“แหม...ไม่เจอกันแค่สองสัปดาห์ทำไมหน้าโรยแบบนั้น” หมอเมฆทักหมอโก้กับหมอน้องจักรที่ทำตาโรยเป็นหมีแพนด้า
“เห่อๆ... ก็มาอยู่เวรดึกเหมือนเราสองคนสิ แล้วจะรู้สึก” โก้พูดพลางส่งสายตาค่อนแคะเพื่อน
“จะกินก็ไม่ได้นอน จะนอนก็ไม่ได้กิน” คำพูดของโก้ทำให้ทุกคนหัวเราะขึ้น
“ขืนพี่หมอกินตอนนอนได้ด้วยจะเป็นเรื่องใหญ่นะคะ”
“โห้... บางทีกำลังนอนหลับฝันหวานเชียว พยาบาลมาสะกิดอีกแหละ อย่างเมื่อคืนนี้มีรถชนกันครับ คนเจ็บเพียบ ร้องโอดโอยเต็มไปทั้งห้องฉุกเฉิน บอกตรงๆ แทบไม่ได้งีบเลย เฮ้อ...” หมอโก้ยังบ่นไม่เลิก
“เอาน่ะ นี่ของบำรุง” หมอเมฆหยิบซุปไก่สกัดออกมาจากกระเป๋าเสื้อส่งให้หมอหนุ่มคนละขวด
“ขอบคุณครับ” จักรยกมือไหว้
“แหม... อิจฉาจริงๆ ได้มีเวลาเดินตลาดกันเนอะ สวีตหวานแหววกันเนอะ” โก้ยังทำปากงอนเง้าน้ำเสียงล้อเลียน
“สวีตอะไรกันคะ” เนเน่นั่งทำหน้าแดง การได้เข้าเวรกันกับพี่เมฆทำให้เธอไม่เบื่อ และสองคนยังได้มีเวลาเรียนรู้กันและกัน
“เขาเมาท์กันให้แซดเนอะ จักรเนอะ”
“ครับๆ” จักรพยักหน้ารีบพูด
“เมาท์กันเรื่องอะไรคะ”
“ใช่ๆ พยาบาลเมาท์กันให้แซดว่า สองคนจีบกัน แอบมองตากัน สรุปว่าตกลงเป็นแฟนกันหรือยังครับ” อินจักรยังยกมือมาถูกันทำเป็นคู่
เนเน่ฟาดมือเพียะไปที่แขนของอินจักรทันที
“หื้อ...” หมอจักรทำเสียงดังพร้อมดึงมือกลับ
ทั้งหมอโก้และหมอจักรใช้สายตาช้อนมองหน้าคนทั้งคู่ ส่งยิ้มล้อเลียนให้แบบจับผิด
“อะไรก็ไม่รู้สองคนเนี่ย พี่เมฆคะ เนเน่ไปก่อนนะคะ ขออนุญาตไปเข้าห้องน้ำก่อนขึ้นเวร”
“อุ้ย... มีการขออนุยงอนุญาตกันด้วยแฮะ” โก้ยังทำตาเล็กตาน้อยให้กับเนเน่และเมฆ
“พวกนายสองคนนี่จริงๆ เลย” หมอเมฆที่นั่งยิ้มอยู่นานแล้วพูดขึ้นมาบ้าง
“แน่ะๆ... ทำเขิน ทำเขิน วุ้ยๆ...” สองคนยังแซวไม่เลิก เมฆยกมือขึ้นปัด ก่อนจะยกมือโบกลา
“ไว้เจอกัน ไปก่อนนะเกลอ” เขาเอ่ยล่ำลาทั้งสองหนุ่ม
“เอ่อ... บายๆ”
“สวัสดีครับพี่” อินจักรยกมือไหว้
“ตอนนี้ก็เหลือเราสองคนแล้วละสิ” จักรทำเสียงง่อย ตอนนี้หนังตาเริ่มจะปิด
“แล้วแกจะนั่งรอหาพระแสงอะไรเล่า พี่ง่วงแล้ว ไปๆ... รีบกลับไปนอน” เขาลุกขึ้น ก่อนจะตบหลังจักรให้ลุกตาม
“เมื่อไหร่จะหมดเวรหมดกรรมนี่เสียที” โก้พูดประชดเล่นๆ แบบนี้เสียทุกครั้งที่เขาเหนื่อย
“จักรทำไมฟ้าส่งแกมาคู่กับพี่หึ... ไม่มีสาวๆ สวยๆ อยากมาแทนหมออินจักรบ้างเลยเหรอครับ สวรรค์ครับ” โก้กระชับไหล่รุ่นน้อง เขาแงะหน้าออกช้อนมองรุ่นพี่ตาหยีๆ ทำหัวคิ้วชนกัน
“ผมว่าพี่ต้องพักแล้วละครับ อาการคงหนัก ให้ ผอ. ดิลก จัดยาให้สักชุดไหมครับ” คำพูดของอินจักร และชื่อที่เขาเอ่ยทำให้โก้เขกหัวของหมอรุ่นน้องทันใด
