ความทรงจำวัยเด็กของกองปราบนั้น เขาเติบโตมาในคฤหาสน์หลังใหญ่ของพ่อแม่ที่ใหญ่โตโอ่อ่าระยิบระยับไปด้วยโคมไฟระย้าคริสทัล เมื่อพ่อแม่จากไปตอนเขาอายุสิบสี่ปีด้วยอุบัติเหตุเรือล่ม บ้านหลังใหญ่ก็เหงาเกินไป กองปราบเลยตัดสินใจย้ายไปอยู่กับครอบครัวของป้าที่ประเทศอังกฤษ อย่างน้อยก็เหงาน้อยลง
เมื่อโตเป็นหนุ่มและยืนด้วยขาตัวเองได้ ชายหนุ่มจึงกลับมาที่คฤหาสน์อีกครั้ง แต่เขาไม่เข้าไปอยู่ที่นั่นหรอก มันใหญ่และเงียบเกินไป... กองปราบสร้างบ้านหลังขนาดกะทัดรัดสไตล์โมเดิร์นอยู่ตัวคนเดียวในพื้นที่ของคฤหาสน์ จ้างแม่บ้านแบบสามวันเจอกันที ชีวิตก็ราบเรียบมีความสุขดี
กระทั่งวันนั้นที่เธอก้าวเข้ามา...
ชายหนุ่มคิดถึงความหลังแล้วก็ได้แต่ถอนหายใจยาว ขณะกำลังผูกเนกไทอยู่หน้ากระจกในห้องนอนส่วนตัว ในหัวยังปวดจี๊ดจากอาการเมาค้าง เขาหยิบเสื้อสูทสีดำมาพาดแขนแล้วออกจากห้องนอนเดินลงบันไดมาชั้นล่าง
อากาศยามเช้าสดใสกระจ่าง ที่โต๊ะรับประทานอาหารมีข้าวสวยร้อนๆ ใส่ถ้วยวางไว้ให้แล้วพร้อมกับซุปหอมกรุ่นควันฉุย ก่อนที่สาวน้อยตัวบางจะเดินออกมาพร้อมถาดกับข้าวในมือขาวๆ ที่เขายังจำได้ว่ามันนุ่มเพียงไรตอนลูบไล้ความเป็นเขาแล้วไล้ลิ้นดูดกลืนราวกับอมยิ้มแสนหวาน โดยที่ชายหนุ่มไม่มีสิทธิ์ต่อสู้อะไรได้เลย
แค่คิดหน้าก็ตึงด้วยความโกรธ แถมเบื้องล่างยังตึงตามมาด้วย โธ่โว้ย! เขาไม่ควรรู้สึกแบบนี้กับเธอเลย!
“อรุณสวัสดิ์ค่ะคุณปราบ” เธอยิ้มจนเห็นฟันขาวราวมุก ดวงตาใสกระจ่างเหมือนปกตินั่นละ ไม่ว่าเขาจะทำหน้ายักษ์พูดจาไม่ดีใส่ยังไง วนิดา ก็ยังคงร่าเริงสดใสอยู่ดี “วันนี้มีผัดผักกับไข่ตุ๋นทรงเครื่องค่ะ คุณปราบซดน้ำซุปร้อนๆ ก่อนนะคะ จะได้หายแฮงค์”
หญิงสาวกุลีกุจอรินน้ำใส่แก้ววางไว้ให้ ก่อนถอดผ้ากันเปื้อนออกไปแขวนไว้ในครัวแล้วเดินกลับมานั่งตรงกันข้ามในชุดเสื้อเชิ้ตสีขาวแขนตุ๊กตาสวมทับด้วยกระโปรงพลีทสีน้ำเงินคาดด้วยเข็มขัดติดตราโรงเรียนแห่งหนึ่ง พูดกันง่ายๆ ก็ชุดนักเรียนมัธยมปลายนั่นละ
กองปราบไม่พูดไม่จา เขาซดน้ำซุปอย่างระวังความร้อน มันหอมหวานอร่อย และต้องยอมรับว่าทำให้หัวตื้อๆ โล่งขึ้นได้อย่างที่เธอเคลมจริงๆ
“อร่อยไหมคะ”
วนิดายังพยายามถามเขายิ้มๆ แต่เมื่อชายหนุ่มปรายตามองดุ สาวน้อยก็ก้มหน้างุด หุบยิ้ม แล้วจับช้อนส้อมของตัวเองตักน้ำซุปกับสาหร่ายเข้าปากเงียบๆ
ชายหนุ่มถอนหายใจยาวด้วยความอึดอัด
พอเธอจ๋อย เขาก็อดรู้สึกผิดไม่ได้ทุกที
ทำไมเขาต้องรับบทตัวร้ายตลอดเลยวะเนี่ย ทั้งที่เธอกับแม่เลี้ยงของเธอไม่ใช่เหรอที่ทำตัวเป็นปลิงคอยสูบเลือดสูบเนื้อเขามาตั้งปีกว่าแล้ว!
