02

3163 Words
“ไห่หลิน มาเถอะให้ข้าช่วย” ปลานิลที่ตอนนี้นางกลายเป็นมารดาของเด็กทารกน้อยตัวอ้วน ทั้งยังกลายเป็นสามัญชนชาวบ้านธรรมดา บ้านหลังนี้อยู่ในพื้นที่ชนบทอันห่างไกล ชาวบ้านรอบด้านจิตใจดี แม้โม่เหลียนฮวาจะร้ายกาจอย่างไรก็ไม่เคยนึกรังเกียจมากมายอะไร พวกนางเข้าใจด้วยซ้ำว่าคนที่ไม่เคยลำบากที่จะต้องมาลำบากจะทุกข์ใจแค่ไหน “ฮูหยินท่านไม่เคยขุดดิน ขุดทราย อย่าทำเลยเจ้าค่ะ” ไห่หลินกล่าว ปลานิลหัวเราะ นางนั้นยิ่งกว่าขุดดินขุดทราย บ้านของนางแต่เดิมเป็นหอพักเช่าราคาถูก ระหว่างทางมีต้นไม้มากมาย ด้วยความที่ไม่ค่อยมีเงิน ปลานิลนั้นมีความสามารถในการเดินหาของกิน ขุดหน่อไม้ เอาไซดักปลา หรือจะเป็นคนใจกล้าหน้าด้านไปขอปลาจากพวกนักตกปลาก็ทำอยู่บ่อยครั้ง เรื่องแค่นี้จะลำบากอะไร ดีเสียอีกได้ออกกำลังกายไปในตัว “ไม่เคยก็เคยได้นี่ เจ้ารับใช้ข้าตั้งแต่ในวังหลวง ฐานะนางกำนัลของเจ้าก็ไม่นับว่าธรรมดา เจ้าคงไม่เคยขุดดินด้วยซ้ำ” โม่เหลียนฮวาคนใหม่กล่าวอย่างมีหลักการ ไห่หลินยิ้มแห้ง นางไม่เคยทำงานหนักด้วยซ้ำ อย่างมากก็แค่ตามดูแลจวิ้นจู่ ยืนรอจวิ้นจู่ทานอาหาร หรือดูแลควบคุมงานทั่วไปเท่านั้น “เจ้าค่ะ” “เห็นไหมล่ะ มาเถอะข้าช่วย” โม่เหลียนฮวาที่เปลี่ยนไปช่วยกันขุดหลุม เรือนไม้ไผ่เป็นเรือนกลางป่า มีต้นไม้มากมาย ตอนกลางคืนมักจะมีแมลงไม่น้อย ต้องรีบดับฟืนไฟ แต่โม่เหลียนฮวาที่ได้ไปเห็นกอต้นตะไคร้ก็นึกออกว่าเมื่อก่อนที่หน้าต่างของหอพักนาง คุณยายก็มักจะปลูกต้นตะไคร้ไว้จนแตกกอเยอะแยะ กลางคืนก็จะส่งกลิ่นหอม ยามทำอาหารก็สามารถนำต้นตะไคร้มาทำต้มยำ สารพัดอาหารได้หลากหลาย “ฮูหยินท่านแน่ใจหรือเจ้าคะ บ่าวไม่เคยเห็นบ้านไหนปลูกเลย” “ปลูกไปเถอะ ข้าอยากปลูก” โม่เหลียนฮวาไม่อยากอธิบายอะไรมากนัก เพราะหากเอ่ยออกไป มันคงจะดูแปลกประหลาดไม่น้อย เพราะอย่างไรไห่หลินเป็นคนที่อยู่กับโม่เหลียนฮวามาตั้งแต่วัยเยาว์ หากแสดงออกมากเกินไป ไห่หลินคงต้องไม่เชื่อแน่ว่านางคือโม่เหลียนฮวาที่ความจำเสื่อม “เจ้าค่ะ ว่าแต่ฮูหยินทานยาแล้วหรือยังเจ้าคะ” “อืม ข้าทานแล้ว” โม่เหลียนฮวาตอบ ตั้งแต่ลืมตาตื่นมานางก็ต้องให้นมเด็กทารกตัวน้อยที่ยังไม่ลืมตาเท่าไหร่ แต่เด็กน้อยยังสามารถส่งเสียงงึมงำ ร้องไห้เป็นปกติ ก่อนหน้านั้นที่โม่เหลียนฮวาสลบไป ไห่หลินอุ้มเด็กน้อยไปขอปันนมจากหญิงสาวคนอื่นในหมู่บ้าน พอต้องตื่นมาให้นม โม่เหลียนฮวาที่ไม่ได้ให้นมเลยก็ปวดหนึบบริเวณปทุมถันไปหมด เด็กน้อยกินดื่มนมจากทรวงอกอย่างหิวโหย จนได้ท่านป้าเหมยมาสอนเกี่ยวกับการดูแล บีบน้ำนม เอาเด็กน้อยเข้าเต้า โม่เหลียนฮวาที่ไม่เคยเป็นแม่ ไม่เคยท้อง การต้องเปิดเผยเนื้อหนังให้ผู้อื่นดูก็รู้สึกอับอายไม่น้อย ไหนจะต้องมีบุรุษคนแรกที่มาดูดปทุมถันของนางเป็นเพียงทารกน้อย บุตรชายเจ้าของร่างอีก ช่างน่าขันนักเวลาที่นางจะต้องเห็นเจ้าตัวน้อยหน้าตาบู้บี้กินดื่มนมจากอกของนางอย่างเอาเป็นเอาตาย “ไห่หลิน ข้าอยากรู้ว่าพวกเรามีเงินมากเท่าไหร่กัน" “พวกเราก็มีเงินหลายร้อยตำลึงทองอยู่เจ้าค่ะ แต่บ่าวไม่กล้านำออกมาใช้กลัวจะเกิดอันตราย” ไห่หลินกล่าวออกมาอย่างคับแค้นใจ ความจริงแล้วพื้นที่ชนบทที่พวกนางอยู่ในทีแรกไม่ใช่ที่นี่ แต่เพราะถูกรังแกไม่น้อย ไห่หลินจึงพาฮูหยินของนางหนีตายมาที่นี่ โชคดีที่ไห่หลินมีตั๋วเงินของตนเองจำนวนมาก ในตอนนั้นฮูหยินไม่ได้นำทรัพย์สินติดตัวมาด้วย มีแต่เพียงของไห่หลิน ไห่หลินเป็นคนสนิทของสุ่ยเหอจวิ้นจู่ นางได้รับเงินพระราชทาน ร่ำรวยไม่น้อยหน้ากว่าเศรษฐีคนใด นางมักนำตั๋วเงินมาแลกบ่อยครั้ง ซึ่งเป็นของร้านทั่วไป เพราะต้องการส่งเงินให้กับที่บ้าน บ้านของนางเหลือเพียงแค่ท่านยายวัยชราเท่านั้น ซึ่งเมื่อนางอายุได้ครบสิบห้าปี ท่านยายก็ตายจากไป เหลือแต่เพียงญาติที่นางไม่ได้สนิท ไห่หลินจึงไม่ได้ส่งเงินให้อีก นางจึงได้เก็บเงินไว้แทน ตอนนี้เงินพวกนั้นก็ถูกใช้ดูแลสุ่ยเหอจวิ้นจู่ที่นางรักมากมาโดยตลอด แต่ชีวิตในชนบทไม่ได้ง่ายดายนัก นางจำต้องใช้ชีวิตอยู่อย่างธรรมดา ทั้งที่มีเงินมากมายขนาดนี้ก็พอจะอยู่อย่างหรูหราได้ “เงินเท่านี้นับว่าร่ำรวยหรือไม่” โม่เหลียนฮวาไม่รู้จักค่าเงินตราของที่นี่ นางเรียนด้านบริหารการจัดการทั่วไป ตามจริงสายนี้การหางานในยุคที่นางจากมานั้นยากไม่น้อย เพราะไม่ใช่สายเฉพาะทาง