บทที่ 1

1839 Kata
  กลิ่นน้ำยาฆ่าเชื้อฟุ้งกระจายเต็มไปทั่วอากาศในโรงพยาบาล   ไอรินนา รีบออกจากห้องหมออย่างตื่นเต้นกับผลตรวจในมือของเธอ ในขณะที่เธอกำลังจะโทรออก มือถือของเธอก็ดังขึ้น เธอรับสาย และลุงของเธอพูดว่า "ไอรินนา ระหว่างเธอกับเอกริณนี่มันยังไงกัน?"   "พวกเราก็เรื่อยๆนะลุง มีอะไรหรือเปล่าคะ?"   "ฉันได้ข่าวมาว่า เมื่อวานซืนเอกริณได้พาผู้หญิงคนนึงไปโรงพยาบาลเพื่อไปฝากครรภ์..."   ไอรินนากลั้นขำไว้ไม่อยู่และตอบกลับไปว่า "ลุงคิดว่าเอกริณซ่อนผู้หญิงไว้อีกคนงั้นรึ?"   "ใช่!"   "อย่ากังวลไปเลยลุง ในบรรดาผู้ชายทั้งหมด เขาคงเป็นคนสุดท้ายในโลกนี้ที่จะทำเรื่องอะไรแบบนี้"   หลังจากที่ไอรินนาวางสายจากลุงของเธอ เธอก็โทรหาเอกริณ แต่เขาไม่รับสาย กว่าเขาจะรับสายก็ใช้เวลานานพอควร และพูดกับไอรินนาว่า "อย่าโทรมารบกวนถ้าไม่มีอะไรสำคัญ! เพราะฉันยุ่งมาก แค่นี้นะ"   เอกริณดูเย็นชาไร้อารมณ์ที่จะคุย และวางสายไปทั้งๆที่ไอรินนายังไม่ได้พูดอะไรเลยสักคำ ไอรินนากำผลตรวจของเธอไว้ และรู้สึกเหมือนกับว่าความปรารถนาอันแรงกล้าที่เธอมีได้สลายหายไป   ตั้งแต่พวกเขาแต่งงานกันเมื่อสามปีที่แล้ว เอกริณ ก็อ่อนโยนต่อเธอเสมอมา แต่หลังๆนี้ทัศนคติของเขาได้เปลี่ยนไป ไม่เพียงแต่เย็นชา แค่รับสายจากไอรินนาเขาก็ยังหงุดหงิดโมโห ซึ่งทำให้เธอสงสัยว่าอะไรที่ทำให้เขาเปลี่ยนแปลงได้ถึงเพียงนี้นะ   ไอรินนาได้แต่กังวลใจและหมกมุ่นกับความคิดของตัวเอง "พี่!" เสียงเรียกอย่างนุ่มนวลกึกก้องและร่างบางปรากฎอยู่ตรงหน้า   เมื่อไอรินนามองไป เธอเห็นไลลีนมาพร้อมกับหญิงวัยกลางคนคนหนึ่ง   ไอรินนาทำสีหน้าไม่พอใจด้วยสายตาที่ดูถูกเหยียดหยามเมื่อเห็นไลลีนผู้เป็นน้องเลี้ยง และเธอตอบกลับอย่างเย็นชาว่า "จำไว้นะ ฉันเป็นลูกคนเดียวที่แม่ให้กำเนิดมา"   แทนที่ไลลีนจะโกรธกับคำตอบของเธอ ไลลีนกลับยิ้มและถามอย่างอ่อนโยนว่า "ไอรินนา เธอมาโรงพยาบาลเพื่อมาตรวจปัญหาการมีบุตรยากอีกแล้วหรอ?"   "มันไม่ใช่ธุระของเธอซะหน่อย."   "จะไม่ถามหน่อยเหรอว่าทำไมฉันถึงได้มาแผนกตรวจตั้งครรภ์นี้?" ไลลีนถามและมองไอรินนาด้วยท่าทางที่เยาะเย้ยและกวนโมโห จากนั้นเธอก็ได้ก็หัวเราะออกมาและป่าวประกาศว่า "ฉันท้องลูกของเอกริณแล้วนะ!"   