" ไปบ้านผมมั้ยครับ "
น้ำเสียงราบเรียบที่ฟังดูเหมือนไม่ได้คิดอะไรแต่หมอนั่นจะรู้มั้ยว่า...ฉันคิด
" นายว่าไงนะ!? "
เธอดูมีสีหน้าที่อึ้งเล็กน้อยผมจึงต้องอธิบาย
" คุณเป็นผู้หญิงไม่ควรจะไปนอนที่แบบนั้นนะครับ ที่บ้านผมมีห้องว่างอยู่น่าจะพอนอนได้ถือว่าเป็นการขอโทษที่เมื่อคืนผมอาจจะทำอะไรที่ไม่เหมาะสม "
ผมเอ่ยอย่างรู้สึกผิดเมื่อต้องท้าวความถึงเรื่องเมื่อคืน ผมไม่เสียหายอะไรก็จริงแต่เธอเป็นผู้หญิงแล้วผมก็ดันจำไม่ได้ว่าทำอะไรลงไปบ้างนี่สิครับ
แต่ว่าผมรู้สึกดีมากและนี่แหละคือเรื่องที่ผมรู้สึกผิดต่อเธอ
เราสองคนไม่ได้เป็นอะไรกันและผมก็ไม่ได้ชอบเธอ ผมไม่ควรจะเอาเปรียบเธอ
ตั้งแต่จำความได้ ม๊าจะคอยสอนให้ผมรู้จักการให้เกียรติผู้หญิง
" เอางั้นก็ได้ "
เธอตอบตกลงผมมาทันที ทั้งที่ผมแอบคิดว่าเธออาจจะปฏิเสธด้วยซ้ำ จากนั้นเราสองคนต่างก็ไม่ได้พูดอะไรกัน ผมใช้เวลาไม่นานมากก็พาเธอมาถึงบ้าน
" ทำไมคุณหนูกลับดึกจังคะ คุณหนูเฟิร์นเธอโวยวายใหญ่เลยบอกว่าโทรไปคุณหนูก็ไม่รับ "
ทันทีที่รถผมเคลื่อนเข้ามาจอด
ก็มีเสียงหนึ่งเอ่ยด้วยความเป็นห่วง
หญิงวัยกลางคนอายุห้าสิบกว่าได้เป็นคนที่ทำหน้าที่ดูแลบ้านและดูแลผมกับน้องมาตั้งแต่เด็ก ผมเรียกสั้นๆ แบบสนิทสนมว่า "นม"
นมรีบมาเปิดประตูรถให้ผมเหมือนเช่นทุกวัน
" ผมออกไปกับเพื่อนมาครับตอนนั้นคงเสียงดังเลยไม่ได้ยินแล้วยัยเฟิร์นนอนรึยังครับ "
ผมหันไปถามด้วยความสุภาพ ไม่ว่าจะกับนมหรือกับเด็กรับใช้ในบ้านผมมักจะให้เกียรติพวกเขาเสมอ
" ยังค่ะ คุณหนูเฟิร์นบอกจะรอคุณหนูก่อน "
" ลงมาได้แล้วครับ "
ผมพยักหน้าให้นมพร้อมกับหันไปบอกคนที่นั่งสงบเสงี่ยมอยู่ในรถ
" พะ...พาใครมาบ้านคะนั่น! "
นมเอามือป้องปากตัวเองทันทีที่เห็นว่ามีผู้หญิงอยู่ในรถผมด้วย
" เอาไว้ผมค่อยอธิบายนะครับ ตอนนี้นมช่วยไปเตรียมห้องให้ผมทีครับ "
" ค...ค่ะคุณหนู "
นมยังคงทำหน้าตาตกใจไม่หายก่อนจะรีบเข้าบ้านไปโดยที่ผมกับเธอก็เดินตามไปติดๆ
นมใช้เวลาประมาณสิบนาทีก็เตรียมห้องเสร็จ ที่บ้านผมมีห้องว่างสำหรับให้แขกนอนอยู่หลายห้อง ทุกห้องมีการทำความสะอาดทุกๆ อาทิตย์เลยใช้เวลาในการเตรียมความเรียบร้อยไม่นานมาก พอนมมาแจ้งผมก็พาเธอมาที่ห้องรับรองนี้แต่ผมก็แปลกใจนิดหน่อยที่นมจัดห้องนี้ให้
นมเขากำลังเข้าใจอะไรผิดหรือเปล่า
" ฉันมารบกวนนายหรือเปล่าแล้วพ่อแม่นายล่ะ ท่านนอนแล้วหรอ "
เธอคุยกับผมด้วยรอยยิ้มสดใสซึ่งมันก็ดีกว่าท่าทางอ่อยแบบนั้นเป็นไหนๆ เวลาเธอยิ้มบางครั้งมันก็ทำให้ผมอยากยิ้มตาม
" ไม่อยู่หรอกครับไปญี่ปุ่น ห้องน้ำอยู่ทางนั้นน่าจะมีของใช้เตรียมไว้แล้วส่วนห้องนั้นไม่มีอะไรไม่ต้องเข้าไปก็ได้ครับ ของใช้จำเป็นอื่นๆ เดี๋ยวนมคงเอามาให้ "
ผมบอกเธอด้วยสีหน้าเรียบเฉยของผมในขณะที่เดินนำเธอเข้ามาภายในห้องตามมารยาทของเจ้าของบ้าน
" แล้วห้องนอนนายอยู่ทางไหนหรอ "
เธอเอ่ยด้วยสีหน้าที่อยากรู้ผมยอมรับว่าเธอเป็นผู้หญิงที่สวยคนนึงแม้ไม่ได้แต่งหน้าก็ยังสวยอยู่ดี
" ว่าไงล่ะ ห้องนอนนายคือห้องไหน บอกหน่อยสิ "
เธอค่อยๆ สาวเท้าเข้ามาหาผมและมองผมด้วยสายตาที่ไม่น่าไว้ใจจนผมต้องหันหน้าไปทางอื่นแทน
" ดึกแล้วผมขอตัวไปนอนก่อนนะครับ "
ผมพูดพร้อมกับรีบหันหลังออกมา
ขืนอยู่นานผมอาจจะเผลอบอกไปว่าห้องผมก็อยู่ติดกับห้องที่เธออยู่นั่นแหละครับแล้วห้องที่ผมบอกเธอว่าไม่ต้องเข้าไปนั้นเพราะมันเป็นห้องที่เชื่อมต่อกับห้องของผม อดีตมันคือห้องที่คุณปู่ทำให้ม๊าผมอยู่สมัยที่ท่านคลอดผมใหม่ๆ
ผมเดินแค่สี่ห้าก้าวก็ถึงประตูห้องผมแล้ว
" พี่ป่าไม่ไหนมาทำไมกลับดึกแล้วทำไมถึงพาผู้หญิงกลับมาด้วย อย่าบอกนะว่าพี่ป่ามีแฟนแล้ว เฟิร์นจะฟ้องม๊า! "
เสียงใสเมื่อกี้คือยัยเฟิร์นน้องสาวของผมเอง เธอยืนส่งเสียงแว๊ดๆ อยู่ด้านหลัง ผมรีบเอามือปิดปากยัยเฟิร์นก่อนจะพาเข้ามาในห้องแล้วปิดประตูทันที
เมื่อกี้นี้น้องผมพูดเสียงดังมากครับ
" อื้อออ~ ปล่อย!! ทำไมพี่ป่าต้องทำหน้าตกใจขนาดนั้นด้วย อย่าบอกนะว่าทำผู้หญิงท้องเลยจะพามาเปิดตัวกับป๊าม๊าน่ะ! "
ยัยเฟิร์นสลัดมือผมออกก่อนจะทำหน้าจับผิดผมต่อคงเพราะผมไม่เคยพาผู้หญิงคนไหนเข้าบ้านมาก่อนทุกคนเลยพากันแปลกใจกันหมด
" ไปกันใหญ่แล้วเขาไม่ได้เป็นอะไรกับพี่สักหน่อย รู้จักกันเฉยๆ "
ยัยเฟิร์นทำหน้าเหมือนไม่เข้าใจผมเลยต้องอธิบายทุกอย่างให้ฟังถึงยอมกลับไปห้องตัวเองได้
