บทที่8
ได้อยู่กับพี่เป้ย
วันต่อมา
ปริญญ์ตื่นแต่เช้าเพื่อไปตลาดเขารีบเดินตรงไปยังร้านขายปลาสวยงามสายตามองกวาดไปทั่วทั้งร้านจนมาหยุดอยู่ที่ปลาทองคู่หนึ่ง
"อันนี้เป็นพันธุ์ฮอลันดายักษ์ค่ะคู่นี้ 1,500 บาทนะคะ"
"1,500 บาทนี้ทำอะไรได้บ้างครับ-_-!" แพงฉิบหายตัวละสิบบาทไม่มีหรือไง
"คุณน้องหมายความว่ายังไงคะ?" แม่ค้าสาวทำหน้าไม่เข้าใจ
"ไม่มีอะไรครับคู่นี้ตัวผู้ตัวเมียเลยใช่ไหมครับพี่"
"ใช่แล้วค่ะคู่นี้ราคาแพงแต่สีสวยหุ่นดีสามารถนำไปเลี้ยงเป็นพ่อพันธุ์แม่พันธุ์ได้เลยปลาแข็งแรงไม่มีโรคค่ะ"
"งั้นผมเอาคู่นี้ก็ได้ครับ พี่ครับแถมตัวเล็กให้ผมหน่อยได้ไหมผมอยากได้ไปเลี้ยงเหมือนพ่อแม่ลูก -_-!"
"ได้ค่ะเดี๋ยวพี่แถมให้น้องเลือกเลยอยากได้ตัวไหน^^"
สุดท้ายปริญญ์ก็ได้ปลาตัวอ้วนปุ้มปุ้ยกลับมาถึง 3 ตัวเขาขับบิ๊กไบค์ประคองถุงปลาขนาดใหญ่มาจอดอยู่ที่หน้าบ้านของพี่เป้ยคนสวยเด็กน้อยตัวกลมรีบเดินมาเปิดประตูแต่พอเห็นถุงปลาขนาดใหญ่เธอก็ยิ้มกรุ้มกริ่มทันทีนี่แหละที่เธอรอคอยปลาอ้วนปุ้มปุ้ยสุดแสนน่ารัก
"เด็กวัดเอาปลามานี่เดี๋ยวปุ้มปุ้ยเอาไปลอยน้ำก่อน"
เป้ยเดินออกมาดูทั้งสองช่วยกันเอาปลาออกจากถุง ปริญญ์คงถามวิธีการเลี้ยงกับคนขายมาบ้างแล้วแม้จะดูขัดหูขัดตาแต่ก็ทำทุกอย่างออกมาดี
"ปลาตัวนี้ตัวใหญ่มาก แม่คะ แม่ขาดูสิปลาตัวใหญ่ ใหญ่กว่าที่ปู่เมศซื้อให้อีกค่ะ"
"ทำไมถึงเรียกพ่อผมว่าปู่อะพี่แล้วพ่อผมมาเกี่ยวอะไรด้วย"
"พ่อนายอยู่คนเดียวท่านก็คงเหงาเลยชอบมาเล่นกับปุ้มปุ้ยแล้วทำไมนายถึงมาอยู่วัดล่ะได้ข่าวว่าแม่นายทำงานอยู่ในสภาแล้วไม่ใช่หรือไง"
"ตอนช่วงที่พี่หายไปผมก็ค่อนข้างเกเรมีเรื่องต่อยตีทุกวันหนักสุดก็ตอนติดคุกแม่เลยไปประกันผมออกมาแต่ว่าพ่อพาผมมาอยู่กับหลวงตาท่านอยากให้ผมใช้ธรรมะขัดเกลาจิตใจเผื่อจะเป็นคนใจเย็นบ้าง"
"ตอนนี้ใกล้เรียนจบหรือยัง"
"ใกล้แล้วล่ะอีกปีเดียวก็จบแล้วว่าแต่พี่เถอะเป็นยังไงบ้างผมเป็นห่วงแล้วก็คิดถึงพี่ตลอดเลย"
"จะมาคิดถึงฉันทำไมเราไม่ได้เป็นอะไรกันสักหน่อยเรื่องคืนนั้นมันก็จบกันตั้งแต่วันนั้นแล้ว"
"ช่างเถอะผมก็พูดไปเรื่อยเปื่อย"
ปริญญ์รู้ตัวอีกทีปุ้มปุ้ยก็นั่งบนตักของเขาสายตามองเจ้าปลาตัวใหญ่ สองตัวและปลาตัวเล็กหนึ่งตัวแหวกว่ายอยู่ในอ่างปลาที่เธอกับแม่เตรียมเอาไว้ เจ้าปลาสามตัวได้ออกซิเจนก็ต่างแหวกว่ายสนุกสนานเหมือนพ่อแม่ลูก
"ผมรู้สึกถูกชะตากับลูกพี่ยังไงก็ไม่รู้ ถ้าวันไหนพี่ไปทำงานเอามาฝากให้ผมเลี้ยงก็ได้นะ"
"เลี้ยงตัวเองให้รอดก่อนเถอะอย่ามายุ่งกับลูกฉัน งานฉันไม่ได้ยุ่งขนาดนั้นทำที่บ้านก็ได้-_-!"