“เอาของสูงมาพูดเล่น เดี๋ยวก็เจอดีหรอก” โก้หมายถึง ผอ. ดิลก ที่เจอหน้าของสองหนุ่มทีไรมีเรื่องต้องเทศนาเสียยืดยาว
“อ้าว... กุญแจ แกขับ พี่จะซ้อน ขี่ให้มันเร็วๆ หน่อยนะ ง่วง...” โก้ยืนรอให้อินจักรสตาร์ตรถก่อนจะขึ้นคร่อม อินจักรพาสองร่างกับเรือนนอน แล้วสองหมอหนุ่มก็หลับเป็นตาย
“ในโรงพยาบาลเขาพูดถึงเราแบบนั้นจริงๆ หรือคะ” เนเน่ถามพี่เมฆตอนอยู่กันสองคนในห้องพักคุณหมอหลังห้องตรวจ เขาทำสีหน้ายิ้มๆ
“แล้วเนเน่คิดมากหรือเปล่า” เธอส่ายหน้า
“ก็ไม่นะคะ”
“ว่าแต่พี่เมฆซีเรียสไหมที่จะถูกกล่าวหาว่าเป็นแฟนเนเน่ ทั้งที่พี่ไม่ได้จีบ” เธอลองหยั่งเชิง ทั้งๆ ที่รู้ว่าเมฆก็ชอบเธออยู่ไม่น้อย
“พูดแบบนี้ อ่อยพี่ใช่ไหมเนี่ย” เขาสัพยอก เธอฟาดฝ่ามือลงบนขาของเขาทำหน้าเขิน
“กล่าวหากันชัดๆ สรุปพี่เมฆจะไม่ขอเนเน่เป็นแฟนจริงๆ เหรอ” เธอชักอ่อนใจกับความยืดยาดของพี่หมอเมฆทันทีที่เอาแต่จดๆจ้องๆ วางฟอร์มอยู่นั่นแหละ
“อื้อ...” หมอหนุ่มทำตาโต ก็จีบผู้หญิงเป็นป่านนี้คงมีแฟนไปแล้ว ทั้งๆ ที่หน้าตาดี เก่งหลายเรื่อง แต่เรื่องจีบหญิงนี่ เขาไม่รู้จะเริ่มอย่างไร
“ยังอีกยังไม่พูดอีก ดีละ...” เธองอน ทำท่าจะลุกขึ้น เมฆถลาเข้ากอดเธอเอาไว้ทั้งตัว ก่อนจะกดปลายจมูกลงไปบนแก้มนวลใสสีแดงระเรื่อนั้น
ฟอด... เขาหอมเสียงดัง
“หอมจัง”
“พี่เมฆ...”
“เป็นแฟนกันนะ พี่รักเนเน่” เธอหันมามองหน้าเขาทำตกใจที่ไม่คิดว่าเขาจะจู่โจมเธอแบบนี้
เขาประทับจูบลงมาทันที ริมฝีปากแนบชิดกัน
ก๊อก...ก๊อก...ก๊อก... เสียงเคาะประตูห้องดังขึ้น สองคนรีบผละตัวออกจากกันทันที
หมอเนเน่รีบลุกขึ้นยืนทำหน้าแดงอยู่ตรงนั้น ตอนนี้หัวใจเต้นเร็วแรงเป็นเสียงกลอง
“คุณหมอคะ เข้าห้องตรวจได้แล้วค่ะ” พี่พยาบาลโผล่หน้าเข้ามาบอก
เนเน่หันมายกมือโบกลาเขา วันนี้เธอกับเขาต้องแยกกันทำงาน เพราะมีคุณหมอไม่อยู่หนึ่งคน
“เดี๋ยวเนเน่” เขารีบลุกขึ้นไปจับมือของเธอเอาไว้แน่น
“คะ” เธอยกหน้าขึ้นมองเขา
“ว่าไง ตกลงไหม” เขาทำเสียงจริงจัง เธอหัวเราะออกมาทันควัน
“ค่ะ ตกลง” คำตอบของเธอทำให้เมฆถึงกับยกมือทั้งสองข้างแล้วดึงศอกกลับไปข้างหลัง ปากก็ขยับพูดว่า “เย้ๆ...” แต่ไม่ออกเสียง
เนเน่ยกมือขึ้นมาปิดปาก ก่อนจะทำท่าส่งจูบให้กับเขา แล้วเปิดประตูเดินออกไป
หมอเมฆยังยืนยิ้มอยู่ที่เดิม จนพยาบาลคนเดิมชะโงกหน้าเข้ามาใหม่อีกครั้ง แค่เห็นสายตาของเธอปากยังไม่ได้ขยับพูด
“โอเคครับ ไปตอนนี้เลยครับ” เขารีบแจ้นออกจากห้องวันนี้ทำงานด้วยความสดใสไปทั้งวัน