บทที่14

1853 Words
" ไปบ้านผมมั้ยครับ " น้ำเสียงราบเรียบที่ฟังดูเหมือนไม่ได้คิดอะไรแต่หมอนั่นจะรู้มั้ยว่า...ฉันคิด " นายว่าไงนะ!? " เธอดูมีสีหน้าที่อึ้งเล็กน้อยผมจึงต้องอธิบาย " คุณเป็นผู้หญิงไม่ควรจะไปนอนที่แบบนั้นนะครับ ที่บ้านผมมีห้องว่างอยู่น่าจะพอนอนได้ถือว่าเป็นการขอโทษที่เมื่อคืนผมอาจจะทำอะไรที่ไม่เหมาะสม " ผมเอ่ยอย่างรู้สึกผิดเมื่อต้องท้าวความถึงเรื่องเมื่อคืน ผมไม่เสียหายอะไรก็จริงแต่เธอเป็นผู้หญิงแล้วผมก็ดันจำไม่ได้ว่าทำอะไรลงไปบ้างนี่สิครับ แต่ว่าผมรู้สึกดีมากและนี่แหละคือเรื่องที่ผมรู้สึกผิดต่อเธอ เราสองคนไม่ได้เป็นอะไรกันและผมก็ไม่ได้ชอบเธอ ผมไม่ควรจะเอาเปรียบเธอ ตั้งแต่จำความได้ ม๊าจะคอยสอนให้ผมรู้จักการให้เกียรติผู้หญิง " เอางั้นก็ได้ " เธอตอบตกลงผมมาทันที ทั้งที่ผมแอบคิดว่าเธออาจจะปฏิเสธด้วยซ้ำ จากนั้นเราสองคนต่างก็ไม่ได้พูดอะไรกัน ผมใช้เวลาไม่นานมากก็พาเธอมาถึงบ้าน " ทำไมคุณหนูกลับดึกจังคะ คุณหนูเฟิร์นเธอโวยวายใหญ่เลยบอกว่าโทรไปคุณหนูก็ไม่รับ " ทันทีที่รถผมเคลื่อนเข้ามาจอด ก็มีเสียงหนึ่งเอ่ยด้วยความเป็นห่วง หญิงวัยกลางคนอายุห้าสิบกว่าได้เป็นคนที่ทำหน้าที่ดูแลบ้านและดูแลผมกับน้องมาตั้งแต่เด็ก ผมเรียกสั้นๆ แบบสนิทสนมว่า "นม" นมรีบมาเปิดประตูรถให้ผมเหมือนเช่นทุกวัน " ผมออกไปกับเพื่อนมาครับตอนนั้นคงเสียงดังเลยไม่ได้ยินแล้วยัยเฟิร์นนอนรึยังครับ " ผมหันไปถามด้วยความสุภาพ ไม่ว่าจะกับนมหรือกับเด็กรับใช้ในบ้านผมมักจะให้เกียรติพวกเขาเสมอ " ยังค่ะ คุณหนูเฟิร์นบอกจะรอคุณหนูก่อน " " ลงมาได้แล้วครับ " ผมพยักหน้าให้นมพร้อมกับหันไปบอกคนที่นั่งสงบเสงี่ยมอยู่ในรถ " พะ...พาใครมาบ้านคะนั่น! " นมเอามือป้องปากตัวเองทันทีที่เห็นว่ามีผู้หญิงอยู่ในรถผมด้วย " เอาไว้ผมค่อยอธิบายนะครับ ตอนนี้นมช่วยไปเตรียมห้องให้ผมทีครับ " " ค...