“อร่อยดี”
เขาพูดเสียงแข็ง ทว่ากลับเรียกรอยยิ้มให้กลับมาประดับใบหน้างดงามน่ารักอีกครั้ง แก้มเธอแดงปลั่งด้วยเลือดฝาด ดวงตาพราวระยับอย่างมีความสุข วนิดากินข้าวพลางซดน้ำซุปไปพลาง เงยหน้าขึ้นอีกที กองปราบก็เห็นเศษสาหร่ายติดอยู่ตรงมุมปากสาวน้อย
“ปากเธอเลอะแน่ะ” เขาบอกแบบผู้ใหญ่เตือนเด็ก ก็เขากับเธออายุห่างกันตั้งเจ็ดปีนี่นา “ตรงนี้”
ชายหนุ่มแตะมุมปากตัวเองบอกตำแหน่งที่เลอะ วนิดาจึงเลื่อนนิ้วไปเรื่อยๆ ตามเรียวปากงาม กระทั่งเธอแตะถูกสาหร่ายเจ้าปัญหา ก่อนจะเลื่อนนิ้วเข้าปากดูดกลืนสาหร่ายลงคอไปด้วยใบหน้าไร้เดียงสา
ยัยงูพิษ!
กองปราบโอดครวญในใจเมื่อสมองมันหยุดอยู่ใต้สะดือเพราะความทรงจำเมื่อคืนนี้เข้าจนได้ เธอจงใจ! จงใจแน่นอน! หน็อยแน่ ไหนแม่เลี้ยงของเธอบอกว่าเลี้ยงลูกติดสามีมาอย่างดีไม่มีชายใดกรายกล้ำ แล้วไอ้ที่ ‘ทำ’ ให้เขาเมื่อคืนมันเหมือนสาวพรหมจรรย์ตรงไหนกัน!
วนิดาดึงนิ้วเรียวออกจากริมฝีปาก แก้มเธอแดงซ่านเมื่อมองหน้าเขาแล้วดูเหมือนจะคิดถึงเรื่องเมื่อคืนขึ้นมาเหมือนกัน เธอก้มหน้าลงต่ำอย่างเอียงอาย
มารยา!
กองปราบปรามาสด้วยเป้ากางเกงที่แข็งตึงจนน่าโมโห นี่เขาตัดสินใจพลาดไปหรือเปล่านะที่ทำตามคำแนะนำของทนาย และยังจะเลี้ยงเธอต่อไปจนกว่าจะจบการศึกษามัธยมปลายด้วยมนุษยธรรม
ที่จริงเขาควรเห็นแก่ตัว ใจร้าย บังคับจดทะเบียนหย่าแล้วไล่เธอออกจากบ้านไปได้แล้ว
“เอ่อ หนูจะไปชงกาแฟให้นะคะ”
วนิดาลุกเดินหายไปครู่หนึ่งก็กลับเข้ามาที่ห้องรับประทานอาหารพร้อมกาแฟร้อนหอมกรุ่น เธอวางแก้วกาแฟไว้ข้างจานข้าวของเขาด้วยสองมือที่สั่นนิดๆ ก่อนรีบเดินไปนั่งตรงกันข้ามกันเหมือนเดิม
“คือ เมื่อคืน...คุณปราบจำได้ไหมคะว่ากลับมาได้ยังไง”
“จำได้สิ” กองปราบตอบทันทีและสังเกตสีหน้าของเธอไปด้วย แก้มเธอแดงขึ้นอีกอย่างน่าเอ็นดู สาวน้อยกลืนน้ำลายลงคอฝืดๆ ก่อนที่เขาจะพูดต่อ “ก็เรียกบริการคนขับรถให้ จำได้แค่นั้น ฉันเมาขนาดนั้นเธอยังจะให้ฉันจำอะไรอีก”
กองปราบแอบเห็นเธอพ่นลมหายใจด้วยใบหน้าโล่งอก
ใช่สิ เธอคงไม่อยากให้เขาจำได้หรอกว่าเด็กสาววัยแค่สิบแปดปีจะเชี่ยวชาญเรื่องบริการความสุขให้ผู้ชายขนาดนั้น
แต่ขอโทษที เขาจำได้ทุกจังหวะจะโคน...
ชายหนุ่มลอบมองเสี้ยวหน้าหวานด้วยดวงตาพินิจพิจารณา ทว่าเขาไม่พูดอะไรอีกเลยตลอดเวลาการรับประทานอาหารเช้าที่น่าอึดอัดสำหรับทั้งสองคน