นางจึงไม่ค่อยมีความรู้ในด้านประวัติศาสตร์มากมายนัก โม่เหลียนฮวาไม่เพียงถูกเนรเทศ คาดว่าฐานอันดรทุกอย่างก็คงจะโดนปลดในภายหลังจนหมดสิ้นแล้ว เวลาเก้าเดือนที่ตั้งท้องมาอย่างยากลำบาก แม้กระทั่งสามี พี่ชาย และแม่บุญธรรมยังไม่มีใครทราบเรื่อง หรือทราบแล้ว แต่พวกเขาวางเฉย เพราะฉะนั้นวาสนาแต่ดั่งเดิมของโม่เหลียนฮวาก็นับว่าหมดสิ้นไปแล้ว สุ่ยเหอจวิ้นจู่ไม่มีอีกแล้ว “ร่ำรวยสิเจ้าคะ พวกเรารวยมากขนาดที่ว่าขุนนางหลักชั้นห้ายังไม่อาจเทียบได้” ไห่หลินกล่าวออกมา ไห่หลินมีตั๋วเงินมากมายนัก ทั้งยังไม่รวมถึงพวกเครื่องประดับ แต่อย่างไรก็ตามความปลอดภัยสำคัญยิ่ง บ้านหลังนี้มีเพียงสตรี และเด็กอ่อน การใช้เงินมากดูจะอันตรายอย่างยิ่ง “งั้นหรือ คราวก่อนข้าเห็นว่าเจ้านำกุ้งมาทาน พวกเราอยู่ติดทะเลใช่หรือไม่” โม่เหลียนฮวาสอบถาม เพราะที่นี่มีลมแรง อากาศร้อนไม่น้อย ทั้งอาหารยังดูสมบูรณ์พอควร โม่เหลียนฮวาไมไ่ด้ออกไปไหนไกลก็พอจะรู้บ้างจากการได้ทานกุ้งแช่บ๊วยตัวใหญ่ที่มีความสดในเนื้อ ทั้งยังหวานหอมมีกลิ่นเค็ม น่าเสียดายหากมีน้ำจิ้มซีฟู้ดคงจะดีไม่น้อย “เจ้าค่ะ ฺฮูหยินท่านลืมหมดแล้วหรือ” “แม้แต่ชื่อตนเองยังจำไม่ได้ แล้วข้าจะไปรู้ได้อย่างไรว่าพวกเราย้ายมาที่ไหนกัน” โม่เหลียนฮวายิ้ม วันนี้นางตั้งใจที่จะไปตลาดกับไห่หลิน บุตรชายของนางก็จะนำไปฝากป้าเหมยเลี้ยง นางเป็นสตรีหม้ายมีบุตรชายอยู่หนึ่งคนไปเป็นทหารที่อยู่ห่างไกล ทำให้นางไม่มีอะไรทำมากมายนัก อีกอย่างบ้านของโม่เหลียนฮวาก็อยู่ในอาณาบริเวณบ้านของป้าเหมย ทำให้ปลอดภัยไม่น้อย เพราะป้าเหมยนั้นมีบุตรชายเป็นถึงนายกอง แม้จะยศไม่ใหญ่โตมากนัก แต่ก็ไม่นับว่าด้อยอะไรในแถบชนบท “ฮูหยินท่านงดงามขนาดนี้ ข้าไม่อยากให้ท่านติดตามข้าไปเลย” “ไม่ได้งามขนาดนั้นหรอก” โม่เหลียนฮวากล่าว ความจริงนางโกหก เจ้าของร่างนี้งดงามมาก หากเทียบกับคนในยุคปัจจุบัน ขาวออร่าขนาดนี้ก็คงไม่พ้นดารานางแบบหรือเน็ตไอดอลคนดัง “โถ่…ฮูหยิน” “ไม่มีใครมายุ่งหรอก สตรีหม้ายสามีตายเป็นสิ่งอัปมงคลไม่ใช่หรือ” โม่เหลียนฮวาถามไห่หลิน เพราะไห่หลินเคยเล่าให้คนอื่นฟังว่าโม่เหลียนฮวาแต่งงาน สามีตาย