2 วันต่อมา…
@The drink mates [17.00 น.]
เสียงเพลงดนตรีสดถูกบรรเลงขึ้นท่ามกลางผู้คนจำนวนหนึ่งที่นั่งอยู่ตามโต๊ะขนาดเล็กภายในร้านที่ตกแต่งด้วยสไตล์โมเดิร์น
ร้านนั่งชิลล์เพื่อดื่มเหล้าแห่งนี้ในเวลานี้ยังมีผู้คนไม่มากนักเนื่องจากยังไม่พบค่ำสักเท่าไร
“ชิลล์!” เสียงแว้ดหูของหญิงสาวคนหนึ่งเอ่ยเรียกเพื่อนทันทีที่มาถึงโต๊ะนั่ง ก่อนที่เธอจะนั่งลงตรงข้ามกับหญิงสาวคนนี้
“ลี่ด้วย” เธอตอบกลับขณะที่มือยังคงเขี่ยน้ำแข็งในแก้วเหล้าเล่น
“แหม ขนาดแกยังไม่เรียกฉันว่าแอนนี่เลย” แอนนี่ตอบกลับทันทีที่เพื่อนเธอให้เรียกชื่อที่ทั้งคู่ต่างสถาปนาขึ้นมาเอง
“เฮ้อ…” ลมหายใจที่ปนกลิ่นแอลกอฮอล์หน่อย ๆ ถูกผ่อนออกมาเมื่อเธอนั่งคิดแต่เรื่องเมื่อสองวันที่แล้ว
“เท้าหายยัง” แอนนี่ก้มลงมองที่ข้อเท้าของเพื่อนเธอพร้อมกับยิ้มออกมาเมื่อเห็นว่ามันหายดีแล้ว
“หายแล้ว แต่ใจยังไม่หาย” ชิลล์เงยหน้ามองใบหน้าเพื่อนรักของเธอ ก่อนที่จะเอ่ยปากถึงเหตุผลที่มานั่งหงอยที่ร้านเหล้าแบบนี้
“แกไม่เคยเป็นแบบนี้” ชิลล์กระตุกยิ้มออกมาบาง ๆ อย่างนึกขันตัวเอง เธอไม่เคยอกหักเลยตลอดชีวิตที่ผ่านมา
“อืม เศร้าว่ะ” หญิงสาวรู้สึกเหมือนมองไปทางไหนก็ไม่สดใสเหมือนแต่ก่อน ความรู้สึกมั่นใจว่ายังไงเขาคนนั้นก็จะชอบเธอถูกพังลงตรงหน้าเพราะคำว่า ไม่เพียงคำเดียว
“เวลาจะช่วยเยียวยาให้แกดีขึ้นนะ มูฟออนจ้า” เพื่อนของเธอก็ยังคงเป็นสาวเฮฮาได้เสมอ ชิลล์ยิ้มออกมาอย่างนึกขันให้กับท่าทางตลกของเพื่อนเธอ
“หรือว่าฉันยังพยายามไม่พอวะ” เธอเอ่ยปากถามออกไปเมื่อคิดได้ว่าเธอไม่ควรยอมแพ้ไวขนาดนี้
“พยายามคนเดียวมันไม่เรียกว่าความรักหรอกนะ มีผู้ชายนับร้อยที่แกสามารถชี้นิ้วเลือกได้เลย ทำไมแกไม่เลือกวะ” แอนนี่เอ่ยปากถามถึงความสงสัยที่เธอสงสัยมานาน ทำไมเพื่อนของเธอถึงไม่ยอมมีแฟนกับเขาสักที
“เพราะฉันไม่ได้ชอบเขา”
“แล้วคนที่แกชอบเขาชอบแกเหรอวะ” ชิลล์ถึงกับหยุดนิ่งเมื่อได้ยินประโยคแทงใจดำ เธอถอนหายใจออกมาอีกครั้งก่อนจะยกแก้วเหล้าขึ้นดื่ม