ไอรินนาได้สังเกตเห็นท้องน้อยๆของไลลีนหลังจากที่เธอพูดออกมาแบบนั้น ความรู้สึกของไลลีนที่มีต่อเอกริณมันชัดเจนมาก หล่อนพยายามหาทุกวิธีทางเพื่อที่จะจับเอกริณก่อนที่เขาจะแต่งงานกับเธอ แต่ไอรินนาก็ยังรู้สึกเฉยๆกับพูดของหล่อนและตอบกลับอย่างเยาะเย้ยไปว่า "เธอเสียสติไปแล้วหรือ?"   "ไม่เชื่อฉันเหรอ? ก็ดูนี่สิ!"   ไลลีนจึงแสดงผลตรวจรายงานการตั้งครรภ์ของเธอให้ไอรินนาดู ทันใดนั้นไอรินนาแสดงสีหน้าเปลี่ยนไปทันทีเมื่อเธอเห็นลายมือที่คุ้นเคย เธอแทบจะไม่เชื่อสายตาของตัวเองเมื่อเห็นลายเซ็นของเอกริณปรากฎอยู่บนเอกสารนั้น   "ฉันใช้เวลาดูดดื่มอยูกับเขาเมื่อสี่เดือนที่แล้ว ฝีมือของเขาไม่เลวนะ และฉันก็ท้องตั้งแต่นั้นมา" ไลลีนป่าวประกาศและยิ้มอย่างภาคภูมิใจ "เขาชอบเด็กคนนี้มากและขอให้ฉันเก็บไว้ด้วย เธอควรถอยแล้วละหลังจากที่ลูกของฉันเกิดมา"   "อีผู้หญิงเลว!" ไอรินนาด่าด้วยใบหน้าที่สั่นสะท้านที่เต็มไปด้วยความโกรธ และเธอตบหน้าไลลีน ไลลีนล้มลงกับพื้นทันทีอย่างที่เธออยากให้เกิดสิ่งนี้ "อุ๊ย ท้องของฉัน!" เธอกรีดร้อง   ไอรินนาเพียงแค่ตบหน้าลิลลี่เท่านั้น แต่เลือดสีแดงเข้มเริ่มไหลออกมาจากกางเกงของเธอทันทีที่เธอล้มลงกับพื้น ไอรินนาตกใจ และแทบไม่อยากจะเชื่อในสิ่งที่เกิดขึ้นตรงหน้า   เจ้าหน้าที่โรงพยาบาลรีบพาไลลีนไปที่ห้องฉุกเฉินทันที ไอรีนทำตัวไม่ถูกเลยรีบตามเธอไปด้วย   หลังจากรออยู่นอกห้องฉุกเฉินมาสักพัก ไอรินนาก็ได้ยินเสียงฝีเท้าและเหลือบไปเห็นมาริสา ซึ่งผู้เป็นแม่สามีของเธอ มาริสาจ้องมองไอรินนาอย่างโกรธจัด "เกิดอะไรขึ้น? ไลลีนไปอยู่ในห้องฉุกเฉินได้อย่างไร?"   "นางสาว เนตรา... ไม่ นาง วิรุณ เมยาสุวรรณผลักเธอ!" หญิงวัยกลางคนที่มากับไลลีนตอบ   "เธอมันเลว! เธอมันไร้ประโยชน์และขี้อิจฉาในสิ่งที่คนอื่นทำได้ แต่เธอกลับทำมันไม่ได้ใช่ไหม?" มาริสากรีดร้องและตบหน้าไอรินนา ยิ่งก่อนหน้านี้ก็ไม่ค่อยชอบเธออยู่แล้วด้วย เธอจึงไม่เสียใจกับการกระทำที่ได้ทำลงไป และไม่ได้เห็นใจที่เห็นใบหน้าของไอรินนาเริ่มบวมขึ้นอย่างเห็นได้ชัด   ก่อนหน้านี้ เธอคิดว่าไลลีนกำลังโกหก แต่พฤติกรรมของมาริสาได้อธิบายทุกอย่างแล้ว   