มีลูกติดท้องมาแค่คนเดียว เรื่องราวที่เล่าออกไปนั้นถือเป็นเรื่องเลวร้ายในยุคสมัยโบราณมาก แต่เพราะมีเด็กทารกติดท้องมา โดนขับไล่มา หลายคนเลยนึกสงสารมากกว่าที่จะรังเกียจ แต่ก็ไม่มีบ้านไหนยอมให้บุตรชายมายุ่งย่ามกับโม่เหลียนฮวาเลยสักคน “ฮูหยินเจ้าคะ แต่บางคนก็ไม่กลัวตายนะเจ้าคะ” “เขาไม่กลัวตาย แต่ข้าก็ไม่ได้อยากมีสามีใหม่นี่ เจ้าจะกลัวอะไร” โม่เหลียนฮวาเอ่ยอย่างอารมณ์ดีก่อนจะเดินนำมา ไห่หลินจำต้องรีบเดินตาม ในตลาดยามเย็นมีแม่ค้ามากมายขายของ กลิ่นอายความคาวของของสดจากทะเล ทำให้โม่เหลียนฮวารู้สึกมีความสุขไม่น้อย อาหารทะเลในยุคนางมีราคาแพง แค่กุ้งโลนึงก็สองสามร้อยบาทแล้ว คนเงินเดือนน้อยแบบนางกว่าจะได้กินสักครั้งก็ต้องรอสิ้นเดือนที่จะไปทานชาบูราคาถูก หรือจะกินตามร้านอาหารตามสั่งเช่นกะเพรากุ้ง “ไห่หลินเรามีเงินมากพอจะซื้อปลา ซื้อกุ้งไหม ข้าอยากกิน” “บ่าวพอมีเจ้าค่ะ แต่เราซื้อมากไม่ได้นะเจ้าคะ อาหารพวกนี้เก็บรักษายาก” “อืมได้สิ งั้นข้าเอาปลาตัวนี้หนึ่งตัว กุ้งเอาเอ่อ… ขายยังไงหรือ” โม่เหลียนฮวาถาม นางเกือบจะสั่งไปแล้วหนึ่งกิโล แต่ยุคโบราณแบบนี้ไม่น่าจะใช้หน่วยเป็นกิโล “ขายเป็นจินไงนังหนูคนงาม" ท่านยายเจ้าของแผงอาหารทะเลกล่าว โม่เหลียนฮวาหันไปมองไห่หลินอย่างขอความช่วยเหลือ จินเป็นยังไง คิดเท่าไหร่นางยังไม่รู้เลย “เอาสองจินจ้ะท่านยาย” “ได้สิ ท่านยายกล่าวก่อนจะรับตะกร้าสานสะพายของไห่หลินใส่ปลาและกุ้งลงไป” ความจริงโม่เหลียนฮวาก็ลืมนึกไปว่านางควรจะไปร้านผักก่อนที่จะซื้อของคาว แต่ร้านผักก็อยู่ไม่ไกลกัน โม่เหลียนฮวาจึงได้เดินไปดูผักก่อน และนางก็ต้องดีใจอย่างมากเมื่อเจอลูกมะนาวสีเขียว โม่เหลียนฮวาเลือกมะนาวไปหลายลูกท่ามกลางความงุนงงของแม่ค้า เพราะนี่เป็นผลไม้ที่มีรสเปรี้ยว ไม่ค่อยมีใครนำไปทาน แต่สตรีที่งดงามนางนี้กลับเลือกหยิบไปหลายลูก “เอามะนาว พริก กระเทียม แล้วก็ผักชีด้วยจ้ะ” โม่เหลียนฮวากล่าว วันนี้นางตั้งใจจะทำปลากระพงนึ่งมะนาวทาน และนึ่งกุ้งกินกับน้ำจิ้มซีฟู้ด แต่น่าเสียดายที่ไม่มีน้ำตาลกับเกลือ ถึงมีก็ราคาแพง ไห่หลินคงไม่ยินยอมนำเงินออกมาซื้อเกลือแน่นอน