ค่ะคุณหนู " นมยังคงทำหน้าตาตกใจไม่หายก่อนจะรีบเข้าบ้านไปโดยที่ผมกับเธอก็เดินตามไปติดๆ นมใช้เวลาประมาณสิบนาทีก็เตรียมห้องเสร็จ ที่บ้านผมมีห้องว่างสำหรับให้แขกนอนอยู่หลายห้อง ทุกห้องมีการทำความสะอาดทุกๆ อาทิตย์เลยใช้เวลาในการเตรียมความเรียบร้อยไม่นานมาก พอนมมาแจ้งผมก็พาเธอมาที่ห้องรับรองนี้แต่ผมก็แปลกใจนิดหน่อยที่นมจัดห้องนี้ให้ นมเขากำลังเข้าใจอะไรผิดหรือเปล่า " ฉันมารบกวนนายหรือเปล่าแล้วพ่อแม่นายล่ะ ท่านนอนแล้วหรอ " เธอคุยกับผมด้วยรอยยิ้มสดใสซึ่งมันก็ดีกว่าท่าทางอ่อยแบบนั้นเป็นไหนๆ เวลาเธอยิ้มบางครั้งมันก็ทำให้ผมอยากยิ้มตาม " ไม่อยู่หรอกครับไปญี่ปุ่น ห้องน้ำอยู่ทางนั้นน่าจะมีของใช้เตรียมไว้แล้วส่วนห้องนั้นไม่มีอะไรไม่ต้องเข้าไปก็ได้ครับ ของใช้จำเป็นอื่นๆ เดี๋ยวนมคงเอามาให้ " ผมบอกเธอด้วยสีหน้าเรียบเฉยของผมในขณะที่เดินนำเธอเข้ามาภายในห้องตามมารยาทของเจ้าของบ้าน " แล้วห้องนอนนายอยู่ทางไหนหรอ " เธอเอ่ยด้วยสีหน้าที่อยากรู้ผมยอมรับว่าเธอเป็นผู้หญิงที่สวยคนนึงแม้ไม่ได้แต่งหน้าก็ยังสวยอยู่ดี " ว่าไงล่ะ ห้องนอนนายคือห้องไหน บอกหน่อยสิ " เธอค่อยๆ สาวเท้าเข้ามาหาผมและมองผมด้วยสายตาที่ไม่น่าไว้ใจจนผมต้องหันหน้าไปทางอื่นแทน " ดึกแล้วผมขอตัวไปนอนก่อนนะครับ " ผมพูดพร้อมกับรีบหันหลังออกมา ขืนอยู่นานผมอาจจะเผลอบอกไปว่าห้องผมก็อยู่ติดกับห้องที่เธออยู่นั่นแหละครับแล้วห้องที่ผมบอกเธอว่าไม่ต้องเข้าไปนั้นเพราะมันเป็นห้องที่เชื่อมต่อกับห้องของผม อดีตมันคือห้องที่คุณปู่ทำให้ม๊าผมอยู่สมัยที่ท่านคลอดผมใหม่ๆ ผมเดินแค่สี่ห้าก้าวก็ถึงประตูห้องผมแล้ว " พี่ป่าไม่ไหนมาทำไมกลับดึกแล้วทำไมถึงพาผู้หญิงกลับมาด้วย อย่าบอกนะว่าพี่ป่ามีแฟนแล้ว เฟิร์นจะฟ้องม๊า! " เสียงใสเมื่อกี้คือยัยเฟิร์นน้องสาวของผมเอง เธอยืนส่งเสียงแว๊ดๆ อยู่ด้านหลัง ผมรีบเอามือปิดปากยัยเฟิร์นก่อนจะพาเข้ามาในห้องแล้วปิดประตูทันที เมื่อกี้นี้น้องผมพูดเสียงดังมากครับ " อื้อออ~ ปล่อย!! ทำไมพี่ป่าต้องทำหน้าตกใจขนาดนั้นด้วย อย่าบอกนะว่าทำผู้หญิงท้องเลยจะพามาเปิดตัวกับป๊าม๊าน่ะ! " ยัยเฟิร์นสลัดมือผมออกก่อนจะทำหน้าจับผิดผมต่อคงเพราะผมไม่เคยพาผู้หญิงคนไหนเข้าบ้านมาก่อนทุกคนเลยพากันแปลกใจกันหมด " ไปกันใหญ่แล้วเขาไม่ได้เป็นอะไรกับพี่สักหน่อย รู้จักกันเฉยๆ " ยัยเฟิร์นทำหน้าเหมือนไม่เข้าใจผมเลยต้องอธิบายทุกอย่างให้ฟังถึงยอมกลับไปห้องตัวเองได้ ผมจัดการล็อกประตูก่อนจะเดินไปหยิบหนังสือขึ้นมาอ่านต่อ วิชานี้ผมต้องเรียนเทอมสอง ซึ่งมันก็คือหนึ่งอาทิตย์หลังจากนี้ " ว่าไงล่ะ ห้องนอนนายอยู่ทางไหนบอกฉันหน่อยสิ " ฉันค่อยๆ สาวเท้าเข้าไปหาคนตัวสูงด้วยสายตาแพรวพราวจนหมอนั่นต้องเบือนหน้าไปทางอื่นแทน ฉันอดยิ้มไม่ได้กับท่าทีไร้เดียงสานี้ " ดึกแล้วผมขอตัวไปนอนก่อนนะครับ " หมอนั่นไม่ตอบฉันแล้วก็กลับออกไปทันที ฉันมองตามแผ่นหลังกว้างจนสุดสายตา งื้อออ! คนอะไรน่าทะนุถนอมชะมัด " คุณคะ ป้าเอาชุดมาให้เปลี่ยนค่ะ " ยังไม่ทันที่ฉันจะได้ทำอะไร เสียงเคาะประตูก็ดังขึ้นก่อน ฉันก็เดินออกไปเปิดประตู " ป้าไปขอยืมตัวเก่าของคุณหนูเฟิร์นมาน่ะค่ะ ยังใหม่ๆ อยู่เลยนะคะไม่มีตำหนิอะไรเพราะเธอใส่แค่ครั้งเดียวก็โดนคุณหนูดุยกใหญ่เธอเลยไม่ได้ใส่อีกเลยค่ะ " คุณป้าแม่บ้านแกอธิบายยาวเหยียด ฉันรีบรับชุดมาเพราะกลัวว่าจะเสียมารยาทพร้อมกับเทียบไซส์กับตัวฉันดู ถึงมันจะเล็กไปสักหน่อยแต่ฉันก็น่าจะใส่ได้ " ไม่เป็นไรค่ะจะชุดใครหนูก็ใส่ได้ทั้งนั้นแหละขอบคุณมากนะคะ แต่ว่าหนูสับสนนิดหน่อยเมื่อกี้ที่ป้าเรียกคุณหนูกับคุณหนูอะไรนะคะ " ฉันงุนงงเล็กน้อย ป้าแกพูดถึงคนไหนกับคนไหน " อ้อ! โทษทีค่ะป้าก็ลืมบอก ป้าหมายถึงคุณหนูเฟิร์นน่ะค่ะ เธอเป็นลูกคนเล็กของคุณท่านกับคุณผู้หญิง ทุกคนที่นี่เรียกลูกๆ คุณท่านว่าคุณหนูค่ะแต่กับคนเล็กจะเอาชื่อเล่นต่อท้ายไปด้วย ส่วนคนโตอย่างคุณเจ้าป่าพวกเราจะเรียกคุณหนูเฉยๆ ค่ะ " ป้าแกอธิบายอย่างใจเย็น ฉันก็พยักหน้าตามอย่างเข้าใจ คุณหนูคนที่ดุเรื่องชุดนอนนี่ก็คือหมอนั่นสินะ เชยจริงๆ " งั้นป้าไปก่อนนะคะ ขาดเหลืออะไรก็เรียกใช้ป้าได้เลย โทรศัพท์ในห้องกด3นะคะ ป้าจะรีบมาแต่ถ้าคุณจะไปหาคุณหนูก็ห้องนั้นนะคะเข้าไปได้เลย " คุณป้าแกส่งยิ้มให้ฉันอย่างเป็นมิตรก่อนจะหันหลังกลับออกไปพร้อมกับคำพูดกำกวม ฉันจะเรียกตามแต่ก็ไม่ทันซะแล้ว ป้าเดินเร็วมาก เดี๋ยวสิ! ห้องนั้นแล้วมันห้องไหนล่ะบ้านก็ออกจะใหญ่โต เพราะมันดึกมากแล้วฉันเลยหยุดความสงสัยเอาไว้ก่อนจะกลับเข้ามาเพื่อจะอาบน้ำอาบท่าให้สบายตัว วันนี้ฉันรู้สึกเหนื่อยจริงๆ ยืนขายของตัวเองตั้งแต่บ่ายอ่อนๆ แล้วยังต้องรีบไปขายเหล้าปั่นแทนยัยปลาอีก อ่อ ต้องโทรบอกมันเรื่องร้านด้วยสินะ หลังจากที่ฉันอาบน้ำเสร็จเรียบร้อยฉันก็เดินมาหยิบชุดนอนที่คุณป้าแม่บ้านมีน้ำใจเอามาให้ ฉันแปลกใจนิดหน่อย ไม่น่าเชื่อว่าน้องสาวหมอนั่นจะรสนิยมดีขนาดนี้ เธออายุเท่าไหร่กันนะถึงได้เลือกชุดได้ถูกใจฉันจริงๆ ผ้าซาตินสีขาวเนื้อบางเบาอย่างที่ฉันชอบใส่ ตรงกลางคว้านลึกจนมองเห็นร่องอกชัด คงเพราะขนาดมันเล็กกว่าไซส์ฉันพอมันมาอยู่ที่ตัวของฉันมันเลยทั้งรัดทั้งสั้นจนรู้สึกอึดอัดแต่ก็ช่างเถอะ ดีกว่าใส่ตัวเดิม ฉันนอนพลิกตัวไปมาบนเตียงหนานุ่มกว่าชั่วโมงแล้วเพราะนอนยังไงก็ไม่หลับสักที ปกติถึงจะแปลกที่ฉันก็ไม่มีปัญหาอะไรแต่คงเพราะที่นี่เป็นบ้านของหมอนั่น มันเลยทำให้ฉันตื่นเต้นอย่างบอกไม่ถูก ก่อนหน้านี้เคยคิดนะว่าวันไหนที่ไม่ได้เห็นหน้าเห็นแค่หลังคาบ้านก็ยังดีแต่ดูตอนนี้สิ ฉันนอนอยู่ใต้หลังคาบ้าน หลังคาเดียวกับหมอนั่นเลยนะ! " อร๊ายย!!! " ฉันกรีดร้องออกมาเบาๆ พลางนอนดิ้นเร่าอยู่บนเตียงคนเดียว ฉันต้องบ้าไปแล้วแน่ๆ หลังจากที่นอนเพ้อเจ้ออยู่นานสองนานฉันก็ลุกไปห้องน้ำเพราะปวดท้องฉี่แต่พอออกมาคราวนี้สายตาของฉันก็ไปสะดุดกับประตูห้องที่อยู่อีกฝั่งนึง ห้องนั้นสินะ ที่หมอนั่นบอกไว้ว่าไม่มีอะไรฉันไม่ต้องเข้าไปหรอก มันจะเป็นการเสียมารยาทมั้ยนะถ้าฉันจะขอเปิดเข้าไปดูสักหน่อย สัญญาเลยว่าถ้าเกิดมีของมีค่าอยู่ในนั้นจริงๆ ฉันจะไม่เผลอหยิบติดมือกลับบ้านโดยเด็ดขาดและสาบานว่าฉันจะไม่แตะต้องข้าวของใดๆ แม้แต่ชิ้นเดียว ขอดูแปปเดียวเท่านั้น ตึก! ตึก! ตึก! ฉันย่องเบาด้วยความตื่นเต้นจนกระทั่งมาหยุดยืนอยู่ยังหน้าห้องปริศนา ก่อนจะค่อยๆ หมุนลูกบิดประตู ว๊ายยยย!!!! เห้ยยยย!!! ฉันเบิกตากว้างพลางกรีดเสียงร้องออกมาด้วยความตกใจไม่ต่างจากอีกคน หมอนั่นรีบคว้าเอาผ้าเช็ดตัวมานุ่งเพื่อปกปิดท่อนล่างที่เปลือยเปล่าอยู่นั้น ขนาดฉันเห็นแค่ด้านหลังของหมอนั่นฉันก็แทบจะกำเดาไหลแล้ว ผู้ชายอะไรแอบเซ็กซี่!! " เข้ามาห้องผมทำไมครับ! "
Free reading for new users
Scan code to download app
Facebookexpand_more
  • author-avatar
    Writer
  • chap_listContents
  • likeADD