ความสิ้นหวังผุดขึ้นในหัวใจของไอรินนา เหมือนกับหายใจไม่ออกจนเธอแทบจะสลบ แต่ในขณะนั้นเอง ประตูห้องผ่าตัดก็เปิดออก และพยาบาลคนหนึ่งก็เดินออกมาเพื่อแจ้งพวกเขาว่าไลลีนเสียลูกของเธอไปแล้ว   มาริสาเสียใจและโกรธมากที่ได้ยินแบบนี้ และพุ่งเข้าไปกระชากผมของไอรินนาทันที ก่อนที่เธอจะเริ่มฟาดและเตะเธอ   ไอรินนาหมดสติอย่างรวดเร็วจากการทุบตีอย่างรุนแรง   ในที่สุดเธอก็ได้ฟื้นขึ้นมา เธอก็ลืมตาอย่างพร่ามัว เธอพยายามลุกขึ้นนั่ง แต่ร่างกายของเธอปวดเมื่อยมากจนต้องพิงกับหัวเตียงเพื่อที่จะหายใจได้อย่างสะดวก แต่ในขณะนั้นเอง ประตูห้องผู้ป่วยของเธอก็เปิดออก และชายคนหนึ่งสวมแว่นขอบทองก็เข้ามา   "สวัสดีครับ คุณเนตรา ฉันเป็นทนายของคุณ มณัชน์ เมยาสุวรรณ!”   "ทนายความ?" ไอรินนาพูดซ้ำและจ้องไปที่ชายคนนั้นต่อหน้าเธอด้วยความตกใจ   "ใช่ ผมเป็นทนายส่วนตัวของคุณ มณัชน์ เมยาสุวรรณเขามอบหมายให้ผมจัดการเรื่องหย่ากับคุณ"   "หย่างั้นหรอ? เอกริณต้องการหย่ากับฉันเหรอ?" ไอรินนาพูดย้ำคำพูด และแทบไม่อยากจะเชื่อในสิ่งที่เธอเพิ่งได้ยิน   ทนายความเดินไปที่เตียงและยื่นเอกสารให้เธอ "นี่เป็นข้อตกลงในการหย่า อ่านให้ละเอียดนะครับ"   มือของไอรินนาเริ่มสั่น เธอไม่คิดฝันไม่ฝันว่าวันหนึ่ง เอกริณ จะหย่ากับเธอจริงๆ เธอจ้องไปที่ทนายโดยไม่ได้อ่านข้อตกลงการหย่า "ให้เอกริณมาพบฉัน! ฉันอยากให้เขามาบอกกับฉันด้วยตัวเอง!"   "คุณมณัชน์ ยุ่งมาก เขาไม่มีเวลามาพบคุณ"   "เขายุ่งและไม่มีเวลา?" ไอรินนาหัวเราะคิกคักและคิดว่าเมื่อพวกเขาเริ่มที่จะไม่มีเยื่อใยต่อกัน เขาไม่มีแม้กระทั่งเวลาที่จะมาพบเธอได้   เธอหลับตาลง เธอหยิบโทรศัพท์ที่โต๊ะข้างเตียงและกดหมายเลขของเอกริณ แต่ดูเหมือนจะโทรไปหาเขาไม่ได้ละ   "เอกริณกับฉันจะมาจบลงแบบนี้ได้ยังไงกัน เรื่องชู้สาว การหย่าร้าง..." เธอพรึมพรำ   ทนายซึ่งยังคงรอคำตอบจากเธอ เร่งเร้าว่า "คุณเนตรา อ่านข้อตกลงด้วย ผมไม่มีเวลามากนะครับ!"   