Not a boyfriend

Not a boyfriend บทนำ -จุดเริ่มต้น- ไม่รู้ว่าตั้งแต่เมื่อไหร่ที่การนั่งดูรูปแมวในอินสตาแกรมกลายเป็นช่วงเวลาคลายเครียดของ ‘เอิง’ ไปแล้ว ถึงจะไม่ใช่คนเสพติดโซเชียล แต่ทุกครั้งที่แอคเคาท์สุดโปรดซึ่งเธอถึงกับตั้งค่าแจ้งเตือนเอาไว้ส่งเสียงร้อง ไม่ว่าเธอจะทำอะไรอยู่ก็เป็นอันต้องหยิบมือถือขึ้นมาดูและกดไลก์รูปนั้นอย่างรวดเร็ว ตอนนี้เองก็เช่นกัน ทั้งๆ ที่นั่งอ่านหนังสืออย่างเคร่งเครียดมานานนับชั่วโมง เอิงไม่แม้แต่จะกดรับสายของเพื่อนสนิทที่โทรเข้ามาป่วนเพราะอ่านหนังสือสอบไม่ทันด้วยซ้ำ แต่พอเสียงแจ้งเตือนของอินสตาแกรมดังขึ้น หญิงสาวในชุดไปรเวตเรียบง่ายด้วยเสื้อยืดสีชมพูอ่อนกับกางเกงขาสั้นก็สะดุ้งโหยง มือเรียวคว้าโทรศัพท์ได้ก็จัดการกดเข้าไปยังแอปพลิเคชัน จ้องมองรูปภาพพร้อมกับกวาดสายตาอ่านแคปชันยาวเหยียดที่พอจะจับใจความได้ว่าแมวในรูปถูกลงความเห็นว่าน้ำหนักเกินพิกัดจนต้องลดความอ้วนบ้างแล้ว ก็ทำให้เอิงคลี่รอยยิ้มออกมาในทันที ยิ่งเห็นรูปถ่ายที่เป็นแมวพันธุ์สกอตติชสีครีมถูกจัดท่าทางเหมือนคนกำลังซิตอัปออกกำลังกายเข้ากันกับแคปชัน เธอก็แทบจะหัวเราะออกมา “ไพลินอ้วนเหรอ” เอิงพึมพำพร้อมรอยยิ้ม ก่อนกดหัวใจให้รูปดังกล่าวและเอ่ยต่อเสียงเบา “ทับทิมกับมรกตก็ตัวเท่ากันเลยนี่นา” เธอว่าแบบนั้น เพราะในรูปมีเพียงแมวสีครีมที่ชื่อไพลินถูกบังคับให้ออกกำลังกาย ในขณะที่แมวอีกสองตัวที่ชื่อมรกตและทับทิมก็แค่นั่งมองเฉยๆ จนกระทั่งไล่อ่านคอมเมนต์จากคนอื่นและเจ้าของอินสตาแกรมตอบกลับ เธอก็หัวเราะออกมาอีก not_nithinan ไอ้สองตัวนั้นก็อ้วน panithan_j @not_nithinan ทีละตัวดิครับ ต้องตามคิวนะ power.great มึงเป็นโค้ชเหรอ panithan_j @power.great เออ เรียกกูว่าเทรนเนอร์เจ ก็... ไม่ใช่แค่แมวที่น่ารักหรอก แต่เป็นเจ้าของแอคเคาท์ด้วยต่างหากที่ทำให้ทุกอย่างน่าสนใจ... เอิงไม่ได้รู้จักเขาเป็นการส่วนตัว ไม่เลยสักนิด เท่าที่จำได้ก็เพราะเพื่อนของเธอกดแชร์รูปแมวของเขามาลงในสตอรี่ แมวสกอตติชน่ารักเป็นทุนเดิม แต่เพราะแคปชันยาวเหยียดที่เต็มไปด้วยมุกตลกอย่างคนอารมณ์ดีทำให้น่าสนใจเป็นพิเศษ เอิงเป็นคนชอบแมวและก็เป็นคนชอบอ่าน เพราะแบบนั้นทุกตัวอักษรที่เจ้าของแอคเคาท์พิมพ์ประกอบภาพถ่ายมาจึงเรียกรอยยิ้มและทำให้เอิงคลายเครียดได้เป็นอย่างดี และถึงจะรับรู้ว่านั่นเป็นแอคเคาท์ส่วนตัว ไม่ใช่แอคเคาท์ที่เปิดมาเพื่ออัปเดตรูปแมวโดยเฉพาะเหมือนที่เพจแมวส่วนใหญ่ทำกัน แม้แต่ชื่อไอจียังเป็น panithan_j ซึ่งเป็นชื่อของเขาไม่ใช่ชื่อแมวด้วยซ้ำ แต่ดูเหมือนว่าเจ้าตัวก็แค่ชอบถ่ายรูปแมว ชอบเล่าเรื่องแมว เอิงที่แค่กดเข้าไปไล่อ่านไล่ดูเพียงไม่กี่รูปจึงตัดสินใจกดติดตามเขาในทันที จนระยะเวลาผ่านไปนานเกือบเดือน รูปถ่ายและแคปชันจากเจ้าของไอจีที่ชื่อเจก็ทำให้เอิงหัวเราะได้เสมอ มีแค่อินสตาแกรมของเขาที่เธอตั้งค่าแจ้งเตือนเอาไว้ เพราะแบบนั้นในทุกครั้งที่เขาโพสต์รูปใหม่ เอิงจึงไม่เคยพลาด รวมถึงเธอก็แทบจะเป็นคนแรกๆ ที่กดไลก์ให้เขาอยู่เสมอ แต่เอิงก็ทำแค่นั้น เธอแค่ดูรูป อ่านข้อความ กดไลก์ แล้วปิดไป ไม่มีสักครั้งที่เธอจะคอมเมนต์ทิ้งไว้ เพราะถึงอย่างไรนั่นก็เป็นแอคเคาท์ส่วนตัวที่ผู้ติดตามแมวแบบเธอเว้นระยะห่าง เหมือนกันกับวันนี้ที่เธอเป็นคนแรกๆ ในการกดถูกใจ และหลังจากที่ไล่อ่านทุกตัวอักษรรวมถึงอ่านคอมเมนต์จากกลุ่มเพื่อนของเขา เธอก็ตั้งใจจะกดออก แต่ยังไม่ทันได้วางโทรศัพท์มือถือลง เสียงแจ้งเตือนก็ดังขึ้นอีกครั้ง หากคราวนี้มันไม่ใช่เสียงแจ้งเตือนโพสต์ใหม่เหมือนทุกที ...แต่เป็นเสียงข้อความจากอินสตาแกรม panithan_j started following you. ตามด้วย... [small.erng] panithan_j สวัสดีครับ “หืม?” เขากดติดตามอินสตาแกรมของเธอ และหลังจากนั้นเพียงเสี้ยวนาทีก็ส่งข้อความมาทักทาย เรื่องแบบนี้ก็เป็นไปได้ด้วยเหรอเนี่ย...