“จะมืดแล้วนะ กลับกัน” นานพอสมควรที่ทั้งคู่นั่งคุยกันจนเวลาล่วงเลยใกล้เข้าสู่ความมืด หญิงสาวหันหน้าไปมองกระจกก่อนจะหันกลับมาเมื่อพบว่ามันใกล้มืดแล้วจริง ๆ
“แกกลับก่อนก็ได้ เดี๋ยวโทรบอกพี่ฉันมารับ” ชิลล์เอ่ยปากบอกเพื่อนของเธอเมื่อรู้มาก่อนหน้านี้ว่าเพื่อนเธอมีธุระต่อ
“งั้นฉันรอเจอหน้าพี่แกก่อนได้ปะ”
“ไหนบอกมีธุระ”
“ฮ่า ๆ ไม่เจอพี่แกนาน เขายังหล่อเหมือนเดิมใช่ปะ”
“เขามีเมีย มีลูกแล้ว” ชิลล์ตอบพร้อมกับทำหน้าเอือมระอา ตอนสมัยเรียนเธอเคยมาดื่มเหล้าเป็นเพื่อนแอนนี่เพราะอกหักจากพี่ชายของเธอ ซึ่งตอนนี้กลับเป็นแอนนี่ที่มานั่งเป็นเพื่อนเธอเสียเอง
“แซวเฉย ๆ งั้นฉันกลับก่อนนะ อย่าเดินออกไปข้างนอกล่ะ”
“อือ ใครจะบ้าออกไป”
“พรุ่งนี้ทำงานวันแรก ฉันจะไปส่งนะ โทรมาบอกก็แล้วกัน”
“อือ”
“แล้วก็…”
“เลิกทำตัวเป็นแม่ฉันอีกคนได้แล้ว”
“โอเคค่ะคุณลูก”
“ยัยบ้า!” คำด่าทีเล่นทีจริงจากชิลล์บ่งบอกได้ว่าเธออารมณ์ดีขึ้นมาหน่อยหนึ่ง แอนนี่สบายใจขึ้นมาเล็กน้อยก่อนจะลุกขึ้นจากเก้าอี้ ชิลล์ยกมือขึ้นโบกมือลาอีกฝ่าย ก่อนที่เพื่อนเธอจะเดินออกไป
แอนนี่ทำท่าเหมือนจะหยุดเดินหลายครั้งเพราะเป็นห่วงเพื่อนรัก แต่ก็เห็นรอยยิ้มที่ส่งกลับมาทำให้เธอสบายใจขึ้น ที่เห็นเธอยิ้มได้
แต่ไม่เลยหญิงสาวรินเหล้าลงอีกครั้งก่อนจะยกแก้วขึ้นดื่ม มือบางหยิบโทรศัพท์ขึ้นมาเธอมองดูเวลาก่อนจะทำหน้าตกใจ
“จะโดนด่าหรือเปล่านะ” ถึงแม้เธอจะกล้าที่จะด่าพี่ชายอยู่บ่อยครั้งก็เพราะว่าเขายอมให้เธอด่าเองไม่ใช่ว่าเขาไม่กล้าที่จะสู้เธอ แต่เรื่องนี้มันเหมือนเป็นกฎที่ถูกตั้งไว้จากพี่ชายของเธอเอง มือบางกดโทรหาพี่ชายของเธอพร้อมกับลุ้นอยู่ในใจว่าจะโดนด่าไหม
ตื๊ด ตื๊ดด~
ติ๊ด
“ฮัลโหล พี่…”
“อื้ออ อะ”
“หือ?”
“ชะ ชิลล์มีไรเหรอ”
“อ้าวผึ้ง เธอช่วย…”
“อะ เบา ๆ ค่ะ อื้อออ อะ จุก ๆ”
“ไอ้พี่บ้าเอ้ย”
ติ๊ด!
เสียงครางของพี่สะใภ้เธอบอกได้ไม่กี่อย่างว่าทั้งคู่กำลังทำอะไรกัน ชิลล์ถึงกับกดตัดสายทิ้งทันที ตอนนี้มันเพิ่งจะพลบค่ำไม่คิดว่าทั้งคู่จะเป็นได้ขนาดนี้ แต่พอได้ยินอะไรแบบนี้และมันทำให้เธอฉุกคิดถึงคำพูดของพี่สะใภ้เธอ และในขณะนั้น
ติ๊ง!