ดูทรงของทนายความแล้วเห็นได้ชัดว่าเขาไม่ยินดีปรีดาหากฉันปฏิเสธในการหย่าร้างนี้ ที่ผ่านมาทุกคนให้ความเคารพไอรินนามาตลอดสามปีที่เธอแต่งงานกับเอกริณ เมื่อทนายเย็นชาและโหดกับเธอ ก็เห็นได้ชัดว่าทนายปฏิบัติตามคำแนะนำของเอกริญอย่างเคร่งครัด   ไอรินนา ดูข้อตกลงการหย่าร้างและสะดุดตาไปเห็นข้อความที่ระบุว่าไม่มีกรรมสิทธิ์ใดๆในมรดก เนื่องจากก่อนแต่งงานทรัพย์สินทั้งหมดเป็นของเอกริณโดยเดิมอยู่แล้ว และไม่จำเป็นที่จะต้องแบ่งทรัพย์สินถ้าหากว่าหย่ากัน ทันใดนั้นน้ำตาไอรินนาก็เริ่มรินไหล   ครั้งหนึ่งเขาเคยพูดว่าเธอคือโลกทั้งใบสำหรับเขาและทุกสิ่งทุกอย่างที่เขามีทั้งหมดมันก็เป็นของเธอ ตัดภาพมาที่ปัจจุบัน ทาสแท้ของเขาก็ได้ปรากฏ เขาแค่ตกหลุมรักเธอเพียงแค่สามปีแรกในการแต่งงานเท่านั้น   ในที่สุดไอรินนาก็ได้รู้ความจริงว่าเอกริณซ่อนเมียน้อยเอาไว้จนกระทั่งหล่อนท้อง   “ฉันคิดว่ามันคงถึงเวลาแล้วที่คนเป็นหมั้นอย่างฉันจะต้องถอย” ไอรินนาตัดสินใจอย่างเด็ดเดี่ยวโดยไม่ได้อ่านข้อตกลงการหย่าร้างในกระดาษอีกต่อไป ไอรินนนาเหลือบมองทนายความที่จ้องมาที่เธอมาตลอด และเอ่ยปากพูดว่า "ขอปากกาหน่อย!"   ทนายความเปิดกระเป๋าเอกสารของเขา หยิบปากกาออกมาแล้วยื่นให้ไอรินนาก่อนจะพูดต่อว่า "คุณมณัชน์ฝากให้บอกว่าคุณไม่สามารถนำเครื่องประดับทุกชิ้นที่เขาซื้อให้คุณไปได้เลยนะครับ"   ไอรินนาจ้องตาแข็งไปที่พื้นข้างหน้าเธอได้สักพัก เมื่อทนายจะเล่นแบบนี้กับเธอ เธอก็ตอบ ตกลง "ได้"   จากนั้นเธอก็หยิบปากกาขึ้นมาและเซ็นชื่อในสัญญาการหย่าโดยทันที   หลังจากที่ทนายดูว่าเธอได้เซ็นตอบตกลงเรียบร้อยแล้ว เขาก็หันหลังเดินจากไปทันที   รถแอสตัน มาร์ตินสุดหรูจอดอยู่ในลานจอดของโรงพยาบาล และกระจกรถก็ค่อยๆเลื่อนลงมาเผยให้เห็นใบหน้าของชายหนุ่มรูปงามที่ไม่มีใครเทียบเคียงได้ ทนายรีบเดินไปที่รถและรายงานว่า "คุณมณัชน์ครับ นายหญิงเซ็นให้แล้วนะครับ!"   "เธอเซ็นแล้วหรอ?" เอกริณพูดค่อยๆ และจ้องใบหน้าของทนายด้วยสายตาที่ไม่สามารถเดาอะไรได้เลย   ทนายรู้สึกกลัวๆเมื่อเห็นว่าชายผู้มีท่าทีแปลกๆ และถึงแม้ว่าทนายมีอะไรบางอย่างที่อยากจะพูด แต่เขาก็พูดอะไรไม่ออก จากนั้นเอกริณก็หันไปมองท้องฟ้ายามค่ำคืนที่อึมครึม เขาถ่มน้ำลายและพูดว่า "ไปกันเถอะ!"
Bacaan gratis untuk pengguna baru
Pindai untuk mengunduh app
Facebookexpand_more
  • author-avatar
    Penulis
  • chap_listDaftar Isi
  • likeTAMBAHKAN