รถจอดเทียบ ร่างบางถูกลากลงจากรถ โดยมีเขาเป็นคนคอยติดตามไม่ห่าง ได้ยินเสียงโวยวาย เห็นแม่นมกับบีน่า กำลังถูกพาไปอีกด้าน เธอชะงักเท้า ก่อนหันกลับมามองเขา
“คุณจะพาแม่นมกับบีน่าไปไหน!”
“ห่วงตัวเองก่อนดีกว่าไหมเซเนีย เพราะพวกเขา ไม่มีสลักสำคัญอะไรกับฉัน ฉันไม่ทำอะไรหรอก ส่วนเธอน่ะไม่แน่!” เขายกยิ้มมุมปาก ทำเอาคนมองขนลุกเกรียว
ริมฝากเม้มสนิท แววตาขุ่นเคือง
“คุณจะขังฉันไว้ที่ห้องไหน!” เธอถามเสียงแข็ง
เขายกยิ้ม “ห้องของฉัน!”
“อะไรนะ! ไม่มีทาง ฉันไม่อยู่ห้องเดียวกับคุณเด็ดขาด!”
สองเท้าก้าวเข้าประชิด รั้งเอวบาง ลมหายใจอุ่นร้อนรินรดใบหน้า มือบางยกผลักดัน แววตาไหวระริก
“จะทำอะไร!”
“เธอคิดว่าตัวเอง มีสิทธิ์ปฏิเสธฉันด้วยเหรอเซเนีย” เขาย้อนถาม เสียงเย็น
คนตัวเล็กกลืนน้ำลายลงคอ “เราสองคนไม่ได้เป็นอะไรกัน ไม่ควรอยู่ห้องเดียวกัน”
“อีกไม่กี่วันก็เป็นแล้วเซเนีย”
ร่างบางสั่นไหว ไม่อยากแต่งงานกับเขาเลย กลัวไปหมดทุกอย่าง ต่อให้อยากทำเพื่อตระกูล ฟื้นฟูชื่อเสียงแค่ไหน ก็ยังไม่อยากแต่ง กับผู้ชายคนนี้
“ฉันไม่อยากแต่งกับคุณ ได้ยินไหม!”
“ฉันได้ยิน ได้ยินหลายครั้งแล้ว แต่เราสองคนต้องแต่งงานกันเซเนีย”
“คุณก็เป็นใหญ่อยู่แล้วนี่ ยังต้องการอะไรอีก!”
“ยังหรอกเซเนีย พินัยกรรมระบุไว้ว่าอะไร เธอก็รู้อยู่แล้วไม่ใช่เหรอ ฉันไม่มีวันให้อาบานอสตกเป็นของใครเด็ดขาด!” ดีทริสบอกเสียงกร้าว
“แล้วฉันล่ะ ฉันจะได้อะไร นอกจากเป็นบันไดให้คุณข้ามไป”
“ตระกูลของเธอ ฉันจะฟื้นฟูให้ ดีไหมล่ะ” เขายิ้มเจ้าเล่ห์
น้ำตาเอ่อคลอ “แต่ฉันไม่อยาก ทำแบบนั้นแล้ว” เธอคิดว่าตนเองควรตัดใจเสียที เรื่องราวมันผ่านไปแล้ว ไม่อยากรื้อฟื้นอดีต คนพวกนั้น ที่มีความสุข บนเลือดเนื้อของทุกคน สักวันพวกมันต้องได้รับกรรม
“เธอนี่ ช่างไร้หัวคิด คิดแต่ว่าตัวเองจะไม่มีความสุข ต้องทนทุกข์ทรมานอยู่กับฉัน แต่กลับไม่คิดถึงว่า ตอนที่เกิดเรื่องขึ้น ไม่ใช่ครอบครัว คนในตระกูลเหรอ ที่พาเธอหนีออกมา อย่างยากเย็น เอาชีวิตเข้าแลก สุดท้ายกลับไม่ได้อะไรเลย เธอนี่ช่างเห็นแก่ตัว ห่วงแต่ความสุขของตัวเองเท่านั้น!” เขายิ้มเยาะ
“ดีทริส!” เธอร้องเรียกชื่อเขา แววตาเกรี้ยวกราด
“เรียกเสียงดังเชียว เป็นอะไรไป หรือโกรธที่ฉันพูดแทงใจดำ!”
ทรวงอกกระเพื่อมไหว เพราะลมหายใจกำลังหนักขึ้นทุกวินาที เธอโกรธจนแทบอยากตบสักฉาดให้หายแค้น ใช่สิ เขาจะพ่นคำพูดอะไรออกมาก็ได้ ในเมื่อเธอ ตกเป็นจำเลย ไม่อาจหลีกหนีไปไหน อยากเถียง แต่ทุกคำที่เขาพูด มันดันถูกเสียด้วย เธอหลงลืมไป ว่าโศกนาฏกรรมครั้งนั้น ได้ถูกช่วยเหลือไว้เช่นไร เขาว่าความแค้นสิบปี ก็ยังไม่สาย หากต้องการแก้แค้น
“ฉันจะกลับไปอยู่ห้องเดิม!”