เสียงแจ้งเตือนประตูอัตโนมัติของร้านเปิดออก ปกติเธอไม่ได้จะเงยหน้าขึ้นมองอยู่แล้ว แต่เธอกลับรู้สึกถึงรังสีบางอย่างที่ทำให้เธอต้องเงยหน้าขึ้นมอง
“ทามมี่…” ริมฝีปากอวบอิ่มพึมพำชื่อของชายที่เธอเห็น เหมือนกับว่าก่อนหน้านี้เขาได้จ้องมองเธอ ทำให้เธอต้องเงยหน้าขึ้นมองเขา แต่ตอนนี้เขากลับไม่ได้มองเธอเลยสักนิด
ไทม์เลื่อนสายตามองไปที่โต๊ะประจำของเขา ถ้าเขาไม่ได้ไปคลับส่วนใหญ่แล้วเขาก็จะมาที่ร้านนี้ แอบคิดไม่น้อยว่าบังเอิญหรือตั้งใจที่อยู่ ๆ ก็เจอหญิงสาวคนนี้
ชายหนุ่มเดินผ่านโต๊ะของหญิงสาวช้า ๆ ความความรู้สึกแปลก ๆอยู่ไม่น้อย มันอาจจะเรียกว่าหวิว ๆ ในใจ
เขาใช้เวลาสองวันในการคิดทบทวนว่าเขาได้ชอบเธอหรือเปล่า และสองวันที่ผ่านมาเขาก็รู้สึกว่าเขาเองก็อยู่ได้ ไม่ได้กระวนกระวายขนาดนั้น ชายหนุ่มยอมรับว่ามีคิดถึงบ้าง แต่ก็ไม่ถึงขนาดต้องออกตามหา
ไทม์นั่งลงที่โต๊ะประจำของเขาก่อนจะมีพนักงานเดินเข้ามาพร้อมกับเซตเครื่องดื่มประจำของเขา มันถูกนำมาให้โดยที่ไม่ต้องสั่ง
หญิงสาวนั่งหันหลังให้เขาเธอรู้สึกสับสนกับการกระทำของเขา เหมือนจะมีใจ แต่ก็ไม่ ถ้าเขาไม่ชอบเธอก็ไม่ควรเดินเข้ามาในร้านแบบนี้ ตั้งแต่แรก
“ทฤษฎีจีบบ้าบออะไรไม่เห็นได้ผลสักอย่าง” หญิงสาวพึมพำออกมาก่อนจะยกแก้วเหล้าขึ้น แต่ครั้งนี้เธอไม่ได้ยกขึ้นดื่ม ชิลล์บรรจงเทแก้วเหล้าใส่เสื้อตัวเอง ซึ่งวันนี้เธอใส่เดรสสีดำทำให้มองไม่เห็นว่าเสื้อเธอมีรอยของน้ำเหล้า ก่อนที่มืออีกข้างจะหยิบบรัชออนในกระเป๋าสะพายข้างมาเติมลงที่แก้มเพื่อให้แก้มของเธอแดงขึ้น เธอกำลังจะแกล้งเมา ด้วยเหตุว่าเธอไม่กล้าเมาจริงในเวลากลางคืนแบบนี้หรอก
ครืด~
ชิลล์ดันเก้าอี้ก่อนจะลุกขึ้นยืน เธอหมุนตัวกลับหลังก่อนจะเริ่มมองไปที่เขา ชายหนุ่มหันหน้าหนีทันทีเมื่อเห็นว่าเธอลุกขึ้น หญิงสาวรับรู้ได้ว่าก่อนหน้านี้เขามองเธออยู่
ไทม์หลุบสายตาต่ำมองไปยังข้อเท้าของเธอ อยู่ ๆ ใจของเขาก็ชื้นขึ้นมาเมื่อเธอสามารถเดินได้ปกติแล้ว
ตึก ตึก ตึก~
เสียงส้นเท้าที่ดังขึ้นในระยะที่ชายหนุ่มสามารถได้ยินได้ ไทม์เงยหน้าสบตากับหญิงสาว เธอเดินโซซัดโซเซเหมือนคนเมา และแน่นอนมันไม่เนียนเลยสำหรับจิตแพทย์แบบเขา
และก่อนที่เธอจะเดินไปถึงเขา ด้วยท่าทางเหมือนคนเมาของเธอ ทำให้เธอตกเป็นเป้าสายตาชายฉกรรจ์กลุ่มหนึ่ง พวกมันมองมาที่เธอด้วยสายตาเหมือนจะกินเลือดกินเนื้อ ก่อนที่ชายหนุ่มหน้าตาจัดว่าใช้ได้ในกลุ่มนั้นเดินเข้ามาหาเธอ
กึก!