"แต่ผมอยากช่วยพี่เลี้ยงลูกนี่ ปุ้มปุ้ยครับหลังจากนี้ให้พี่มาเล่นที่บ้านได้ไหมนะๆ เดี๋ยววันไหนพี่ไปตลาดเจอปลาสวยๆ พี่จะซื้อมาให้อีก"
"นี่ปุ้มปุ้ยนะ ปุ้มปุ้ยอยากได้ปลาตัวสีดำค่ะ"
"โอเคเดี๋ยวรอบหน้าพี่ซื้อมาฝาก"
เป้ยเองก็พูดไม่ออกที่ทั้งสองเข้ากันได้คงเป็นเพราะความสัมพันธ์พ่อลูก เธอไม่รู้จะบอกเรื่องนี้กับปริญญ์ดีไหมว่าแท้จริงแล้วปุ้มปุ้ยคือลูกสาวของเขาแต่พอมาคิดอีกทีอะไรๆ มันก็ไม่แน่นอนถ้าเกิดปริญญ์ไม่มีความพร้อมที่จะเป็นพ่อสู้ปล่อยให้ทุกอย่างมันเป็นแบบนี้และรอคอยเพียงกาลเวลาที่เขาจะได้รับรู้ความจริงเสียดีกว่า
วันนี้ทั้งวันปริญญ์ใช้เวลาทุกวินาทีอยู่ในบ้านของเป้ยเขากลายเป็นเพื่อนสนิทของปุ้มปุ้ยไปแล้วรายนั้นมีเพื่อนก็ต่างดี๊ด๊าดีใจขนของเล่นสุดหวงของตนเองมาให้ปริญญ์เล่นด้วย
"พี่จะไม่บอกผมจริงๆ ใช่ไหมว่าใครคือพ่อของปุ้มปุ้ย"
"ฉันไม่อยากพูดถึงบางครั้งฉันก็รู้สึกว่าฉันอยู่กับลูกฉันมีความสุขดีแล้ว"
"งั้นก็แล้วแต่พี่ผมจะไม่ถามเรื่องนี้อีก"แต่เขาจะสืบเรื่องนี้เองถ้าเขารู้ว่าใครเป็นพ่อเขาจะพาพวกไปกระทืบให้จมตีนเอาให้ไม่ได้ผุดไม่ได้เกิดอีกเลย
"มื้อเย็นเสร็จแล้วนายจะอยู่กินด้วยกันไหม"
"ผมอยู่นอนที่นี่ก็ได้นะ^^"
"ฝันไปเถอะกลับวัดไปได้แล้วไป-_-!"
"อะไรอ่ะขอกินข้าวก่อนได้ป่ะหมดตังค์แล้วเนี่ยซื้อปลาให้ปุ้มปุ้ยไปตั้ง 1,500 บาท" คนหิวข้าวทำเสียงออดอ้อนแต่สาวเป้ยตกใจในราคาปลาที่ปริญญ์บอกจนของในมือร่วงลงพื้นโชคดีที่ไม่แตก
"ไหนว่าไงนะ 1,500 เลยเหรอ!!"
"ก็ใช่น่ะสิตั้ง 1,500 บาท เล่นเอาผมหน้ามืดอยู่เนี่ย-_-!"
"คราวหลังไม่ต้องซื้อแบบนี้อีกนะปริญญ์มันแพงเกินไปปุ้มปุ้ยยังไม่มีความรับผิดชอบมากพอถ้าเกิดตายขึ้นมามันน่าเสียดายเงินตั้ง 1,500 บาททำอย่างอื่นได้ตั้งหลายอย่าง"
"รู้แล้วครับเอาแบบนี้เดี๋ยวผมจะมาดูแลปลาสามตัวนี้ทุกวันเลยดีไหมปุ้มปุ้ย"
"ดีค่ะ^^"
หลังจากทานข้าวเสร็จปริญญ์ก็รีบขับรถกลับมาวัดด้วยความอิ่มอกอิ่มใจวันนี้เขาได้อยู่กับพี่สาวคนสวยทั้งวันอนาคตคงได้อยู่ด้วยกันทั้งวันทั้งคืนที่สำคัญปุ้มปุ้ยก็เปิดใจให้เขาบ้างแล้วด้วย คงไม่ใช่เรื่องยากถ้าเขาจะเข้าไปเป็นสมาชิกในครอบครัวอีกสักคน
----------------------------
เข้าทางไอ้หมาวัดเลยสิ