ตอนที่ 7

1518 Words
7 “เป็นใครล่ะยะถึงได้มาสอดและสั่งสอนฉันน่ะ ปล่อยฉันดีกว่าไอ้คนฉวยโอกาส!” “เป็นคนที่หวังดี อยากเตือนเด็กน้อย ทำอะไรควรใช้สมองคิด ไม่ใช่สักอยากแต่เอาชนะ จนทำให้ตัวเองได้รับความเดือดร้อน รวมถึงคนรอบข้างด้วย” “ใครเดือดเนื้อร้อนใจเรื่องของฉัน มีแต่นายนั่นแหละ นอกจากไม่สนับสนุนแล้วยังขัดขวางทุกทางด้วย สงสัยชาติก่อนเกิดเป็นท่อนไม้ ถึงได้ทำตัวขวางคลองอยู่เรื่อยเชียว” เมื่อผลักเต็มแรงแต่ก็พากายออกจากท่อนแขนแกร่งไม่ได้ นิโกลิน่าเลยเปลี่ยนเป็นหยิบหนังเนื้อหนาๆ และบิดแรงๆ โดยใบหน้าเปื้อนยิ้มหวานๆ “ไม่ได้อยากทำตัวขวางทางใคร แต่เผอิญคนที่เธอเข้าไปพัวพันเขาดันไม่ชอบ ไม่อยากยุ่งเกี่ยวด้วย ฉันเห็นเธอวิ่งไล่ตามจับแล้วก็สงสารและรำคาญ!” เขาเองก็เหนื่อยกับการต้องทำตัวเป็นคนกลางคอยรับหน้าคนโน้นทีคนนี้ที ไม่สนุกหรอกกับการถูกผู้หญิงด่าและลงไม้ลงมือจนน่วมไปทั้งตัว อีกอย่างหัวใจเขาก็ยังมีความรู้สึก ปวดร้าวมิใช่น้อยยามถูกผลักไสขับไล่ “เพราะนายทำตัวเป็นมาร...คอยขัดขวางฉันต่างหากล่ะ คอยดูเถอะกรรมจะต้องตอบสนองเข้าสักวัน ทำตัวเป็นมารขัดขวางความรักของคนอื่น เวลาตัวเองมีรักบ้าง ทีนี้แหละ...” ยิ้มเย้ยหยัน ภาวนาให้มิโอเดรกเจอคนที่ชอบ แล้วถูกขัดขวางจากทุกคนและทุกทาง ทำให้ปวดหัวและปวดร้าว จนต้องย้อนนึกเข้าใจถึงความรู้สึกของเธอในวันนี้! “แต่ฉันว่าไม่นะ ถึงฉันจะไม่หล่อและรวยเท่าไซม่อน แต่อย่างน้อยก็มีเสน่ห์น่าสนใจอยู่มิใช่น้อย และฉันก็เชื่อว่าผู้หญิงคงไม่ตาบอดกันหมด ต้องมีบ้างแหละน่าที่มองเห็นความหล่อเหลาและความดีในตัวฉัน” คนที่เขาต้องการให้เห็นก็เป็นแม่เนื้อนุ่มในอ้อมแขนคนนี้แหละ ไม่รู้เมื่อไหร่เธอจะมองเห็นความรู้สึกดีๆ ที่มอบให้เสียที คนใกล้ตัวมีแต่ความหวังดีให้กลับมองไม่เห็น กลับไปเห็นคนที่เขาไม่แยแสมีค่ามากกว่า แต่จะโทษนิโกลิน่าก็ไม่ได้คงต้องโทษตัวเอง รู้ทั้งรู้เขารังเกียจและรำคาญ แต่ยังเสนอหน้าไปให้ถูกด่าว่าอีก “ผู้หญิงตาบอดนะสิ ถึงได้มารักผู้ชายหลงตัวเองอย่างนาย” แบะกลีบปากและกวาดสายตามองอีกฝ่ายอย่างหยามหยัน ยอมรับหน้าตาของมิโอเดรกก็ใช่ว่าจะขี้ริ้วขี้เหร่ เข้าขั้นหล่อล่ำเต็มไปด้วยเสน่ห์ของชายชาตรีเต็มเปี่ยม แต่เธอเห็นแล้วรู้สึกไม่พอใจเสียมากกว่า ไม่รู้เหมือนกันว่าทำไม แค่เห็นหน้าชายหนุ่ม เธอก็รู้สึกเหมือนกับถูกหยามเกียรติเหยียบหน้ายังไงก็ไม่รู้ “ให้ตายฉันก็ไม่หลงกลนายหรอกย่ะ คิดแอ้มฉันน่ะต้องดูตัวเองเสียก่อน นายไม่อยู่ในสายตาสักนิด ยังมาพูดมากปากดีอีก” อีกฝ่ายนะเจ้าเสน่ห์และเจ้าเล่ห์จนจับไม่ได้ไล่ไม่ทันอยู่ ดังนั้นเธอจึงต้องคอยเตือนตัวเองอยู่ตลอดเวลา อย่าหลงกลเขา มิฉะนั้นน้ำตาจะต้องตกใน คิ้วเข้มเลิกขึ้นสูง ถูกหยามหน้าอย่างนี้ เขาคงอยู่เฉยไม่ได้ “ก็ไม่แน่หรอกนะลีน่า เธออาจเป็นคนที่ตกหลุมรักฉันก็ได้นี่นา” “ฉันไม่โง่หลงรักผู้ชายหลงตัวเองอย่างนายหรอกนะ แล้วนี่...ปล่อยได้แล้ว มากอดไว้ทำไมนี่ อึดอัดจะตายชัก!” อยากใส่อารมณ์มากกว่านี้ แต่สภาพเธอตอนนี้ไม่ควรทำอะไรให้ตัวเองเป็นภัย ด้วยถ้ามิโอเดรกโกรธขึ้นมา เขาไม่ไว้หน้าหากำไร เธอนั่นแหละจะแย่เอา ถึงไม่ชอบหน้าเขาสักเท่าไหร่ แต่ก็มิอาจต้านสัมผัสแห่งปรารถนาอันเร่าร้อนจนกายอ่อนระทวยได้ แทนที่มิโอเดรกจะปล่อย ชายหนุ่มกลับยิ่งกระชับท่อนแขน วางคางแกร่งบนไหล่กว้าง นิ้วยาวไต่บนท่อนแขนกลมกลึงแผ่วเบา จนคนถูกล่วงเกินถึงกับสั่นสะท้านกับสัมผัสบางเบาราวผีเสื้อโบยบินไปดูดน้ำหวานจากดอกไม้ “ทำอะไรนี่ตาบ้า ปล่อยฉันนะคนหน้าไม่อาย” เหลียวหน้ามองไปรอบๆ อย่างกลัวคนอื่นเห็นเข้าและเอาเรื่องนี้ไปบอกเล่าให้ไซม่อนล่วงรู้ จากที่เขาไม่ชอบหน้าเธออยู่แล้วจะกลายเป็นรังเกียจและขยะแขยงจนไม่อยากเข้าใกล้ “อายอะไร เราเคยหอมแก้มกันบ่อยๆ ไม่ใช่หรือไง” ไม่เพียงแค่หอมแก้มแต่เขายังเคยทำมากกว่านั้น วันนี้ก็เสียดายด้วยสถานที่ไม่อำนวย และเขาก็ไม่อยากทำให้นิโกลิน่าต้องอับอายขายหน้าผู้คนด้วย “พูดบ้าๆ นายฉวยโอกาสกับฉันต่างหาก” จมูกโด่งยู่ย่นเล็กน้อย “คิดว่าตัวใหญ่แล้วจะหาเรื่องรังแกกันอย่างกับคนหน้าไม่อายอย่างนี้บ่อยๆ คอยดูนะ วันหนึ่งจะเอาคืนให้เจ็บแสบเชียวล่ะ” ขอให้มีโอกาสสักครั้งเถอะ ที่เธอจะสามารถเอาคืนอีกฝ่ายให้หัวแตกเลือดไหลอาบ แต่...ไม่ดีๆ เปลี่ยนเป็นทำให้อับอายขายหน้าจนไม่กล้าเอาหน้าเห่ยๆ ไปอวดสาวไหนได้อีกจะดีกว่า  ปากหนาคลี่ยิ้ม การปะทะคารมเล็กๆ น้อยๆ เมื่อคืนเขาเลยได้หอมแก้มนุ่ม แต่ก็น่าเสียดาย เพราะมีคนเดินผ่านมาเลยอดชิมรสกลีบปากอิ่มนุ่ม แถมยังถูกฝ่ามือเล็กๆ ประทับบนใบหน้าเสียอีก นิโกลิน่าพยศจัดจริงๆ “มัวแต่เหม่อ ใจลอยไม่อยู่กับเนื้อกับตัว คิดถึงใครอยู่วะเดรก” เอ่ยกระเซ้าเมื่อเห็นเพื่อนรักเงียบเสียงไป “หรือคิดถึงเรื่องที่เอาเปรียบน้องฉันเมื่อคืนอยู่” ไอ้เพื่อนบ้าหูตาเป็นสับปะรดจริงๆ เรื่องอยู่ตั้งไกลก็ยังเสือกรู้อีก มิโอเดรกแบะปาก กลอกสายตาขึ้นมองเพดานห้อง “แกนี่แปลกคนจริงนะไซม่อน แทนที่จะชอบกับการมีผู้หญิงหน้าตาสะสวย รูปร่างอรชรอ้อนแอ้นน่าปรารถนาและมีใจให้มาคลอเคลีย กลับเอาแต่ผลักไสไล่ให้เขาไปไกลๆ เสียได้” รีบพาออกนอกเรื่องก่อนตัวเองจะถูกไอ้เพื่อนจอมแสบรุกให้จนมุม “พูดอย่างนี้...