พรึ่บ!
“อะ ปล่อยนะ” หญิงสาวร้องสะดุ้งตกใจทันทีที่อยู่ ๆ ก็มีผู้ชายที่ไหนไม่รู้ เขาใช้มือหนาของเขามาคว้าที่เอวของเธอ ก่อนที่จะดึงเข้าลำตัวของเขา
“ผมเห็นว่าคุณเหมือนจะล้ม เลยอยากมาช่วย” ว่าแล้วชายหนุ่มคนนี้ก็โน้มใบหน้าลงสูดดมกลิ่นแอลกอฮอล์อ่อน ๆ จากตัวเธอ
“ปะ ปล่อยฉัน” หญิงสาวพยายามแกะมือตุ๊กแกที่จับอยู่ที่เอวของเธออย่างแรง แต่ด้วยแรงผู้หญิงอย่างเธอหรือจะสู้แรงของชายชาตรีได้
การฉุดกระชากที่โจ่งแจ้งของทั้งคู่ไม่ได้เรียกสายตาให้คนในร้านหันมามอง เพราะพวกเขาคิดว่าเป็นเรื่องปกติไปแล้ว
ไทม์ส่ายหน้าเบา ๆ เมื่อเห็นอย่างนั้น ชายหนุ่มดันเก้าอี้ลุกขึ้นยืนก่อนจะเดินเข้าไปหาทั้งคู่ ไม่มั่นใจว่าเขาจะเดินไปทำไมเหมือนกัน
“ปล่อยเธอ” เสียงทุ้มลึกเอ่ยขึ้นด้วยใบหน้านิ่งเฉย แต่แววตาของเขาแข็งกร้าวชัดเจน
“หึ มึงเป็นใคร!”
“ผัวของผู้หญิงคนนี้” ไทม์ว่าพลางพยักพเยิดหน้าไปทางหญิงสาวขณะที่เธอเบิกตากว้างให้กับคำตอบกลับของชายหนุ่ม
“จริงเหรอ คนสวย” ชายผู้มาใหม่หันหน้าไปถามหญิงสาวด้วยสายตาไม่อยากจะเชื่อ ถ้าผัวเมียกันจะนั่งคนละโต๊ะกันทำไม และสำหรับจิตแพทย์อย่างเขามีหรือว่าจะไม่รู้ว่ามันคิดอะไร
“หายงอนผัวแล้วกลับบ้านเรานะ” ชายหนุ่มพูดด้วยน้ำเสียงธรรมดา แต่มันกลับทำให้ใจดวงน้อยของหญิงสาวเต้นไม่ส่ำ และมันก็ได้ผล มือใหญ่ของชายฉกรรจ์คนนี้คลายออกทันที ก่อนที่มันจะเดินไปพร้อมสบถออกมาอย่างคนหัวเสีย
“ขอบคุณค่ะ” นานพอสมควรที่ทั้งคู่ยืนมองหน้ากันก่อนที่จะเป็นหญิงสาวเอ่ยปากพูดขึ้นมาก่อน
ไทม์ยกมือเรียกพนักงานให้เช็กบิลค่าเครื่องดื่มเขาก่อนที่เขาจะยื่นบัตรเครดิตให้
“สองโต๊ะ” ชายหนุ่มพูดพร้อมกับพยักพเยิดหน้าไปที่โต๊ะของหญิงสาว เป็นอันเข้าใจว่าเขาหมายถึงอะไร
“ทำแบบนี้ทำไมคะ” หญิงสาวตั้งคำถามให้กับการกระทำของเขา การกระทำที่ทำให้เธอหวั่นไหว และไม่สามารถมูฟออนจากเขาได้
“_” ชายหนุ่มยักไหล่ขึ้นเหมือนจะบอกว่าเขาไม่ได้ทำอะไรเลย
“ช่วยชัดเจนหน่อยค่ะ”
“ก็บอกไปชัดแล้ว”
หญิงสาวรู้สึกจุกอย่างบอกไม่ถูกเมื่อได้ยินคำตอบจากเขา ชิลล์ยืนมองใบหน้าของเขานิ่งก่อนที่น้ำตาของเธอจะรื้นขึ้นมา และเธอก็ไม่อยากร้องไห้ให้เขาเห็น
พรึ่บ
ตึก ตึก ตึก~
ติ๊ง!
