ชายที่ใช่สำของเธอตลอดไป

บทที่ 6

　　เสียงหัวเราะของฤทธิ์ดังขึ้น และไอรินนาเพียงแค่ยืนและจ้องมาที่เขา หลังจากหัวเราะอยู่นานเขาก็หยุด

　　"ไอรินนา เธอนี่มันโคตรเท่จริงๆ! เธอเป็นคนที่หน้าตาก็ขี้เหร่แถมยังทำอะไรไม่ได้เรื่องสักอย่างอีก แต่ใครจะไปคิดว่าเธอมันแน่และร้ายกาจได้ถึงขนาดนี้? ไม่มีผู้ชายคนไหนที่จะกล้าแต่งงานกับผู้หญิงแบบเธอหรอก"

　　ฤทธิ์เป็นคนที่ปากพล่อยโดยเดิมอยู่แล้ว ดังนั้นไอรินนาจึงเพียงหลับตาลงและนิ่งเงียบในขณะที่เขาพูด

　　ฤทธิ์ไม่สนใจหรอกว่าเธอจะโกรธกับสิ่งที่เขาพูดและเอ่ยปากบอกอีกว่า "ทั้งหมดเป็นเพราะเธอ เธอทำให้ฉันเสียเวลา ฉันตั้งใจจะค้างคืนกับรชิดา แล้วเธอก็ทำมันพัง... นั่งรถกลับเองละกัน โบนัสของเธอสำหรับเดือนนี้จะลดลงครึ่งหนึ่ง!"

　　พูดจบเขาก็ขึ้นรถแล้วออกไป ไอรินนายืนหยั่งรากอยู่ที่เดิมครู่หนึ่งก่อนจะเดินทางไปยังสถานีขนส่งใกล้เคียงด้วยใจที่หนักหน่วง

　　ไม่ถึงห้านาทีหลังจากที่เธอจากไป แอสตัน มาร์ตินรถสปอร์ตสุดหรูก็เข้ามาจอดที่ลานจอดรถของสถานีตำรวจ เอกริณนั่งอยู่ด้านหลัง ผู้ช่วยของเขา โจ ออกมาเปิดประตูให้เขา "คุณเอกริณ คุณอยากจะเข้าไปดูไหม?"

　　"ไม่จำเป็น เข้าไปบอกเธอว่าเราจะปล่อยเธอไปคราวนี้ แต่ถ้ามันเกิดขึ้นอีกครั้งฉันจะไม่ปล่อยเธอไว้แน่"

　　โจพยักหน้าและมุ่งหน้าไปที่สถานีตำรวจ ขณะที่เอกริณมองดูเขาไป เขาอดไม่ได้ที่จะรู้สึกหงุดหงิดเมื่อนึกถึงไอรินนาที่ทำตัวน่ารังเกียจได้ถึงเพียงนี้

　　"ไอรินนา เธอเป็นคนป่าเถื่อนและดื้อดึงมาตลอดเลยใช่ไหม เงินไม่เคยมีความหมายกับเธอเลย และเธอคือคนเดียวที่จากฉันไปโดยไม่ได้เงินแม้แต่บาทเดียว ทำไมไม่เลือกเส้นทางชีวิตที่มันดีหน่อย ทำไมจึงเลือกเป็นพนักงานเสิร์ฟ ถึงกับตกอับอยู่ในสภาพที่น่าสมเพชได้ถึงเช่นนี้เลยหรอ?"

　　เอกริณจุดบุหรี่ หลังจากที่เขาสูดอากาศเข้าไปแล้ว ก็เห็นโจออกมาจากโรงพัก "คุณเอกริณ มีคนพาคุณไอรินนาออกไปแล้วครับ" เขารายงาน

　　"มีคนพาเธอไป? ใคร? นาธานหรอ?" เอกริณยิงคำถามสามข้อติดต่อกัน แต่โจส่ายหัวแล้วตอบว่า "ไม่ใช่ครับ เป็นคุณฤทธิ์ครับ!"

　　"ฤทธิ์? ฮ่าฮ่า!" เอกริณหัวเราะเยาะเย้ย ฤทธิ์และนาธานเป็นเพื่อนสนิทกัน เขาเข้ามาช่วยไอรินนาเร็วอย่างกับสายฟ้าแลบขนาดนี้ คงเดาได้ไม่อยากว่าพวกเขาคงมีความสัมพันธ์ที่ลึกซึ้งเป็นแน่

　　จากนั้นเขาก็ขยี้ก้นบุหรี่ในฝ่ามืออย่างแรงและพูดว่า "ไปกันเถอะ!"

