1.รินาดีเดอเซีย
"เวลาของท่านหญิง......."
มือที่จับแขนเรียวเล็กเพื่อวัดชีพจรเริ่มสั่น น้ำเสียงที่เอ่ยขึ้นสั่นเครือ น็อคซ์ แพทย์หลวงประจำประราชวังยกมือขึ้นขยับเเว่นตาเล็กน้อย เขาเหลือบมองใบหน้าที่งดงามแต่ทว่าซูบผอมนั้น สายตาที่เลื่อนลอยไม่แม้แต่มองมาทางเขา ดวงตาสีมรกตนั้นจับจ้องมองออกไปนอนหน้าต่างอย่างเหม่อลอย
"ข้า....เข้าใจดี ขอให้ท่านเก็บเรื่องนี้ไว้ก่อนอย่าพึ่งให้ใครรู้ข้าจะบอกกับทุกคนเอง"
หมอหลวงน็อกซ์หลับตาลงพยักหน้าเป็นเชิงเข้าใจ เขาวางแขนไว้ข้างลำตัวสตรีสูงศักดิ์
รินา วิรีออน แอนด์ เดอนีเซีย แกรนด์ดัชเชสของคฤหาสเดอนีเซีย สตรีที่งดงามราวกับภาพวาดจิตรกรรมฝาผนัง ใครก็ตามที่ได้พานพบใบหน้าของริน่า ต่างต้องตกในภวังค์
สตรีที่บุรุษทั่วทั้งเมืองหลวงต่างแก่งแย่งเธอมาเป็นภรรยา จนองค์จักรพรรดิกลุ้มใจและประทานสมรสให้รินา ให้แต่งงานกับแกรนด์ดยุคเดอนีเซีย
"แค่ก..แค่ก ..." รินายกผ้าเช็ดหน้าขึ้นมาปิดปาก
เธอมองผ้าเช็ดหน้าสีขาวผืนนั้นเปื้อนเลือดอย่างเจ็บปวด
เธอรู้ดี รู้ดีกว่าใครว่าร่างกายนี้จะตายในไม่ช้า หยาดน้ำตาไหลอาบแก้มดวงตาคู่สวยนั้นหลับตาลง
เธอป่วยอยู่เพียงลำพังนานเท่าไหร่แล้วนะ….
ขาทั้งสองข้างนี้เดินไม่ได้นานแค่ไหนแล้ว..??
โลกที่เธอเห็นผ่านหน้าต่างนั่นช่างงดงามและอบอุ่น สาวใช้ในคฤหาสน์ยังคงวิ่งวุ่นทำงาน คนสวนรดน้ำและใส่ปุ๋ยในแปลงกุหลาบที่เธอปลูก พวกเขาดูแลแปลงดอกไม้พวกนั้นอย่างดี สวนที่สวยงามปรากฏในสายตาเธอเสมอ
รถม้าประดับตราของตระกูลเดอนีเซียวิ่งเข้ามาจอดหน้าประตูคฤหาสน์ สาวใช้รีบวิ่งไปยืนต้อนรับ ประตูรถม้าเปิดออก ปรากฏใบหน้าหล่อเหลา เดินลงจากรถม้า ในวินาทีหนึ่งสายตานั้นมองสบตากับเธอ พอเขารู้ว่าเธอมองอยู่เขาก็รีบหันหน้าหนี เธอแค่นยิ้มโง่ๆให้กับตัวเอง
นาทีถัดมามีนิ้วมือเรียวยาวยืนมาจับแขนเขา ร่างบางในชุดสีชมพูเดินลงจากรถม้า ปรากฏเป็นสตรีงามงดผู้หนึ่ง นางใช้มือเกี่ยวแขนบุรุษผู้นั้นตลอดทางเดินเข้าคฤหาสน์ เสียงหัวเราะคิกคักดังขึ้นมาเป็นระยะ บรรยากาศตลบอบอวลไปด้วยความรักของคนทั้งสอง
