หลายวันต่อมา...
ครีมหวานเริ่มคุ้นชินกับธเนศ และคนรอบข้างที่เป็นครอบครัวของเขา ทุกคนใจดีกับเธอมาก จากตอนแรกรู้สึกเกร็งไม่อยากอยู่ใกล้ ในตอนนี้กลับรู้สึกสบายใจอย่างบอกไม่ถูก
"หนูจะไม่ไปกับแด๊ดดี้จริงเหรอ ไปรักษาที่เยอรมันก็ได้ ถ้าหนูอยากเรียนหมอก็เรียนต่อที่โน่น มามี๊คุยกับลูกสิ"
แด๊ดดี้หรือพ่อเลี้ยงของครีมหวาน เขากับคุณแม่แต่งงานกันตั้งแต่เธอยังเล็ก ท่านเลี้ยงเธอมาตั้งแต่ตีนเท่าฝาหอย จนถึงตอนนี้เราอยู่ด้วยกันมา 10 กว่าปีแล้ว ท่านเป็นผู้มีพระคุณของเธอ ส่งเสียเลี้ยงดูจนโตมาอย่างทุกวันนี้ ได้เรียนโรงเรียนอินเตอร์ มีสังคมที่ดีก็เพราะท่านทั้งนั้น เธอรักท่านดั่งพ่อที่แท้จริง
"ฉันก็ไม่รู้จะพูดยังไงแล้วค่ะ ทางนี้เขาก็อยากจะดูแลลูก อยากรับผิดชอบ"
"ไม่ต้องห่วงนะครับผมจะดูแลน้องอย่างดีที่สุด ผมจะเอาใจใส่ และให้ความรักมากที่สุดเท่าที่ผู้ชายคนหนึ่งจะให้ได้"
เรื่องนี้เป็นที่ถกเถียงกันอยู่หลายวัน เพราะหลังจากที่พ่อเลี้ยงของเธอทราบข่าวว่าลูกถูกรถชน เขาก็รีบบินกลับมาจากเยอรมัน จะพากลับไปเยอรมันแล้วจะพาไปรักษาต่อที่นั่น ส่วนเขาเองก็พยายามยื้อให้เธออยู่ตรงนี้ จะคอยดูแลให้หายดี และรับผิดชอบในสิ่งที่เขากระทำลงไป
"แด๊ดดี้กับมามี๊ไม่อยากทิ้งหนูไว้ที่นี่"
"แด๊ดดี้คะ คือว่าหนู..."
เธอหันไปมองธเนศที่ตอนนี้จ้องมองเธออย่างอ้อนวอน เราเพิ่งตกลงกันเมื่อวานว่าหลังจากออกโรงพยาบาลเธอจะไปอยู่กับเขาที่บ้าน และชายหนุ่มจะจ้างพยาบาลส่วนตัวมาคอยดูแลอีกแรง ทำกายภาพบำบัดเพื่อให้เธอฟื้นตัวโดยเร็ว
"หนูอยู่ที่นี่ก่อนก็ได้ค่ะ ถ้าหายดีแล้วค่อยว่ากันอีกทีนะคะแด๊ดดี้ คุณแม่กลับไปอยู่กับแด๊ดดี้นะคะ ไม่ต้องเป็นห่วงหนูหรอกค่ะ หนูดูแลตัวเองได้"
