เขาเป็นของข้าตั้งแต่แรก

1722 Words
เสียงพูดคุยดังขึ้นอย่างครึกครื้น ทันทีที่เจ้าบ่าวรับเจ้าสาวลงจากเกี้ยว แม้ว่าเนี่ยนเจินจะถูกผ้าคลุมหน้าบดบังการมองเห็น นางก็รับรู้ได้ทันทีว่างานแต่งที่สกุลชางจัดขึ้น ยิ่งใหญ่กว่าในชาติก่อนๆ “ตรงนี้มีบันไดอยู่ขั้นหนึ่ง ระวังด้วย” เสียงกระซิบจากเจ้าบ่าว ทำให้หญิงสาวในชุดแดงต้องเพิ่มความระมัดระวัง ค่อยๆ ก้าวย่างไปบนแท่นพิธีการ ไม่เพียงแต่การจัดงานที่แตกต่างออกไป แต่พฤติกรรมของชายหนุ่มก็แปลกไปจากเดิมทั้งหมด ไหนจะคอยประคอง คอยบอกให้ระวังอยู่ตลอดเวลา จวบจนพิธีการที่ยิบย่อยเสร็จสิ้นลง เสียงสรวลเสเฮฮาก็ดังขึ้นอีกครั้ง ผู้คนภายในงานต่างดื่มกินกันอย่างสนุกสนาน ผู้คนเข้ามาแสดงความยินดีกับทั้งสองตระกูลไม่ขาดสาย “ได้ฤกษ์พาเจ้าสาวเข้าหอแล้วเจ้าค่ะ” เป็นหลิงหลิงที่เดินมากระซิบบอกคู่บ่าวสาว “เช่นนั้นเจ้าไปรอที่ห้องเถิด ประเดี๋ยวข้าจะตามไป” ว่าเพียงเท่านั้นแม่ทัพใหญ่ของแคว้นก็ถูกสหายดึงตัวไปดื่มฉลอง เห็นทีคืนนี้จะปลีกตัวออกมาลำบาก แต่กระนั้นเนี่ยนเจินก็มิได้ใส่ใจ เพราะรู้อยู่แล้วว่าอย่างไรอีกฝ่ายก็คงไม่มาร่วมหอกับนาง เช่นครั้งก่อนๆ “ฮูหยินเจ้าคะ มาทางนี้เถิดเจ้าค่ะ” “เปลี่ยนคำพูดเสียคล่องปากเชียวนะ หลิงหลิง” “ได้อย่างไรเจ้าคะ บัดนี้คุณหนูของบ่าวกลายเป็นฮูหยินท่านแม่ทัพเต็มตัวแล้ว อ๊ะ!” “มีอันใดหรือหลิงหลิง” ได้ยินเสียตกใจของสาวใช้ เจ้าสาวที่คลุมผ้าอยู่ก็รีบเอ่ยถามขึ้นมา “เอ่อ คุณหนูลู่ยืนอยู่ด้านหน้าเจ้าค่ะ” “คุณหนูลู่ มาขัดฤกษ์การเข้าหอของข้าเช่นนี้ ต้องการสิ่งใดหรือ” นิ้วเรียวจิกเข้าหากัน ในใจมีความรู้สึกผิดอยู่ไม่น้อย “ข้าเพียงต้องการมาแสดงความยินดีเท่านั้น ฮึก!” “เช่นนั้นก็ขอบใจท่านมาก ข้าขอตัวก่อน” เนี่ยนเจินพยักหน้าให้หลิงหลิงประคองเดิน แต่จังหวะที่ทั้งคู่เดินผ่านลู่อันฉี สตรีผู้นั้นกลับเอ่ยสิ่งที่เสียดแทงใจของเจ้าสาวออกมา “ยินดีกับท่านด้วย ที่ยื้อแย่งท่านแม่ทัพไปจากข้าได้สำเร็จ” “ข้าเอ่ยขอถอนหมั้นไปแล้ว แต่เขาไม่ยินยอม” “ท่านแม่ทัพน่ะหรือจะไม่ยินยอม มิยักรู้ว่าสกุลจ้าวเลี้ยงดูหลานสาวได้ย่ำแย่ ถึงขั้นโป้ปดออกมาได้ไม่อายปาก” “จะเชื่อหรือไม่ ก็เป็นเรื่องของท่าน ตัวข้ายืนยันว่าเอ่ยเรื่องถอนหมั้นไปแล้ว” “…” “แต่อันที่จริง ข้ามิได้ยื้อแย่งเขามา เหวินหยวนเป็นของข้าตั้งแต่แรก ท่านต่างหากที่รู้อยู่แก่ใจ ว่าเขามีสัญญาหมั้นหมายกับข้า แล้วยังคิดจะผูกสัมพันธ์” จากเดิมที่เห็นใจและรู้สึกผิด พอได้ยินอีกฝ่ายด่าทอถึงตระกูล เนี่ยนเจินก็ต้องปกป้องชื่อเสียงของสกุลตนเอง แน่นอนว่าสัญญาหมั้นหมายปากเปล่าของท่านปู่ทั้งสองตระกูล มีมาตั้งแต่เนี่ยนเจินอายุเพียงแปดหนาว ซึ่งชาวบ้านชาวเมืองต่างก็รู้เรื่องนี้ เพราะท่านปู่ของชางเหวินหยวน มักพูดอยู่ตลอดว่าสองตระกูลจะดองกัน เช่นนี้จะเอ่ยว่าจ้าวเนี่ยนเจินไปยื้อแย่งก็คงไม่ถูก เป็นลู่อันฉีที่คิดจะต่อสัมพันธ์กับบุรุษที่หมั้นหมายแล้ว “ท่าน-” ไม่รอให้คุณหนูสกุลลู่ได้แก้ต่าง หลิงหลิงก็รีบพานายของตนเข้าไปในห้องหอทันที หลังจากเข้ามาแล้ว เจ้าสาวก็ไม่ได้รั้งรอให้เจ้าบ่าวมาเปิดผ้าคลุมหน้า ตามม่านประเพณี มือเล็กเปิดผ้าคลุมด้วยตนเอง ซ้ำยังถอดเครื่องประดับมากมายออก กะว่าหลังจากถอดเครื่องประดับ จะทานอาหารให้อิ่มหนำ แล้วเข้าไปแช่น้ำอย่างสบายอุรา สองชาติที่ผ่านมาเนี่ยนเจินนั่งรออีกฝ่ายทั้งคืน จวบจนรุ่งสางถึงรู้ว่าสามีของตนออกไปพบกับคนรักของเขา ตอนนั้นความรู้สึกเจ็บปวดมันจุกในอก จนแทบอยากจะอาเจียนออกมา ทั้งเสียใจ ทั้งอับอายผู้คน “คราวนี้อย่าหวังว่าข้าจะโง่งมเช่นเดิม” หญิงสาววางเครื่องประดับลง ก่อนจะมานั่ง เตรียมตัวทานอาหารที่ถูกจัดเตรียมมาเต็มโต๊ะ แต่แล้วสิ่งที่คาดการณ์เอาไว้ กลับไม่เป็นอย่างนั้น… “อันใดกัน มิคิดจะรอสามีเลยหรือ เปิดผ้าคลุมเอง ทั้งยังมานั่งทานอาหารก่อน” “เหตุใดท่านจึงมาอยู่ที่นี่ อ๊ะ! คิดจะทำสิ่งใด” ยังไม่ทันให้ฮูหยินน้อยสกุลชางหายแปลกใจ ร่างกำยำก็เดินมารวบเอวเล็กไปนั่งบนเตียง ทั้งยังเอาผ้าคลุมขึ้นมาคลุมให้หญิงสาวเช่นเดิม “ก็จะเปิดผ้าอย่างไรเล่า มิรู้หรือว่าผ้าคลุมหน้าเขาให้สามีเป็นคนเปิด” “หึ! ท่านรู้ด้วยหรือ” เนี่ยนเจินแค่นยิ้มกับตนเอง พอนึกถึงเรื่องราวเก่าๆ ก็พลันทำให้ดวงตาร้อนเผ่าขึ้นมา “…ข้าจะเปิดหน้าให้เจ้า หันมาทางนี้เถิด” ไม่เพียงไม่ตอบโต้ แต่น้ำเสียงของชายหนุ่มกลับอ่อนลง มือหนาเปิดผ้าคลุมออก พลางไล่มองใบหน้าหวานไม่ลดละ “อะฮึ่ม ต้องไปดื่มสุรามงคลเจ้าค่ะ” “เช่นนั้นก็มาเถิด” คู่บ่าวสาวกลับมานั่งบนโต๊ะอาหาร ดื่มสุรามงคลตามขั้นตอนประเพณี ก่อนจะลงมือทานอาหาร แม้ว่าหญิงสาวจะไม่เคยพบเจอกับสถานการณ์เช่นนี้ แต่ความหิวทำให้นางไม่ได้สนใจสามีมากนัก เอาแต่คีบกินข้าวปลาจนอิ่มหนำ “อิ่มแล้วใช่หรือไม่ ถ้าอย่างนั้นเราไปอาบน้ำกันเถิด” “เชิญท่านแม่ทัพก่อนเลยเจ้าค่ะ ข้าจะแช่น้ำ หากให้ข้าอาบก่อน ท่านจะรอนาน” ว่าแล้วเนี่ยนเจินก็เดินไปเช็ดเครื่องประทินผิวออก แต่รอจนเช็ดเสร็จ อีกฝ่ายก็ยังไม่ยอมเข้าไปอาบน้ำ “หากท่านไม่อาบ ข้าจะไปอาบก่อน” ฮูหยินน้อยเดินเข้าไปในห้องอาบน้ำ กำลังจะถอดเสื้อผ้าออก แต่ก็ต้องชะงักเมื่อเห็นว่าเจ้าบ่าวของนางเดินตามเข้ามาด้วย “ท่านเข้ามาทำไม” “ข้าจะอาบด้วย หน้าที่ภรรยาต้องปรนนิบัติสามีตอนอาบน้ำมิใช่หรือ” “ไม่ ต่างคนต่างอาบ ทุกทีท่านก็อาบน้ำเองได้มิใช่หรือ” เนี่ยนเจินเถียงคอเป็นเอ็น เพราะรู้ว่ายามอยู่สนามรบ ชายตรงหน้าเคยชินกับการอาบน้ำด้วยตนเอง จึงไม่ค่อยเรียกใช้บ่าวมาปรนนิบัติตอนอาบน้ำ “แต่ตอนนี้ข้ามีภรรยาแล้ว ไหนเลยต้องอาบเอง” “…” “หรือเจ้าจะให้ข้าเรียกสาวใช้เข้ามาก็ได้นะ แต่ไม่รู้ว่าพวกนางจะเอาสกุลจ้าวไปเล่าลืออย่างไร อาจจะเอ่ยว่าท่านหมอ มิได้ให้คนมาสอนธรรมเนียมปรนนิบัติสามีให้กับหลานสาว จึง-” “หยุด! จะอาบก็ลงไปเจ้าค่ะ” เนี่ยนเจินกระฟัดกระเฟียด ทั้งลู่อันฉี ทั้งชางเหวินหยวนเหมือนกันไม่มีผิด ชอบดึงสกุลของนางเข้ามาเกี่ยวข้อง เสียงถอนหายใจของร่างเล็กดังขึ้น ก่อนจะหันหลังให้สามีที่กำลังถอดเสื้อผ้า แล้วลงไปแช่ในอ่างที่มีกลีบดอกไม้โรยอยู่ “เจ้าเองก็ลงมาแช่ด้วยกันเถิด” “มิเป็นไรเจ้าค่ะ ข้าจะปรนนิบัติท่านแม่ทัพอาบน้ำก่อน” แต่แล้วทันทีที่หญิงสาวเข้าไปใกล้ กลับถูกดึงยื้อให้ลงไปในอ่าง ทั้งที่ยังใส่ชุดพิธีการ ลำบากให้ต้องถอดออก หากไม่แล้วเสื้อผ้าคงจะเสียหาย อีกอย่างมันก็หนักเกินกว่าที่ร่างเล็กๆ ของเนี่ยนเจินจะรับไหว กว่าเหตุการณ์จะกลับมาสงบ กว่าสองสามีภรรยาจะได้มานั่งอยู่ในอ่างด้วยกัน