บางทีฉันก็อยากถามตัวเองว่าฉันหายใจอยู่รึป่าว ทำไมในใจถึงไม่มีความรู้สึกเจ็บปวดใดๆอยู่เลย
แกรนด์ดยุคอีธาน โอเว่น เดอนีเซีย สามีของฉัน
เราไม่เคยแม้แต่จะเข้าหอ การแต่งงานทางการเมืองนี้ทำให้เขาเสียหน้าเป็นอย่างมากที่ต้องทำตามคำสั่งจักรพรรดิ ฉันเข้ามาโดยไม่ได้รับการปฏิบัติว่าเป็นนายหญิงของที่นี่ด้วยซ้ำ ฉันพยายามเข้าหาเขา พยายามเป็นภรรยาที่ไม่เรื่องมาก ไม่ต้องการสิ่งใดจากสามี
ฉันอดทนจนกระทั่งล้มป่วย หมอบอกว่าเป็นเพราะความเครียดสะสม
เขาโกรธฉันโดยที่ฉันไม่รู้ด้วยซ้ำว่าเขาโกรธเรื่องไหน โกรธเพราะอะไร
จดหมายหย่าเป็นสิบฉบับที่ฉันส่งไปหาเขา ถูกตอบกลับมาด้วยการกักบริเวณ ที่มากขึ้น มากขึ้นจากเดิม ห้ามออกนอกคฤหาสน์เป็นห้ามออกจากห้องนอน
จดหมายที่ส่งถึงท่านพ่อท่านแม่ถูกตีกลับมาหมด เขาไม่ให้ฉันส่งแม้แต่จดหมายหาท่ายพ่อและท่านแม่
มีเพียงจดหมายของท่านแม่ที่ฝากสาวใช้มาให้ตั้งแต่สี่ปีที่แล้ว ที่ได้อ่านล่าสุด….
ราวกับเขาจะฆ่าฉันทั้งเป็น ฉันอยากจะวิ่งไปถามว่าฉันทำผิดอะไรนักหนา ถึงเกลียดฉันขนาดนี้ แต่เขาก็ไม่ให้ฉันพบ นานนับหลายปีที่เราไม่ได้คุยกันซักคำ….
"แค่ก...แค่ก..."
ฉันไออีกครั้ง ครั้งนี้ดูจะรุนแรงกว่าทุกครั้งที่ผ่านมา ฉันกระอักลิ่มเลือดสีดำออกมา
ฉันหลับตาลงแล้วค่อยๆยิ้ม
นี่อาจจะเป็นหนทางที่ดีที่สุด ในที่สุดฉันก็จะได้ออกจากกรงทองนี้เสียที....
"ปัง!!!!"
"นี่มันอะไร!!!"
อีธานถีบประตูเข้ามา ใบหน้าหล่อเหลาของเขาปรากฏหยาดเหงื่อราวกับเขารีบร้อนวิ่งขึ้นมา
"ข้าถามว่านี่มันเกิดอะไรขึ้น...ทำไม..ทำไมมีเลือด...."
เขาวิ่งเข้ามาดึงข้อมือฉัน ฉันมองหน้าเขาแล้วยิ้ม
"นี่ไม่ใช่สิ่งที่ท่านต้องการหรือท่านแกรนด์ดยุค"
เขาออกแรงบีบที่มือฉันจนเจ็บ ฉันได้แต่กัดปากไม่ส่งเสียงร้องออกมา
"เอาสาวใช้ในห้องนี้ไปฆ่าทิ้งให้หมด ตามหมอที่เคยรักษาแกรนด์ดัชเชสมารักษานาง หากรักษาไม่ได้ก็ฆ่าทิ้งให้หมด!!!!"
"อีธาน...." ฉันรวบรวมกำลังที่มีเรียกชื่อเขาอย่างแผ่วเบา
"ปล่อยข้าไปเถอะ.......ให้ข้าตา..."