หญิงสาวหมุนตัวหนีใบหน้าเขาอย่างรวดเร็ว ก่อนจะกึ่งเดินกึ่งวิ่งออกไปที่ประตูอัตโนมัติ และความคิดนี้ก็ผิดมหันต์
กึก!
ร่างบอบบางหยุดนิ่งทันทีที่เผลอนำตัวเองออกมานอกร้าน ความมืดสนิทของบรรยากาศรอบนอกทำให้สิ่งที่เธอพยายามเลี่ยงกำลังจะเกิดขึ้น
เหงื่อเม็ดเล็ก ๆ ผุดขึ้นที่ใบหน้าสวย ใจดวงน้อยที่เต้นรัวและเร็ว ทำให้เธอเกิดอาการสั่นจากความกลัว และไม่นาน
ตุบ!
“คุณ!” แต่ไม่ทันที่เธอจะล้มลงที่พื้น ไทม์ก็ได้เข้ามาช้อนลำตัวเธอไว้เสียก่อน ชายหนุ่มช้อนลำตัวเธอขึ้นในท่าเจ้าสาว ก่อนจะมองใบหน้าเธอด้วยความสงสัยในบางอย่าง
“ชิลล์!” ริมฝีปากหนาเอ่ยเรียกชื่อหญิงสาวอีกครา แต่เธอก็ไม่รู้สึกตัว เขารู้ว่าเธอแค่เป็นลมเฉย ๆ ซึ่งมันเป็นปฏิกิริยาตอบสนองกับบางสิ่งที่เขากำลังสงสัยในตัวเธอทันทีที่เธอมองออกไปรอบนอก
ร่างสูงใหญ่อุ้มคนตัวเล็กไปที่รถคันหรูของเขา ก่อนจะขับรถกลับไปที่คอนโด ซึ่งเขาก็ไม่รู้เหมือนกันว่าบ้านของเธออยู่ไหน จะทิ้งไว้ที่นั่นก็ดูใจร้ายเกินไป
@The best Condo [00.00 น.]
“อื้มม” ร่างบอบบางพลิกตัวไปมาเมื่อรู้สึกตัวตื่นในเวลากลางคืน เธอนอนหลับไม่สนิทอยู่แล้ว หญิงสาวมักตื่นขึ้นมากลางดึก และวันนี้ก็เช่นกัน
“อะ” ทันทีที่ลืมตาขึ้นเธอก็พบว่าเธอไม่ได้อยู่ที่บ้านของตัวเอง หญิงสาวตกใจไม่น้อยแต่ก็ไม่ได้ส่งเสียงร้องออกมา เพราะมองไปเห็นรูปที่ตั้งอยู่โต๊ะหัวเตียงของเขา
“ใครกัน” เธอไม่ได้หมายถึงชายหนุ่มที่เธอรู้จักที่ปรากฏในภาพ แต่เธอหมายถึงผู้หญิงคนหนึ่งที่ปรากฏในรูปเดียวกันกับเขา ทั้งคู่อยู่ในชุดครุยรับปริญญา และก่อนที่เธอจะเอื้อมมือไปหยิบขึ้นมาด
“อย่าคิดเชียว” เสียงทุ้มลึกที่ดังขึ้นทำให้หญิงสาวหยุดชะงักมือในทันที ก่อนที่เขาจะเดินเข้ามาหารูปถ่ายนั่น
ไทม์เอื้อมไปจับเอากรอบรูปก่อนจะคว่ำหน้าลงเพื่อไม่ให้หญิงสาวเห็น ชายหนุ่มหมุนตัวกลับไปทางเดิม แต่แล้ว
พรึ่บ!
