bc

มนตร์ทรายเสน่หา

book_age18+
157
FOLLOW
1K
READ
billionaire
possessive
contract marriage
fated
doctor
comedy
bxg
city
passionate
like
intro-logo
Blurb

“ยามาท” หมอหนุ่มประจำพระวรกายองค์กษัตริย์แห่งบาฮาเนีย

ดินแดนแห่งทะเลทราย

เดินทางมาลอนดอนเพื่อดูแลกิจการของตระกูล “อัลบา”

เขาถูกอันธพาลกลุ่มหนึ่งทำร้าย

และเมื่อได้สติ คนแรกที่เขาพบหน้าคือ “เรอิโกะ”

สาวสวยชาวญี่ปุ่นที่มาอยู่ปารีสเพื่อเปิดร้าน Jewelry

ในวันที่ สการ์เล็ตต์ รูธ สูญเสียผู้เป็นแม่ซึ่งเป็นญาติคนเดียวในชีวิตเธอนั้น

หัวใจเธอก็แตกสลาย

หญิงสาวเฝ้าโทษตัวเองที่ไม่สามารถไปโรงพยาบาลได้ทันเวลา

เพราะเธอเข้าช่วยชายหนุ่มแปลกหน้าคนหนึ่งก่อนที่ตำรวจจะมาถึง

แล้วรีบเดินทางมาหาแม่ที่โรงพยาบาล

แต่เพราะการไปช่วยชายแปลกหน้าในครั้งนั้น ทำให้แหวนประดับเพชรสีชมพูซึ่งเธอทำเป็นจี้คล้องคอมาตั้งแต่จำความได้หายไป