ผมจัดการล็อกประตูก่อนจะเดินไปหยิบหนังสือขึ้นมาอ่านต่อ วิชานี้ผมต้องเรียนเทอมสอง ซึ่งมันก็คือหนึ่งอาทิตย์หลังจากนี้
" ว่าไงล่ะ ห้องนอนนายอยู่ทางไหนบอกฉันหน่อยสิ "
ฉันค่อยๆ สาวเท้าเข้าไปหาคนตัวสูงด้วยสายตาแพรวพราวจนหมอนั่นต้องเบือนหน้าไปทางอื่นแทน ฉันอดยิ้มไม่ได้กับท่าทีไร้เดียงสานี้
" ดึกแล้วผมขอตัวไปนอนก่อนนะครับ "
หมอนั่นไม่ตอบฉันแล้วก็กลับออกไปทันที ฉันมองตามแผ่นหลังกว้างจนสุดสายตา
งื้อออ! คนอะไรน่าทะนุถนอมชะมัด
" คุณคะ ป้าเอาชุดมาให้เปลี่ยนค่ะ "
ยังไม่ทันที่ฉันจะได้ทำอะไร เสียงเคาะประตูก็ดังขึ้นก่อน ฉันก็เดินออกไปเปิดประตู
" ป้าไปขอยืมตัวเก่าของคุณหนูเฟิร์นมาน่ะค่ะ ยังใหม่ๆ อยู่เลยนะคะไม่มีตำหนิอะไรเพราะเธอใส่แค่ครั้งเดียวก็โดนคุณหนูดุยกใหญ่เธอเลยไม่ได้ใส่อีกเลยค่ะ "
คุณป้าแม่บ้านแกอธิบายยาวเหยียด ฉันรีบรับชุดมาเพราะกลัวว่าจะเสียมารยาทพร้อมกับเทียบไซส์กับตัวฉันดู ถึงมันจะเล็กไปสักหน่อยแต่ฉันก็น่าจะใส่ได้
" ไม่เป็นไรค่ะจะชุดใครหนูก็ใส่ได้ทั้งนั้นแหละขอบคุณมากนะคะ แต่ว่าหนูสับสนนิดหน่อยเมื่อกี้ที่ป้าเรียกคุณหนูกับคุณหนูอะไรนะคะ "
ฉันงุนงงเล็กน้อย ป้าแกพูดถึงคนไหนกับคนไหน
" อ้อ! โทษทีค่ะป้าก็ลืมบอก ป้าหมายถึงคุณหนูเฟิร์นน่ะค่ะ
เธอเป็นลูกคนเล็กของคุณท่านกับคุณผู้หญิง ทุกคนที่นี่เรียกลูกๆ คุณท่านว่าคุณหนูค่ะแต่กับคนเล็กจะเอาชื่อเล่นต่อท้ายไปด้วย ส่วนคนโตอย่างคุณเจ้าป่าพวกเราจะเรียกคุณหนูเฉยๆ ค่ะ "
ป้าแกอธิบายอย่างใจเย็น ฉันก็พยักหน้าตามอย่างเข้าใจ คุณหนูคนที่ดุเรื่องชุดนอนนี่ก็คือหมอนั่นสินะ เชยจริงๆ
" งั้นป้าไปก่อนนะคะ ขาดเหลืออะไรก็เรียกใช้ป้าได้เลย โทรศัพท์ในห้องกด3นะคะ ป้าจะรีบมาแต่ถ้าคุณจะไปหาคุณหนูก็ห้องนั้นนะคะเข้าไปได้เลย "
คุณป้าแกส่งยิ้มให้ฉันอย่างเป็นมิตรก่อนจะหันหลังกลับออกไปพร้อมกับคำพูดกำกวม ฉันจะเรียกตามแต่ก็ไม่ทันซะแล้ว
ป้าเดินเร็วมาก
เดี๋ยวสิ! ห้องนั้นแล้วมันห้องไหนล่ะบ้านก็ออกจะใหญ่โต