หมับ!
“เดี๋ยวก่อน” หญิงสาวเอ่ยปากเรียกเขา ก่อนที่เขาจะหันหน้ากลับมามองเธออย่างช้า ๆ
“ฉันอยากนอนกับคุณ” หญิงสาวเอ่ยปากพูดจุดประสงค์ที่เธออยากทำ หลังจากที่เธอฉุกคิดเรื่องพี่สะใภ้เธอ จริง ๆ เธอจะพูดตั้งแต่อยู่ที่ร้านเหล้าแล้ว แต่ดันเกิดเหตุเสียก่อน
“นอน?”
“หมายถึงมีอะไรกันค่ะ” หญิงสาวพูดออกมาไม่อายปากขณะที่คนตัวสูงขมวดคิ้วเข้าหากันยุ่ง
“คุณขอเองนะ” ชายหนุ่มหันหน้ามาประจันกับหญิงสาว จนเธอรู้สึกไหวหวั่นไม่น้อย
“อืม เผื่อว่าคุณจะติดใจฉันบ้าง” หลังจากที่ได้ยินพี่สะใภ้ของเธอเล่าเรื่องของพี่ชายเธอทำให้หญิงสาวอยากลองทำมันดู
“ไม่ล่ะ ผมไม่ชอบผู้หญิงใจง่าย”
“ฉันใจง่ายแค่กับคุณ”
“หึ ท่าทางคุณไม่ได้เป็นแบบที่พูดนะ” ชายหนุ่มยิ้มออกมาอย่างเย้ยหยัน การกระทำและการแต่งกายของเธอถ้าบอกอย่างที่พูด มันเชื่อได้ยากว่าเธอไม่ได้ง่าย
“คุณดูถูกฉัน”
“ใช่ ‘ดูถูก’ เลยล่ะ”
เพียะ!
ใบหน้าหล่อเหลาหันไปตามแรงตบอย่างแรงทันทีที่เขาพูดจบ หญิงสาวรู้สึกโกรธมากที่เขามองความรัก ความชอบของเธอว่าเธอใจง่าย
“คนใจร้าย!” หญิงสาวแผดเสียงเล็กใส่ใบหน้าเขาอย่างคนโมโห ชายหนุ่มหันหน้ามามองใบหน้าเธอในแววตาของเขามันไหววูบเล็กน้อย ก่อนที่เขาจะหมุนตัวเดินหนีไป และไม่ทันที่เขาจะเปิดประตูออกไปจากห้องนอน
เพล้ง!
หญิงสาวคว้ากรอบรูปที่ดูแล้วเหมือนเขาจะหวงมันมากขึ้นมา ก่อนที่เธอจะเขวี้ยงมันลงพื้นอย่างแรง
ชายหนุ่มหันขวับมาทันทีที่ได้ยินเสียงนั้น เขามีอารมณ์โมโหจัดในทันที ใบหน้าของเขาแดงก่ำขึ้นมา แต่ก่อนที่เขาจะใช้ทักษะความรู้ของเขาระงับมันเอาไว้
ชายหนุ่มเดินกลับมาหาหญิงสาวก่อนที่เขาจะย่อตัวลงเก็บรูปภาพนั้นขึ้นมา ทุกการกระทำของเขาอยู่ในสายตาของเธอทุกอย่าง
“ใจร้าย!” หญิงสาวแผดเสียงใส่เขาอีกครั้ง และครั้งนี้มันได้ผล
พรึ่บ!
หมับ!
ตุบ!
“อยากรู้ไหมว่าคนใจร้ายจริง ๆ มันเป็นยังไง!”