EP:1

1511 Words
-ปัจจุบัน- ภายในห้องทำงานของฉันวันนี้มันแคบไปถนัดตาเพราะอะไรนะเหรอก็ตอนนี้เพื่อนๆ ของฉันทั้ง5คนพากันมาหาฉันอย่างพร้อมหน้าพร้อมตาคงไม่ต้องเดาก็รู้ว่าพวกมันมากันทำไม ก็หลังจากวันนั้นที่เจอกันงานแต่งของเอลินกับนิกกี้เวลาผ่านมาเกือบอาทิตย์แล้วที่พวกนั้นรู้เรื่องน้องนายยกเว้นก็แต่เอลินแพทตี้ที่รู้ก่อนหน้านี้แล้ว “พวกมึงมาหากูกันพร้อมหน้าแบบนี้คือจะมาถามกูเรื่องน้องนาย" ฉันเอ่ยถามพวกมันก่อนเพราะตอนนี้พวกมันโดยเฉพาะไอ้สามตัวนั้น ธาม นิกกี้ เคนจิ มันจ้องฉันอย่างกดดันแต่ดันไม่ยอมพูดอะไรพอฉันถามพวกมันก็พยักหน้าอย่างพร้อมเพรียง “พวกมึงอยากรู้อะไร” “ใครเป็นพ่อน้องนาย!” เสียงนิ่งๆ เรียบๆ ถามฉันขึ้นมาทันทีแบบตรงประเด็นแบบนี้คงไม่ต้องบอกว่าเป็นใคร “เชี้ยธามถามงี้เลยเหรอวะ” “หรือมึงไม่อยากรู้” “อยาก” เคนจิถามธามเมื่อได้ยินคำถามของธามที่ถามฉันออกมาแต่มันก็โดนธามสวนกลับไปเหมือนกัน “พวกมึงจะอยากรู้ไปทำไม” “อีเจ๊!! เรื่องนี้มันเรื่องใหญ่นะอย่างน้อยคนที่เป็นพ่อมันจะได้แสดงความรับผิดชอบบ้างไงไม่ใช่ปล่อยให้มึงต้องแบกรับคนเดียวแบบนี้" พอฉันถามกลับไปเคนจิก็พูดขึ้นมาอย่างยืดยาวราวกับว่ามันรู้ว่าใครเป็นพ่อเด็ก “ฉันไม่ได้ลำบากอะไรหนิพวกแกก็รู้ฉันเลี้ยงน้องนายคนเดียวได้สบายๆอยู่แล้ว” “พวกกูรู้ว่ามึงไม่ลำบากแต่เด็กต้องมีพ่อไหมมึง” แล้วก็เป็นไอ้เคนจิคนเดิมที่พูดขึ้นมาหลังจากที่ฉันบอกว่าฉันเลี้ยงลูกคนเดียวได้ดูเหมือนว่ามันจะเดือดร้อนกว่าคนอื่นนะ “เอลินแพทตี้2คนไม่คิดจะช่วยกันถามบ้างเหรอ” “เออ!! คือ” แล้วอยู่ ๆ นิกกี้ที่ยืนกอดอกอยู่ก็หันหน้าไปถามเอลินกับแพทอย่างจับผิดเพราะปกติแล้วถ้าเรื่องใหญ่แบบนี้แพทกับเอลินจะออกโรงก่อนแล้วแต่ความจริงคือมันรู้แล้วไงมันเลยได้แต่อึกๆ อักๆ พูดอะไรไม่ออก “เอางี้นะอีเจ๊ถ้ามึงปากแข็งไม่ยอมบอกว่าใครเป็นพ่อน้องนายงั้นมึงดูรูปนี้ก่อน” เคนจิพูดขึ้นมาอย่างจริงจังนี่เป็นครั้งแรกนะที่ฉันเห็นสีหน้าท่าทางจริงจังของมันแบบนี้แถมยืนรูปถ่ายที่มีเด็กผู้ชายสองคนยืนกอดคอกันอยู่มาให้ดูอีก “นี่มัน!” พอฉันเห็นรูปเท่านั้นแหละฉันถึงกับตกใจและพึมพำออกมาเบาๆ เมื่อเด็กในรูปคนหนึ่งหน้าเหมือนน้องนายมากเหมือนอย่างกับเป็นคนๆ เดียวกัน “บีน่า บีน่า” “หะๆ แกว่าไงนะเอลิน” “ไม่ว่าไงฉันแค่เรียกแกเฉยๆ เห็นดูรูปแล้วนิ่งๆ ไปเรียกตั้งหลายรอบกว่ามึงจะรู้ตัวไหนเอามาดูดิรูปอะไร” ฉันไม่รู้ตัวเลยว่าฉันนิ่งไปนานแค่ไหนฉันแค่กำลังคิดว่าฉันไม่เคยพาน้องนายไปถ่ายรูปคู่กับเด็กที่ไหนแต่ทำไมเคนจิถึงได้มีรูปลูกฉันกับเด็กคนอื่นแบบนี้ “น้องนายเหรอ ถ่ายกับใครวะ” “เคนจิมึงไปเอารูปหลานกูมาจากไหน” พอเอลินดึงรูปจากฉันไปดูกับแพทตี้มันก็พูดขึ้นมาว่าเด็กในรูปคือน้องนายแล้วแพทตี้มันก็ถามเคนจิขึ้นมาอีกว่ามันไปเอารูปมาจากไหนนั่นสิทำไมฉันไม่ถามมัน “รูปน้องนายกะผีอะไรล่ะพวกมึงดูดีๆ ว่าหน้าไอ้เด็กผู้ชายที่ใส่เสื้อสีแดงคนที่ถูกเด็กที่พวกมึงคิดว่าเป็นน้องนายกอดคออยู่นะหน้าเหมือนกูไหม” เคนจิพูดจบ เอลินกับแพทก็ก้มลงดูรูปในมือสลับกับหน้าเคนจิไปมาแล้วสองคนนั้นก็ทำตาโตเอามือขึ้นมาปิดปากอย่างตกใจก่อนที่จะพูดประโยคหนึ่งออกมาจนทำให้เคนจิถึงกับโมโห “โอเอ็มจี!!...เคนจินี่มึงไปแอบไข่ทิ้งไว้ที่ไหนเด็กคนนี้หน้าเหมือนมึงเลย” “ปัดโธ่!! ไม่ใช่โว้ย โอ้ยกูจะบ้าตาย” เคนจิยกมือกุมหัวอย่างเสียอารมณ์สุดๆ ที่ได้ยินเอลินกับแพทพูดแบบนั้น “เด็กเสื้อแดงน่ะไม่ได้เหมือนกูแต่มันคือกูนี่แหละ กูตอนเด็กๆ เข้าใจไหม” พวกฉันสามคนถึงกับขมวดคิ้วมองหน้ากันอย่างงงๆ ถ้าเด็กในรูปคือเคนจิแล้วเด็กที่เหมือนน้องนายนั้นใคร “แล้วเด็กที่หน้าเหมือนลูกกูนี่ใคร” ฉันถามเคนจิออกไปอย่างกล้าๆ กลัวๆ เพราะฉันจำได้ว่าเคนจิกับเค้าเป็นลูกพี่ลูกน้องกันบางทีเด็กในรูปอาจจะเป็นเค้าก็ได้แล้วเคนจิมันมีเหตุผลอะไรที่เอารูปนี้มาให้ฉันดู “เด็กที่ยืนกอดคอกูอยู่ที่หน้าเหมือนลูกมึงมันคือไอ้กาย” "เชี้ยแล้วไหมล่ะมึง" เคนจิพูดจบก็ตามด้วยเสียงเอลินที่หันไปคุยกับแพทตี้สุดท้ายสิ่งที่ฉันคิดมันก็เป็นจริงเมื่อเด็กในรูปคือเขาแล้วที่เคนจิเอามาให้ฉันดูแสดงว่ามันคงสงสัยจริงๆ สินะว่าน้องนายเป็นลูกเขา "แล้วมึงเอามาให้กูดูทำไมไม่เห็นมีอะไรเกี่ยวกับกูสักหน่อย" "บีน่า!! ถึงขนาดนี้มึงยังจะปิดบังอีกเหรอหน้าไอ้เชี้ยกายกับน้องนายเหมือนกันอย่างกับแฝดขนาดนี้มึงจะให้พวกกูคิดว่าไงหรือว่ามึงมีคำอธิบายที่ดีกว่านี้ว่าทำไมลูกมึงกับมันถึงหน้าเหมือนกัน" "เชี้ยเคนใจเย็นๆดิวะ" "เออมึงค่อย