกมาพร้อมผู้ชายคนหนึ่ง เขาจำได้ดีไอ้เวรนี่มันจ้องจะสอยพี่เป้ยคนสวยมาตั้งนานแล้วคนเฝ้ารอรีบกระโดดเข้าพุ่มไม้เมื่อทั้งสองเดินจับมือถือแขนกันออกมาดูท่าน่าจะไปงานวัดและเขาคงจะอยู่เฉยๆ ไม่ได้
"มึงนี่เองไอ้ขี้เหร่ หลานอบต.บ้านซอยเล็กน้อย เดี๋ยวมึงเจอกู!"
ปริญญ์ใช้วิชาตัวเบาสะกดรอยตามพี่สาวคนสวยจนมาถึงงานวัดเขาเห็นทั้งสองเดินจู๋จี๋กันไปยังบ้านผีสิงนี่แหละที่ปริญญ์รอคอยเขาจะเล่นงานให้หัวโกร๋นเลย
"บัตรเข้าเท่าไหร่ครับป้า"
"20 แต่หน้าตาดีแบบนี้เข้าไปเลยป้าให้ฟรี"
"เกิดเป็นคนหล่อนี่ทำใจลำบากว่ะ ว่าแต่ไอ้ขี้เหร่คนเมื่อกี้ป้าคิดเงินป่ะ"
"ไม่คิดหล่อเหมือนกัน"
"ชิ!"
เพียงแค่ก้าวเข้าขาทั้งสองข้างก็รู้สึกหนักอื้อเขาไม่ได้กลัวผีไม่กลัวเลยสักนิดว่าที่นายแพทย์ปริญญ์จะมากลัวผีได้ยังไงกัน เขากวาดสายตามองไปรอบ ๆ แต่พี่สาวคนสวยหายไปไหนแล้วก็ไม่รู้
กรี๊ดดดด
"พี่เป้ย!!" คนเป็นสุภาพบุรุษได้ยินเสียงผู้หญิงกรีดร้องด้วยความกลัวเขาก็รีบวิ่งเข้าไปไม่สนใจอุปสรรคทั้งหลายทั้งผีกะ ผีเปรต ผีกระสือ ผีปอบและผี...จับหัว "เหี้ย! บ้านผีสิงมึงก็ไม่เว้นกันเลยนะ!"
ปริญญ์ส่ายหน้าเมื่อเห็นเด็กวัยรุ่นกำลังพลอดรักกันในบ้านผีสิงเขามองหาพี่สาวคนสวยจนเห็นไอ้ขี้เหร่แห่งบ้านซอยเล็กน้อยกำลังปลอบใจเธอด้วยการกอด สร้างความเจ็บปวดในทรวงอกราวกับถูกมีดกรีดเข้ากลางใจ
การกอดปลอบใจกันแบบนี้ทำให้เขาห่วงนึกถึงเรื่องราวในอดีตที่ผ่านมาตอนเด็ก ๆ เขาน่าจะอายุประมาณ3-4ขวบ เขาชอบไปเล่นบ้านของพี่เป้ยเพราะพ่อกับแม่ของเขาจ้างแม่ของเธอเลี้ยงดูเวลาพวกท่านเข้าเวรที่โรงพยาบาล
'ปริญญ์เรามาเล่นคุณหมอกันไหม พี่จะเป็นหมอเอง เดี๋ยวพี่ทำคลอดให้นะ"
'ผมเป็นผู้ชายนะ' เด็กน้อยท้วงเขาท้องไม่ได้
'งั้นพี่ท้องเอง เดี๋ยวพี่ถอดกางเกงในแป๊บจะได้สมจริง'
และนั่นก็คือภาพจำของเขากับเธอ ปิ๊สีชมพู
"ไอ้ขี้เหร่มึงไม่ทันกูหรอกกูเห็นปิ๊พี่เป้ยก่อนมึงอีก ไอ้ควายเอ๊ย!!"
แฮร่!!!!
"เหี้ยยยย!!!" เขาไม่ทันระวังตัวจู่ ๆ ผีกระหังก็กระโดดโผล่พรวดออกมาคนไม่กลัวผีหัวใจจะวายท้องหัวฟาดพื้นสลบน็อกไป
หลังจากวันนั้นเขาก็ไม่ได้เจอกับพี่เป้ยคนสวยอีกเลยจนกระทั่งเขาถูกส่งตัวมาอยู่กับแม่ที่กรุงเทพฯ เขากับแม่ไม่ได้สนิทกันเหมือนที่เขาสนิทกับพ่อคงเป็นเพราะความคุ้นเคยที่แม่ต้องย้ายมาอยู่กรุงเทพฯ ตั้งแต่เขาอยู่ปฐมวัย ความกดดันของเขาคือการที่แม่คาดหวังอะไรหลาย ๆ อย่างต้องเป็นหมอเฉพาะทางต้องเรียนต่อให้จบดอกเตอร์ต้องคว้าเกียรตินิยมมาให้ได้
ในเมื่อทุกคนคาดหวังโดยที่ไม่ถามถึงสภาพจิตใจของเขาเลยสักนิดพ่อกับแม่เลิกกันด้วยสาเหตุอะไรก็ไม่ยอมบอก เขาก็จะเดินตามความต้องการของเขาเหมือนกัน
"แม่ครับผมอยากแยกไปอยู่คอนโด ผมต้องการสมาธิ" ปริญญ์หันไปมองผู้เป็นแม่ขณะขับรถกลับบ้านด้วยกัน
"ก็ได้ครับ เดี๋ยวแม่จัดการให้แม่มีคอนโดเปล่าอยู่ซื้อต่อเพื่อนไว้ว่าจะปล่อยเช่าแต่ถ้าลูกอยากได้ที่สงบ ๆ ไว้อ่านหนังสือแม่จะยกให้ลูก"
"ขอบคุณครับ"
กลับมาถึงบ้านปริญญ์นั่งมองหนังสือที่เขาวางเอาไว้จากนั้นก็หยิบมันขึ้นมารองเมาส์เพื่อเล่นเกมออนไลน์ต่อ หนังสือที่เขาเคยอ่านตอนนี้กลับไม่มีค่าอะไรเลย
วันต่อมา
ปริญญ์นั่งรถมามหาวิทยาลัยเขาเดินมาถึงตึกคณะแพทยศาสตร์แต่ไม่ได้คิดที่จะเข้าไปเพราะเขานัดเพื่อนในเกมเอาไว้ว่าจะมาสมัครเรียนวิศวะด้วยกัน ยืนรอไม่ถึง10นาที เด็กหนุ่มหน้าตาดีก็เดินเข้ามาทักแม้จะรู้จักกันผ่านเกมออนไลน์แต่เขาก็รู้จักกันมานานหลายปีแล้ว
"ไปโว้ย สาว ๆ รออยู่"
"ไอ้สมุทรมึงกับกูนี่หน้าโคตรอ้อนตีนเลย เข้าไปตึกวิศวะจะโดนไหมวะ" ปริญญ์ทำสีหน้าชั่งใจดูสภาพเขากับเพื่อนสิ
"มึงคิดว่าจะรอดเหรอวะหน้ามึงกับกูอยู่รอดยันรับปริญญาก็บุญแล้วฮะๆๆ"
---------------------------
พ่อคนไม่กลัวผี พ่อหล่อวอดวาย หล่อจนไม่มีที่ติ
ฝากคอมเมนต์ด้วยเดี๋ยวดึกๆมาต่อ
กดหัวใจ เพิ่มเข้าชั้น เพื่อเป็นกำลังใจให้ไรท์บ้างนะคะ