“เธอต้องอยู่ห้องเดียวกับฉัน ฉันจะไม่ปล่อยให้เธอทำอะไรตามใจชอบ จนกว่าจะถึงวันที่เราแต่งงานกันอีกแล้ว!” เขาเข่นเขี้ยวออกมา
หันหลังกลับ กระแทกส้นเท้า เพื่อเดินเข้าห้อง ที่ตนเองต้องการ ทว่าเรียวแขนกลับถูกคว้าไว้ ลากร่างบางไปยังห้องตนเอง เซเนียพยายามขัดขืน แต่กลับไม่เป็นผล
“ฉันไม่ไป!” เธอร้องบอก ริมฝีปากสั่นระริก
เขาหันกลับมา แววตาเยือกเย็น
“คิดดีแล้วใช่ไหมที่ปฏิเสธ”
กัดริมฝีปาก รู้ดีว่าตนเองไม่มีทางเลือก เพราะเขาเหนือกว่าทุกอย่าง
“ฉันไม่อยากนอนร่วมเตียงกับคุณ!” เธอบอกเสียงสั่น
“ทำไมเหรอเซเนีย หรือเธอคิดว่า ฉันจะทำอะไร”
คนฟังชะงัก “ฉันจำเป็นต้องคิดแบบนั้นไว้ก่อน หรือคุณกล้าสาบาน ว่าจะไม่ทำอะไร!”
เขาหัวเราะในลำคอ “ทำไมฉันต้องสาบานด้วยเซเนีย ที่ฉันยังไม่ทำอะไรเธอ จนถึงตอนนี้ ก็นับว่ากรุณามากแล้วนะ!”
“แต่คุณมีผู้หญิงมากมาย คุณจะเรียกใครมาก็ได้ แม้แต่เรต้า ทำไมคุณต้องมายุ่งกับฉันด้วย!”
“อะไรกันเซเนีย เราสองคนกำลังจะแต่งงานกันนะ เธอจะให้ฉันนั่งมองเธอเฉย ๆ งั้นเหรอ ไม่! มันเป็นไปไม่ได้เลย ผู้หญิงคนอื่น ให้ความสุขฉันได้แค่บนเตียง ส่วนเธอเซเนีย ให้ความสุขฉันได้ทั้งบนเตียง ให้ได้ทั้งผลประโยชน์ แล้วทำไมฉันยังต้องไปหาคนอื่นอีกล่ะ!”
สะบัดเรียวแขน น้ำตาไหลอาบแก้ม มองเห็นกันแค่นี้เองงั้นเหรอ ก็ได้... ในเมื่อตอนเธอให้จนมุมถึงเพียงนี้ มันไม่มีทางเลือกเลย ทรมานมากจริง ๆ
“ก็ได้! คุณอยากทำอะไรก็เชิญ แต่ฉันขอให้คุณสัญญากับฉัน ว่าคุณจะยอมปล่อยฉันไป!”
คนฟังนิ่งเงียบ หุบยิ้มฉับพลัน
“หมายความว่าไง?”
“คุณต้องการเวลาเท่าไหร่ ที่จะใช้ประโยชน์จากฉัน”
คิ้วเข้มขมวด “ทำไมเซเนีย เธอจะแต่งกับฉันแล้วหย่างั้นเหรอ”
“ใช่!”
“ทั้งที่เธออาจท้องลูกของฉันเนี่ยนะ!”
เธอสะอึก พูดไม่ออก ไม่มีวันท้องลูกของเขาเด็ดขาด
“คุณพูดบ้าอะไร ฉันไม่ท้องลูกของคุณหรอก ถ้าจะให้ดี คุณไม่ควรนอนกับฉัน เพื่อให้เกิดปัญหาในภายหลัง!”
เขาส่ายหน้า “มันเป็นไปไม่ได้หรอกเซเนีย ของสวย ๆ งาม ๆ อยู่ตรงหน้า ไม่ให้คว้าไว้ ก็คงโง่แล้วล่ะ”
“ว่าอะไรนะ?” เธอย้อนถาม เสียงแข็ง ไม่อยากเชื่อ ว่าจะได้ยินคำพูดแบบนี้ออกมา
“ก็ตามที่ได้ยิน ฉันไม่มีวันปล่อยเธอไปเซเนีย!” พูดจบ คว้าเอวบางแล้วลากเข้าไปในห้องนอน