ถึงแม้ว่าเธอจะเป็นเด็กเพียงอายุแค่ไม่กี่ปี เพิ่งจะผ่านพ้นผู้เยาว์มาได้ไม่นาน แต่ทว่าความคิดโตเป็นผู้ใหญ่มาก ไม่มีความเห็นแก่ตัวนึกถึงคนส่วนมากเป็นหลัก ไม่ยอมให้ใครมองว่าตัวเองอ่อนแอ ทั้งที่เจอมรสุมชีวิตหนักขนาดนี้ครีมหวานก็ยังยิ้มได้
"เฮ้อ! พวกคุณต้องดูแลลูกฉันให้ดีที่สุดนะคะ ถ้าเกิดว่าลูกฉันอึดอัดอยู่ไม่ได้ขึ้นมา ฉันจะมารับกลับไปอยู่ที่เยอรมัน"
"คุณแม่ไม่ต้องเป็นห่วงนะคะ พวกเราทั้งครอบครัวจะช่วยกันดูแลหนูครีมหวานอย่างดีที่สุด"
"พวกเราทุกคนสัญญาครับ น้องจะอยู่อย่างมีความสุขที่สุด"
คุณแม่ และสามีหันมามองหน้ากันอย่างไม่รู้จะทำยังไง ลำพังครีมหวานเองเธอคงอยากกลับไปอยู่กับคุณแม่แล้วก็แด๊ดดี้ แต่ทว่าทางนี้ก็โน้มน้าวให้เธออยู่ด้วย แล้วรายนั้นก็ค่อนข้างที่จะขี้เกรงใจ จึงยินยอมใจอ่อนอยู่ที่นี่ทั้งที่เธอเองก็ไม่ได้สนิทสนมกับใคร และก็ไม่รู้ด้วยว่าวันข้างหน้าเพราะเขาจะดีแบบที่ทำอยู่ไหม
"เอางั้นก็ได้ เดี๋ยวแด๊ดดี้ให้เงินหนูไว้สองล้านนะ แล้วจะให้พี่เลี้ยงมาอยู่เป็นเพื่อนหนูที่บ้านของคุณธันย์ ยังไงผมต้องขอรบกวนฝากพี่เลี้ยงเข้าไปอยู่ในบ้านด้วยคนนึง เธอดูแลครีมหวานมาตั้งแต่เด็ก คนนี้ไว้ใจได้"
"ไม่มีปัญหาเลยค่ะ ทางเรายินดีทำตามที่ทางนี้ร้องขอได้ทุกอย่าง"
และดูเหมือนว่าปัญหาทุกอย่างจะจบลงด้วยดี คุณแม่ และสามีจึงเดินทางกลับไปพักผ่อนหลังจากที่เฝ้าลูกสาวอยู่ที่โรงพยาบาลหลายวัน ถ้าเกิดว่าครีมหวานออกจากโรงพยาบาลเมื่อไหร่ เราสองคนก็จะเดินทางกลับเยอรมันทันที พ่อเลี้ยงของครีมหวานเขาทำธุรกิจอยู่ที่นั่น เดินทางไปมาระหว่างประเทศไทยกับเยอรมันอยู่บ่อยครั้ง เพราะว่าภรรยาและลูกเลี้ยงอาศัยอยู่ที่นี่ ตอนแรกที่คุยกันจะรอให้ครีมหวานเรียนจบมหาวิทยาลัยก่อน แล้วจะทำเรื่องย้ายไปอยู่ที่เยอรมันแบบถาวร ดั้นมาเจอเรื่องราวเลวร้ายแบบนี้ซะก่อน สิ่งที่คิดไว้ก็เลยพังลงไปหมด
วันต่อมา...