　　ไอรินนารอที่ป้ายรถเมล์เป็นเวลาครึ่งชั่วโมงก่อนที่รถบัสจะมาถึง เมื่อเธอกลับถึงบ้าน ธรรมนูญลุงของเธอกำลังดูทีวีอยู่ในห้องนั่งเล่น เมื่อเห็นสภาพความยุ่งเหยิงจากเธอ เขาอุทานด้วยความตกใจ "ไอรินนา เธอไปทำอะไรมา?"

　　"ฉันเจอยัยนั่นแล้ว!" ไอรินนาตอบลุงของเธอตามความจริง

　　"ไอรินนา เธอไม่ควรกลับมานะ เธอควรจะอยู่กับนาธาน..."

　　"ลุง ฉันไม่สามารถอยู่กับนาธานได้ตลอดเวลาหรอกนะ ฉันกับเขาคงเป็นแค่เพื่อนกัน แล้วอีกอย่างลุงเองก็ไม่สบายฉันเป็นห่วงลุงนะ"

　　"มันเป็นความผิดของฉันเอง ฉันแก่ขึ้นลงทุกวันและเป็นภาระของเธอ" ธรรมนูญถอนหายใจ

　　"ไม่เป็นไร ฉันจะไม่อยู่ที่กรุงเทพนานหรอก บริษัท พรสิริพิทักษชัยพัฒนา จำกัด มหาชน ขยายกิจการการดำเนินงานและตั้งสาขาใหม่ใน อ็อกซ์ตัน ดังนั้นฉันอาจถูกย้ายไปทำงานที่นั่นในอนาคต เมื่อถึงเวลา เราไม่ต้องอยู่ที่กรุงเทพแล้ว และก็ไม่ต้องพบเจอกับพวกเขาอีก"

　　ระหว่างนั้น ไลลีนมาถึงบ้านคุณาพิมพ์ แล้วรีบลงจากรถและเข้าไปในห้องนั่งเล่น "แม่ ฉันกลับมาแล้ว!" เธอตะโกน

　　ดาวิกา ซึ่งนั่งอยู่ในห้องนั่งเล่นเงยหน้าขึ้นมอง เธอตกตะลึงอย่างยิ่งเมื่อเห็นผมที่ยุ่งเหยิงของไลลีนและชุดที่เปื้อนเลอะเถอะ "เกิดอะไรขึ้น?" เธอสอบถาม

　　"ไปเม้าท์มอยกันที่ชั้นบน” ไลลีนตอบขณะที่เธอเหลือบมองผู้ช่วยที่อยู่ในห้องนั่งเล่น จากนั้นเธอก็จับมือดาวิกาและพาเธอขึ้นไปชั้นบน หลังจากปิดประตู เธอพูดทันทีว่า “แม่ค่ะ ไอรินนากลับมาแล้ว เราควรทำยังไงดี?"

　　"อะไรนะ ไอรินนากลับมาแล้วเหรอ จริงดิ?" ดาวิกาตกตะลึง

　　"จริงค่ะ หนูบังเอิญเจอเธอที่งานปาร์ตี้คืนนั้น เธอค่อนข้างตกทุกข์ได้ยากและทำงานเป็นพนักงานเสิร์ฟในงานปาร์ตี้จริงๆ..." ไลลีนได้เล่าเกี่ยวกับทุกสิ่งที่เกิดขึ้นในคืนนั้นให้กับดาวิกาฟัง

　　"นี่มันอะไรกัน? ทำไมเธอถึงยั่วโมโหเขาได้ถึงขนาดนั้น" ดาวิกาดุเธอ

　　"หนูจำเป็นต้องทำแบบนั้น แม่ลองคิดดู ทำไมยัยตัวแสบนี้ถึงโผล่มาตอนนี้ ตลอดสามปีที่ผ่านมาไม่เห็นแม้แต่เงา?" ไลลีนโต้กลับด้วยสีหน้าโกรธจัด "เธอคงจงใจปรากฏตัวเพราะเธอรู้ว่าหนูกำลังจะหมั้นกับเอกริณ"

　　"อย่างนั้นหรือ?" ดาวิกาถาม

　　"ต้องเป็นอย่างนั้นแน่ เธอคงไม่พอใจที่หนูแย่งเอกริณไปจากเธอ หนูกลัวว่าเธอจะทวงเอกริณคืน ดังนั้นหนูก็เลยลงมือไปก่อนดีกว่า"

　　"เป็นความคิดที่ดี แต่พ่อของลูก...เขายังคงคิดถึงยัยตัวแสบนั่น ถ้าเขารู้ว่าเธอกลับมา เขาจะไปหาเธอแน่นอนและนั่นจะทำให้เกิดปัญหา"

　　"นั่นเป็นเหตุผลที่แม่ต้องคิดหาวิธีแก้ไขโดยเร็ว"

　　"แม่จะคิดดู พ่อของลูกไม่ควรประกาศความสัมพันธ์ของเขากับเธอต่อสาธารณะ" ดาวิกาเตือนอย่างไม่พอใจ