แต่เอาเถอะ ค่อยไปตักน้ำทะเลมาทำก็ได้ แต่น้ำตาลเนี่ยสิจะเอาจากไหนกัน “ฮูหยินท่านซื้อผักอะไรกันเจ้าคะ” ไห่หลินถามด้วยความไม่เข้าใจ ผักพวกนี้ทำอาหารอะไรได้ แต่ละอย่างก็มีกลิ่นรุนแรงทั้งนั้น แต่ก็ต้องจ่ายเงินซื้อแต่โดยดี เพราะไม่กล้าขัดใจฮูหยินของตนเองนัก แม้ตั้งแต่ฟื้นขึ้นมานางจะเปลี่ยนลักษณะนิสัยไปไม่น้อย แต่ไห่หลินก็เชื่อว่านี่คือลักษณะนิสัยแท้จริงของเจ้านายตัวเอง เพราะเมื่อวัยเยาว์ แม้จะเอาแต่ใจไปบ้าง เพราะมีพระมารดาบุญธรรมเป็นถึงฮองเฮา แต่สุ่ยเหอจวิ้นจู่ก็เป็นคนมีเมตตาต่อบ่าวรับใช้ ขันที นางกำนัลไม่น้อยเลย “ไห่หลิน หากข้าต้องการน้ำตาลจะหาได้จากไหนหรือ” “น้ำตาลหรือเจ้าคะ แพงมากเลยนะเจ้าคะ" “ถ้าเช่นนั้นมีอะไรที่แทนความหวานได้บ้างไหม” “ที่บ้านเราพอมีเจ้าค่ะ” ไห่หลินกระซิบเสียงเบา โม่เหลียนฮวาพยักหน้าเข้าใจ แม้จะความรู้ทางประวัติศาสตร์น้อย แต่เกลือกับน้ำตาล ในยุคโบราณมีราคาค่อนข้างแพงมาก มีแต่ชนชั้นสูงเท่านั้นที่จะมีเงินมากพอที่จะสามารถกินใช้ได้ “งั้นเราก็กลับกันเถอะ” โม่เหลียนฮวากล่าว ความจริงในตลาดก็ไม่ได้มีของอะไรมากมายนัก และทุกอย่างจะน่าสนใจก็ต่อเมื่อมีเงินเท่านั้น อีกอย่างสถานะความร่ำรวยของโม่เหลียนฮวาในตอนนี้ก็ไม่เหมาะจะซื้อหาอะไรสักนิด “แม่นาง” เสียงของบุรุษคนนึงเรียกโม่เหลียนฮวา เขายืนขวางทางเดินอยู่ ท่าทางของเขาคล้ายกับบัณฑิตหนุ่มในตระกูลที่ร่ำรวย โม่เหลียนฮวามองหน้าเขาอย่างไม่เข้าใจ แต่ไห่หลินนั้นเห็นเรื่องราวแบบนี้จนชินตาแล้ว เจ้านายของตนไม่รู้เลยว่าตนเองงดงามมากเพียงใด สตรีในวังล้วนมีเป็นสตรีที่งดงาม เมื่ออยู่ในสายตาสุ่ยเหอจวิ้นจู่ก็นับว่ามีความงามที่ไม่ได้ด้อยกว่าผู้อื่นเลย แต่หากเป็นชีวิตในชนบทที่ไม่ใช่วังหลวง ความงามเช่นนี้นับว่างดงามมากจนเกินไปเสียด้วยซ้ำ “คุณชายมีธุระอะไรกับฮูหยินของข้าหรือเจ้าคะ” ไห่หลินออกหน้า แทนเจ้านายของตนเอง “ฮูหยินหรือ แม่นางมีสามีแล้วหรือ” คุณชายท่านนั้นเอ่ยออกมาอย่างเสียดาย สตรีที่มีรูปโฉมงดงามล้ำเลิศขนาดนี้ แต่กลับสวมใส่ผ้าป่านมอซอ น่าเสียดายนัก เขาเป็นคุณชายตระกูลใหญ่ ยังไม่มีฮูหยินของตน