"หุบปาก!!!! อย่าได้คิดว่าเขาจะหนีจากข้าไปได้ไม่มีวัน!!!!!"
ฉันหลับตาลงน้ำตาไหลลงมาอย่างห้ามไม่อยู่ ฉันไม่อยาก ไม่อยากร้องไห้ต่อหน้าเขา ไม่อยากให้เขาเห็นว่าฉันอ่อนเพียงใด ไม่อยากให้เขารู้ว่าฉันเสียใจแค่ไหน
"....ได้โปรดอีธาน....อย่ารั้งข้าไว้เลย...."
เขาไม่ตอบจังหวะนั้นหมอหลวงน็อกซ์เข้ามาพอดี
"รักษานาง..."
เขาชักดาบออกมาจ่อที่คอน็อกซ์
"...ไม่สามารถทำได้แล้วครับท่านแกรนด์ดยุค ท่านหญิงหมดหนทาง...."
"ฉึก!!!!"
เขาแกว่งดาบตัดคอน็อกซ์อย่างรวดเร็ว เลือดบางส่วนของน็อกซ์สาดมาที่ฉัน ฉันยกมือขึ้นมาปิดปาก
เขาบ้าไปแล้ว อีธานบ้าไปแล้ว.....
"ไปตามหมอคนอื่นมา!!!!"
เขาทิ้งดาบลงแล้วนั่งที่โซฟา ทหารองครักษ์เข้ามาเก็บร่างของน็อกซ์ออกไป
ฉันมองไปที่อีธาน เขานั่งลงหลับตา
"แค่ก...แค่ก.."
ฉันพยายามอย่างยิ่งที่จะไอให้เบาที่สุด เขา มองหน้าฉันแล้วลุกขึ้นมาลูบหลังฉันเบาๆ
"อย่ามาจับ...."
ฉันใช้แรงที่มีเอี้ยวตัวหลบ เขาชะงักเล็กน้อย ก่อนจะมีโทสะอีกครั้ง
"ทำไม!!!...สามีจับไม่ได้เลยเหรอ!!! ...ทีไอ้..."
"แค่ก...แค่ก..แค่ก........"
ฉันกระอักเลือดอีกรอบ อีธานทำหน้าตกใจเล็กน้อยเขาถอยหลังออกไปมือทั้งสองข้างสั่นเทา
"รินาหยุดไอเดี๋ยวนี้นะ..."
ฉันล้มตัวนอนลง มันเหนื่อยจนตาทั้งสองข้างจะปิดลง การหายใจแต่ละครั้งมันเหนื่อยเหลือเกิน
"แค่ก..แค่ก..."
"ได้โปรดเถอะรินา หยุดไอเถอะนะ..."
คงเป็นเพราะฉันกำลังจะตายเลยหูฝาดไปแน่ๆ
หมอหลวงอีกคนเปิดประตูเข้ามา เขานำยาออกมากล่องไม้แกะสลัก
"นี่คือน้ำตานางเงือก...รีบเอาให้ท่านหญิงทานเถอะครับท่านแกรนด์ดยุค"
ฉันพยายามลืมตาขึ้น
"ปล่อยให้ข้าตายไปเถอะหมอหลวง...ได้โปรด"
อีธานชะงัก เขาบีบปากฉันให้อ้า เพื่อจะใส่ยาเข้าไปในปากฉัน
"ถุย!!"
ฉันบ้วนยาออก อีธานโมโหหนัก เขาเอายาใส่ปากตัวเองแล้วโน้มตัวลงมาจูบ
เห้ย!!! จูบ!!!