ผ่านเรื่องราวในครั้งนั้นไปสองปี

สายลมแห่งโชคชะตานำพาให้ยามาทได้กลับมาพบสการ์เล็ตต์อีกครั้ง

chap-preview
Free preview
บทที่1.ริมฝั่งแม่น้ำเทมส์
อากาศยามเย็นริมฝั่งแม่น้ำเทมส์แห่งลอนดอนช่างเปี่ยมไปด้วยเสน่ห์ ทุกครั้งที่ชายหนุ่มร่างสูงโปร่งผู้มาจากดินแดนแห่งทะเลทราย นั่งเครื่องบิน-บินข้ามน้ำข้ามทะเลมาที่อังกฤษ เขามักจะหาเวลาเดินดูแผงขายหนังสือเก่าบนถนนเลียบแม่น้ำเทมส์แบบนี้ทุกครั้ง มันช่างมีมนตร์เสน่ห์ และเพิ่มบรรยากาศให้กับสถานที่สำคัญโดยรอบและเพียงข้ามแม่น้ำเทมส์ ตรงหอนาฬิกาบิ๊กเบนก็จะเจอจุดชมวิวที่สูงที่สุดในลอนดอนซึ่งมี London Eye ชิงช้าสวรรค์ยักษ์แห่งนี้ ยามาท อัลบา เจ้าของร่างสูงโปร่งใบหน้าคมเข้มอย่างชายอาหรับ แม้จสวมสูทสีเข้มแบบเรียบ แต่แฝงความหรูหรา เรียกสายตาของสาวๆ ให้หันมอง พร้อมโปรยยิ้มเชิญชวนให้ ชายหนุ่มเพียงแต่ยิ้มตอบไมตรีที่บรรดาสาวๆ มอบให้ เขาไม่จำเป็นต้องตะกรุมตะกรามเรื่องผู้หญิง โดยเฉพาะในดินแดนต่างบ้านต่างเมืองเช่นนี้ มันทำให้เขามีอิสระที่จะเลือกหญิงสาวคนใดก็ได้มาแนบข้างเพียงข้ามคืน แล้วสลัดพวกหล่อนทิ้งเหมือนถุงเท้าเก่าๆ ทว่าสิ่งเหล่านี้ เขาจะกระทำไม่ได้เลยเมื่ออยู่ในแผ่นดินบาฮาเนีย เพราะเขาไม่ได้เป็นแค่นายยามาท อัลบา เท่านั้น แต่เป็นถึงแพทย์ประจำพระวรกายขององค์กษัตริย์แห่งบาฮาเนียคงไม่มีใครคาดคิดว่า ชายหนุ่มอายุสามสิบหกอย่างเขา จะได้รับใช้กษัตริย์มาถึงสองรัชสมัยแล้ว และนั่นเป็นเหตุผลหลักที่เขาไม่อาจใช้ชีวิตโสดอย่างสุรุ่ยสุร่ายได้แบบนี้หรอก แต่ช่างเถอะ! ท่านราเฟย์-กษัตริย์ที่แสนจะขี้เห่อโอรสวัยขวบเศษและขี้ห่วงพระชายาแสนงาม กำลังมีความสุขและเพิ่งปล่อยให้เขาได้ออกมาหายใจนอกประเทศ หลังจากเฝ้าถวายการรับใช้ทั้งแต่พระชายาทรงพระครรภ์จนให้กำเนิดโอรสน้อยๆ การเดินทางมาปารีสครั้งนี้เพื่อมาดูแลกิจการของตระกูล ‘อัลบา’ แต่ก็ถือว่าได้พักผ่อนไปด้วย ขณะที่ร่างสูงโปร่งก้าวเท้าเดินเล่นไปเรื่อยๆ พลันสายตาก็มาหยุดที่ร้านค้าเล็กๆ แห่งหนึ่งซึ่งเป็นตึกแถวดูเก่าแก่คร่ำครึ เขาจำได้ว่าเคยเดินผ่านร้านนี้หลายครั้ง แต่หลงลืมจะแวะเข้าไปชมสินค้าแฮนด์เมค ยามาทยกข้อมือดูนาฬิกา ยังมีเวลาอีกมากก่อนจะไปหาหญิงสาวที่เขาเฝ้ารอคอยเพื่อปลดปล่อยอารมณ์หนุ่มที่สะกดกลั้นมานาน “Once” ยามาทพึมพำอ่านชื่อร้านก่อนจะตัดสินใจผลักบานประตูเข้าไป เสียงกรุ๋งกริ๋งที่ประตูราวกลับปลุกร้านที่เงียบเชียบให้ลืมตาตื่น ชายหนุ่มเหลียวมองหาเจ้าของร้านแต่ไม่ปรากฏ เขานึกว่าคนดูแลที่ทอดทิ้งร้านของตนเองเช่นนี้ แต่มันดีสำหรับเขาที่จะได้เดินดูสินค้าในร้านได้อย่างสบายใจ ในร้านเน้นสินค้าประเภททำเองกับมือ ซึ่งส่วนใหญ่เป็นตุ๊กตาผ้าน่ารักๆ,กรอบรูปไม้,โมบายและโปสการ์ด ชายหนุ่มหยิบตุ๊กตารูปหมีใบหน้ายิ้มแย้มขึ้นมาดู ขนาดพอเหมาะมือและน่ากอดทำให้เขาเผลอยิ้มออกมาไม่รู้ตัว ชายหนุ่มอดคิดถึงเด็กๆ ในโรงพยาบาลที่เขาไปเยี่ยมไม่ได้ โรงพยาบาลแห่งนั้นเป็นโรงพยาบาลเด็กโดยเฉพาะ นอกจากรักษาเด็กที่เจ็บป่วยแล้ว ยังอุปการะเด็กกำพร้าในช่วงแรก ก่อนจะส่งตัวไปสถานรับเลี้ยงเด็กอีกแห่งหนึ่งเพื่อหาผู้อุปการะดูแลต่อไป เขาพลิกหาดูป้ายราคาสินค้าหากว่าราคาของมันไม่สูงเกินไปนัก เขาอาจเหมาไปสักร้อยหรือสองร้อยตัวเพื่อแจกเด็กๆ ในโรงพยาบาล “คุณลูกค้าคะ ช่วยถนอมตุ๊กตาในมือหน่อยเถอะค่ะ” “ครับ?” ยามาทเงยหน้าจากตุ๊กตาในมือ เขาไม่ได้ยินเสียงฝีเท้าของหญิงสาวเจ้าของเสียงหวานใสที่ดังอยู่ใกล้ๆ นี่เลย หรือเพราะเธอช่างแสนบอบบางราวกับก้านดอกไม้ ทำให้เขาไม่รู้สึกถึงการมาเยือนของหญิงสาวผู้สวมผ้ากันเปื้อนได้แสนน่ารัก ใบหน้าหวานซึ้งรับกับจมูกเชิดน้อยๆ ริมฝีปากแดงระเรื่อ ดวงตาสีน้ำตาลกระจ่างใสเข้ากับเรือนผมสีน้ำตาลแดงหยักสลวยของเธอกลิ่นหอมบางๆ จากเรือนกายโชยมาแตะปลายจมูกของเขาเบาๆ เขารู้สึกแปลกใจที่ตนเองรู้สึกคุ้นกับกลิ่นหอมประหลาดนี้ “ถ้าสนใจสินค้า หรือต้องการสอบถามอะไรเกี่ยวกับตุ๊กตาตัวนั้นถามดิฉันได้ อย่าทำเหมือนกับจะแยกชิ้นส่วนมันแบบนั้น” หญิงสาวต่อว่า แต่น้ำเสียงนั่นก็ไม่ได้ใส่ใจว่า เขาจะเป็นลูกค้าประเภทไหนก็ตาม “ผมแค่หาป้ายราคาสินค้า” เขาเลิกคิ้วสูงเหมือนตั้งคำถาม “คุณไม่ติดป้ายแสดงราคานี่มีความผิดเหมือนกันนะ” “ฉันไม่ติดป้ายบอกราคาที่ตัวตุ๊กตาหรอกค่ะ” หญิงสาวยกมือกอดอก รู้สึกเมื่อยคอที่ต้องเชิดหน้าพูดพากับคนตัวสูงขนาดนี้ “แต่ดิฉันติดราคาที่ชั้นวางของแล้วนี่คะ” “เหรอ” เขาเอ่ยเหมือนล้อเลียนแล้วหันไปมองที่ชั้นวางของซึ่งเมื่อครู่เขาหยิบตุ๊กตาขึ้นมาและมันก็มีป้ายบอกราคาติดไว้ด้วย “คุณไม่คิดว่าราคามันสูงไปหน่อยเหรอ” “สินค้าทุกชิ้นในร้านนี้เป็นของแฮนด์เมค ซึ่งหมายความว่าแต่ละชิ้นจะมีเพียงชิ้นเดียวในโลก แต่ถ้าคุณว่าราคาของเหล่านี้มันแพงเกินไป ก็ไปหาซื้อสินค้าโรงงานก็ได้นี่คะ” “ดูท่าทางคุณไม่ค่อยง้อลูกค้าเลยนะนี่” เขาหัวเราะออกมาแล้วหยิบตุ๊กตาอีกตัวขึ้นมาเปรียบเทียบ “ดูสิ! ตัวนี้เย็บตะเข็บไม่เรียบร้อยเลย แล้วตัวนี้ก็ด้วยกระดุมเหมือนจะหลุดแหล่มิหลุดแหล่ แล้วถ้าผมซื้อไป จะแน่ใจได้ยังไงว่าเป็นสินค้าชิ้นเดียวในโลก ไม่ใช่ผมมาซื้อไปวันนี้แล้วพรุ่งนี้คุณก็ปั้มออกมาขายใหม่อีกเหรอ” หญิงสาวถอนหายใจหนักๆ “ฉันใช้ความจริงใจเป็นประกันค่ะและถ้าคุณไม่เชื่อใจก็ไม่จำเป็นต้องซื้อสินค้าในร้านนี้ ...