เมื่อครู่ได้เห็นนางกำลังยืนเลือกซื้อผักก็ตกตะลึงหลงใหลในความงามของนางจนยากจะถอนตัว จึงได้รวบรวมความกล้าเข้ามาหานาง “เจ้าค่ะ ข้าน้อยมีสามีแล้ว” โม่เหลียนฮวายิ้มตอบ “ท่านพอจะบอกชื่อแซ่ของท่านได้หรือไม่” คุณชายท่านนี้ไม่ยอมลดละ เดิมเขาเป็นคนสุภาพ แต่เมื่อเห็นความงามของนางในใจพลันเกิดกิเลสตัณหา เขาร่ำรวย ฐานะดี หากว่านางจะเลือกเขา เขาก็ยินดีที่จะไม่สนใจว่านางเคยมีสามี และรับนางเขาเป็นอนุนางหนึ่งของตนเองได้ …หากว่านางยอมรับ แม้จะต้องกลายเป็นคนโฉดชั่วก็ตาม “ขออภัยด้วยเจ้าค่ะ คุณชาย ฮูหยินของข้ามีครอบครัวแล้ว” ไห่หลินกล่าวออกมา ก่อนจะรีบจับจูงฮูหยินของตนเองออกมาจากสถานการณ์แบบนั้น ความจริงก็พอคิดบ้างอยู่แล้วว่าพาออกมาก็จะต้องเจอบุรุษที่มาเกี้ยวนายของตนเอง แต่ไม่คิดว่าจะมีคุณชายท่าทางสูงศักดิ์เช่นนี้ ปกติแล้วเมืองท่าจะมีแต่ตระกูลพ่อค้าเสียเป็นส่วนใหญ่ พวกขุนนางก็มีบ้าง แต่ไม่ได้ออกมาบ่อยครั้ง “ไห่หลินเจ้ากลัวข้ามีสามีใหม่ขนาดนั้นเชียวหรอ” โม่เหลียนฮวาเอ่ยติดตลก ไห่หลินหันไปมองฮูหยินของตนเองที่ไม่รู้อะไรเลย นางเชื่อว่าฮูหยินของนางมีใจรักมั่นอยู่กับบุรุษเพียงผู้เดียว แต่ตอนนี้พวกนางทั้งสองเป็นเพียงสาวชาวบ้านธรรมดา จะเอาสิ่งใดไปสู้กับพวกขุนนางตระกูลใหญ่ หากว่าพวกเขาต้องการให้นางเป็นภรรยา หรืออนุในเรือน ถึงจะสร้างชื่อเสียให้กับฮูหยินแล้ว แต่ด้วยความงามขนาดนี้ คนไม่กลัวตายก็มีมากนัก “ข้าน้อยไม่ได้กลัวท่าน แต่กลัวผู้อื่นต่างหาก พวกขุนนางมองชนชั้นสามัญไม่เหมือนมองคนด้วยซ้ำ ท่านต้องระวังตัวให้มาก” โม่เหลียนฮวาพอเห็นท่าทางจริงจังของไห่หลินก็นิ่งไป ประวัติศาสตร์โบราณไม่ต้องเป็นของจีนก็มีเรื่องราวเช่นนี้ทั้งนั้น การค้าทาส ชาวบ้านสามัญต้องถูกขูดรีดภาษี กษัตริย์ขุนนางทรราชก็มีให้เห็นมากมาย คนที่ทุกข์ยากมากที่สุดก็คือประชาชนทั้งนั้น ยิ่งในยุคโบราณที่กฏหมายไม่เข้มงวด มีหรือที่ชาวบ้านธรรมดาจะต่อกรกับพวกขุนนางได้ “ข้าขอโทษไห่หลิน ต่อไปข้าจะไม่ออกไปไหนอีกแล้ว” “ฮูหยิน ท่านอย่าโกรธข้าเลยนะเจ้าคะ ข้าเป็นห่วงท่านมากจริงๆ ข้าไม่ได้คิดจะกักขังท่านเช่นนี้เลย” ไห่หลินกล่าวออกมาด้วยความสงสาร