และวันนี้เป็นวันที่หญิงสาวจะได้ออกจากโรงพยาบาล ธเนศโทรศัพท์ให้แม่บ้านจัดห้องให้เขาใหม่ เปลี่ยนให้มันเป็นสีสดใสเพื่อที่ครีมหวานจะได้รู้สึกสบายใจในการนอนพักอยู่ที่นั่น เขากับเธอจดทะเบียนสมรสกันเรียบร้อยเมื่อเช้านี้ ซึ่งเท่ากับว่าเราสองคนเป็นสามีภรรยากันที่ถูกต้องตามกฎหมาย
"ครีมหวานคนนี้ชื่อฟีน่าเป็นภรรยาของพี่เอง นี่เป็นหนังสือที่ใช้เรียนแพทย์ชั้นปีที่ 1 พี่เอาให้ครีมหวานไว้อ่าน ปีหน้าจะได้พร้อมเข้าเรียน"
หญิงสาวมองหนังสือที่อยู่ตรงหน้าก่อนจะตาเป็นประกาย น่าอ่านทั้งนั้นเลยเป็นหนังสือเกี่ยวกับการเรียนแพทย์ชั้นปีที่ 1 เธอเองจะต้องพักฟื้นเป็นเวลา 1 ปี ในระหว่างนี้อาจจะต้องศึกษาหาความรู้ให้ตัวเอง แล้วถ้าเกิดว่าเดินได้ขึ้นมาจะได้ทำตามความฝันของตัวเองต่อ
"ขอบคุณค่ะพี่หมอ พี่ฟีน่า หนังสือน่าอ่านทั้งนั้นเลยค่ะ หนูจะตั้งใจอ่านให้จบทุกเล่มเลยขอบคุณมากนะคะ"
สองสามีภรรยาหันมามองหน้ากันก่อนจะยิ้มออกมาอย่างเอ็นดูเด็กสาว เพิ่งจะหาเวลาได้มาทำความรู้จักก็เมื่อตอนที่จะออกจากโรงพยาบาลแล้ว เรื่องราวซับซ้อนวุ่นวายแต่ในที่สุดก็ลงเอยด้วยดี
"ถ้ามีอะไรก็โทรหาพี่หมอนะ คนนี้เขาเรียนเก่งมากน่าจะเป็นที่ปรึกษาให้กับน้องครีมหวานได้ดีเลย"
"ครีมหวานเกรงใจค่ะ แค่นี้ก็รบกวนมากแล้ว"
"ทำไมน่ารักแบบนี้เนี่ยเรา น่าเอ็นดูแท้เชียว นี่ธเนศดูแลน้องให้ดีนะ อย่าทำให้น้องเสียใจเด็ดขาด อะไรที่ยังไม่ได้เคลียร์ก็รีบจัดการให้เรียบร้อยล่ะ"
ฟีน่าหันไปมองใบหน้าของน้องชาย เธอรู้ว่าเขามีแฟนเป็นพยาบาลอยู่ที่โรงพยาบาลของฟินิกซ์ แต่ก็ไม่ได้ถามว่าผู้หญิงคนนั้นเป็นใคร แต่ในเมื่อฝ่ายชายตัดสินใจแบบนี้ก็ต้องไปเคลียร์อีกกับอีกคนให้ชัดเจน จะได้ไม่มีปัญหาตามมาทีหลัง เพราะเด็กผู้หญิงที่อยู่ตรงนี้เธอมีจิตใจที่บริสุทธิ์ไม่คิดร้ายกับใคร กลัวเหลือเกินว่าถ้ารู้ว่าตัวเองมีส่วนในการทำให้คู่รักเขาเลิกรักกัน เธอคงจะโทษตัวเองแน่
"ไม่ต้องห่วงหรอกครับ ผมจัดการได้เรื่องนี้ หนูอยากกลับหรือยังคะเบื่อโรงพยาบาลหรือยัง พี่ให้ช่างมาทำห้องใหม่ให้หนูแบบส่วนตัว เอาไว้อ่านหนังสือ ดูหนังก็ได้ หรือหนูอยากวาดรูปก็ได้ ห้องนั้นพี่ยกให้เลย"
ธเนศที่ยืนอยู่เคียงข้างหญิงสาว ยื่นมือไปลูบผมเธออยากอ่อนโยน แววตาที่ต้องมองมันมีแต่ความเอ็นดูอยู่ในนั้น
"วาดรูปก็ได้เหรอคะ จริงๆ ครีมหวานชอบวาดรูปมากเลยค่ะ ถ้าอย่างนั้นเรากลับกันดีไหมคะ อยากเห็นห้องเร็วๆ จัง"
"ถ้ายังงั้นเรากลับกันเถอะ กลับบ้านเรากันนะคะ"
แววตาของทั้งคู่จ้องมองกันก่อนจะยิ้มออกมา ครีมหวานรู้สึกได้เลยว่าทั้งธเนศ และคนรอบข้างของเขาดีกับเธอมาก ทุกคนดูเอ็นดูซึ่งเธอสัมผัสได้ว่ามันมีแต่ความปรารถนาดี ไม่ได้เสแสร้งแต่อย่างใด จึงทำให้เธอรู้สึกไว้ใจในตัวเขา
"ค่ะ"