ก็ใช้เวลาไปมากทีเดียว “ถูตัวให้ข้าที ข้ารู้สึกหนักศีรษะเหลือเกิน” “กลิ่นสุราคลุ้งขนาดนี้ ไม่ปวดหัวก็คงแปลกแล้ว” ร่างขาวเนียนขยับเข้าไปใกล้ชายหนุ่มเล็กน้อย ก่อนจะวักน้ำขึ้นมาขัดตัวให้อีกฝ่ายตามคำสั่ง หากเป็นเมื่อก่อน นางคงไม่มีโอกาสได้สัมผัสร่างกำยำนี้ แต่นี่อีกฝ่ายกลับร้องขอให้นางทำให้ แปลก คิดอย่างไรก็แปลก! หรือเขาจะรู้เรื่องราวในชาติก่อน “ท่านรู้ทุกอย่างใช่หรือไม่…เรื่องราวทั้งหมดนี้” “เรื่องใด” “ทุกเรื่อง ท่านเองก็ย้อนกลับมาใช่หรือไม่” ดวงตาโกรธเคืองฉายชัดในตากลม จนบุรุษที่มองอยู่รู้สึกหวาดหวั่น “…ข้าไม่เข้าใจว่าเจ้าพูดเรื่องใด” “ท่านเข้าใจ เพราะหากท่านไม่ได้ย้อนมา ท่านก็คงไม่อยู่ตรงนี้ อ๊ะ” แขนแกร่งรวบเอวคอดเข้าไปแนบชิด “ข้ามาอยู่ในห้องหอกับภรรยา มีสิ่งใดผิดแปลกหรือ เจ้าบอกข้าได้หรือไม่” “อื้อ ท่านปล่อยข้า” เนี่ยนเจินพยายามดันกายให้ถอยห่างจากอีกฝ่าย เพราะบัดนี้หน้าอกของนางกำลังเบียดเสียดแผงอกกำยำอยู่ “เจ้าบอกข้าที ว่าการที่ข้าจะเข้าหอกับภรรยา มันผิดแปลกที่ใด” “ตะ แต่ข้าไม่ยินยอม ท่านจะขืนใจข้าหรือ” “กล่าวร้ายข้าเกินไปแล้ว เราเป็นสามีภรรยา จะเรียกขืนใจได้อย่างไร” “ก็ข้า ข้าเอ่ยว่าไม่ยินยอม ถอยไปนะ!” ไม่ได้ อย่างไรเนี่ยนเจิน ก็ปล่อยให้อีกฝ่ายเข้าใกล้ไปมากกว่านี้ไม่ได้เด็ดขาด! มิฉะนั้นกำแพงที่พยายามก่อ มาถึงสองภพสองชาติ คงพังลงไม่เป็นท่า “แต่ข้ายังไม่เข้าใจสิ่งที่เจ้าพูดเมื่อครู่เลย เจ้าบอกก่อนว่าข้าแปลกอย่างไร ข้าจึงจะปล่อย” “ไม่แปลกแล้ว!” เมื่อภรรยาสาวว่าดังนั้น เหวินหยวนจึงไม่คิดกลั่นแกล้งต่อ ยอมปล่อยคนหน้าแดงเป็นอิสระ ให้อีกฝ่ายลุกออกไปแต่งกาย แต่ดูเหมือนว่าหญิงสาวจะเร่งรีบ จนลืมไปว่าตนเองนั้นไม่มีเสื้อผ้าห่อหุ้มไว้เลยสักชิ้น จึงถือเป็นบุญตาของเหวินหยวนไปในคราเดียวกัน “อะฮึ่ม ทิวทัศน์ตรงนี้ช่างขาวเนียนเสียจริง” “คนลามก!” “หึๆ” “ท่านช่วยทำเหมือนคนที่เกลียดกันเช่นเดิม จะได้หรือไม่”
Free reading for new users
Scan code to download app
Facebookexpand_more
  • author-avatar
    Writer
  • chap_listContents
  • likeADD