ๆ คุยกันบีน่ามันคงมีเหตุผลของมันนะ" พอฉันทำหน้านิ่งๆ เหมือนไม่รู้สึกอะไรกับรูปที่เคนจิให้ดูมันก็พูดกับฉันเสียงดังขึ้นมาราวกับเรื่องนี้เป็นเรื่องของมันยังไงยังงั้นจนนิกกี้กับเอลินช่วยกันพูดบอกมันให้ใจเย็นๆ แต่ตอนนี้ฉันที่กำลังแย่พอได้ยินมันพูดแบบนั้นความรู้สึกน้ำตาที่ฉันเก็บไว้มันก็ไหลออกมา "ฮึก!! มึงฟังกูนะเคนจิว่าไม่มีผู้ชายคนไหนบนโลกใบนี้ที่จะมารับผิดชอบเรื่องแบบนี้กับผู้หญิงที่เคยมีอะไรกันแค่ครั้งเดียวแถมยังเป็นผู้หญิงที่เขามองว่าเป็นคนแรดๆ ร่านๆ มาตลอดอีกที่สำคัญกูกับเขาไม่ได้รักกันทุกอย่างมันเกิดขึ้นเพราะความเมาความเผลอไผลก็เท่านั้น” ฉันพยายามไม่สะอึกสะอื้นตอนที่พูดกับเคนจิแต่มันก็ทำไม่ได้ฉันพยายามจะพูดทุกอย่างให้พวกมันเข้าใจ “ที่สำคัญตอนนี้เขากำลังจะหมั้นกับคนรักของเขามึงจะให้กูกับลูกกูไปทำลายชีวิตคู่ของเขาอย่างงั้นเหรอ กูเลือกที่จะพาลูกไปจากเขาเองเพราะฉะนั้นมันไม่มีประโยชน์อะไรที่จะให้เขามารับเป็นพ่อของลูกกู การที่กูพาลูกกลับมากูไม่ได้ต้องการมาเพื่อเรียกร้องอะไร ใครจะรู้หรือไม่รู้ว่าพ่อน้องนายเป็นใครมันไม่สำคัญเลย" ฉันร้องไห้ไปพูดทุกอย่างที่รู้ออกมาจากใจทั้งหมดให้เคนจิฟังทุกสิ่งทุกอย่างที่ฉันเก็บไว้ในใจมานานมันถูกระเบิดออกมาหมดแล้วพอฉันพูดจบทุกคนต่างอยู่ในความเงียบจนอยู่ ๆ เคนจิพูดประโยคหนึ่งขึ้นมากับฉัน "มึงเอาอะไรมาคิดว่ามันไม่รักมึงบีน่าไอ้เชี้ยกายมันรักมึงมาตั้งนานแล้ว" "มึงว่าไงนะ" ฉันถามเคนจิกลับทันทีที่มันบอกแบบนั้น "มึงกลับไปคิดทบทวนดูนะว่าตลอดเวลาที่ผ่านมาที่มันแกล้งมึงจิกกัดมึงมันทำไปทำไมแล้วทำไมมันต้องมากวนใจมึงทุกครั้งที่เจอมันเป็นเพราะอะไรแต่ตอนนี้สิ่งที่มึงต้องบอกพวกกูคือมึงกับมันไปพลาดท่ากันตอนไหนเมื่อไหร่นี่คือสิ่งที่พวกกูอยากรู้" เคนจิบอกกับฉันแค่นี้ก่อนที่มันจะเปลี่ยนเรื่องให้ฉันบอกว่ามันเกิดอะไรขึ้นกับฉันตอนไหนมันคงถึงเวลาที่ฉันต้องเล่าความจริงแล้วสินะ "ถ้าพวกมึงอยากรู้กูก็จะเล่าให้ฟัง"
Free reading for new users
Scan code to download app
Facebookexpand_more
  • author-avatar
    Writer
  • chap_listContents
  • likeADD