เพราะมันดึกมากแล้วฉันเลยหยุดความสงสัยเอาไว้ก่อนจะกลับเข้ามาเพื่อจะอาบน้ำอาบท่าให้สบายตัว วันนี้ฉันรู้สึกเหนื่อยจริงๆ ยืนขายของตัวเองตั้งแต่บ่ายอ่อนๆ แล้วยังต้องรีบไปขายเหล้าปั่นแทนยัยปลาอีก อ่อ ต้องโทรบอกมันเรื่องร้านด้วยสินะ
หลังจากที่ฉันอาบน้ำเสร็จเรียบร้อยฉันก็เดินมาหยิบชุดนอนที่คุณป้าแม่บ้านมีน้ำใจเอามาให้ ฉันแปลกใจนิดหน่อย ไม่น่าเชื่อว่าน้องสาวหมอนั่นจะรสนิยมดีขนาดนี้ เธออายุเท่าไหร่กันนะถึงได้เลือกชุดได้ถูกใจฉันจริงๆ
ผ้าซาตินสีขาวเนื้อบางเบาอย่างที่ฉันชอบใส่ ตรงกลางคว้านลึกจนมองเห็นร่องอกชัด คงเพราะขนาดมันเล็กกว่าไซส์ฉันพอมันมาอยู่ที่ตัวของฉันมันเลยทั้งรัดทั้งสั้นจนรู้สึกอึดอัดแต่ก็ช่างเถอะ ดีกว่าใส่ตัวเดิม
ฉันนอนพลิกตัวไปมาบนเตียงหนานุ่มกว่าชั่วโมงแล้วเพราะนอนยังไงก็ไม่หลับสักที ปกติถึงจะแปลกที่ฉันก็ไม่มีปัญหาอะไรแต่คงเพราะที่นี่เป็นบ้านของหมอนั่น มันเลยทำให้ฉันตื่นเต้นอย่างบอกไม่ถูก ก่อนหน้านี้เคยคิดนะว่าวันไหนที่ไม่ได้เห็นหน้าเห็นแค่หลังคาบ้านก็ยังดีแต่ดูตอนนี้สิ ฉันนอนอยู่ใต้หลังคาบ้าน หลังคาเดียวกับหมอนั่นเลยนะ!
" อร๊ายย!!! "
ฉันกรีดร้องออกมาเบาๆ พลางนอนดิ้นเร่าอยู่บนเตียงคนเดียว
ฉันต้องบ้าไปแล้วแน่ๆ
หลังจากที่นอนเพ้อเจ้ออยู่นานสองนานฉันก็ลุกไปห้องน้ำเพราะปวดท้องฉี่แต่พอออกมาคราวนี้สายตาของฉันก็ไปสะดุดกับประตูห้องที่อยู่อีกฝั่งนึง
ห้องนั้นสินะ ที่หมอนั่นบอกไว้ว่าไม่มีอะไรฉันไม่ต้องเข้าไปหรอก
มันจะเป็นการเสียมารยาทมั้ยนะถ้าฉันจะขอเปิดเข้าไปดูสักหน่อย สัญญาเลยว่าถ้าเกิดมีของมีค่าอยู่ในนั้นจริงๆ ฉันจะไม่เผลอหยิบติดมือกลับบ้านโดยเด็ดขาดและสาบานว่าฉันจะไม่แตะต้องข้าวของใดๆ แม้แต่ชิ้นเดียว ขอดูแปปเดียวเท่านั้น
ตึก!
ตึก!
ตึก!
ฉันย่องเบาด้วยความตื่นเต้นจนกระทั่งมาหยุดยืนอยู่ยังหน้าห้องปริศนา ก่อนจะค่อยๆ หมุนลูกบิดประตู
ว๊ายยยย!!!!
เห้ยยยย!!!
ฉันเบิกตากว้างพลางกรีดเสียงร้องออกมาด้วยความตกใจไม่ต่างจากอีกคน หมอนั่นรีบคว้าเอาผ้าเช็ดตัวมานุ่งเพื่อปกปิดท่อนล่างที่เปลือยเปล่าอยู่นั้น
ขนาดฉันเห็นแค่ด้านหลังของหมอนั่นฉันก็แทบจะกำเดาไหลแล้ว ผู้ชายอะไรแอบเซ็กซี่!!
" เข้ามาห้องผมทำไมครับ! "