ชอบเขาไม่ใช่หรือ แล้วทำไมถึงไม่บอกให้รู้และจีบเขาออกหน้าออกตาล่ะ” ถ้าเป็นจริง เขาก็ยินดีมิใช่น้อย อย่างหนึ่งคือมิโอเดรกก็เป็นคนดี ไม่แค่ปราบพยศนิโกลิน่าให้อยู่มือ แต่ยังทำให้หญิงสาวมีความสุขได้ อีกทั้งเขาเชื่อสายตาตัวเองมิโอเดรกชอบนิโกลิน่า แต่ติดที่เขาและครอบครัวอยู่กั้นขวางตรงกลาง เลยทำให้เพื่อนยอมปล่อยมือไม่เข้าไปยุ่งเกี่ยวกับฝ่ายหญิง นิ้วยาวใหญ่ยกขึ้นลูบไล้ปลายคางสากระคาย...คงดีไม่ใช่น้อย ถ้าเป็นอย่างที่คิด ด้วยยิงปืนครั้งเดียวได้นกสองตัว...คุ้มเสียยิ่งกว่าคุ้มซะอีกนะนี่ “อย่างฉันไม่มีวาสนาอย่างนั้นหรอก เขาเกลียดขี้หน้าอย่างกับเห็นไส้เดือนกิ้งกือ” อย่าว่าแต่คุยเลย แค่เดินเฉียดผ่านหน้า อีกฝ่ายก็หาเรื่องด่าว่า จนเขาร่ำๆ อยากยื่นมือไปคว้ามาจูบเสียให้หนำใจ แต่ก็คงได้แค่คิดเท่านั้น “แล้วแกน่ะ...พูดแบบนี้ระวังตัวเอาไว้ด้วยละกัน หน้าต่างมีหูประตูมีช่อง ขืนลีน่ารู้เข้ามีหวังแม่อาละวาดจนพังเป็นแถบๆ ฉันขี้เกียจรับศึกช่วยกันยายตัวแสบไปโยนไกลๆ ขณะที่แกหนีหายไปหาผู้หญิงที่สนใจนะโว้ย” กลบเกลื่อนความพอใจด้วยเสียงโวยวาย แต่ไม่สามารถปกปิดความพึงพอใจที่แสดงออกทางใบหน้าและดวงตาได้เลย มือใหญ่ยกขึ้นลูบไล้ต้นคอแกร่ง เมื่อเจอสายตารู้เท่าทันจากเพื่อน แต่ก็จริงนี่นา มิโอเดรกพยายามหาเหตุผลมาอ้างในการคิดเข้าข้างตัวเอง ปากนิโกลิน่าจัดจ้านแต่หวานล้ำ แม้ต้องแลกกับการถูกประทุษร้ายบ้าง แต่ก็คุ้มค่ากับผลที่ได้รับ ใบหน้าเข้มเปื้อนยิ้มแก้มตุ่ย นัยน์ตาวามวาวยามนึกถึงรสชาติปากสีชมพูสดที่ขยับด่าเขาฉอดๆ หวานละมุนติดตรึงปลายลิ้น จนเขาเก็บเอาไปฝันได้หลายคืนเลยเชียว “ชอบเขาก็ลุยเลยสิเดรก” ยุยงอีกครั้งด้วยรู้ใจผู้เป็นเพื่อน ที่ไม่ใช่ไม่กล้า แต่เพราะ... “ไม่ต้องเกรงใจฉัน แกก็รู้ดีนี่หว่า ฉันไม่ได้ชอบลีน่าแบบคนรัก ถ้าหากมีใครสักคนรักและดูแลแกให้มีความสุข ฉันก็ควรยินดีและเปิดโอกาสให้” ที่ไซม่อนถึงกับหงุดหงิด ด้วยสีหน้าเพื่อนรักยังบ่งบอกถึงความลังเลอยู่ 
Free reading for new users
Scan code to download app
Facebookexpand_more
  • author-avatar
    Writer
  • chap_listContents
  • likeADD