มันก็เท่านั้นเอง” ยามาทหัวเราะเสียงดังอย่างไม่เกรงใจใคร เขาไม่เคยเจอแม่ค้าที่ไหนที่ปากกล้า แถมไม่สนใจบริการลูกค้าอย่างแม่สาวผมแดงคนนี้เลย เขาตั้งใจจะแหย่เธอเล่นเท่านั้น เพราะแค่สัมผัสตุ๊กตาเหล่านี้แล้ว เขาก็รู้ได้ในทันทีว่ามันมีความพยายามและความตั้งใจจริงอยู่เต็มเปี่ยม แต่ก็นั้นแหละ! ชีวิตเขาเคยเจอแต่คนมาเอาอกเอาใจ จนต้องปลีกตัวหนีมาไกลๆ อย่างนี้ก็เพราะเรื่องแบบนี้ทั้งนั้นแหละ “ถ้าคุณลดราคาให้ผมสักสิบเปอร์เซ็นต์ ผมจะซื้อหนึ่งร้อยตัว” คราวนี้หญิงสาวทำตาโตอย่างไม่เชื่อ “คุณล้อเล่น!!!” “คุณเป็นแม่ค้ายังไงนะ” ยามาทหัวเราะแล้วหยิบนามบัตรของตนเองออกมายื่นให้หญิงสาว “ผมต้องการตุ๊กตาของคุณหนึ่งร้อยตัว คุณสามารถรับเงินล่วงหน้าครึ่งหนึ่งได้เลย ถ้ายังไงผมจะให้เลขาฯ ของผมให้รายละเอียดกับคุณอีกครั้ง” “เอ่อ...ค่ะ...” หญิงสาวยื่นมือมารับนามบัตรอย่างงงๆ ไม่คิดว่าลูกค้าปากร้ายของเธอจะสั่งซื้อสินค้ามากมายขนาดนี้ “นามบัตรคุณละครับ” “อ้อ! ขอโทษทีฉันลืม” เธอรีบหมุนตัวแล้วเดินไปหยิบนามบัตรที่วางอยู่หน้าเคาน์เตอร์เก็บเงิน แต่เมื่อหมุนตัวกลับมาอีกครั้งก็ชนเข้ากับแผงอกกว้างของเขา ซึ่งเธอไม่รู้ว่าเขาเดินตามเธอมาตั้งแต่เมื่อไหร่ “สการ์เล็ตต์ รูธ...ชื่อของคุณหรือครับ” เขาถามเมื่อมือใหญ่หยิบนามบัตรในมือของเธอเองโดยที่เธอยังไม่ได้ส่งให้ “ชื่อนี่เหมาะกับคุณดี” “ทำไมคะ ชื่อฉันทำไม?” ยังไม่ทันที่หญิงสาวจะเอ่ยจบประโยคเสียงโทรศัพท์มือถือของยามาทก็ดังขึ้นก่อน ชายหนุ่มก้มศีรษะเพื่อขออนุญาต และเดินเลี่ยงไปคุยโทรศัพท์อีกมุมหนึ่งของร้าน สการ์เล็ตต์ รูธ ยกมือขึ้นทาบอกพยายามข่มอาการตื่นเต้นและหัวใจเต้นแรงจนแทบจะกลายเป็นกลองรบ ตั้งแต่เกิดมาเธอไม่เคยรู้สึกแบบนี้กับใครมาก่อน แม้กระทั่งกับ ‘แบรด ดอว์สัน’ คนรักของเธอเอง เพียงแค่เขายืนอยู่ใกล้ๆ ร่างกายของเธอก็แทบเสียการควบคุมไป ผู้ชายคนนี้ช่างแสนจะอันตรายนัก แผ่นหลังและไหล่กว้าง ดวงตาสีเทาคู่นั้นและใบหน้าคมเข้มที่มองปราดเดียวก็รู้ว่าเป็นหนุ่มอาหรับ ทำให้เธออดคิดถึงคำพูดของแม่ก่อนสิ้นลมเมื่อสองปีก่อนไม่ได้ ‘พ่อของลูกเป็นชาวบาฮาเนียน...พ่อของลูกอยู่ที่บาฮาเนีย...อย่า...อย่าโกรธพ่อเลยนะลูก...พ่อไม่เคยรู้ว่าแม่มีหนูอยู่ในท้อง...’ “โอเคที่รัก ผมจะไปถึงในสิบนาที” ยามาทเอ่ยผ่านโทรศัพท์มือถือแล้วพูดคุยอีกสองสามคำก่อนจะเก็บมันเข้าที่ในกระเป๋าเสื้อสูท เขาหันกลับมาก็เห็นหญิงสาวหน้ายืนหน้าซีดเขาจึงรีบเข้าไปดูอาการ ด้วยความเป็นหมอจึงเผลอยกมือขึ้นอังหน้าผากของเธอ แต่สัมผัสของเขาทำให้เธอสะดุ้งจนถอยหลังไปครึ่งก้าว ชายหนุ่มกลัวเธอจะล้ม จึงเอื้อมมือไปโอบแผ่นหลังเนียนเพื่อช่วยพยุงตัว ดวงตาของคนทั้งคู่จึงประสานกันนิ่งราวกับนาฬิกาหยุดเดิน “คุณเป็นอะไรหรือเปล่า” “ไม่ค่ะ...