เขาพยายามใช้ลิ้นดันยาให้ลงไปในคอ ฉันพยายามไม่ยอมแต่ลิ้นฉันก็ต่อสู้ลิ้นเขาไม่ได้ จนฉันกลืนยาลงคอ แต่ทว่าเขาก็ยังไม่ยอมถอนริมฝีปากออกไปซักที ริมฝีปากของเขายังคงละเมียดชิมปากของฉันอยู่
“อะแฮ่ม…เอ่อ..ท่านหญิงต้องรับประทานยานี้ตามหลังทานน้ำตานางเงือกด้วยครับ”
หมอหลวงวางยาไว้บนโต๊ะอย่างระมัดระวัง รอยเลือดของหมอหลวงคนก่อนหน้ายังไม่จางหายจากพื้นห้องเขารู้ดีว่าหากเขารักษาท่านหญิงผิดพลาด ศพต่อไปย่อมต้องเป็นเขา เขาเงยหน้าขึ้นสบตากับราชองครักษ์แล้วพยักหน้าก่อนที่องครักษ์ หมอหลวงและสาวใช้จะพากันเดินออกไป
“อื้อ!!”
ฉันรวบรวมแรงที่มีกัดปากเขา เขาค่อยๆปล่อยริมฝีปากฉันให้เป็นอิสระ มุมปากของเขายังมีเลือดไหลซึมออกมา
ฉันยกมือขึ้นเช็ดที่มุมปากตัวเอง น้ำตามากมายไหลออกมาจากดวงตาทั้งสองข้าง ความสับสน มึนงงกับเหตุการณ์ที่เกิดขึ้นทำเอาฉันไปต่อไม่ถูก
เขาเป็นอะไรของเขา การกระทำของเขามันหมายความว่ายังไง
“ก๊อก!!..ก๊อก!!….”
เสียงเคาะประตูดังขึ้นปลุกฉันขึ้นมาจากภวังค์
“ใครกล้า!!!…”
“เอเรียเองค่ะท่านอีธาน…”
แววตาของอีธานอ่อนลงเล็กน้อยก่อนเขาจะเดินไปเปิดประตู
รอยยิ้มที่เจิดจ้าของเอเรียทำเองฉันตาพร่ามัวไปหมด สตรีร่างบางรีบวิ่งมาหาฉันแล้วจับมือ รอยยิ้มงามงดเปลี่ยนเป็นใบหน้าสงสารและเห็นอกเห็นใจ
“ข้าเพียงเป็นห่วงท่านหญิง….ท่านอีธานใจเย็นๆก่อนนะคะ…”
เธอหันไปทางอีธาน เขานั่งลงบนโซฟาอีกครั้งก่อนจะหลับตาลง เอเรียหันมาทางฉันอีกครั้งก่อนจะส่งห่อผ้ามาให้ฉัน เธอยังคงส่งยิ้มอย่างไม่มีพิษมีภัยให้ฉัน
ฉันเปิดห่อผ้าดูปรากฏเป็นขวดน้ำสีม่วงขนาดเล็ก…..นี่เป็นยาพิษที่ร้ายแรงที่สุดในจักรวรรดิ์
ยาพิษมามัวร์
“จะตายก็รีบๆตายไปเถอะค่ะท่านหญิง….”
เธอกระซิบอย่างแผ่วเบาข้างหูฉัน มือของฉันที่ถือยาพิษอยู่สั่นอย่างรุนแรง ฉันกำมือแน่นก่อนจะปายาพิษนั้นออกไปกระทบผนังห้องจนแตกออก
“เพล้ง!!!”
อีธานมองไปตามต้นเสียง ยาพิษมามัวร์แตกกระจายทั่วทั้งบริเวรห้อง ดอกกุหลาบที่อยู่ในแจกันเหี่ยวเฉาลงทันทีที่โดนละออง
“นี่มันอะไรกัน!!!..”
อีธานลุกขึ้นเขาก้มลงหยิบดาบพร้อมกำมือแน่น เส้นเลือดที่ขมับบูดออกมาราวกับจะระเบิด ดาบถูกยกขึ้นมาจ่อคอของฉัน….
