ตอนที่ 1 เมืองริมโขง
ตอนที่ 1 เมืองริมโขง
ริมโขง
**… จังหวัดหนองคาย**
จังหวัดหนองคายเมืองชายแดนริมฝั่งแม่น้ำโขงนับเป็นประตูสู่เมืองเวียงจันทน์เมืองหลวงของสาธารณรัประชาธิไตยประชาชนลาว (สปป.ลาว) โดยมีสะพานมิตรภาพไทย-ลาเชื่อมระหว่างสองประเทศเมืองซึ่งถูกกล่าวขานถึงตำนานบั้งไฟพญานาค อันลึกลับ อีกทั้งยังเคยถูกจัดเป็นเมืองน่าอยู่อันดับเจ็ดของโลกโดยนิตยสาร Modern Maturity ของสหรัฐอเมริกา
โดยพวกเขาอาศัยตัวชี้วัด 12 ตัว คือ สภาพภูมิอากาศ ค่าครองชีพ วัฒนธรรมความเป็นอยู่ ที่อยู่อาศัย สาธารณูปโภคต่างๆ การคมนาคม บริการทางการแพทย์ สภาพแวดล้อม ความปลอดภัย ความมั่นคงทางการเมือง และการเข้าถึงเทคโนโลยี เหตุผลนี้เองกระมังทำให้ ตระกูลวัฒนะศิริโชค เลือกที่จะตั้งถิ่นฐานและประกอบธุรกิจอยู่ที่นี้มาตั้งแต่บรรพบุรุษ กระทั่งตกมาสู่รุ่นของบุตรชายคนเดียวในตระกูล
แสงไฟหลากหลายสีสันของร้านอาหารชื่อดังริมแม่น้ำโขงสาดกระทบผิวน้ำเป็นประกายระยิบระยับ แก้วน้ำเมาสีเหลืองอำพันถูกกระดกเข้าปากหยักหนาที่รกไปด้วยหนวดเครารุงรัง ขณะที่ดวงตาคมกล้าเหม่อมองออกไปยังผิวน้ำเบื้องหน้า คิ้วเข้มดกดำขมวดมุ่นราวกับเจ้าของมันมีเรื่องกำลังรบกวนจิตใจ เวลาดึกสงัดเยี่ยงนี้ยิ่งทำให้แม่น้ำโขงซึ่งเป็นราวปราการธรรมชาติแบ่งกั้นอาณาเขตผืนแผ่นดินสองประเทศไทย - ลาวดูลึกลับน่ากลัวยิ่งขึ้นมากกว่าตำนานที่เคยถูกกล่าวอ้างบอกเล่ากันมาจากรุ่นสู่รุ่น
บุหรี่นอกยี่ห้องดังถูกจุดไฟแดงวาบตามด้วยควันสีขาวขุ่นพวยพุ่งออกไปแล้วสลายไปในอากาศ เมื่อช่วงตอนหัวค่ำร้านอาหารริมโขงเคียงจันทร์แห่งนี้คลาคล่ำไปด้วยผู้คนมากหน้าหลายตา ด้วยเป็นร้านอาหารขึ้นชื่อทั้งรสชาติอาหารและวิวทิวทัศน์ที่สามารถมองไปชมทัศนียภาพยามค่ำคืนยังอีกฝั่งของประเทศเพื่อนบ้าน ยังไม่รวมความสะสวยของเจ้าของร้านซึ่งเป็นที่หมายปองของเหล่าชายหนุ่มนักรักทั้งโสดและไม่โสดทั้งหลาย
“ยังไม่กลับหรือคะคุณอลัน ขอฝ้ายนั่งด้วยคนนะคะ”
น้ำเสียงหวานใสเรียกรอยยิ้มบางๆ จากใบหน้าซึ่งกำลังบึ้งตึงของชายหนุ่ม เขาพยักหน้าเป็นการตอบรับ พลางหันไปมองชายฉกรรจ์ที่มาด้วยกันซึ่งฝ่ายนั้นก็รู้หน้าที่ลุกไปนั่งยังโต๊ะอีกตัวในระยะที่สามารถดูแลความปลอดภัยของเจ้านายได้อย่างทันท่วงที หากมีเหตุไม่คาดฝันเกิดขึ้น
“ว่างแล้วหรอครับคุณดอกฝ้าย”
“ค่ะ ลูกค้าเริ่มซาแล้ว ฝ้ายเลยมีเวลามาตอนรับลูกค้าวีไอพีของร้านได้ซะที”
หญิงสาวส่งยิ้มหวานเจื้อยพลางยืนมือมาวางบนหลังมือของชายหนุ่มเบาๆ อย่างหยอกเย้า
“คุณอลันกำลังมีเรื่องไม่สบายใจหรือเปล่าคะ เอ…หรือว่าเรื่องที่ท่าทรายเมื่อตอนกลางวันคงวุ่นวายน่าดูเลยนะคะ”
ชายหนุ่มเปิดยิ้มกว้างดวงตาเป็นประกาย
“เห็นทีว่าที่พวกชาวบ้านร่ำลือกันคงจะเป็นความจริงซินะครับ ไม่มีอะไรในเมืองนี้จะรอดสายตาของคุณดอกฝ้ายไปได้เลย”
“แหมคุณอลันก็ ฝ้ายจะถือว่าเป็นคำชมแล้วกันนะคะ”
ดอกฝ้ายปิดปากหัวเราะคิกคักราวกับสาวน้อยวัยแรกรุ่น แม้นว่าความจริงหญิงสาวอายุอานามย่างเข้าสู่วัยสามสิบปีแล้วก็ตามหากว่าการดูแลรักษาสุขภาพเป็นอย่างดีของเจ้าตัว
ทำให้หล่อนดูอ่อนวัยกว่าอายุจริงอยู่หลายปีทีเดียว
“ไม่ถึงขนาดนั้นหรอกค่ะ แต่นี่เป็นเรื่องของคุณอลันฝ้ายก็เลยสนใจเป็นพิเศษต่างหากล่ะคะ ว่าแต่เรื่องนี้ทางตำรวจว่ายังไงบ้างคะ”
หญิงสาวสีหน้าดูเคร่งเครียดลง
“ทุกอย่างเรียบร้อยแล้วครับไม่มีอะไรน่าเป็นห่วง แต่ต่อไปผมคงต้องระมัดระวังให้มากกว่านี้”
ชายหนุ่มยกแก้วน้ำเมาขึ้นดื่มจนหมดแก้ว