ฮูหยินไม่เคยเอ่ยปากขอโทษนางสักครั้ง ครั้งนี้เป็นครั้งแรกเลยที่ได้ยินคำขอโทษจากเจ้านายของตน “ข้ารู้แล้วไห่หลิน ต่อไปข้าจะไม่ดื้อกับเจ้าอีกแล้ว" โม่เหลียนฮวากล่าว นางไม่ควรเอาแต่ใจหรือคิดน้อยขนาดนี้ นี่มันยุคสมัยที่นางไม่รู้จัก ทั้งยังเป็นโลกแห่งความจริงที่ผู้คนล้วนมีชีวิต อันตรายรอบด้าน “เช่นนั้นเรากลับกันเจ้าคะ” “เดี๋ยวสิ ข้าไปตักน้ำทะเลได้หรือไม่” “ตักน้ำทะเลทำไมเจ้าคะ” “ข้าอยากได้เกลือ” “เกลือหรือเจ้าคะ” “อืมเกลือ” โม่เหลียนฮวากล่าวก่อนจะนำกระบอกไม้ไผ่ยาวไปตักน้ำทะเลที่โขดหิน น้ำทะเลโบราณใสสะอาดมากจนเห็นปลาใต้น้ำ ไว้คราวหน้านางจะลองมาหาของทะเลบริเวณนี้ดู เผื่อว่าจะมีอาหารทะเลตามซอกโขดหินที่น่าสนใจตามที่เคยเห็นในคลิปยูทูป “ฮูหยินท่านจะเอาน้ำทะเลมาทำไมเจ้าคะ” “ก็ข้าไม่มีเกลืออย่างไรเล่า” “เกลือ… ปกติเกลือจะมาจากในถ้ำนะเจ้าคะ” ไห่หลินกล่าว ปกติแล้วเกลือจะเป็นก้อนผลึกมาจากในถ้ำ แต่คนในยุคสมัยของปลานิล เกลือในเหมืองจะเรียกเกลือสินเธาว์ ส่วนเกลือทะเลจะเรียกเกลือสมุทร ถ้าจำไม่ผิด นาเกลือก็เริ่มมีในยุคโบราณแล้ว แต่น่าจะยังไม่เป็นที่แพร่หลาย หรือยุคนี้ มิติ ภพนี้อาจจะยังไม่มีกระบวนการนี้ก็เป็นได้ “ช่างเถอะ ข้าขี้เกียจอธิบาย แต่ข้าพอจะจำได้ว่าเกลือก็มาจากน้ำทะเลได้เช่นกัน” --- หนึ่งจิน - หนักเท่ากับ 500 กรัม หรือครึ่งกิโล มะนาวมีมานานแล้ว ต้นกำเนิดจากอินเดีย เผยแพร่ไปในหลายประเทศ น้ำตาลอินเดียก็ผลิตได้นานมากแล้ว ในแถบเอเชีย และเอเชียตะวันออกเฉียงใต้จะใช้น้ำตาลจากอ้อย พระภิกษุจากอินเดียนำไปเผยแพร่ในจีน อ้างอิงจากบทความน้ำตาลในสารานุกรมเสรี วิกิพีเดีย เกลือสมุทร เป็นเกลือจากทะเล ในสมัยจีนโบราณมีการบันทึกว่ามีนาเกลือในยุคสมัยราชวงศ์ถัง บริเวณริมฝั่งแม่น้ำหลานชาง อำเภอหมางคาง เมืองชางตู เขตปกครองทิเบตทางตะวันตกเฉียงใต้ อ้างอิงจากบทความนาเกลือสมัยราชวงศ์ถังริมฝั่งแม่น้ำหลานชาง สำนักข่าวซินหัวไทย
Free reading for new users
Scan code to download app
Facebookexpand_more
  • author-avatar
    Writer
  • chap_listContents
  • likeADD