“หยุดสร้างปัญหาซักทีรินา…”
ฉันมองไปที่เขา มือของเอเรียยังจับมืออีกข้างของฉันอยู่ ใบหน้าของเธอยังคงยิ้มแบบไร้เดียงสา
ฉันแสยะยิ้มพร้อมกับค่อยๆสะบัดมือของเอเรียออกก่อนจะยกมือขึ้นไปกำคมดาบที่จ่ออยู่ที่คอที่แทงลงมาที่คอฉัน
“….จะทำอะไร….หยุดนะรินา!!!”
อีธานฉุดกระชากดาบออกจากคอฉัน แต่ทุกครั้งที่เขาออกเเรงดึงดาบก็จะบาดลงบนมือทั้งสองข้างของฉัน เลือดสีแดงสดไหลออกมาเป็นจำนวนมากจนฉันรู้สึกชาไปทั้งแขน
“ปล่อยรินา!!! ปล่อยมือ!!!”
“อีธาน…..ข้าอยากรู้ว่าทำไมท่านถึงเกลียดข้านักหนา….”
น้ำตาไหลเอ่อลงมาที่ใบหน้าฉันอีกครั้ง……
“ท่านไม่พอใจข้าแล้วทำไมไม่หย่ากับข้าไปซักที!!!! กักขังข้าไว้…อึก.ก….ทำไม!!!”
“…..รินา….”
“ข้าไม่เคยขออะไรจากท่านเลยอีธาน….ช่วยฟังคำขอสุดท้ายของข้าที….หากข้าตายส่งศพข้ากลับไปยังตระกูลของข้า อย่าฝังข้าที่นี่….ข้าไม่…..อยาก…อึก…กกก…อยู่ที่นี่”
“แค่ก….แค่ก…..”
ฉันไออย่างรุนแรง มือทั้งสองข้างหมดแรงค่อยๆปล่อยดาบลง
เหนื่อย…
เหนื่อยเหลือเกิน
น้ำตานางเงือกเข้าไปรักษาภายในแต่ทว่าก็มีฤทธิ์เย็นเกินไปจนสมดุลร่างกายไม่คงที่ อีธานรีบเอายาที่หมอหลวงวางไว้ให้มากรอกปากฉัน
“แค่ก…แค่ก…”
ฉันสำลักพร้อมไอออกมาเป็นเลือดจำนวนมาก
“ไปตามหมอหลวงมา!!!!”
เขาถือดาบอีกครั้ง ก่อนจะแทงไปที่เอเรีย
“หากเจ้าไม่เข้ามานางคงไม่เป็นแบบนี้!!!!”
ดาบของเขาฟันลงไปบนร่างเอเรียแบบนับไปถ้วน นางไม่มีโอกาสจะร้องขอชีวิตด้วยซ้ำ เขาอาละวาดพังข้าวของทุกอย่างในห้อง ราวกับเป็นคนบ้า
ตาฉันค่อยๆปิดลง ฉันเหนื่อยเกินกว่าจะดูเขาทำลายข้าวของหรือฆ่าคนอีกแล้ว
อีธาน….ข้าเหนื่อยเหลือเกิน….
ท่านโทษทุกคน โทษทุกอย่างยกเว้นโทษตัวท่านเอง
ข้าขอให้ชีวิตที่เหลืออยู่ของท่าน จมอยู่กับความผิดพลาดที่ท่านทำต่อข้า ไม่ว่าชาติหน้าหรือชาติไหนๆท่านกับข้าอย่าได้มาเจอกันอีกเลย…..
ลมหายใจสุดท้ายของรินาหมดลง เสียงกรีดร้องของแกรนด์ดยุคอีธานดังขึ้น หมอหลวงและองครักษ์รีบวิ่งเข้าห้องมาดูอาการแกรนด์ดัชเชส แต่ทว่าสายไปแล้ว สายไปทุกอย่าง…..