ไม่เป็นไร” เธอเอ่ยอย่างตะกุกตะกักเมื่อทรงตัวยืนได้แล้ว “แค่ตกใจนิดหน่อย” “ผมขอโทษ” เขาเอ่ยยิ้มๆ “ผมเป็นหมอนะ พอเห็นคนหน้าซีดเหมือนจะเป็นลมก็ต้องรีบเข้าไปดูอาการ” “คุณเป็นหมอหรือคะ” น้ำเสียงที่เอ่ยเหมือนจะอารมณ์ดีขึ้นกว่าเมื่อครู่ ชายหนุ่มพยักหน้าแทนคำตอบ “พอดีผมมีนัด ถ้ายังไงจะให้เลขาฯ ติดต่อมาหาคุณอีกครั้งนะครับ” ยามาทเอ่ยแล้วก้มศีรษะให้เล็กน้อยก่อนจะเดินออกไปเป็นจังหวะเดียวกับที่ประตูถูกผลักเข้ามา ร่างสูงหนาของแบรดเดินเข้ามาหาสการ์เล็ตต์พอดี เขาเหลือบมองคนที่เดินผ่านไปเมื่อครู่แต่ก็ไม่ได้ใส่ใจนัก “มีอะไรหรือเปล่า” “ไม่มีอะไรคะแบรด” เธอยิ้มแล้วมองดูนามบัตรในมือของตัวเอง “ลูกค้าสั่งตุ๊กตาหนึ่งร้อยตัวค่ะ” “จริงเหรอ” แบรดทำตาโตรีบปราดเข้าไปดูนามบัตรในมือของหญิงสาว “คุณต้องเรียกเก็บเงินล่วงหน้าด้วยนะไม่อย่างนั้นอาจจะเป็นพวกหลอกลวงก็เป็นได้” “ค่ะ คุณลูกค้าจะให้เลขาฯติดต่อมาและจะจ่ายเงินล่วงหน้าให้ครึ่งหนึ่งก่อน” สการ์เล็ตต์อธิบาย “วันนี้คุณไปไหนมาคะแบรด ไปวาดภาพเหรอ” “ใช่ๆ ไปวาดภาพนักท่องเที่ยวมา” เขาพูดแล้วรวบเอวบางไปกอด “แต่วันนี้ไม่ค่อยมีลูกค้าเลยผมขอฝากท้องที่นี่ได้ไหม” “ไม่มีปัญหาอยู่แล้ว” สการ์เล็ตต์หัวเราะเบาๆ “เรื่องตุ๊กตาหนึ่งร้อยตัวนี่...ผมช่วยดูเรื่องการเงินให้เอาไหม คุณไม่ถนัดเรื่องพวกนี้ไม่ใช่เหรอ” “ก็ดีซิค่ะ ฉันไม่ถนัดเรื่องตัวเลขจริงๆ” “ได้จ๊ะที่รัก!” แบรดเข้ามาหอมแก้มสการ์เล็ตต์ หญิงสาวหัวเราะคิกคักแล้วปล่อยให้คนรักดูแลหน้าร้าน เธอเข้าไปในครัวเพื่อทำอาหาร โดยที่เธอไม่เคยเห็นรอยยิ้มทีซ่อนเลศนัยของแบรดเลยสักนิด สการ์เล็ตต์ไม่แน่ใจว่าตนเองเคยรักแบรดในฐานะคนรักบ้างหรือเปล่า แบรด ดอว์สันเข้ามาในช่วงที่ชีวิตของเธอไม่มีใคร เขาเป็นลูกชายของลุงที่อยู่ใกล้บ้านซึ่งบังเอิญเพิ่งย้ายมาอยู่ที่ปารีสแห่งนี้ ในงานศพของแม่ที่เธอแทบไม่มีเรี่ยวแรงทำอะไรเลยนั้น ในเวลานั้นลุงคูเป้กับแบรดที่ช่วยเหลือทำให้เธอซึ้งในน้ำใจของแบรดมากน่าแปลกที่ตลอดสองปีมานี่ เธอไม่เคยรู้สึกร้อนในอก หรือใจเต้นโครมคราม เท่ากับที่ได้เจอผู้ชายแปลกหน้าเมื่อครู่เลยสักนิด นี่มันเกิดอะไรขึ้นในหัวใจเธอกันแน่นะ.

editor-pick
Dreame-Editor's pick

bc

สวาทรักใต้เพลิงแค้น

read
1.9K
bc

เมื่อฉันแอบรักซุปตาร์นายเอกซีรีส์วาย

read
10.1K
bc

Relazione เจ้าหัวใจสายใยรัก

read
1.2K
bc

เล่ห์รักนายหัว

read
2.3K
bc

สะใภ้ขัดดอก

read
29.2K
bc

ลุ้นรักสลับใจ

read
1K
bc

หวงรักเมียเด็ก

read
1K

Scan code to download app

download_iosApp Store
google icon
Google Play
Facebook